สวัสดีค่ะ เรามีปัญหาอยากจะขอปรึกษาชาวพันทิปหน่อยค่ะ..
คือเรากับแฟน คบกันได้สี่ปีกว่าๆแล้วค่ะ คบกันตั้งแต่เราเรียนปี 1 ตอนนี้ก็เรียนจบปี 5 แล้ว..ตลอดระยะเวลาที่คบกันก็มีความสุขดีนะคะ ทะเลาะกันบ้างตามประสา แต่ประเด็นตอนนี้คือ.... ก่อนหน้านี้ แฟนเราเคยได้รับปากกับทางบ้านเราว่า "เมื่อเราเรียนจบแล้ว จะให้ทางบ้านมาขอ" อ่ะ..!!! นี่แหละคือปัญหา.. ต้องบอกก่อนว่า เรากับแฟนอยู่ด้วยกันแล้วโดยที่ฝั่งบ้านเราไม่รู้ แต่บ้านแฟนรับรู้ และในเรื่องของการแต่งงาน โดยส่วนตัวแล้วเรายังไม่อยากแต่ง อยากทำงานเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวให้พร้อมก่อนจึงจะแต่ง และก็บอกปรึกษากับแฟนเรียบร้อยแล้วและก็ตกลงกันตามนั้น
แต่ค่ะแต่...ตอนนี้เราเรียบจบและกลับมาอยู่บ้าน พ่อกับแม่เราเลยบอกว่า อยากให้แต่งงานกันเลย เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วงมากนัก เราก็นั่งยันยืนยันนอนยันพร้อมเหตุผลสารพัดสารเพ ว่ายังไม่พร้อมและยังไม่อยากแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้นำพาอะไร พ่อบอกว่า ไม่เรียกสินสอด ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไร แค่มีขันหมากตามประเพณีก็พอ เราก็เข้าใจน่ะ หัวอกผู้ใหญ่คืออยากได้ความมั่นใจจากฝ่ายชาย เลยบอกแฟนเราไป แต่คือเราเองก็ยังไม่อยากแต่ง อายุ 24 ปี เราก็คิดว่ายังเด็กไปนะ (แฟนเราอายุมากกว่าเรา 4 ปี) เราเลยปรึกษากับแฟนว่า เอาเป็นพาผู้ใหญ่มาทำความรู้จักกันได้มั้ย รึไม่ก็หมั้นกันไว้ก็ได้ เพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่เรา ให้ผู้ใหญ่เขาได้รู้จักกัน แฟนเราก็ไปปรึกษาที่บ้าน แม่แฟนบอกกลับมาว่า ถ้าจะให้ไปตอนนี้(เดือนเมษายน) คงไปไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะมาสู่ขอเดือน 6 เพราะเป็นฤกษ์งามยามดี เราก็เลยบอกทางบ้านเราไป พ่อกับแม่เราก็ไม่ค่อยพอใจหรอก คือแค่ทำความรู้จักกัน ไม่ต้องรอฤกษ์ก็ได้มั้ง แต่เราก็บอกให้พ่อแม่ใจเย็นๆนะ เราไม่ได้ท้องป่อง ไม่ต้องรีบหรอก...
