จาก “ปางอุ๋ง” สู่ “ห้วยน้ำดัง” แดนในฝัน สวรรค์บนดิน

เมื่อปลายฤดูหนาวปีที่แล้ว ผมและเพื่อนๆได้ตัดสินใจออกเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศของดินแดนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้

สถานที่เราไปกันคือปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน และอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่


คณะเดินทางของเราไปถึงปางอุ๋งตอนหัวค่ำ อากาศเริ่มหนาวเย็น ฟ้ามืดไร้แสงจันทร์ จึงเป็นเวลาเหมาะที่จะเก็บภาพจากแสงดาว
ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูกาลถ่ายรูปทางช้างเผือกแต่ก็ยังพอเห็นหางของมันแต่พองาม
เมื่อถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วจึงเข้านอนเพราะจะได้รีบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันถัดไป


เราตื่นขึ้นมาอีกทีกลางดึก ถ้าจำไม่ผิด เวลาประมาณตี4เพื่อมารอดูแสงเช้า ทันทีที่ออกจากบ้านพัก อากาศหนาวเย็นก็กระทบหน้า
ตัวสั่นกันไปหมดทุกคน พวกเราค่อยๆเดินเกาะกลุ่มกันอย่างช้าๆไปยังทะเลสาบ เมื่อมองขึ้นฟ้าเห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มไปหมด
เมื่อมองตรงไปยังทะเลสาบเห็นภาพสะท้อนดวงดาวจากท้องฟ้า เกิดเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่


นั่งหนาวกันไปอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ แสงยามเช้าเริ่มเข้ามาแทนที่แสงดาว มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยววิ่งผ่านไปบ้าง
แสงไฟจากไฟหน้ารถยนต์ส่องผ่านบ้านพัก และสะท้อนกับสายหมอกที่วิ่งบนผิวน้ำ เกิดเป็นภาพที่แปลกตา


แสงตะวันยามเช้าเริ่มทำให้บรรยากาศเปลี่ยนจากสีน้ำเงินม่วงเป็นสีส้มแดง
บรรดานักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆต่างพากันมารอที่ท่าเรือฝั่งตรงข้ามกับที่พวกเราอยู่ เพื่อมาล่องเรือดูหมอกยามเช้า
ชาวบ้านแถวนี้ก็ได้โอกาสสร้างรายได้จากการใช้บริการของนักท่องเที่ยวด้วย


เมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวไม้มา แสงแดดสีทองก็ส่องไปทั่วบริเวณโดยรอบ ตัดกับผืนน้ำและหมอกสีน้ำเงินอย่างชัดเจน
และทำให้ทั้งทะเลสาบสะท้อนสีเหลืองทองออกมาทั้งผืน


การได้ล่องเรือเล่นคู่กับหงส์ดำ ท่ามกลางสายหมอกสีทอง และสัมผัสอากาศเย็นในยามเช้า หากว่าสวรรค์มีจริง
ที่นี่ก็อาจจะมีบรรยากาศและความสวยงามใกล้เคียงกันก็เป็นได้



บรรยากาศตอนเช้าของปางอุ๋งต่างกับตอนกลางคืนมาก ตรงที่ได้เห็นทั้งต้นไม้และดอกไม้หลายชนิด
บางชนิดมีสีสันสดใสตัดกันอย่างโดดเด่นกับสีของท้องฟ้า แม้แต่เงาของต้นไม้ที่สะท้อนกับทะเลสาบก็ยังแลดูสวยงาม
ถึงแม้จะง่วงจากการตื่นเช้า แต่พอเห็นภาพเหล่านี้แล้วก็อดใจที่จะไม่ถ่ายรูปไม่ได้
พวกเราพากันเก็บภาพอีกเล็กน้อย ก่อนจะไปหาอาหารเช้ากิน



หลังจากที่ท้องอิ่มและตื่นกันมาทั้งคืน พวกเราก็ตั้งใจจะนอนหลับขณะออกเดินทางโดยใช้รถสองแถวที่จ้างพิเศษเพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นอนอยู่ดี เพราะระหว่างทางได้ผ่านหุบเขาและเส้นทางอันคดเคี้ยว เลี้ยวซ้ายทีขวาที หัวหมุนกันเกือบทุกคน
ทำให้ต้องหยุดพักกันอยู่หลายรอบเพราะเมารถกันมาก แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นการแลกเปลี่ยน



ตอนกลางคืนที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมีการเปิดไฟค่อนข้างสว่าง การถ่ายดาวจึงทำได้ยากกว่าเดิมเล็กน้อย
เพราะต้องระวังแสงไฟสะท้อนเข้ากล้อง ในที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจต้มมาม่าและโจ๊กกินกันแทน นั่งพูดคุยสัพเพเหระใต้แสงดาว
ถึงแม้อากาศจะหนาว แต่อาหารและบรรยากาศเวลานั้นกลับทำให้เกิดความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด


ในรุ่งเช้าวันสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์ขึ้น คณะของเราได้เดินเท้าไปยังจุดชมวิวห้วยน้ำดังเพื่อเก็บภาพแสงยามเช้า เห็นแสงดาวสุกสว่าง
ทิวเขาและทะเลหมอกที่สวยงาม พร้อมกับกินข้าวเช้าไปด้วย ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้อาหารเช้าธรรมดามื้อนี้กลายเป็นมื้อที่พิเศษขึ้นมาทันที



เมื่อตะวันเริ่มขึ้นสูง แสงอรุณตกกระทบไปทั่ว ทะเลหมอกเริ่มจางหายไป บรรยากาศจึงเปลี่ยนไปทันตา
เผยให้เห็นความสวยงามของสถานที่และธรรมชาติโดยรอบ


ผมยิ้มกับตัวเองให้กับความสวยงามของธรรมชาติและบรรยากาศที่อยู่เบื้องหน้า ถึงแม้ว่าทริปนี้จะเป็นทริปสั้นๆ
แต่ก็ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดี แน่นอนว่าการเดินทางย่อมมีจุดสิ้นสุด พวกเราซึมซับบรรยากาศกันอีกซักพัก
และพากันเดินทางกลับไปสู่ชีวิตปกติของแต่ละคนต่อไป


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าชมกระทู้นี้นะครับ

ผมชื่อเควิ่นนะครับ สนใจแวะเข้ามาพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/kavin.koon
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่