สวัสดีค่า เราชื่อ แอน นามสมมติ เราเรียนมหาวิทยาแห่งหนึ่ง ตอนนี้เราเกือบเรียนครบตามหลักสูตรแล้ว เหลือแค่ 1 ตัว นั่นก็คือวิชา individual study ที่ทุกคนรู้กันดีว่ามันคือ ทีสิสหรือวิทยานิพนธ์นั้นเอง ตอนนี้เราอยู่ปี 8 ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาเราพักการศึกษาไว้ เพื่อกลับบ้านไปช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจส่วนตัว เอาแหละเริ่มเข้าเรื่องกันเลย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเราสำหรับชีวิตนักศึกษา ถ้าได้ F มานั่นหมายความว่า เราพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาแน่นอน ซึ่งวิชานี้ก็เปิดเรียนเฉพาะภาคเรียนที่ 2 ของทุกปี เราได้ทำการลงทะเบียนเรียบร้อยและได้ไปติดต่ออาจารย์ประจำวิชาไว้ตั้งแต่ช่วงเปิดภาคเรียนว่าจะทำเรื่องอะไร และเริ่มทำทีสิสและเก็บข้อมูลลงภาคสนามมาเรื่อยๆ ช่วงที่ทำทีสิสเราได้เดินทางกลับบ้านบ่อยมากเนื่องจาก ต้องไปดูแลพ่อที่ป่วย จึงทำให้ต้องเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปต่างจังหวัดบ่อย และเรายึดตารางสอบตามปฏิทินของมหาวิทยาลัย โดยปกติปฏิทินมหาวิทยาลัยเราจะเริ่มสอบช่วงวันที่ 10 - 27 พฤษภาคมและปีนี้ก็เป็นช่วงวันที่เดียวกัน วันที่ 10 เมษายน 2559 เราได้นำรูปเล่มทีสิสที่ทำเสร็จสมบูรณ์ไปส่งอาจารย์และพร้อมสอบในหัวข้อที่เราทำ ปรากฏว่าสาขาที่เราเรียนอาจารย์นัดสอบนอกตารางสอบไปแล้วตั้งแต่ช่วงประมาณ 20- 25 เมษายน ทำให้เราพลาดโอกาสในการสอบไป เพราะเราไม่รู้จักรุ่นน้องในคณะเลย เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาเราพักการศึกษาเพื่อไปทำธุรกิจที่บ้าน จึงไม่ได้ติดต่อกับรุ่นน้องรุ่นใหม่ๆ วันต่อมาเราจึงได้ไปติดต่อกับอาจารย์อีกครั้ง อาจารย์ได้ให้คำแนะนำเราให้เราไปขออนุญาตหัวหน้าภาคในการสอบอีกครั้ง เราได้ติดต่อหัวหน้าภาคไปหลายครั้ง แต่หัวหน้าภาคก็ปฏิเสธไม่ให้เราสอบด้วยเหตุผลต่างๆมากมาย ซึ่งการสอบทีสิสที่มอเราต้องมีอาจารย์ 2 ท่านที่เป็นอาจารย์คุมสอบและให้คะแนนในการพรีเซ็นงาน คือ อาจารย์ประจำวิชาและอาจารย์ที่ปรึกษาในการทำทีสิส ซึ่งอาจารย์สองท่านนี้ก็ยินดีที่จะเป็นคนคุมสอบให้เรา แต่ประเด็นคือ ต้องให้หัวหน้าภาคอนุญาตก่อน อาจารย์สองท่านจึงจะนัดวันให้เราสอบได้ หลายวันที่เราติดต่อหัวหน้าภาคทั้งทางโทรศัพท์ ทั้งที่มหาลัย แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เราเกิดคำถามต่างๆมากมาย คือ
1. ตามปฏิทินของมหาวิทยาลัยเริ่มสอบวันที่ 10- 26 พ.ค. 2559 และอาจารย์สามารถส่งเกรดได้จนถึง ต้นเดือนมิถุนายน แล้วทำไมเราจึงไม่สามารถสอบได้ ทั้งๆที่อาจารย์ก็นัดนักศึกษาในสาขาสอบนอกตารางสอบ
2. จากการติดต่อหัวภาคไปหลายครั้งและถูกปฎิเสธกลับมาทุกครั้ง เราจึงหวังวิธีสุดท้ายคือ ให้ผู้ปกครองเขียนใบบันทึกข้อความเพื่อเป็นหลักฐาน แต่อาจารย์ก็ไม่มีความเมตตาเช่นเดิม
3. วิทยานิพนธ์ของเราทำเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะสอบ แต่ทำไมหัวหน้าภาคถึงไม่มีความเมตตาเลย ให้เราติด I ก็ได้ เราได้ไปขอความเมตาอาจารย์ขอสอบหลายครั้ง และให้อาจารย์เห็นใจ เนื่องจากเราได้รับทุนๆหนึ่งที่ส่งเราเรียน และเมื่อจบการศึกษาต้องไปทำงานในหน่วยงานของเขา แต่ถ้าเราเรียนไม่จบเราต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดซึ่งมากกว่า 5 แสน ซึ่งหัวหน้าภาคก็ปฏิเสธเช่นเดิม
