ตามหา รักแกพบบนรถทัว กรุงเทพ หล่มสัก

อาจเป็นกระทู้ไร้สาระนะคะ แต่ก็คิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาดีมั้ย
ด้วยความที่ตามหาคนๆมาเกือบอาทิตย์มันอาจจะน้อยสำหรับใครบ้างใคร
แต่ก็อยากเจอเขาเร็ว ๆ มากกว่าที่จะมานั่งรอพรหมลิขิตต่าง ๆนานาที่คิดไว้

เริ่มต้นเลยนะคะ…
คือมันไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรืออะไร ?
บางครั้งก็รู้สึกมันก็ดูอะไรจงใจเกินไป แต่คิดว่าแบบคิดไปเองเนอะบ้างที
คือตั้งใจจะขึ้นรถกลับบ้านหลังจากสอบเสร็จ เป็นคนที่ชอบนั่งรถตอนกลางคืนมากเลยอะคะ ขึ้นโทรไปจองตั๋วรอบ 23.30 แต่ด้วยความมาถึงท่ารถเร็วก่อน 1ชมครึ่งด้วยความที่ขี้เกียจรอทำให้เลื่อนตั๋วมาเป็น 22.45 ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่นั่งเหลือที่เดียว ก็แปลกใจที่ยังไม่ได้ยื่นตั๋วให้พนักกงาน แต่พนักงานบอกว่า เดินไปชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นตั๋วที่ดีมาก แถวหน้าสุดชั้นล่าง คือวางของแต่เหยียดเท้าได้สบายเลย แล้วก็เอ้า เรานั่งนี้หรอ แบบหาเลขที่นั่ง คนข้างๆเลยหันมาบอกว่า “มะ มานั่งกับพี่” ตอนนั้นหันไป แบบด้วยความสวยตลึงมากทำให้หยุดชะงักไปพักใหญ่แล้วก็นั่งรถ

ขณะที่รถออก…
ก็นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์แล้วต่อด้วยดูหนังเรื่อง harry potter แล้วพี่คนนั้นก็สะกิดเราแล้วหันมาถามว่า “ เอ้า ดู harry หรอกหรอค่ะ นึกว่าเล่นเกมส์” ตอนนั้นด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรเลยหันไปบอกว่า “ดูด้วยกันมั้ยค่ะ”
มันเปนจุดเริ่มต้นของบทสนทนาของเราตั้งแต่ขึ้นรถ
พี่เขาก็พูดกับเราว่า “เนี่ยพี่ดูจบหมดแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ”
ด้วยความที่เราชอบคนพูดเพาะเลยแบบประทับใจมาก คือเราเป็นคนแก่น ๆอะ พอประเด็นไม่ค่อยมีดูผู้ใหญ่หรือเพื่อนพูดเพาะกับเราหรอก เพราะอารมณ์เด็กซนๆ(อันนี้ด้วยความคิดส่วนตัว)
เราก็หันกลับไปบอกพี่เขาว่า “ที่จริงหนูก็ดูจบแล้ว แต่ชอบดูมากเลย”
พี่เขาก็ชวนเราดู game of thone แล้วก็อีกเรื่องชื่ออะไรไม่รู้นะคะ แต่พี่เขาบอกว่า อารมณ์เหมือนบ้านทรายทองฉบับอังกฤษ (เขาบอกว่ามันสำเนียง britsh)แบบตอนนั้นก็คิดในใจว่า ทำไมคนนี้สำเนียงแปลกๆอ่ะ แบบเหมือนคนอยู่ต่างประเทศมานาน อารมณ์เสียงตอนพูดจะแบบแปลก ๆ แบบจะออก H ตลอดเวลา ตอนนั้นหันหน้าไปจองหน้าเขาหลายรอบมากด้วยความเป็นเด็กขี้สงสัยแต่คือชอบพี่เขาด้วยแหละ เลยแบบอยากเห็นหน้าชัด
พี่เขาก็หันมาถามว่า “อยากเห็นหน้าพี่ชัดๆหรอค่ะ”
นี่รีบหันกลับอย่างเร็วเพราะกลัวเขารู้ว่ามอง เลยหันไปถามเขาว่า
“พี่เป็นใครกันแน่”
เขาก็บอกว่า เขาอยู่ต่างประเทศมาเกือบ 17 ปีเป็นแอร์ อยู่สายการบินที่ขึ้นด้วย C(คือเราจำไม่ได้) พี่เขาเปิดป้ายที่ผ้าห่มให้ดู
แล้วตอนนั้นคือพี่เขาหันมา ตาสวยมาก แล้วเขาจองเราเว่ย ตอนนั้นนี้แบบเหมือนโลกหยุดหมุนไปช่วงขณะ

#คุยกันเยอะมากแต่ตอนนั้นเหมือนมองหน้าพี่เขาจนไม่ค่อยได้สนใจอะไรแล้ว
ตอนนั้นด้วยความที่ไม่อยากรู้จักเพราะกลัวว่าจะชอบก็เลยใส่หูฟังแล้วก็ฟังเพลง หรืออะไรอย่างอื่นทำ เพราะไม่ให้เขาเข้ามาคุยกับเรา

