สวัสดีค่ะ ^^~ ผู้ที่หลงเข้ามาในนี้นะ555555555555 ครั้งที่แล้วเรารีวิวทริปไปสังขละบุรีมา กลับมาครั้งนี้มารีวิวแบบประหยัดหน่อย แต่ต้องไปเป็นแก๊งนะถึงจะคุ้ม
สำหรับทริปนี้นะคะ มีจุดเริ่มต้นมาจากอยากไปเที่ยวค่ะ ไม่มีอะไรมาก แค่อยากนั่งรถชิลล์ๆ ไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับไรงี้ เลยวางแผนว่ากับเพื่อนๆ กันว่าจะไปเที่ยวหลังสอบกันนะไรงี้ ก็แบบปิดเทอมอะเนาะ อยากเที่ยวบ้างไรบ้าง เปิดหูเปิดตา
เลยตกลงกันว่าจะไปติดต่อรถเมล์ที่บขส.กาญจนบุรี ส่วนเรื่องสถานที่ที่จะไปกันก็มี4ที่ค่ะ ดังนี้เลยยย 1.วัดถ้ำพุหว้า 2.วัดเมตตาธรรม 3.เขื่อนศรีนครินทร์ 4.น้ำตกเอราวัณ
อ๊ะๆ ต่อไปจะเข้าสู่โหมดภาพและการบรรยายนิดหน่อยพอเป็นพิธีนะคะ ว่าแล้วไปชมกันเลยย
รถเมล์สีส้มคันนี้แหละค่าาที่พวกเราใช้ในการเดินทางครั้งนี้ ทริปนี้ไปกันเจ็ดคนกับเงินติดกระเป๋าคนละห้าร้อยกว่าบาทค่ะ
เริ่มการเดินทางกันตอนเจ็ดโมงครึ่งค่ะ นัดเจอกันที่หน้าเซเว่นหน้ามอ สถานที่ที่เพื่อนๆ สะดวกมารวมกันมากที่สุด หลังจากที่มากันครบแล้ว จุดแรกที่รถพาเราไปคือวัดถ้ำพุหว้า~
วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตัววัดเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ที่สวยงาม บรรยากาศร่มรื่น ตอนนั่งรถผ่านนี่ อากาศดีมากๆ เลยค่ะ ถ้าท่านใดมีโอกาสก็อย่าลืมแวะมานะคะ เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายรูปภายในถ้ำเพราะข้างในมืด เลยฝากลิงค์นี้มาเผื่อผู้ที่สนใจนะคะ
http://paiduaykan.com/province/central/kanjanaburi/watthampuwa.html
มีมุมน่าสนใจให้ถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วย
ระหว่างทาง...
วัดต่อไปคือวัดเมตตาธรรมค่ะ วัดนี้อยู่ใกล้ๆ กับวัดถ้ำพุหว้าเลย เยื้องขวาแล้วตรงไปเลยค่ะ วัดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนมาเมืองจีน
เมื่อมาถึงวัดก็ต้องทำบุญกันตามระเบียบ..
พระพุทธรูปข้างใน เป็นพระจีนหมดเลย กราบไหว้ขอพรกันเสร็จก็ลงข้างล่างไปรับประทานอาหารเจค่ะ ที่วัดเมตตาธรรมมีอาหารเจให้นักท่องเที่ยวทานด้วยค่ะ
ดูเด็กทำผักบุ้งไฟแดง บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา
มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเจ ข้าวต้ม ข้ามธรรมดา กับข้าวที่นี่เจหมดค่ะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ว่าแล้วก็กินค่ะ55555555555555
กินเสร็จก็แชะภาพก่อนเดินทางไปยังที่ต่อไป
สถานที่ต่อไปก็คือ เขื่อนศรีนครินทร์ ค่ะ ^^
ตอนนี้เพิ่งออกจากทางเข้าวัดมาทางถนนใหญ่ก่อนตรงไปเส้นลาดหญ้าค่ะ
ตอนนี้นั่งชมวิวข้างทางเพลินสุดๆ อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลย
จุดหมายที่จะไปคือเชื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 68 กิโลเมตร พอพ้นถนนตรงนี้ไปจะเริ่มมีโค้งขึ้นนิดหน่อยค่ะ สนุกดี
แม่น้ำนี้คือแม่น้ำแควไหลตรงไปในเมืองยาวเลยค่าา
โค้งเยอะแต่ไม่มากพอกรุบกริบ = =* แต่ก็ทำให้จขกทเวียนหัวได้อยู่พอสมควร
ก่อนจะมาถึงเขื่อนศรีนครินทร์จะผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาก่อน เสียดายจขกทเก็บรูปไม่ทันกำลังตะลึงอยู่
ออกจากวัดเมตตาธรรมมาตอนประมาณ10โมงกว่า นั่งรถไปสักพักตอนนี้มาถึงแล้ว
''เขื่อนศรีนครินทร์''
พอมาถึงก็อยากจะ..