เวลาผ่านมาถึงเดือน หก แม่ก็เปรยๆถาม อ่า..ใช่ เดือน หก แล้ว เราก็ไปถามแฟนว่าที่บ้านจะมาวันไหน คือการถามอ่ะ ใช่ว่าบอกปุ๊บแฟนเราจะถามที่บ้านปั๊บน่ะ เราถามเขา 2-3 ครั้ง คำตอบคือเขายังไม่ถามที่บ้าน เรารู้สึกไม่ดีแล้ว เหมือนกับเรายัดเยียดเขายังไงไม่รู้ สรุปคำตอบที่ได้คือ..ที่บ้านแฟนบอกว่ามาเดือน 6 ไม่ได้หรอก เดี๋ยวค่อยมาแต่งเดือน 12 ทีเดียว ... คือเราก็สตั้นน่ะ....ไม่รู้จะบอกที่บ้านยังไง รู้ว่าพ่อแม่เราต้องโกรธแน่ สุดท้ายก็บอกไปตามนั้น ผลคือที่บ้านเราโกรธมากที่ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติ ผัดผ่อนไปเรื่อย เลยบอกให้เราเลิกซะเถอะ เพราะมันไม่ชอบมาพากลแล้ว เราเครียดหนักมากเลยช่วงนั้น กลายเป็นเราทะเลาะกับแฟนเรา ทะเลาะกันหนักมาก เราเองรู้อยู่เต็มอกว่าทางบ้านแฟนไม่ค่อยชอบเรา เพราะเขารู้ว่าเรากับแฟนอยู่ด้วยกันแล้ว เราเองก็เจ็บมาก เรารักแฟนเรามาก แต่เราก็โกรธเขา ที่เขาไม่สามารถปกป้องเราได้ ไม่สามารถแก้ไขอะไรเรื่องนี้เลย เขาท้อแท้ที่ทางบ้านเราบอกให้เลิก เราก็ยิ่งโกรธมาก เพราะเราเองต่อสู้ต่อความกดดันจากทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ เราทำตัวไม่ถูกเลย เราเหนื่อยเราก็อยากเลิกไปเพราะรู้สึกว่าเขาไม่พยายามทำอะไรเลย เรารู้ว่าเขาไม่ค่อยมีความเป็นผู้นำแต่เราก็รักเขาไง พยายามคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเองมาตลอด เราไม่รู้จะหาทางออกยังไงก็เลยคิดว่า ก่อนหน้านี้ เรายังรักกันมาได้ไม่มีปัญหาอะไร จะมาเลิกกันเพราะคนอื่นหรอ
เราก็ไม่รู้ว่าเราคิดผิดหรือถูกน่ะ แต่ก็ตกลงกับเขาว่ายังไงก็จะไม่ปล่อยมือ เขาก็เลยบอกเราอีกว่า แม่เขาให้เขาหาเงินแต่งงานให้ได้ 1 แสนบาท(ภายใน 6 เดือน) แล้วแม่เขาจะมาแต่งให้ สำหรับบางคนอาจเล็กน้อย แต่สำหรับเรามันไม่น้อยเลย ลำพังเงินเดือนแฟนเราแค่หมื่นนิดๆ ไหนจะค่าเช่าห้องพัก ค่ากิน ค่าใช้ เดือนนึงเก็บได้สัก ห้าพันก็หรูแล้ว ส่วนเรายังไม่ได้งานประจำ มีรับงานเล็กน้อย พอได้ใช้จ่ายวันๆ แฟนเราเลยบอกว่าเขาจะหางานทำเพิ่มเพื่อเก็บเงินแต่งงาน เราก็โอเค เราก็จะพยายามหาเงินช่วยกันเก็บ
แต่เวลาผ่านไปเดือนนึงแล้ว ความสัมพันธ์เรากับแฟนกลับเริ่มแย่ลง เขาไม่แคร์เราเหมือนแต่ก่อน เราไปหาเขาเพราะคิดถึงมากแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเฉยชา เราขอให้เขามาหาเราบ้างเขาก็ไม่คิดที่จะมา ที่บอกจะหางานเพิ่มเขาก็ยังไม่คิดจะหาเลย เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้กระตือรือร้นอะไรเลย ตอนนี้เรารู้สึกท้อมากๆ กับการคิดอยู่คนเดียว เราไม่รู้จะทำไงดีแล้ว ที่บ้านเราก็กดดันทุกวัน แฟนเราก็เป็นคนที่ปลอบใจรึให้กำลังใจไม่เป็นเลย ไม่เคยพูดให้เราวางใจหรือเชื่อมั่นอะไรได้เลย เราอยู่แบบล่องลอยมากเลย อยากจะจบๆกันไปแต่เราใจไม่แข็งพอ ความทรงจำดีๆมันผุดขึ้นมาตลอด เราอยากปรึกษาน่ะคะ ว่าเราควรจะทำอย่างไรดี.??
ปล. นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย เราเล่นไม่ค่อนเป็น ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ..!