4. กองกิจการมหาวิทยาลัย แนะนำให้เราไปคุยกบอาจารย์ประจำวิชา ว่าสามารถติด I ได้ไหม ในกรณีที่กลัวว่าจะส่งเกรดไม่ทันตามกำหนดการของมหาวิทยาลัย ถ้าดูตามปฏิทินมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ยังสามารถสอบได้ช่วงนี้อยู่และอาจารย์ก็น่าจะส่งเกรดได้ทันเช่นกัน แต่อาจารย์ประจำวิชาก็ให้คำแนะนำเราไปคุยกับหัวหน้าภาคเหมือนเดิม เพราะอาจารย์ประจำวิชาไม่กล้าตัดสินใจ ทำให้เราเกิดคำถามในใจอีกว่า ในเมื่ออาจารย์ประจำวิชามีสิทธิ์ที่จะให้เกรดเรา ทำไมอาจารย์ถึงไม่มีสิทธิ์อนุมัติให้เราสอบ เราจึงได้ติดต่อหัวหน้าภาคอีกครั้ง ซึ่งก็ถูกปฎิเสธเช่นเดิม
5. เพื่อนในสาขาอื่นและคณะอื่นก็ยังสอบไม่เสร็จและบางสาขาก็ยังไม่ได้สอบเหมือนกัน แล้วทำไมเราจึงจะขอสอบไม่ได้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราไม่มีสิทธิ์สอบ แน่นอนเราคงได้ F มา ซึ่งหมายถึงเราพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายของเรา และคงต้องยอมรับความจริงทั้งหมด ซึ่งตัวเราเองก็ผิดเช่นกันที่ไม่ได้ติดต่ออาจารย์ประจำวิชาอย่างต่อเนื่อง และคงต้องไปทำเรื่องลาออกจากมหาลัยดีกว่าถูกไล่ออกเพราะเรียนไม่ครบตามหลักสูตรของคณะตามเวลาที่กำหนด พูดมาก็เสียดายเพราะแค่ตัวเดียวเอง บทเรียนครั้งนี้คงเป็นบทเรียนที่ทำให้จดจำได้อีกนาน
จะพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา เพราะอาจารย์ไม่ให้สอบ ควรทำยังไงดี?
1. ตามปฏิทินของมหาวิทยาลัยเริ่มสอบวันที่ 10- 26 พ.ค. 2559 และอาจารย์สามารถส่งเกรดได้จนถึง ต้นเดือนมิถุนายน แล้วทำไมเราจึงไม่สามารถสอบได้ ทั้งๆที่อาจารย์ก็นัดนักศึกษาในสาขาสอบนอกตารางสอบ
2. จากการติดต่อหัวภาคไปหลายครั้งและถูกปฎิเสธกลับมาทุกครั้ง เราจึงหวังวิธีสุดท้ายคือ ให้ผู้ปกครองเขียนใบบันทึกข้อความเพื่อเป็นหลักฐาน แต่อาจารย์ก็ไม่มีความเมตตาเช่นเดิม
3. วิทยานิพนธ์ของเราทำเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะสอบ แต่ทำไมหัวหน้าภาคถึงไม่มีความเมตตาเลย ให้เราติด I ก็ได้ เราได้ไปขอความเมตาอาจารย์ขอสอบหลายครั้ง และให้อาจารย์เห็นใจ เนื่องจากเราได้รับทุนๆหนึ่งที่ส่งเราเรียน และเมื่อจบการศึกษาต้องไปทำงานในหน่วยงานของเขา แต่ถ้าเราเรียนไม่จบเราต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดซึ่งมากกว่า 5 แสน ซึ่งหัวหน้าภาคก็ปฏิเสธเช่นเดิม
4. กองกิจการมหาวิทยาลัย แนะนำให้เราไปคุยกบอาจารย์ประจำวิชา ว่าสามารถติด I ได้ไหม ในกรณีที่กลัวว่าจะส่งเกรดไม่ทันตามกำหนดการของมหาวิทยาลัย ถ้าดูตามปฏิทินมหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ยังสามารถสอบได้ช่วงนี้อยู่และอาจารย์ก็น่าจะส่งเกรดได้ทันเช่นกัน แต่อาจารย์ประจำวิชาก็ให้คำแนะนำเราไปคุยกับหัวหน้าภาคเหมือนเดิม เพราะอาจารย์ประจำวิชาไม่กล้าตัดสินใจ ทำให้เราเกิดคำถามในใจอีกว่า ในเมื่ออาจารย์ประจำวิชามีสิทธิ์ที่จะให้เกรดเรา ทำไมอาจารย์ถึงไม่มีสิทธิ์อนุมัติให้เราสอบ เราจึงได้ติดต่อหัวหน้าภาคอีกครั้ง ซึ่งก็ถูกปฎิเสธเช่นเดิม
5. เพื่อนในสาขาอื่นและคณะอื่นก็ยังสอบไม่เสร็จและบางสาขาก็ยังไม่ได้สอบเหมือนกัน แล้วทำไมเราจึงจะขอสอบไม่ได้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราไม่มีสิทธิ์สอบ แน่นอนเราคงได้ F มา ซึ่งหมายถึงเราพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายของเรา และคงต้องยอมรับความจริงทั้งหมด ซึ่งตัวเราเองก็ผิดเช่นกันที่ไม่ได้ติดต่ออาจารย์ประจำวิชาอย่างต่อเนื่อง และคงต้องไปทำเรื่องลาออกจากมหาลัยดีกว่าถูกไล่ออกเพราะเรียนไม่ครบตามหลักสูตรของคณะตามเวลาที่กำหนด พูดมาก็เสียดายเพราะแค่ตัวเดียวเอง บทเรียนครั้งนี้คงเป็นบทเรียนที่ทำให้จดจำได้อีกนาน