1) ซิ่งกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับ 1 ศพ เจ็บ 3
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 26 พฤษภาคม ร.ต.อ.ณัฐพล พ่อสาร ร้อยเวร สภ.เมือง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ผผ 7851 ขอนแก่น เสียหลักพุ่งลงไปร่องกลางถนนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุพบนายวิชาญ หยดย้อย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/156 หมู่ 3 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เสียชีวิตในลักษณะคอขาดข้างรถกระบะที่พังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 3 คนได้นำส่งโรงพยาบาลชลบุรี จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิชาญได้ขับรถกระบะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยมีพรรคพวกนั่งมาด้วย 3 คน โดยขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ารถได้เกิดเสียหลัก พุ่งลงร่องกลางถนน และชนกับเสาไฟฟ้าเก่าเป็นเหตุให้รถกระบะพลิกคว่ำ นายวิชาญได้กระเด็นออกมานอกรถทำให้ถูกกระจกบาด ส่งผลให้คอขาดเสียชีวิตทันที ส่วนพรรคพวกอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอาการปลอดภัย
2) รถกระบะข้ามเลนพุ่งชนรถรับส่งคนงานสหฟาร์ม เจ็บ 11
เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 27 พฤษภาคม ร.ต.ท.สมทบ บุญแสน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหมี่ ลพบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถกระบะรับส่งคนงานสหฟาร์ม ที่บริเวณวัดน้อยยอดจัน ถนนสายคันคลองชัยนาท-ป่าสัก บ้านหมี่-จันเสน จากสะพานสระใหญ่มุ่งหน้าจันเสน 500 เมตร (หน้าวัดน้อยยอดจันทร์) จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสว่างอริโย
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร บริเวณชายน้ำคลองชลประทาน พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีเทา ทะเบียน ถน 3087 กทม โดยภายในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน 1 ราย และนอนกระจัดกระจายบริเวณพื้นถนนและริมถนนอีกจำนวนมาก จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่ง รพ.บ้านหมี่ ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่โดยสารมากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี คือ นายอานนท์ ขันตี อายุ 40 ปี เป็นคนขับ นางน้ำอ้อย ขันตี อายุ 39 ปี
ส่วนผู้บาดเจ็บที่มากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีเทา ทะเบียน ถน 3087 กทม ประกอบด้วย นายอุดมสุข ชิดโฉม อายุ 39 ปี เป็นคนขับ ส่วนผู้โดยสารเป็นคนงานของบริษัท สหฟาร์ม ซึ่งกำลังเดินทางจะไปทำงาน ประกอบด้วยนายชัยณรงค์ หารสาร อายุ 20 ปี นายเสคสรร บัญชาเมฆ อายุ 28 ปี นายวัชรพล โนนสืบเผ่า อายุ 22 ปี น.ส.นริสรา สาระคำ อายุ 18 ปี และ น.ส.ณัฐธิดา เผือกพงษ์ อายุ 18 ปี
ด้าน ร.ต.ท สมทบ กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี ซึ่งเสียหลัก เนื่องจากถนนบริเวณดังกล่าวมีการทรุดตัวเป็นคลื่น ประกอบกับขับมาด้วยความเร็วสูงจึงเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีที่วิ่งสวนทางมาทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
3) ปิกอัพซิ่งฝ่าสายฝนพุ่งเสยท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้ ดับ 2 ศพ สาหัส 1
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 พ.ค. ร.ต.ท.ดำรงค์ แดนแก้วมูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สว่างวีระวงศ์ รับแจ้งจากมีอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนท้ายรถ 22 ล้อบรรทุกไม้ บริเวณกิโลเมตรที่ 22-23 ถนนวาริน-พิบูล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรม อุบลราชธานี และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสว่างวีระวงศ์
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 2010 อุบลราชธานี ด้านหน้าฝั่งด้านข้างคนขับพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 45-50 ปี สภาพศพถูกอัดก๊อปปี้ติดกับล้อหลังด้านขวาของรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกไม้ยูคาลิปตัส สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-1981 อุดรธานี โดยมีนายเทิดทูล ลามาศ อายุ 46 ปี เป็นคนขับ ส่วนคนขับรถกระบะอาการสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้ แพทย์ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เพื่อรักษาตัวอย่างเร่งด่วน
จากการสอบปากคำนายเทิดทูล คนขับรถพาวง ให้การว่า ตนกำลังจะนำไม้ยูคาลิปตัสไปส่งให้โรงงานแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเนินขาขึ้นมุ่งหน้าอำเภอวารินชำราบ แต่ตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นตอนนั้น เพราะรถบรรทุกหนักจึงค่อยๆวิ่งไต่ขึ้นเนิน แต่มีจังหวะที่กำลังขึ้นเนินรู้สึกว่ารถกระตุก 1 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากใช้เกียร์ต่ำ อาการกระตุกก็จะมีเป็นธรรมดา จนผ่านเนินมารถก็เร่งไม่ขึ้น และมีเสียงเหมือนรถชนที่ด้านท้ายรถเสียงดังสนั้น จึงได้มองกระจกด้านข้างก็พบว่ามีรถกระบะมาชนท้ายรถของตน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามนานกว่า 2 ชั่วโมง ในการแยกรถกระบะออกจากท้ายรถพ่วง เนื่องจากความแรงทำให้ช่วงล่างของรถกระบะเกี่ยวล้อของรถบรรทุกไว้ ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามญาติของมาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะเกิดช่วงที่ฝนตกหนัก รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดที่เป็นเนินทำให้มองไม่เห็นรถบรรทุกด้านหน้า จึงพุ่งชนเข้าอย่างแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอญาติและผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายก่อนจึงจะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
วันนี้ยังไม่หมดวัน กะบะก่ออุบัติเหตุ 3 ราย ตาย 3 เจ็บ 15