รักมันแน่นอก ช่วยเรายกออกหน่อยค่ะ.!!
คือเรากับแฟน คบกันได้สี่ปีกว่าๆแล้วค่ะ คบกันตั้งแต่เราเรียนปี 1 ตอนนี้ก็เรียนจบปี 5 แล้ว..ตลอดระยะเวลาที่คบกันก็มีความสุขดีนะคะ ทะเลาะกันบ้างตามประสา แต่ประเด็นตอนนี้คือ.... ก่อนหน้านี้ แฟนเราเคยได้รับปากกับทางบ้านเราว่า "เมื่อเราเรียนจบแล้ว จะให้ทางบ้านมาขอ" อ่ะ..!!! นี่แหละคือปัญหา.. ต้องบอกก่อนว่า เรากับแฟนอยู่ด้วยกันแล้วโดยที่ฝั่งบ้านเราไม่รู้ แต่บ้านแฟนรับรู้ และในเรื่องของการแต่งงาน โดยส่วนตัวแล้วเรายังไม่อยากแต่ง อยากทำงานเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวให้พร้อมก่อนจึงจะแต่ง และก็บอกปรึกษากับแฟนเรียบร้อยแล้วและก็ตกลงกันตามนั้น
แต่ค่ะแต่...ตอนนี้เราเรียบจบและกลับมาอยู่บ้าน พ่อกับแม่เราเลยบอกว่า อยากให้แต่งงานกันเลย เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วงมากนัก เราก็นั่งยันยืนยันนอนยันพร้อมเหตุผลสารพัดสารเพ ว่ายังไม่พร้อมและยังไม่อยากแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้นำพาอะไร พ่อบอกว่า ไม่เรียกสินสอด ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตอะไร แค่มีขันหมากตามประเพณีก็พอ เราก็เข้าใจน่ะ หัวอกผู้ใหญ่คืออยากได้ความมั่นใจจากฝ่ายชาย เลยบอกแฟนเราไป แต่คือเราเองก็ยังไม่อยากแต่ง อายุ 24 ปี เราก็คิดว่ายังเด็กไปนะ (แฟนเราอายุมากกว่าเรา 4 ปี) เราเลยปรึกษากับแฟนว่า เอาเป็นพาผู้ใหญ่มาทำความรู้จักกันได้มั้ย รึไม่ก็หมั้นกันไว้ก็ได้ เพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่เรา ให้ผู้ใหญ่เขาได้รู้จักกัน แฟนเราก็ไปปรึกษาที่บ้าน แม่แฟนบอกกลับมาว่า ถ้าจะให้ไปตอนนี้(เดือนเมษายน) คงไปไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะมาสู่ขอเดือน 6 เพราะเป็นฤกษ์งามยามดี เราก็เลยบอกทางบ้านเราไป พ่อกับแม่เราก็ไม่ค่อยพอใจหรอก คือแค่ทำความรู้จักกัน ไม่ต้องรอฤกษ์ก็ได้มั้ง แต่เราก็บอกให้พ่อแม่ใจเย็นๆนะ เราไม่ได้ท้องป่อง ไม่ต้องรีบหรอก...
