[CR] REVIEW : หนีสอบไปพักใจที่ภูนกเงือกรีสอร์ท กาญจนบุรี

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราและนี่ก็คือทริปแรกของเราในชีวิตมหาลัยด้วย...
จริงๆกลับมา 3-4 เดือนแล้วแต่ที่พึ่งมารีวิวเพราะตารางชีวิตแน่นมากค่ะ ทั้งเรียนทั้งสอบ ต้องขออภัยพี่ๆที่รีสอร์ทด้วยนะคะ
กระทู้นี้ก็จะมารีวิวทริปพวกเราที่ภูนกเงือกรีสอร์ท กาญจนบุรีกันค่ะ
ทั้งหมดเขียนจากประสบการณ์จริงเดินทางจริง เล่นจริง กินจริง นอนจริง
ประทับใจจนเสนอตัวเขียนรีวิวให้รีสอร์ท ไม่ได้มาเพื่ออวย แต่มาเพื่อรีวิวให้คนที่จะไปเที่ยวได้มีข้อมูลก่อนตัดสินใจ


กระทู้นี้เราจะรีวิวภูนกเงือกรีสอร์ท อำเภอท่ากระดาน กาญจนบุรีค่ะ เป็นเเพที่อยู่ติดเขื่อนศรีนครินทร์ ที่เลือกที่นี่เพราะว่าเป็นที่เดียวที่ติดต่อได้  จาก 5-6 แพที่เราติดต่อไป ที่นี่คือติดต่อง่ายสุด ไลน์ไปแปบเดียวตอบ โทรกี่ทีก็รับ ดีงามมากค่ะ ราคาก็ไม่แพงด้วยถ้าเทียบกับที่อื่น เราจองตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2558 เข้าพักวันที่ 9-10 มกราคม 2559  เป็น Package คนละ 1200 บาท ซึ่งราคานี้เบ็ดเสร็จค่ะ รวมค่าที่พัก, อาหาร 3 มื้อและเครื่องเล่นด้วยค่ะ ส่วนเรื่องสัญญาณโทรศัพท์มีแค่ AIS เท่านั้นที่เป็นผู้เหลือรอด แต่ที่นั่นมี wifi ค่ะไม่ต้องกังวล มีหลายจุดแล้วก็แรงพอสมควรถ้าไม่แย่งกันใช้

ในส่วนของการเดินทาง พวกเราขึ้นรถตู้ที่สายใต้ใหม่ตอน 8.30 น. ไปลงที่บขส. กาญจนบุรี นั่งรถตู้ประมาณ 2 ชม. ค่ารถตู้ 100 บาทค่ะ แล้วพวกเราก็ขึ้นสองแถวคันใหญ่(รถ 6 ล้อ) คนละ 60 บาทตอน 10.40 น. ไปลงที่วัดท่ากระดาน ระหว่างทางมีแวะให้ซื้อกล้วยทอดด้วยค่ะ 55555 พอลงวัดท่ากระดานแล้วให้รถรีสอร์ทมารับ คือรถรีสอร์ทเป็นกระบะ นั่งกระบะท้ายกันหัวฟูหน้าแดงเพราะทางเข้ารีสอร์ทเป็นดินลูกรัง ส่วนข้างทางเป็นไร่ค่ะ แต่พวกเราสตรอง!! พวกเรายืนถ่ายรูปแล้วก็กรีดร้องโวยวายลั่นทุ่งจนถึงรีสอร์ทประมาณ 12.40 น.  ถึงจะดูเดินทางยากและใช้เวลานานหน่อยแต่พอถึงแล้วมันดีมาก คุ้มค่ามาก สวยมาก พวกเราชอบมากกกกก ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เราดูรูปในเว็บถ้าเทียบกับที่อื่นเราว่าที่นี่ไม่ได้ดูสวยมากแบบเวอร์วังอลังการแต่เราเลือกเพราะมีกิจกรรม มีเครื่องเล่น ราคาพอดี ติดต่อง่าย แล้วถามรุ่นพี่ที่เคยมาก็บอกว่าดี พอเรามาถึงจริง พวกเราว่าสวยอ่ะ บรรยากาศดี ต้องลองไปนะแนะนำ