กระโดดสุดตัวบอกให้โลกรู้มาถึงสักที เอ้ยไม่ช่ายยยย
เข้าห้องน้ำกันก่อน ฮาาา.. พอเสร็จกิจทุกคนก็
กระจายตัวกันถ่ายรูปทันที
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ ลักษณะเขื่อนเป็นหินถมแกนดินเหนียวใหญ่ที่สุดของประเทศสำหรับกั้นแม่น้ำแควใหญ่ มีประโยชน์ทั้งด้านการชลประทาน การลดอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง การประมง การผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนบริเวณบนเขื่อนก็มีพวกที่พักคอยให้บริการด้วยนะคะ คนมาเที่ยวเขื่อนมีมาเรื่อยๆ เลยค่ะ แต่พวกเราไม่สน ขอถ่ายรูปกันอย่างเดียว
เตรียมกระโดด..
พอกระโดดก็เป็นกันแบบนี้55555555555 นี่ถ่ายตอนกระโดดกันหลายช็อตมากค่ะ สงสารคนถ่าย
ก่อนจะกลับไปเอราวัณต่อขอสักหน่อย
สถานที่สุดท้าย น้ำตกเอราวัณค่ะ ไปกันเลยยย
ก่อนจะไปถึงน้ำตก ได้ขอให้ลุงคนขับรถแวะตลาดสดก่อนซึ่งห่างจากเขื่อนมา เพื่อจะซื้อของไปกินที่น้ำตกกันค่ะ
ก่อนเข้าน้ำตกจะเสียค่าเข้าด้วย สำหรับค่าเข้าชมน้ำตกชาวไทย เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท หากมีบัตรนักศึกษาจะเสียคนละ50บาทค่ะ ส่วนชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 300 บาท
เมื่อเข้ามาถึงป้ายแล้วไม่ได้หมายว่าจะถึงน้ำตกแล้วนะคะ ยังต้องเดินไปอีกด้านในจ้าา
ประกอบกับฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆ พวกเราจึงหยุดพักหาร่มไม้เพื่อจัดการกับสิ่งที่เตรียมมาเพื่องานนี้
นั่นคือการกินนั่นเอง
สำหรับน้ำตกเอราวัณนะคะ มีทั้งหมด7ชั้น ได้แก่
แชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง น้ำตกยังไม่ค่อยสวยมาก เหมาะสำหรับนั่งปิกนิก มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร ริมน้ำตก
ชั้นที่ 2 วังมัจฉา มีปลาพลวงเวียนว่ายในน้ำใสอยู่เป็นจำนวนมาก แอ่งน้ำสีฟ้า มีม่านน้ำตก ไหลผ่านหินย้อย เหมือนกับนำ้ไหลผ่านปากถ้ำ ลงมายังแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เหมาะกับการลงเล่นน้ำ บางช่วงอาจลึก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชูชีพลงเล่นได้ ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดค่ะ
น้ำตกชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ก่อนขึ้นไปยังน้ำตกนี้ จะมีจุดตรวจอาหาร ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม และขวดน้ำ ขึ้นไปจากชั้นนี้เด็ดขาด ต้องฝากเจ้าหน้าที่เอาไว้
ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ทางอุทยานทำทางเดินบันไดไว้อย่างเรียบร้อย แต่เส้นทางค่อนข้างสูงชันอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางไปน้ำตกชั้นที่ 4 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าดิบแล้งม่องไล่ ระยะทาง 1,010 เมตร สามารถเดินแยกไปตามเส้นทางนั้นได้ ชั้นนี้ดูดีๆ จะเห็นหิน 2 ก้อนที่มีลักษณะเหมือนหน้าอกผู้หญิง แต่มีลักษณะใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป เลยได้ชื่อเป็นอกนางผีเสื้อ (สมุทร) ซะเลย ชั้นนี้มีน้ำไหลตามหินลงมายังแอ่งด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้
จากนี้เส้นทางจะค่อนข้างลำบากขึ้น และเป็นทางชันขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด น้ำตก
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาแบบเตี้ยๆ เป็นแอ่งตื้นๆ เหมาะกับการแช่น้ำเล่น
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา อยู่ห่างจากชั้น 5 แค่ 300 เมตร มีน้ำตกอยู่หลายมุม ตามแมกไม้ต่างๆ
ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ การเดินทางไปถึง ต้องเดินผ่านหิน ปีนบันไดไปอีก เป็นทางที่เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แต่ก็คุ้มกับการมาดู เพราะเป็นชั้นที่สูงที่สุดและสวยที่สุด มีสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง ผ่านแมกไม้ และแนวหิน มาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง
สำหรับแก๊งจขกทได้ขึ้นไปจนถึงชั้นสี่ แล้วก็หยุดอยู่เท่านี้เพราะปัจจัยหลายอย่างค่ะ ทั้งแบตกล้องหมด เหนื่อยแล้วก็ล้าเลยปักหลักเล่นกันชั้นสามค่ะ
ต่อไปเป็นรูปล้วนๆเลยนะคะ
หลังจากกินเสร็จก็ลุยต่อเลย
ชั้นสอง คนเยอะพอสมควร
น้ำใสมาก
มาชั้นสาม ปักหลักเล่นกันที่นี่ละกัน
ต่อไปก็ไปชั้นสี่ค่ะ
ชั้นสี่มีจุดชมวิวด้วย
เล่นชั้นสี่กันแปปเดียวพวกเราก็ลงไปเล่นชั้นสามแทน (ขยันเดิน)
เล่นจนถึงเวลาสมควรก็ตัดสินใจเดินทางกลับค่ะ
ยังคงเชื่อ คนทุกคนย่อมมีเหตุผลของการเดินทาง... ฉันเองก็เช่นกัน
**สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ มีดังนี้ค่ะ
ค่ารถ (รวมไป-กลับคนละ) 234
ค่าของ (เงินกองกลางไว้ซื้อของกินคนละ) 150
ค่าเข้าชมน้ำตก (มีบัตรนักศึกษาลดครึ่งราคา) 50
ตกคนละ 434 บาท/คน**
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทาง/คุณลุงที่ขับรถให้/นักท่องเที่ยวที่พบเจอ หากมีข้อสงสัย ยินดีตอบนะคะ
***ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ หากมีข้อผิดพลาด เจ้าของกระทู้ขออภัยด้วยนะคะ เป็นมือใหม่หัดรีวิว อาจรีวิวยังไม่ดีเท่าที่ควร***
พบกันใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไป สำหรับครั้งนี้..
สวัสดีค่ะ
[CR] *เช้าไปเย็นกลับ เที่ยว4 ที่ในจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยงบ (คนละประมาณ) 500บาท*
สำหรับทริปนี้นะคะ มีจุดเริ่มต้นมาจากอยากไปเที่ยวค่ะ ไม่มีอะไรมาก แค่อยากนั่งรถชิลล์ๆ ไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับไรงี้ เลยวางแผนว่ากับเพื่อนๆ กันว่าจะไปเที่ยวหลังสอบกันนะไรงี้ ก็แบบปิดเทอมอะเนาะ อยากเที่ยวบ้างไรบ้าง เปิดหูเปิดตา เลยตกลงกันว่าจะไปติดต่อรถเมล์ที่บขส.กาญจนบุรี ส่วนเรื่องสถานที่ที่จะไปกันก็มี4ที่ค่ะ ดังนี้เลยยย 1.วัดถ้ำพุหว้า 2.วัดเมตตาธรรม 3.เขื่อนศรีนครินทร์ 4.น้ำตกเอราวัณ
อ๊ะๆ ต่อไปจะเข้าสู่โหมดภาพและการบรรยายนิดหน่อยพอเป็นพิธีนะคะ ว่าแล้วไปชมกันเลยย
รถเมล์สีส้มคันนี้แหละค่าาที่พวกเราใช้ในการเดินทางครั้งนี้ ทริปนี้ไปกันเจ็ดคนกับเงินติดกระเป๋าคนละห้าร้อยกว่าบาทค่ะ
เริ่มการเดินทางกันตอนเจ็ดโมงครึ่งค่ะ นัดเจอกันที่หน้าเซเว่นหน้ามอ สถานที่ที่เพื่อนๆ สะดวกมารวมกันมากที่สุด หลังจากที่มากันครบแล้ว จุดแรกที่รถพาเราไปคือวัดถ้ำพุหว้า~
วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตัววัดเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ที่สวยงาม บรรยากาศร่มรื่น ตอนนั่งรถผ่านนี่ อากาศดีมากๆ เลยค่ะ ถ้าท่านใดมีโอกาสก็อย่าลืมแวะมานะคะ เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายรูปภายในถ้ำเพราะข้างในมืด เลยฝากลิงค์นี้มาเผื่อผู้ที่สนใจนะคะ
http://paiduaykan.com/province/central/kanjanaburi/watthampuwa.html
มีมุมน่าสนใจให้ถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วย
ระหว่างทาง...
วัดต่อไปคือวัดเมตตาธรรมค่ะ วัดนี้อยู่ใกล้ๆ กับวัดถ้ำพุหว้าเลย เยื้องขวาแล้วตรงไปเลยค่ะ วัดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนมาเมืองจีน
เมื่อมาถึงวัดก็ต้องทำบุญกันตามระเบียบ..
พระพุทธรูปข้างใน เป็นพระจีนหมดเลย กราบไหว้ขอพรกันเสร็จก็ลงข้างล่างไปรับประทานอาหารเจค่ะ ที่วัดเมตตาธรรมมีอาหารเจให้นักท่องเที่ยวทานด้วยค่ะ
ดูเด็กทำผักบุ้งไฟแดง บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา
มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเจ ข้าวต้ม ข้ามธรรมดา กับข้าวที่นี่เจหมดค่ะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ว่าแล้วก็กินค่ะ55555555555555
กินเสร็จก็แชะภาพก่อนเดินทางไปยังที่ต่อไป
สถานที่ต่อไปก็คือ เขื่อนศรีนครินทร์ ค่ะ ^^
ตอนนี้เพิ่งออกจากทางเข้าวัดมาทางถนนใหญ่ก่อนตรงไปเส้นลาดหญ้าค่ะ
ตอนนี้นั่งชมวิวข้างทางเพลินสุดๆ อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลย
จุดหมายที่จะไปคือเชื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 68 กิโลเมตร พอพ้นถนนตรงนี้ไปจะเริ่มมีโค้งขึ้นนิดหน่อยค่ะ สนุกดี
แม่น้ำนี้คือแม่น้ำแควไหลตรงไปในเมืองยาวเลยค่าา
โค้งเยอะแต่ไม่มากพอกรุบกริบ = =* แต่ก็ทำให้จขกทเวียนหัวได้อยู่พอสมควร
ก่อนจะมาถึงเขื่อนศรีนครินทร์จะผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาก่อน เสียดายจขกทเก็บรูปไม่ทันกำลังตะลึงอยู่
ออกจากวัดเมตตาธรรมมาตอนประมาณ10โมงกว่า นั่งรถไปสักพักตอนนี้มาถึงแล้ว
''เขื่อนศรีนครินทร์''
พอมาถึงก็อยากจะ..
กระโดดสุดตัวบอกให้โลกรู้มาถึงสักที เอ้ยไม่ช่ายยยย
เข้าห้องน้ำกันก่อน ฮาาา.. พอเสร็จกิจทุกคนก็
กระจายตัวกันถ่ายรูปทันที
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ ลักษณะเขื่อนเป็นหินถมแกนดินเหนียวใหญ่ที่สุดของประเทศสำหรับกั้นแม่น้ำแควใหญ่ มีประโยชน์ทั้งด้านการชลประทาน การลดอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง การประมง การผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนบริเวณบนเขื่อนก็มีพวกที่พักคอยให้บริการด้วยนะคะ คนมาเที่ยวเขื่อนมีมาเรื่อยๆ เลยค่ะ แต่พวกเราไม่สน ขอถ่ายรูปกันอย่างเดียว
เตรียมกระโดด..
