สวัสดีครับ ถ้าพูดถึงข้าวมันไก่ในตำนานที่พอมีกระทู้ถามถึงก็จะมีคนเข้ามาแนะนำอยู่เสมอ จากการสำรวจคร่าวๆของผมจะเห็นชื่อสองข้าวมันไก่ไฮโซ อย่างข้าวมันไก่ไหหลำจากโรงแรมมณเฑียร และ บุญตงกี่ ข้าวมันไก่เจ้าดังจากสิงคโปร์ ติดโผสำรวจอยู่เสมอ ผมเลยอยากไปลองดูบ่าง

ข้าวมันไก่เป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวไหหลำ ชื่อเสียงอันเลื่องลือมาจากไก่พันธุ์พื้นเมืองของเมืองบุ่นเซียว เลยทำให้ชาวไหหลำเวลาย้ายถิ่นฐานไปอยู่ไหนก็จะนำอาหารจานนี้ติดตัวไปประกอบอาชีพอยู่เสมอ ตั่งแต่การเลี้ยง ตอนไก่ จนไปถึงการขายข้าวมันไก่เลยทีเดียว   

ข้าวมันไก่ที่ชาวไหหลำนำติดตัวไป ไม่ว่าจะเป็น ไทย มาเลย์ สิงคโปร์ ก็จะมีการปรับสูตรให้เข้ากับรสนิยมคนในประเทศนั้นๆ แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ยังเป็นอาหารที่เรียบง่ายแค่การต้มไก่และนำน้ำต้มไก่ไปหุงข้าวออกมาเป็นข้าวมันไก่ แต่ถ้าจะทำให้อร่อยจนเป็นที่เลื่องลือแล้วนั้นรายละเอียดอาจซับซ้อนจนเราคิดไม่ถึง


ผมเริ่มจากข้าวมันไก่จากประเทศเพื่อบ้านอย่างสิงคโปร์ ด้วยความที่ผมได้ยินชื่อเสียงมานานเกี่ยวกับข้าวมันไก่ไหหลำของที่นี้ที่เขาภาคภูมิใจขนาดยกให้เป็นอาหารประจำชาติเลยทีเดียว ผมเคยไปสิงคโปร์แค่ครั่งเดียวและยังไม่เคยได้ลองอาหารจานนี้เลยเพราะตอนนั้นกลับคิดว่ามันก็ไม่เห็นต่างกันเลย (แต่ตอนนั้นผมได้กินคุกกี้สิงคโปร์นะอร่อยด้วย แต่หาลอดช่องไม่เจอ) จนได้ยินว่าร้านชื่อดังของที่นั้นมาเปิดสาขาที่นี้ด้วย พอดีวันได้ได้ผ่านไปแถวพระรามสาม เลยขอไปลองให้รู้สักหน่อย

ร้านบุญตงกี่ (Boon Tong Kee) ที่ว่าเป็นร้านชื่อดังจากสิงคโปร์ที่ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนจริงๆ จนได้มาเปิดสาขาในไทยแล้วเป็นที่ฮือฮานั่นแหละ สาขาที่ผมไปกินอยู่ที่โครงการ The Up ตรงพระรามสาม หลังจากจอดรถแล้วผมก็เดินวนหาร้านอยู่นาน (โครงการนี้เหมือเขาวงกตเลยครับ) ก็มาเจอร้านเป้าหมายครับ




ข้างประตูทางเข้าเป็นครัวแบบเปิดมีไก่ต้มแขวนไว้มากมาย





เข้ามานั่งในร้านผมรอเสียนานหลังจากกดปุ่มเรียกพนักงานก็มา พร้อมเมนู ตอนที่ผมไปร้านนี้ยังไม่มีการจัดชุดเมนูข้าวมันไก่ ต้องสั่งแยก ไก่จะมีตั่งแต่ ขนาด S L M ประมาณนั้นครับ ผมถามว่าถ้ากินคนเดียวนี้ S พอไหมพนักงานบอกว่า เอา M ไปเลยไหมพี่นั้นไง M ก็ M พร้อมข้าวและน้ำลูกเดือยมาอีกแก้ว