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 26 พฤษภาคม ร.ต.อ.ณัฐพล พ่อสาร ร้อยเวร สภ.เมือง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ผผ 7851 ขอนแก่น เสียหลักพุ่งลงไปร่องกลางถนนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน จึงรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุพบนายวิชาญ หยดย้อย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/156 หมู่ 3 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เสียชีวิตในลักษณะคอขาดข้างรถกระบะที่พังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 3 คนได้นำส่งโรงพยาบาลชลบุรี จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวิชาญได้ขับรถกระบะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยมีพรรคพวกนั่งมาด้วย 3 คน โดยขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ารถได้เกิดเสียหลัก พุ่งลงร่องกลางถนน และชนกับเสาไฟฟ้าเก่าเป็นเหตุให้รถกระบะพลิกคว่ำ นายวิชาญได้กระเด็นออกมานอกรถทำให้ถูกกระจกบาด ส่งผลให้คอขาดเสียชีวิตทันที ส่วนพรรคพวกอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลอาการปลอดภัย
2) รถกระบะข้ามเลนพุ่งชนรถรับส่งคนงานสหฟาร์ม เจ็บ 11
เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 27 พฤษภาคม ร.ต.ท.สมทบ บุญแสน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านหมี่ ลพบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถกระบะรับส่งคนงานสหฟาร์ม ที่บริเวณวัดน้อยยอดจัน ถนนสายคันคลองชัยนาท-ป่าสัก บ้านหมี่-จันเสน จากสะพานสระใหญ่มุ่งหน้าจันเสน 500 เมตร (หน้าวัดน้อยยอดจันทร์) จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสว่างอริโย
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร บริเวณชายน้ำคลองชลประทาน พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีเทา ทะเบียน ถน 3087 กทม โดยภายในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน 1 ราย และนอนกระจัดกระจายบริเวณพื้นถนนและริมถนนอีกจำนวนมาก จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่ง รพ.บ้านหมี่ ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่โดยสารมากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี คือ นายอานนท์ ขันตี อายุ 40 ปี เป็นคนขับ นางน้ำอ้อย ขันตี อายุ 39 ปี
ส่วนผู้บาดเจ็บที่มากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีเทา ทะเบียน ถน 3087 กทม ประกอบด้วย นายอุดมสุข ชิดโฉม อายุ 39 ปี เป็นคนขับ ส่วนผู้โดยสารเป็นคนงานของบริษัท สหฟาร์ม ซึ่งกำลังเดินทางจะไปทำงาน ประกอบด้วยนายชัยณรงค์ หารสาร อายุ 20 ปี นายเสคสรร บัญชาเมฆ อายุ 28 ปี นายวัชรพล โนนสืบเผ่า อายุ 22 ปี น.ส.นริสรา สาระคำ อายุ 18 ปี และ น.ส.ณัฐธิดา เผือกพงษ์ อายุ 18 ปี
ด้าน ร.ต.ท สมทบ กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน บว 260 ราชบุรี ซึ่งเสียหลัก เนื่องจากถนนบริเวณดังกล่าวมีการทรุดตัวเป็นคลื่น ประกอบกับขับมาด้วยความเร็วสูงจึงเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีที่วิ่งสวนทางมาทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
3) ปิกอัพซิ่งฝ่าสายฝนพุ่งเสยท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้ ดับ 2 ศพ สาหัส 1
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 พ.ค. ร.ต.ท.ดำรงค์ แดนแก้วมูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สว่างวีระวงศ์ รับแจ้งจากมีอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนท้ายรถ 22 ล้อบรรทุกไม้ บริเวณกิโลเมตรที่ 22-23 ถนนวาริน-พิบูล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรม อุบลราชธานี และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสว่างวีระวงศ์
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กท 2010 อุบลราชธานี ด้านหน้าฝั่งด้านข้างคนขับพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 45-50 ปี สภาพศพถูกอัดก๊อปปี้ติดกับล้อหลังด้านขวาของรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกไม้ยูคาลิปตัส สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-1981 อุดรธานี โดยมีนายเทิดทูล ลามาศ อายุ 46 ปี เป็นคนขับ ส่วนคนขับรถกระบะอาการสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้ แพทย์ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เพื่อรักษาตัวอย่างเร่งด่วน
จากการสอบปากคำนายเทิดทูล คนขับรถพาวง ให้การว่า ตนกำลังจะนำไม้ยูคาลิปตัสไปส่งให้โรงงานแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเนินขาขึ้นมุ่งหน้าอำเภอวารินชำราบ แต่ตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นตอนนั้น เพราะรถบรรทุกหนักจึงค่อยๆวิ่งไต่ขึ้นเนิน แต่มีจังหวะที่กำลังขึ้นเนินรู้สึกว่ารถกระตุก 1 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากใช้เกียร์ต่ำ อาการกระตุกก็จะมีเป็นธรรมดา จนผ่านเนินมารถก็เร่งไม่ขึ้น และมีเสียงเหมือนรถชนที่ด้านท้ายรถเสียงดังสนั้น จึงได้มองกระจกด้านข้างก็พบว่ามีรถกระบะมาชนท้ายรถของตน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามนานกว่า 2 ชั่วโมง ในการแยกรถกระบะออกจากท้ายรถพ่วง เนื่องจากความแรงทำให้ช่วงล่างของรถกระบะเกี่ยวล้อของรถบรรทุกไว้ ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามญาติของมาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะเกิดช่วงที่ฝนตกหนัก รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดที่เป็นเนินทำให้มองไม่เห็นรถบรรทุกด้านหน้า จึงพุ่งชนเข้าอย่างแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอญาติและผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายก่อนจึงจะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป