เมื่อกลุ่มนั้นก็อ้างว่าเสียสละ...กลุ่มนี้ก็อ้างว่าเสียสละ...แล้วใครได้ผลจากการกระทำตรงนั้น??
“เสียสละ” บางครั้งก็เป็นคำที่อ้างกันขึ้นมาหน้าด้านๆ โดยไม่ได้นำพาต่อ “ความหมาย"และ “พฤติกรรม” ว่าเป็นเนื้อเดียวกันหรือไม่?? จริงๆ แล้วคำๆ นี้เป็นคำซ้อนเกิดจากการประสมคำสองคำความหมายเหมือนกันระหว่าง “เสีย” กับ “สละ” เช่นทหารเสียชีวิตเพื่อชาติ และ ทหารสละชีวิตเพื่อชาติ
ลักษณะการ “เสียสละ” ของผู้ที่เสียสละโดยภาพรวมทั่วๆ ไป ก็คือการ “เสีย”ไป หรือ “สละ”ไป ซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินที่ตนเองมี ส่วนจะเสียมากเสียน้อยก็อยู่ที่ “คุณธรรม” ของคนๆ นั้น แต่ที่แน่ๆ “ผู้เสียสละ” ต้องเสียอย่างหนึ่งอย่างใดไปด้วยความเต็มใจ เช่น แม่เสียสละดวงตาข้างหนึ่งให้ลูก ตรงนี้ผู้เสียสละคือแม่ต้องสูญเสียดวงตาและการมองเห็นไป
อีกทางหนึ่ง คนๆ หนึ่งได้ลาภ ยศ สรรเสริญ และอำนาจ เพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมบางอย่าง(จะถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฏหมายก็แล้วแต่) สำหรับผมแล้ว ผมไม่มองพฤิตกรรมตรงนั้นว่าเป็นการเสียสละแต่อย่างใด มุมองของพุทธศาสนามองคนประเภทนี้ว่าเป็นไม่รู้จักพอ(โลภ) และยิ่งหากพฤิตกรรมตรงนั้นผิดหลักผิดกบิลบ้านเมืองแล้ว....ก็ยิ่งไม่อาจจะเรียกว่าการเสียสละได้เลย
...จง“สละเสีย” นั่นแหละ “เสียสละ”ที่แท้จริง...By วัชรานนท์
“เสียสละ” บางครั้งก็เป็นคำที่อ้างกันขึ้นมาหน้าด้านๆ โดยไม่ได้นำพาต่อ “ความหมาย"และ “พฤติกรรม” ว่าเป็นเนื้อเดียวกันหรือไม่?? จริงๆ แล้วคำๆ นี้เป็นคำซ้อนเกิดจากการประสมคำสองคำความหมายเหมือนกันระหว่าง “เสีย” กับ “สละ” เช่นทหารเสียชีวิตเพื่อชาติ และ ทหารสละชีวิตเพื่อชาติ
ลักษณะการ “เสียสละ” ของผู้ที่เสียสละโดยภาพรวมทั่วๆ ไป ก็คือการ “เสีย”ไป หรือ “สละ”ไป ซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินที่ตนเองมี ส่วนจะเสียมากเสียน้อยก็อยู่ที่ “คุณธรรม” ของคนๆ นั้น แต่ที่แน่ๆ “ผู้เสียสละ” ต้องเสียอย่างหนึ่งอย่างใดไปด้วยความเต็มใจ เช่น แม่เสียสละดวงตาข้างหนึ่งให้ลูก ตรงนี้ผู้เสียสละคือแม่ต้องสูญเสียดวงตาและการมองเห็นไป
อีกทางหนึ่ง คนๆ หนึ่งได้ลาภ ยศ สรรเสริญ และอำนาจ เพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมบางอย่าง(จะถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ถูกต้องตามกฏหมายก็แล้วแต่) สำหรับผมแล้ว ผมไม่มองพฤิตกรรมตรงนั้นว่าเป็นการเสียสละแต่อย่างใด มุมองของพุทธศาสนามองคนประเภทนี้ว่าเป็นไม่รู้จักพอ(โลภ) และยิ่งหากพฤิตกรรมตรงนั้นผิดหลักผิดกบิลบ้านเมืองแล้ว....ก็ยิ่งไม่อาจจะเรียกว่าการเสียสละได้เลย