มวยไทย 3 style มีเอกลักษณ์, จุดเด่นและความแตกต่างในเชิงภาพรวมคร่าวๆดังนี้ครับ:

มวยไทย style ไทย:

1.) การ์ดสูง (มักเรียกว่า Long Guard หรือ High Guard) เพราะไม่เน้นการต่อยมาก (เพราะหมัดมักไม่ได้คะแนนอะไร) แต่เน้นไว้เพื่อสามารถเล่นเกมส์ศอก, ป้องกันการโดนศอกหรือเพื่อให้พร้อมเข้ากอดปล้ำได้สะดวก

2.) น้ำหนักมักหนักที่ขาหลัง ขาหน้าเบา เพื่อใช้ถีบและยกเข่ากันลูกเตะได้สะดวก

3.) ตัวยืดค่อนข้างสูง และหันแกนร่างกายข้างหนาเข้าหาคู่ต่อสู้ แบบ square stance เพื่อให้สะดวกแก่การออกลูกเข่าหรือการใช้ศอกทั้ง 2 ข้างได้อย่างสะดวก

4.) ค่อนข้างเน้นการเคลื่อนไหวแนวตรงแบบ Linear เดินเข้าออก นิยมใช้การเดินเป็น step แบบค่อยๆคืบกดดันเข้าไป

5.) นิยม style ปักหลักแลกอาวุธ counter (เพราะได้คะแนนในสายตากรรมการดีกว่า) มีจังหวะ fight rhythm ที่ออกอาวุธกลับไปมาเป็น burst

6.) จังหวะเกมส์ช้า เป็น late starter เนื่องจากการแข่งมวยบ้านเรามักมีการพนันอยู่ด้วย หลายค่ายจึงฝึกเกมส์การต่อสู้ที่ให้ยก 1-2 ไม่ต้องเครื่องร้อนมาก อย่ารีบ knock กันเร็วคนจะได้แทงพนันได้ นักมวยไทยหลายค่ายจึงถูก train ให้มีจังหวะการต่อสู้แบบนี้

7.) โดยภาพรวมมวยไทย style ไทยมักมีเกมส์ศอก เกมส์ปล้ำเข่า และ เกมส์ลูกเตะระยะยาวกับลูกถีบที่แข็งแกร่ง แต่มักอ่อนเกมส์หมัดระยะกลาง, การใช้ combination ต่อเนื่องกดดัน และ ringcraft movement


มวยไทย style Dutch:

1.) มีพื้นฐานมาจาก Dutch Kickboxing ที่มีพื้นฐานมาจากคาราเต้และมวยสากลอีกที แต่พอมาเสริมเทคนิคมวยไทย ก็เลยเกิดมวยไทย style Dutch

2.) การ์ดระดับต่ำกว่า (มักอยู่ประมาณระดับคางหรือแก้มแบบมวยสากล) เพื่อให้ปล่อยหมัดชุดรวดเร็วสะดวก บวกกับบางทีเกิดจากความเคยชินจาก Dutch Kickboxing ที่ไม่มีการศอกเลยไม่ค่อยสอนให้ต้องใช้ High Guard หรือ Long Guard แบบมวยไทย style ไทย

3.) น้ำหนักขาหน้าและหลัง มีการถ่ายน้ำหนักที่ Balance มากกว่า พร้อม shift ไปขาหน้าและหลังได้อย่างว่องไว

4.) อาจโก่งตัวคล้ายมวยสากลและหันตัวออกข้างเล็กน้อย มีความเป็น bladed stance เพื่อให้สะดวกแก่การชกและใช้ลูกเตะพลิกแพลงอย่าง Side Kick, จระเข้ฟาดหาง หรือ Spinning Back Kick ได้ง่ายขึ้น

5.) ชอบชกเป็น combination ผสมกับลูกเตะเจาะยางระยะประชิดแบบหันแข้งสับลงแนวเฉียง ที่นิยมใช้เป็น combo ต่อหลังจากหมัดฮุคที่กันยากมากๆ เพราะเป็นการเตะนอกระยะจุด focus สายตา บวกกับประสาทตอบรับของผู้โดนเตะยังจดจ่ออยู่กับลูกหมัดอยู่ เลยมักยกขากันไม่ทัน แบบคลิปนี้เป็นตัวอย่างครับ:


7.) มี footwork และ fight rhythm ที่ไหลลื่น มี lateral movement ออกข้างและเป็นวงกลมมากกว่า ด้วยอิทธิพลของ footwork มวยสากล