สักพักน้ำจิ้มก็มาก็มาวาง น้ำจิ้มที่นี้มีสองแบบ คือแบบน้ำมันขิงสับ กับแบบซอสแดงๆ น้ำจิ้มแบบน้ำมันขิงสับนี้ดูจะเป็นอะไรที่ดั่งเดิมมาจากทางไหหลำ ผมเคยไปทานที่เกาะไหหลำเลยก็เป็นแบบนี้แต่บางทีเขาก็จะเอาซีอิ้วใสเพิ่มลงไปถ้าอยากได้รสเค็ม แต่ที่แตกต่างกันเลยคือไอ้น้ำจิ้มซอสแดงนี้ละครับ มองดูว่าท่าทางจะเผ็ดแต่ความจริงไม่เผ็ด รสของซอสพริกนี้ออกมาอย่างชัดเจน ออกแนวไปทางซอสทาบาสโก้นิดนิดด้วย ไม่ออกเค็มและหวานเหมือนน้ำจิ้มทางไทย






ตามมาด้วยน้ำลูกเดือยเพื่อสุขภาพ รสสดชื่นหวานปะแล่ม แต่คนไม่ชอบก็คงเกลียดไปเลย





สักพักไก่ก็มาวางบนโต๊ะสวยงามน่ากิน ที่นี้เขาจะนำซอสที่เขาบอกว่าเป็นสูตรเฉพาะของเขามาราดให้เห็นๆถึงที่โต๊ะ ราดไปไม่มากผมก็บอกว่าพอแล้วไม่ต้องมากเพราะอยากได้รสไก่ต้มแบบเต็มๆดดยไม่มีซอสด้วยด้วย จากสายตาไก่เนื้อล้วนชิ้นหน้าไม่มีกระดูก หนังไก่ตึงเปรี๊ยะน่ากินมาก ไก่ต้มมากำลังดีออกเย็นเย็นนิดหน่อย เนื้อไก่นุ่มแต่เหนียวขบฟันอย่างดี ชิมชิ้นที่แช่ซอสที่ราดมาแล้วต้องบอกว่าซอสอร่อยมากไม่เค็มเกินเข้ากับไก่กำลังดี ไปจิ้มกับน้ำมันขิงสับแล้วอร่อยเข้ากันมากครับ (แต่ผมกลับไม่ชอบน้ำจิ้มซอสสีแดงนั่นเลย)





ข้าวมันที่มาวางก็น่ากินข้าวเรียงเม็ดสวยงาม พอชิมข้าวเปล่าเข้าไปรสชาติข้าวปรุงมาแบบอ่อนๆ กลิ่นน้ำไก่มันไก่หอมออกมา รสชาติข้าวอาจจะไม่เข้มข้นแบบที่คนไทยคุ้นชิน พอกินกับไก่ออกมาอร่อยมากเข้ากันได้ดีครับ ทีโต๊ะมีซีอิ้วดำหวานไว้สำหรับคนชอบหวานราดข้าวหรือจิ้มไก่ด้วย แต่ผมไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไหร่





สรุปวันนั้นผมจ่ายไปสามร้อยกว่าบาทเกือบสี่ร้อย ไก่อร่อยมากจัดได้ว่าเป็นของเด็ดของที่นี้ น้ำราดอร่อยมาก ข้าวใช้ข้าวเก่าเรียงเม็ดหอมรสอ่อน น้ำจิ้มให้คะแนนกับน้ำมันขิงสับเต็มร้อยเข้ากันดีกับไก่อร่อยมากครับ บริการพนักงานมีเบลอบ่าง ติตรงผ้าปูโต๊ะผมว่าถ้ารักจะปูผ้าแบบนี้ต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษหน่อย เพราะเวลาอะไรหกบางที่ก็เช็ดยากผมยังจับเจอข้าวแห้งร่วงบนโต๊ะอยู่เลยครับ ส่วนราคาแพงแต่งานออกมาก็สมราคาคุยอยู่นะครับ ยังอยากจะชวนที่บ้านไปกินอาหารอย่างอื่นอีกเพราะวันนั้นไปคนเดียวแค่ข้าวมันไก่ก็อิ่มลากแล้ว (แล้วดันสั่งขนาด M ด้วย)