@แนะนำการเดินทาง
-เป็นไปได้ก็ใช้รถส่วนตัวค่ะเพราะได้จะเที่ยวระหว่างทางด้วย ผ่านอุทยานสงครามเก้าทัพ เขาชนไก่ น้ำตกเอราวัณแล้วก็ปางช้างค่ะ
-แต่ถ้าใช้รถสาธารณะก็สนุกได้ค่ะ มีรถสองแถวสีส้มบริการ สามารถเหมาให้พามาส่งแล้วก็แวะเที่ยวระหว่างทางได้ ค่าเหมา 1000 บาทค่ะซึ่งถ้าไม่แวะเที่ยวก็ 1 ชม.ถึงรีสอร์ทค่ะ
-หรือเหมารถตู้ที่บขส.ก็ได้ค่ะ เท่าที่ทราบคือน่าจะ 1000 บาท (น่าจะนะคะ) แต่ไม่ทราบรายละเอียด
-ส่วนถ้าอยากเซฟเงินแล้วก็แอดเวนเจอร์ตามสไตล์วัยรุ่นอย่างพวกเราก็รถสองแถวคันใหญ่สีน้ำเงิน ราคา 60 บาทต่อคน หวานเย็นมากๆนั่งกัน 2 ชม.  หัวนี่เหนียวแรง ถ้าสนใจวิธีนี้ก็สอบถามได้จากที่บขส.กาญฯเลยนะคะ
-แต่ยังไงก็ต้องเช็คราคาอีกทีนะคะเผื่อมีขึ้นมีลงต่างจากที่เรารีวิวตามสภาพเศรษฐกิจช่วงนั้นค่ะ






พอถึงรีสอร์ทจัดการเช็คอินเเละเก็บของเรียบร้อย หลังจากนั้นก็กินสิคะรออะไร มื้อเที่ยงของพวกเราเป็นส้มตำ ลาบและไก่ทอดค่ะ บรรยากาศที่นั่งทานอาหารก็ดีมากกกก



จัดการเติมพลังเรียบร้อยแล้วก็นอนกลิ้งเล่น ถ่ายรูป นอนดูวิวกันไปจนประมาณ 14.30 น. พวกเราก็ลงน้ำเลย น้ำเย็นสบายค่ะถึงแดดจะยังแรงอยู่ แต่ช่างมันค่ะ การเล่นน้ำทุกครั้งต้องสวมชูชีพนะคะ น้ำลึกมาก ถึงจะว่ายน้ำเป็นก็ต้องสวมชูชีพค่ะ





พวกเราเริ่มจากพายเรือคายักเล่น คือตรงข้ามรีสอร์ทจะมีเกาะน้อยๆอยู่เกาะนึง พวกเราก็พายข้ามไปค่ะ ค่อนข้างจะมีแรงฮึดในการพาย เพราะแดดร้อน กลัวดำ เลยพายแรงมาก 55555 พอไปถึงเกาะน้อยพวกเราก็พักเล่นกันค่ะ มีร่มเงาอยู่นิดหน่อย อากาศเย็นสบายดีค่ะ คุยกันสักพักก็มีเสียงหึ่งๆ เงยหน้าก็เจอโดรนที่รีสอร์ทมาถ่ายรูปค่ะ นี่ก็แอ็กท่ากันเรือแทบคว่ำ ซึ่งตรงนี้เราคิดว่าไม่ควรลงเล่นน้ำนะคะ คือเราก็ไม่รู้ว่าจะมีตัวอะไรอยู่กับพืชน้ำบ้าง ลอยสวยๆบนคายัคก็พอค่ะ แล้วสักพักก็พายกลับรีสอร์ทกัน ไปเตรียมตัวเล่นเครื่องเล่นกันดีกว่าาา

มาต่อที่เครื่องเล่นค่ะ เดี๋ยวจะฝอยให้ฟังอย่างละเอียดทีละอย่างเลย ซึ่งเราจะขอเรียกตามสีนะเพราะไม่รู้ชื่อมัน 55555

(ภาพเครื่องเล่นขออนุญาตก็อปมาจากเว็บของทางรีสอร์ทนะคะ มัวสนุกจนลืมถ่ายรูปมาเลย)

-อย่างเเรกพวกเราเล่นแพแดง มันเหมือนบานาน่าโบ๊ท 3 อันติดกัน มีที่จับให้จับโบ๊ทละ 2 อัน แต่เราไปกัน 7 คนเลยให้คนผอมนั่งซ้อนกันตรงกลางค่ะ แล้วจะมีเจ็ทสกีลากค่ะ สนุกมากกกก แต่ก็เจ็บหน้ามากและเปียกมากเพราะน้ำกระเด็นใส่ตลอดทาง ถ้านั่งหน้าอย่ากรี๊ดเยอะค่ะ น้ำจะเข้าปากเอาได้ อิ่มเลยแหละ (เราเตือนแล้วนะเออ!!) ส่วนความพีคคือเวลาเลี้ยวค่ะ มันเหวี่ยง ถ้าจับไม่ไหวให้ทิ้งตัวลงร่องระหว่างโบ๊ทค่ะ พวกเรานี่ทิ้งตัวกันเต็มพื้นที่ 55555  และสำหรับความพิเศษของเครื่องเล่นนี้คือถ้ายิ่งเล่นคนน้อยๆ พี่เค้าบอกว่าสามารถพาเราบินได้เลยนะคะ อยากรู้ก็ต้องไปลองกันหน่อยเนอะ ยิ้ม

-ต่อด้วยบานาน่าโบ๊ทเหมือนตามชายหาดทะเลค่ะ แต่เจ็ทสกีลากแรงมากกกกกกกก คว่ำทีคือตึ๊บเพราะหัวลง แล้วเวลาขึ้นยากมาก คือจุดนั้นมันขำ ไม่เข้าใจเหมือนกันหัวกระแทกน้ำแล้วขำอะไรหนักหนา ขำจนไม่มีแรงขึ้น สมองกระทบกระเทือนหนักมาก หลังจากพยายามจะยกตัวขึ้นข้างบานาน่าโบ๊ทไม่สำเร็จเลยต้องไปขึ้นเจ็ทสกีแล้วค่อยขึ้นตัวบานาน่าโบ๊ทอีกที ณ จุดๆนี้มีความยากตามน้ำหนักตัวค่ะ 5555555

- อย่างที่สามเราเล่นแพเหลืองค่ะ เป็นแพ-กลมมีพนักข้างหลังเล่นได้ทีละ 3-4 คน แต่ถ้า4คนต้องเบียดกันหน่อย อันนี้ก็จะเป็นเรือลากเหมือนกันค่ะ เหมือน 2 อย่างเเรกก็คือสนุกตรงที่มันเหวี่ยง ซึ่งแพนี้พี่คนลากจะลากเราเป็นวงกลมค่ะ เพื่อนเราเล่นก่อนรอบแรก 3 คน บอกว่าสนุกมากกกกก รอบเรานั่ง 4 คน สนุกจริงค่ะ แต่ตอนที่เหวี่ยงแล้วเพื่อนจะไหลมากอง บอกเลยว่าคนริมต้องสตรอง!! เเพก็เหวี่ยงเพื่อนก็ทับแทบจะบี้แบนรวมตัวกับแพ

*** แพแดงกับแพเหลืองจะมีกล้องติดอยู่ข้างหน้า ทำหน้าสวยๆไว้ค่ะเพราะรูปจะลงเพจของรีสอร์ท คือพอเห็นกล้องก็รู้แหละว่าต้องทำหน้าสวยแต่พอเข้าไปดูรปที่รีสอร์ทลงให้บอกเลยว่าเจ็บปวด หน้าพวกเราไม่โอเคเท่าไหร่5555555555 แต่ถ้าภาพไหนเสี่ยงหรือโป๊พี่เค้าจะไม่เอาลงเพจค่ะไม่ต้องห่วง



