เที่ยว "ภูล้อมหมวก" การปีนเขาในวันหยุดยาว เป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก

21/05/59
วันหยุดวันที่ 2 ของใคร หลายคน แต่มนุษย์เงินเดือนเช่นข้าพเจ้ายังต้องทำงานต่อเนื่องมาจนถึงวันเสาร์
หลังจากเลิกงานในเวลา 17.30 น. เราและเดอะแก๊งค์ รีบบึ่งออกจากที่ทำงานเพื่อไปขึ้นรถตู้ ไป จ.ประจวบ กัน ค่าโดยสารคนละ 220 บาท
รถออก 18.30 น. จาก กทม. เรานั่งรถยาวไป ถึงประมาณ 4 ทุ่ม เกือบ 5 ทุ่ม แล้ว

เพื่อนรีบโทรติดต่อกับเจ้าของที่พักที่ได้ติดต่อไว้ ตกลงกันว่าค่าที่พักบ้านเป็นหลัง หลังละ 800 บ้านต่อคืน พักได้ 4-5 คน ซึ่งนับว่าถูกมาก
แต่เมื่อไปถึง เจ้าของที่พักกลับบอกให้เราไปพักบ้านอีกหลัง โดยให้เหตุผลว่าที่พักเต็ม (ตอนที่โทรคุย เจ้าของไม่ให้เราจ่ายมัดจำล่วงหน้า) เราจึงจำใจลองไปดู เนื่องจากดึกมากแล้ว

แต่พอไปถึงที่พักที่เจ๊แกบอก คืนละ 1,500 เราก็โอเค แต่... แต่ที่พักที่เราได้ประสบพบเจอนั้น เรียกได้ว่าแย่ทีเดียว สภาพคล้ายกับที่พักคนงาน ที่นำมาทาสีใหม่ ผ้าปูเตียงกลางเก่ากลางใหม่ยับๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกคือทีวี ตู้เย็น และโซฟา เครื่องอำนวยความสะดวกนับว่าโอเค แต่เราไม่โอเคกับคน เรารู้สึกโดนหลอก! เพราะที่คุยกัน ที่ตกลงไว้ ที่ดูจากรีวิว สภาพห้องไม่ใช่แบบนี้!

เราเลยตัดสินใจบอกว่าเราไม่เอาแล้ว ไม่เหมือนที่ตกลงกัน เจ๊แกก็อารมณ์เสียใหญ่ บอกที่ไหนๆก็เป็นแบบนี้แหละ จะไปหาห้องที่ไหนได้ ช่วงนี้นักท่องเทียวเต็มหมด ปกติห้องนี้ก็ให้พักในราคา 2,000 นี่ก็ลดให้แล้วเหลือแค่ 1,500 ไม่เอาทำไมไม่บอกแต่แรก จะได้ไม่ต้องปูเตียงให้ แล้วก็ปึงปังเดินจากไป

เรากับเดอะแก๊งค์แบกเป้เดินออกมาจากที่พักทันที เสียความรู้สึกมาก นาทีนั้นตัดสินใจกันว่า เอาวะ ต่อให้ไม่มีที่พัก ต้องนอนหาดหน้าทะเลฉันก็จะนอน แต่ฉันไม่นอนที่นี่!

เราตัดสินใจเดินหาที่พักกันดาบหน้าตอนห้าทุ่มกว่าๆ เมืองนี้ค่อนข้างมืดและเงียบทีเดียว แต่ก็มีวัยรุ่นซิ่งมอไซค์ มีหมา น่ากลัวทีเดียวสำหรับคนต่างถิ่น
พี่ในกลุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปถามทางลุงกับป้าร้านรถเข็นข้างทางที่กำลังเก็บร้านอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม นับว่าเป็นความโชคดีของพวกเรามากๆที่ได้เจอกับท่านทั้ง 2 ป้ากับลุงใจดีมากๆ โชคดีที่แกมีญาติเปิดรีสอร์ต และโรงแรม ป้าบอกให้คุณลุงไปถามที่พักให้ โดยมีเพื่อนเราซ้อนท้ายมอไซค์ลุงไปดูที่พัก

ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ลุงกลับมาคนเดียว เพื่อนหาย!
ลุงบอกว่าเดี๋ยวเจ้าของรีสอร์ตจะเอารถมารับเรา แป๊บเดียวเพื่อนเราก็มาพร้อมพี่เจ้าของรีสอร์ต(หน้าตาดี ใจดี และเป็นกันเองมาก) แกขับรถมารับเราด้วยตัวเองโดยรถซาเล้ง และพาเราไปสู่ "คลองวาฬ สตูดิโอ รีสอร์ท" ที่พักเปิดใหม่ สไตล์โมเดิร์น (https://www.facebook.com/klongwanstudio/)

ภาพถ่ายตอนกลางวัน

ห้องโอเค สวยน่านอนมาก แต่พวกเรายังนอนกันไม่ได้ ความหิวโหยจากท้องส่งเสียงประท้วงเข้ามา พี่เจ้าของรีสอร์ตเลยต้มน้ำร้อนไว้ให้พวกเราต้มมาม่าที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อกัน แล้วหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมนามบัตรแก ชี้แจ้ง นี่เพจรีสอร์ต นี่เบอร์โทร ถ้ามีอะไรฉุกเฉินโทรได้ 24 ชม. พร้อมกับให้เบอร์ซาเล้งที่จะพาเราไปส่งกองบิน 5 ไว้ให้ และกล่าวคำอำลา ว่าพี่ไปนอนก่อนนะ (แกคงง่วงต็มทีแล้ว รู้สึกผิดที่ต้องมารบกวนตอนดึกๆ และรู้สึกขอบคุณมากที่ยังเปิดประตูต้อนรับพวกเรา)

ตอนเช้าเราติดต่อคุณลุงไป แกคิดราคาค่ารถคนละ 50 บาท โดยมารับเวลา 6.20 น.

อ่าวมะนาว กองบิน 5 ทางผ่านที่จะไปภูล้อมหมวก

ไปถึงเขาเราก็ต้อง ลงทะเบียนก่อนขึ้นเขา ตอนนั้นเราไปถึงประมาณเจ็ดโมง อากาศกำลังดี ไม่ร้อน เหมาะกับการปีนเขา ในช่วงแรกจะมีบันไดให้เราขึ้นไป แล้วค่อยเป็นช่วงที่มีเชือกให้ไต่ นี่เป็นการปีนเขาครั้งแรกของเรา ถุงมือที่ซื้อมาเป็นอะไรที่จำเป็นมาก ช่วยให้เราปีนง่ายขึ้น ดุจดั่งเราเป็นสไปเดอร์แมน



ระหว่างทางเราจะพบกับฝูงค่างหน้าตาน่ารัก ค่างแว่นที่นี่มารยาทดีทีเดียว

ตลอดทางที่ปีนขึ้นไปจะมีพี่ทหารคอยช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว และจะมีจุดให้เราพักเหนื่อยกัน 7 จุด ระหว่างที่ที่ปีนขึ้นไป เคยได้ยินแต่ยิ่งสูงยิ่งหนาว ที่นี่ยิ่งสูงยิ่งสวย สวยมาก เมื่อเรามองวิวจากข้างบนลงมาข้างล่าง เราจะเห็นภูเขาสีเขียว และน้ำทะเลสีฟ้า สวยมากๆ จนอดไม่ได้ที่จะต้องยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพสู่เมมโมรี่ และเก็บความประทับใจเข้าสู่ความทรงจำ





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่