เวลาผ่านมาถึงเดือน หก แม่ก็เปรยๆถาม อ่า..ใช่ เดือน หก แล้ว เราก็ไปถามแฟนว่าที่บ้านจะมาวันไหน คือการถามอ่ะ ใช่ว่าบอกปุ๊บแฟนเราจะถามที่บ้านปั๊บน่ะ เราถามเขา 2-3 ครั้ง คำตอบคือเขายังไม่ถามที่บ้าน เรารู้สึกไม่ดีแล้ว เหมือนกับเรายัดเยียดเขายังไงไม่รู้ สรุปคำตอบที่ได้คือ..ที่บ้านแฟนบอกว่ามาเดือน 6 ไม่ได้หรอก เดี๋ยวค่อยมาแต่งเดือน 12 ทีเดียว ... คือเราก็สตั้นน่ะ....ไม่รู้จะบอกที่บ้านยังไง รู้ว่าพ่อแม่เราต้องโกรธแน่ สุดท้ายก็บอกไปตามนั้น ผลคือที่บ้านเราโกรธมากที่ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติ ผัดผ่อนไปเรื่อย เลยบอกให้เราเลิกซะเถอะ เพราะมันไม่ชอบมาพากลแล้ว เราเครียดหนักมากเลยช่วงนั้น กลายเป็นเราทะเลาะกับแฟนเรา ทะเลาะกันหนักมาก เราเองรู้อยู่เต็มอกว่าทางบ้านแฟนไม่ค่อยชอบเรา เพราะเขารู้ว่าเรากับแฟนอยู่ด้วยกันแล้ว เราเองก็เจ็บมาก เรารักแฟนเรามาก แต่เราก็โกรธเขา ที่เขาไม่สามารถปกป้องเราได้ ไม่สามารถแก้ไขอะไรเรื่องนี้เลย เขาท้อแท้ที่ทางบ้านเราบอกให้เลิก เราก็ยิ่งโกรธมาก เพราะเราเองต่อสู้ต่อความกดดันจากทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ เราทำตัวไม่ถูกเลย เราเหนื่อยเราก็อยากเลิกไปเพราะรู้สึกว่าเขาไม่พยายามทำอะไรเลย เรารู้ว่าเขาไม่ค่อยมีความเป็นผู้นำแต่เราก็รักเขาไง พยายามคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเองมาตลอด เราไม่รู้จะหาทางออกยังไงก็เลยคิดว่า ก่อนหน้านี้ เรายังรักกันมาได้ไม่มีปัญหาอะไร จะมาเลิกกันเพราะคนอื่นหรอ
เราก็ไม่รู้ว่าเราคิดผิดหรือถูกน่ะ แต่ก็ตกลงกับเขาว่ายังไงก็จะไม่ปล่อยมือ เขาก็เลยบอกเราอีกว่า แม่เขาให้เขาหาเงินแต่งงานให้ได้ 1 แสนบาท(ภายใน 6 เดือน) แล้วแม่เขาจะมาแต่งให้ สำหรับบางคนอาจเล็กน้อย แต่สำหรับเรามันไม่น้อยเลย ลำพังเงินเดือนแฟนเราแค่หมื่นนิดๆ ไหนจะค่าเช่าห้องพัก ค่ากิน ค่าใช้ เดือนนึงเก็บได้สัก ห้าพันก็หรูแล้ว ส่วนเรายังไม่ได้งานประจำ มีรับงานเล็กน้อย พอได้ใช้จ่ายวันๆ แฟนเราเลยบอกว่าเขาจะหางานทำเพิ่มเพื่อเก็บเงินแต่งงาน เราก็โอเค เราก็จะพยายามหาเงินช่วยกันเก็บ
แต่เวลาผ่านไปเดือนนึงแล้ว ความสัมพันธ์เรากับแฟนกลับเริ่มแย่ลง เขาไม่แคร์เราเหมือนแต่ก่อน เราไปหาเขาเพราะคิดถึงมากแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเฉยชา เราขอให้เขามาหาเราบ้างเขาก็ไม่คิดที่จะมา ที่บอกจะหางานเพิ่มเขาก็ยังไม่คิดจะหาเลย เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้กระตือรือร้นอะไรเลย ตอนนี้เรารู้สึกท้อมากๆ กับการคิดอยู่คนเดียว เราไม่รู้จะทำไงดีแล้ว ที่บ้านเราก็กดดันทุกวัน แฟนเราก็เป็นคนที่ปลอบใจรึให้กำลังใจไม่เป็นเลย ไม่เคยพูดให้เราวางใจหรือเชื่อมั่นอะไรได้เลย เราอยู่แบบล่องลอยมากเลย อยากจะจบๆกันไปแต่เราใจไม่แข็งพอ ความทรงจำดีๆมันผุดขึ้นมาตลอด เราอยากปรึกษาน่ะคะ ว่าเราควรจะทำอย่างไรดี.??
ปล. นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย เราเล่นไม่ค่อนเป็น ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ..!