-อย่างที่ 4 พวกเราเล่นที่ที่มันต้องปีนขึ้นไปบนแพเขาแล้วกระโดดลงบนแพ-ลมข้างล่างซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์รูปเท้าอันใหญ่แปะอยู่ เสร็จแล้วต้องคลานไปข้างหน้า พอคนต่อไปโดดลงมาคนข้างหน้าก็จะเด้งลงน้ำซึ่งอันนี้เล่นยากค่ะ ส่วนมากคนจะกระโดดไม่ถึงแพ-ลมข้างล่างตกลงไปตรงร่องแทน ตอนพวกเราเล่นคือปีนขึ้นไปกองกันข้างบน 4 คนแล้วก็นั่งจากเปียกจนแห้งค่ะ ไม่มีใครโดดสักที จะว่าวิวดีอากาศดีก็ใช่แต่ประเด็นคือไม่กล้าโดด 55555 จนเพื่อนผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวยอมพลีชีพไปก่อน ด้วยความที่มีน้องในรีสอร์ทแนะนำว่าให้สไลด์ลงแล้วปีนขึ้นแพ-ลมข้างล่าง เพื่อนเราเลยสไลด์ลงค่ะ สรุปคือเหนื่อยปีนฟรีเพราะตกร่องไปอย่างสงบ แต่เพื่อนผู้ชายก็ปีนขึ้นมาใหม่ค่ะ แล้วพวกเราก็นั่งแช่กันเหมือนเดิม ดูพระอาทิตย์ตรงนั้นสวยดีค่ะ ลองยืนๆนั่งๆกันอยู่หลายรอบ ตอนยืนจะบอกว่าขาสั่นมาก นี่ก็คิดเหมือนกันว่าหนาวหรือกลัว 55555555555 จนสุดท้ายก็โดดลงไปแปะอยู่บนแพ-ลมข้างล่างด้วยท่าที่เหมือนจิ้งจงแล้วก็คลานไปข้างหน้าตรงปลายรอเพื่อนกระโดด พอเพื่อนโดดมาเราก็ลอยอยู่บนอากาศสองวิแล้วดิ่งลงน้ำพร้อมเสียงกรีดร้อง

*รูปเครื่องเล่นลองไปดูในเว็บกันนะคะ ขออภัยที่มัวแต่เล่นจนไม่ได้ถ่ายแต่ละชิ้นมาให้ดูน๊าา
**ย้ำอีกทีว่าให้ใส่ชูชีพไว้ตลอดนะคะ เพื่อความปลอดภัยเนอะ


พอเล่นเสร็จก็ถึงเวลาอาหารค่ะ มื้อเย็นทางรีสอร์ทจะถามว่าเราจะกินที่ล็อบบี้ด้านบนหรือจะกินที่ห้องพัก ตอนที่ถามพวกเรายังเล่นไม่เสร็จค่ะเลยเลือกกินที่ห้องให้มาเสิร์ฟตอน 1 ทุ่ม อาหารมื้อเย็นดีงามมากค่ะ มีไข่เจียว ต้มยำทะเล ไก่ผักพริก ผัดผักแล้วก็ปลาทอดซึ่งปลานี่พวกเราจำได้ว่ามาถึงรีสอร์ทพร้อมกันเพราะเห็นอยู่ท้ายกระบะตอนนั่งเข้ามา พวกเราไม่ได้อวยเลยแต่อาหารอร่อยมาก ซึ่งพวกเราก็คุยกันนะว่าเพราะแม่ครัวทำอร่อยกันแน่ 55555 แล้วคือเราได้ข้าวมาโถเดียวเลยเราโทรไปขอข้าวอีก นอกจากเราได้ข้าวเพิ่มอีก1โถพี่เค้ายังให้กับข้าวมาเพิ่มด้วยทั้งไข่เจียว ผัดผักและไก่ผัดพริก ขอบคุณทางรีสอร์ทที่เมตตาต่อความหิวโหยของพวกเราด้วยนะคะ