พอกระโดดก็เป็นกันแบบนี้55555555555 นี่ถ่ายตอนกระโดดกันหลายช็อตมากค่ะ สงสารคนถ่าย
ก่อนจะกลับไปเอราวัณต่อขอสักหน่อย
สถานที่สุดท้าย น้ำตกเอราวัณค่ะ ไปกันเลยยย
ก่อนจะไปถึงน้ำตก ได้ขอให้ลุงคนขับรถแวะตลาดสดก่อนซึ่งห่างจากเขื่อนมา เพื่อจะซื้อของไปกินที่น้ำตกกันค่ะ
ก่อนเข้าน้ำตกจะเสียค่าเข้าด้วย สำหรับค่าเข้าชมน้ำตกชาวไทย เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท หากมีบัตรนักศึกษาจะเสียคนละ50บาทค่ะ ส่วนชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 300 บาท
เมื่อเข้ามาถึงป้ายแล้วไม่ได้หมายว่าจะถึงน้ำตกแล้วนะคะ ยังต้องเดินไปอีกด้านในจ้าา
ประกอบกับฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆ พวกเราจึงหยุดพักหาร่มไม้เพื่อจัดการกับสิ่งที่เตรียมมาเพื่องานนี้ นั่นคือการกินนั่นเอง
สำหรับน้ำตกเอราวัณนะคะ มีทั้งหมด7ชั้น ได้แก่
แชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง น้ำตกยังไม่ค่อยสวยมาก เหมาะสำหรับนั่งปิกนิก มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร ริมน้ำตก
ชั้นที่ 2 วังมัจฉา มีปลาพลวงเวียนว่ายในน้ำใสอยู่เป็นจำนวนมาก แอ่งน้ำสีฟ้า มีม่านน้ำตก ไหลผ่านหินย้อย เหมือนกับนำ้ไหลผ่านปากถ้ำ ลงมายังแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เหมาะกับการลงเล่นน้ำ บางช่วงอาจลึก นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชูชีพลงเล่นได้ ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดค่ะ
น้ำตกชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ก่อนขึ้นไปยังน้ำตกนี้ จะมีจุดตรวจอาหาร ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม และขวดน้ำ ขึ้นไปจากชั้นนี้เด็ดขาด ต้องฝากเจ้าหน้าที่เอาไว้
ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ทางอุทยานทำทางเดินบันไดไว้อย่างเรียบร้อย แต่เส้นทางค่อนข้างสูงชันอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางไปน้ำตกชั้นที่ 4 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าดิบแล้งม่องไล่ ระยะทาง 1,010 เมตร สามารถเดินแยกไปตามเส้นทางนั้นได้ ชั้นนี้ดูดีๆ จะเห็นหิน 2 ก้อนที่มีลักษณะเหมือนหน้าอกผู้หญิง แต่มีลักษณะใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป เลยได้ชื่อเป็นอกนางผีเสื้อ (สมุทร) ซะเลย ชั้นนี้มีน้ำไหลตามหินลงมายังแอ่งด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้
จากนี้เส้นทางจะค่อนข้างลำบากขึ้น และเป็นทางชันขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด น้ำตก
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นลงมาแบบเตี้ยๆ เป็นแอ่งตื้นๆ เหมาะกับการแช่น้ำเล่น
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา อยู่ห่างจากชั้น 5 แค่ 300 เมตร มีน้ำตกอยู่หลายมุม ตามแมกไม้ต่างๆ
ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ การเดินทางไปถึง ต้องเดินผ่านหิน ปีนบันไดไปอีก เป็นทางที่เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แต่ก็คุ้มกับการมาดู เพราะเป็นชั้นที่สูงที่สุดและสวยที่สุด มีสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง ผ่านแมกไม้ และแนวหิน มาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง
สำหรับแก๊งจขกทได้ขึ้นไปจนถึงชั้นสี่ แล้วก็หยุดอยู่เท่านี้เพราะปัจจัยหลายอย่างค่ะ ทั้งแบตกล้องหมด เหนื่อยแล้วก็ล้าเลยปักหลักเล่นกันชั้นสามค่ะ
ต่อไปเป็นรูปล้วนๆเลยนะคะ
หลังจากกินเสร็จก็ลุยต่อเลย
ชั้นสอง คนเยอะพอสมควร
น้ำใสมาก
มาชั้นสาม ปักหลักเล่นกันที่นี่ละกัน
ต่อไปก็ไปชั้นสี่ค่ะ
ชั้นสี่มีจุดชมวิวด้วย
เล่นชั้นสี่กันแปปเดียวพวกเราก็ลงไปเล่นชั้นสามแทน (ขยันเดิน)
เล่นจนถึงเวลาสมควรก็ตัดสินใจเดินทางกลับค่ะ
ยังคงเชื่อ คนทุกคนย่อมมีเหตุผลของการเดินทาง... ฉันเองก็เช่นกัน
**สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ มีดังนี้ค่ะ
ค่ารถ (รวมไป-กลับคนละ) 234
ค่าของ (เงินกองกลางไว้ซื้อของกินคนละ) 150
ค่าเข้าชมน้ำตก (มีบัตรนักศึกษาลดครึ่งราคา) 50
ตกคนละ 434 บาท/คน**
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทาง/คุณลุงที่ขับรถให้/นักท่องเที่ยวที่พบเจอ หากมีข้อสงสัย ยินดีตอบนะคะ
***ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ หากมีข้อผิดพลาด เจ้าของกระทู้ขออภัยด้วยนะคะ เป็นมือใหม่หัดรีวิว อาจรีวิวยังไม่ดีเท่าที่ควร***
พบกันใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไป สำหรับครั้งนี้.. สวัสดีค่ะ