แล้วพอทีนี้จะแวะเข้าห้องน้ำ…
พี่เขาก็เอาหันมาคุยด้วย เราก็ถอดหูฟังออก
พี่เขาบอกว่า ถ้านาฬิกาปลุก ปลุกพี่ด้วยนะ เดี๋ยวหนูจะรำคาญ
เราก็บอกเขาไปว่า เดี๋ยวรถก็แวะเข้าห้องน้ำแล้วค่ะ
พี่เขาก็บอกว่า ดีเลย กำลังอยากสูบบุหรี่พอดี #คิดในใจพลังค์สุด
เราก็บอกเขาไปว่า อย่าไปสูบเลยค่ะ มันไม่ดี
พี่เขาก็บอกเป็นนัยหรือไงไม่รุ้ ถ้ามีแฟนมาบอกให้พี่เลิกบุหรี่ พี่ว่าพี่เลิกกับแฟนง่ายกว่า
ตอนนั้นนี้ขึ้นเลยค้า เลยพูดไป “ก็เขาเป็นห่วงพี่นะค่ะ”
ด้วยความที่ไม่อยากให้อึมครึมเลยแยกย้ายไปเข้าห้องน้ำเถอะ
ระหว่างที่รถยังไม่ออกเลยโทรไปหา เพื่อเล่ามาเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ตอนนั้นเป็นอะไรที่แบบเหมือนเราเป็นลูกไก่ในกำมือเขามากเลย
เขาดึงแขนเราแล้วบอกให้ขึ้นรถ เราก็เดินตามแล้วก็วางสายจากเพื่อน
นี่ก็สงสัยไง คนสูบบุหรี่ทำไมไม่ได้กลิ่นบุหรี่เลยหันไปถาม
เรา “เอ๊า มะกี้ไปสูบบุหรี่มาไม่ใช่หรอค่ะ ทำไมไม่ได้กลิ่นเลย”
พี่เขา “ไม่รู้สิ สูบไม่เหมือนคนอื่นมั้ง” แล้วก็ยิ้มให้เรา โอ้ยยยย ละลายค้าตอนนั้น
เรา “ที่หนูบอกว่า ไม่ต้องไปสูบหรอก เพราะหนูไม่ชอบกลิ่นบุหรี่”

แล้วจุดพีคมันอยู่ตรงนี้ค่ะ
พี่เขาหันมาบอกว่า “พี่ว่าเรามาเจอกันได้เพราะ destiny นะคะ เพราะมีใช้รถส่วนตัว นี่นั่งรถในรอบ 20 ปีเลย”
ตอนนั้นคิดในใจ ขอคำหยาบนะค่ะ เอ้า อหๆๆๆๆๆๆๆ อ่อย kuนิ ว้ายยย เขิน นี่คิดไปเองค่ะสรุป 5555555(lol)แต่เราอ่อยแรงกว่าค่ะ
เราหันไปบอกว่า “พี่พูดแบบนี้ทำให้หนูอยากรู้จักพี่นะค่ะ”
พี่แก “อย่ารู้จักพี่เลย รู้จักแบบผิวๆดีกว่า”
เอ้า นกค่ะ เจ็บค่ะ บาย
แล้วด้วยความที่เราไม่อยากเฟลเลยเปลี่ยนเรื่องคุย คือเราลงที่อำเภอเมือง แต่ เขาลงที่อำเภอหล่ม (จังหวัดเพชรบูรณ์อะคะ)
เลยถามว่า เอ๊าที่หล่มมีอะไรให้เที่ยวหรอค่ะ ทำไมถึงไปหล่ม
พี่เขาก็บอก “พี่ไปทำธุระกับแฟนอะคะ” #ไม่ขอบอกเนอะเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว
เอ๊า นี่ก็ด้วยความเสล่อเลยหันไปถามว่า “คนที่เป็นทอม มาส่งพี่นี้ไม่ใช่แฟนหรอค่ะ”
ว้ายยยยย ทำไมกูเผือกไปอีก
พี่เขาก็บอกว่า “อ่อ ญาติค่ะ ไม่ใช่แฟน เขาเป็นห่วงพี่พึ่งเข้าโรงพยาบาล”
ว้ายยยยยยยยย โสดแน่คิดในใจ 555555555
แล้วเราก็คิดว่า คงถามเยอะไป แล้วก็บอกเขาว่า “พอดีกว่าค่ะ หนูถามเยอะไปแล้ว”
พี่เขาก็ “ถามได้ ถ้าพี่ตอบได้”
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เขินไปไหน
แล้วจากตรงนี้ก็แยกย้ายกันหลับเพราะจะถึงแล้ว 5 ชม เป็นการนั่งรถที่ยาวนานแต่ไม่อยากให้ถึงเลย
ขณะนั้นพี่เขา หันมาห่มผ้าให้ 2 รอบ โอ้ย คิดในใจ โว้ยยย ชอบคนแบบนี้
เราว่าเรารักเขา
แล้วพอจะถึงแล้วพี่เขาก็ปลุก ก็แบบเอ้า ลืมโทรบอกแม่ คือพี่เขาพยายามชวนคุยเว่ย แต่นี่ยังไม่ได้โทรบอกแม่ เลยโอ้ยตายยย ตายแน่ ๆ
เลยรีบโทรไปหาแม่ ส่วนพี่เขาก็ถามเรื่องเพชรบูรณ์ว่า ตรงนี้คือไปไหน อะไรยังไง
พอรถจอดแล้ว
ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยากับเรายังไง
เราเลยหันไปบอกเขาว่า “จะลงแล้วนะค่ะ”
ตอนนั้นในใจ พี่ต้องให้อะไรเรามาสักอย่างเพราะเป็นการติดต่อ
แต่เปล่าเลย พี่เขาหันมาบอกว่า “take caeค่ะ”
นี่หน้าชาเลยค่ะ เหมือนโดนไล่
มันที่ไม่เจอกันนี้ตามไปถึงหล่มที่ที่พี่เขาลงแล้วไล่ตามหา
ขอสักวันเราเจอกันนะค่ะ พี่แซม 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่