8.) มักเป็น style มวยที่รุกและรับค่อนข้าง Balance แต่การรับมักใช้การเคลื่อนไหวหลบและตัดมุมด้วย มากกว่าแค่การปักหลักตั้งป้อมหรือโยกหลบแบบไทย

9.) โดยภาพรวมเป็นมวยที่แข็งมากในระยะชก เพราะมี combo ที่น่ากลัว แต่มักอ่อนกว่าในระยะประชิดที่มีการศอกและเข่า เมื่อเทียบกับเกมส์การปล้ำแบบมวยไทย style ไทย   


มวยไทย Style บราซิล:

1.) มีพื้นฐานที่ได้อิทธิพลมาจากเทควันโด้และคาราเต้ (แต่เดิมทีบราซิลมีคนฝึกเยอะ ก่อนที่มวยไทยจะเข้าไปเผยแพร่) - ตามประวัติคือมีนักเทควันโด้สายดำชื่อ Nelio Naja มาเที่ยวเมืองไทย เจอมวยไทยแล้วติดใจเอากลับไปฝึกต่อ ในตำนานเห็นเล่ากันว่าไม่ได้ฝึกในไทยนานแต่อาจมีการอัดเทปไปฝึกต่อที่บราซิลจนแตกฉานก่อนที่จะเผยแพร่แก่นักสู้คนอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Rudimar Fredrico ผู้ก่อตั้งค่าย Chute Boxe ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้มวยไทยไปถูกใช้ใน Vale Tudo และ MMA ก่อนที่จะมีคนไทยที่เป็นนักมวยไทยขึ้นสังเวียน MMA

2.) ลักษณะการยืนมีทั้งแบบที่เหมือนมวยไทยใน style แบบไทยที่การ์ดสูง & หนักขาหลัง และการยืนการ์ดใน style แบบคล้าย Dutch ที่ถ่ายน้ำหนักขา 2 ข้างค่อนข้าง balance และมีการ์ดระดับต่ำลงมาหน่อย

3.) เป็นมวยที่เน้นรุกจู่โจมที่มีความดุดันในระดับสูงมาก มักมีจังหวะโถมรัวอาวุธหมัดและหมัดเหวี่ยง ผสมลูกเตะ (เเต่มักไม่ smooth เท่าของ Dutch แต่มักรุนแรงกว่า) จนมักมีคนเปรียบเทียบว่า มวยไทย style บราซิล คือ มวยไทย style แบบไทยที่เทคนิคไม่ clean เท่า ดูสะเปะสะปะแต่มีความดุดันสูงกว่ามาก

4.) Footwork มีเข้าออกแนวหน้าหลังและออกข้างเป็นจังหวะ แต่ไม่ค่อย smooth เท่า style Dutch เพราะไม่ได้รับอิทธิพลจังหวะและ footwork ของมวยสากลมาเท่าไหร่ แต่ไปได้อิทธิพลจากเทควันโด้, คาราเต้และ Vale Tudo ของบราซิล (นักมวยไทยบราซิลมักประลองในการแข่ง Vale Tudo ดวลกับพวกบราซิลเลี่ยนยิวยิตสูอยู่เป็นระยะๆ - แต่พวกนี้จะมีวิชามวยปล้ำแบบ Lutra Livre เสริมมวยไทยด้วย)

5.) มักชอบใช้หมัดเหวี่ยง ผสมลูกเตะล่างแบบ blitz เข้าใส่ บวกกับอาจมีการใช้ลูกเตะพลิกแพลงที่นิยมในเทควันโด้หรือคาราเต้อย่างลูกเตะหมุนต่างๆผสมไปด้วย บางค่ายก็อาจนิยมใช้เทคนิคโน้มคอระดมตีเข่า (แต่มักไม่มีเกมส์ปล้ำเข่าและการพลิกเหลี่ยมที่แข็งเท่าของไทย)

Edson Barboza กับมวยไทย style Anderson Franca ที่มีความหลากหลายผสมลูกเตะพลิกแพลงที่ได้รับอิทธิพลจากเทควันโด้และคาราเต้


Murilo "Ninja" Rua กับมวยไทย style ค่าย Chute Boxe ที่แนวดูดิบรุนแรงและมีเกมส์ clinch ที่ชอบใช้การกอดคอระดมตีเข่าที่มีชื่อ


อันนี้เป็นภาพรวมคร่าวๆครับ แต่แน่นอนว่าในทุกๆประเทศทั้ง 3 ประเทศ ก็มีนักมวยไทยที่ฉีก style จากรูปแบบนิยมอยู่ แต่โดยส่วนมากหากต้องวาดภาพเหมารวมของ style มวยไทยทั้ง 3 ประเทศก็จะเป็นประมาณนี้ครับ