ตอนกลางคืนหลังจากอาบน้ำเรียบร้อย พวกเรามีทั้งที่ขึ้นไปนั่งเล่นที่ล็อบบี้กับนอนอยู่ที่ห้อง ส่วนของล็อบบี้ จะเป็นที่นั่งแบบเปิดค่ะ สามารถนั่งชิวๆฟังเพลง ดูดาวพร้อมกับจิบเครื่องดื่มรับลมเย็นๆได้แบบสบายๆ มีเบียร์ให้ได้ดื่มแต่ถ้าใครไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์ ที่นี่ก็มีบริการเครื่องดื่มอื่นๆเช่นกัน ส่วนเรื่องยุงหมดห่วงเลยค่ะ ไม่ค่อยมียุงมารบกวนแต่จะมีแมลงอื่นๆบ้างนิดหน่อย ก็ธรรมชาติหนิเนอะ


ส่วนการนอนคือห้องพวกเราจะเป็น 4 เตียงติดกัน แต่ละเตียงจะมีหมอน 2 ใบกับผ้าห่ม 1 ผืน ซึ่งแน่นอนว่าผ้าห่มผืนเดียวกับคน 2 คนคงแย่งกันตาย ตรงนี้ถ้าไม่พอเราก็สามารถขอเพิ่มได้ ของพวกเราเป็นห้องใหญ่ แต่ก็มีห้องพักแบบอื่นๆนะคะ สามารถติดต่อสอบถามหรือไม่ก็ดูรูปจากเฟสบุ๊คของทางรีสอร์ทได้ค่ะ

ตอนเช้า ขอแนะนำเลยว่าอากาศดีมากกก การตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นริมเขื่อนเป็นอะไรที่ฟินมาก ถ้าตื่นทันนะคะ 5555 พวกเราตื่นมาถ่ายรูปนิดหน่อยแล้วก็กินอาหารเช้ากัน มื้อเช้าเป็นชุดขนมปัง(มีเครื่องให้ปิ้งแล้วก็แยม) แฮม ไข่ดาว ไส้กรอก ข้าวต้ม สามารถขอเพิ่มได้ แล้วก็มีกาแฟ โอวันตินไว้ให้ชงเองได้ตามชอบด้วย





หลังจากกินเรียบร้อยพวกเราก็ถ่ายรูป(อีกแล้ว) ก่อนจะจัดการเช็คเอ้าท์คืนกุญแจ ขากลับเราจ้างสองแถวเล็กพาเราแว๊นมาถึงบขส. กาญจนบุรีใช้เวลา 1 ชม. ถึงบขส.ตอน 11.20 น. จะมีวินรถตู้อยู่หลายปลายทางมาก เรากินข้าวก่อนแล้วซื้อตั๋วกลับกรุงเทพ 110 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ2 ชม.เหมือนเดิมค่ะ

สรุปค่าใช้จ่าย
- เดินทาง รถตู้100+สองแถวหกล้อ60+สองแถวเล็ก100+รถตู้110 = 370
- ค่าที่พัก รวมอาหาร3มื้อพร้อมเครื่องเล่น 1200
ถ้ากินระหว่างทางไม่เยอะงบ 2000 บาทก็พอค่ะ

สุดท้ายเราอยากจะบอกว่าภูนกเงือกเป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นกันเองมากๆ บริการประทับใจสุดๆ แถมธรรมชาติมากๆด้วย ยิ่งใครชอบเที่ยวแบบมีกิจกรรมกับเพื่อนๆ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ แถมตอนนี้มีเครื่องเล่นใหม่แล้วด้วย ใครไปมาอย่าลืมมารีวิวให้พวกเราฟังด้วยน๊าาา  ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ หากมีข้อผิดพลาดอะไรขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ชื่อสินค้า:   รีสอร์ท ที่พัก บรรยากาศสบายๆ กิจกรรม Adventure
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่