กระทู้เก่าของผมได้เทียบอาวุธบนเรือใหม่ไทย กับมาเลเซีย มาแล้ว  วันนี้ผมจะมาถึงอาวุธประจำเรือของเรือฟริเกต ในกลุ่มชาติอาเซียน 6ชาติ
ได้แก่ สิงคโปร์  พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย และ ไทย  

ส่วนนอกนั้นผมมีสาเหตุครับ อย่าง บรูไน และ ฟิลิปินส์ เป็นเรือแนวOPV จึงไม่ขอนับ(สำหรับฟิลิปินส์ตอนนี้มีข่าวว่าจะจัดหาเรือฟริเกตเบาจากอินเดีย เมื่อมีการยืนยันและข้อมูล ผมจะเอามาเทียบในโอกาสต่อไปครับ) กัมพูชา มีแต่เรือเร็วโจมตี ไม่มีฟริเกตเหมือน บรูไนและฟิลิปินส์ และ ลาว ประเทศนี้ไม่ติดทะเลครับ

เริ่มเลย โดยการแนะนำกันก่อนครับ
เริ่มด้วยเรือ DW3000F ของไทย

(เรือยังมีข้อมูลในวิกินะครับ)

Second Generation Patrol Vessel ของมาเลเซีย

https://en.wikipedia.org/wiki/Second_Generation_Patrol_Vessel

Formidable จากสิงคโปร์

https://en.wikipedia.org/wiki/Formidable-class_frigate

Kyan Sittha จากพม่า

https://en.wikipedia.org/wiki/Kyan_Sittha-class_frigate

Gepard จากเวียดนาม

https://en.wikipedia.org/wiki/Vietnamese_frigate_Dinh_Tien_Hoang_(HQ-011)

และ SIGMA 10514 จากอินโดนิเซีย

https://en.wikipedia.org/wiki/Sigma-class_corvette#Indonesian_variants

เริ่มจากอาวุธปล่อยเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาเเลเซียจัด Naval Strike Missile(NSM) เป็นอาวุธปล่อยแบบanti-ship ที่ทันสมัยที่สุดในโลกตอนนี้ คุณสมบัติที่ล่องหนและแพร่คลื่นน้อย ทำให้ตัวจับได้ยาก และยังมีระบบต่างๆที่ช่วยการนำวิถีสู่เป้าหมาย และการบินเกาะไปตามภูมิประเทศ ระยะยิงไกล 185 กม.
https://en.wikipedia.org/wiki/Naval_Strike_Missile

ส่วนสิงคโปร์ และไทย ใช้ harpoon เหมือนกันครับ ไม่ต้องอธิบายมา ระยะยิงไกลจะอยู่ที่ 120กม.
https://en.wikipedia.org/wiki/Harpoon_(missile)

มาทางเวียดนาม แน่นอนว่าเวียดนามมาสายรัสเซีย อวป.ของเวียดนามคือ Kh-35 ระยะยิง 130กม.
https://en.wikipedia.org/wiki/Kh-35

ส่วนทางพม่า ใช้c-802 จากจีนครับ (ซึ่งไทยก็มีประจำการเช่นกัน) ระยะยิงจะอยู่ที่ 120กม.
https://en.wikipedia.org/wiki/C-802

และอินโดนิเซีย ใช้exocet mm40 ระยะยิง180กม.เลยที่เดียว
https://en.wikipedia.org/wiki/Exocet

ทำไมผมถึงไม่พูดประสิทธิภาพแบบของมาเลเซีย เพราะจรวดที่ผมพูดมีแบบคล้ายๆกันครับ แตกต่างกันที่ระยะยิง ระบบภายในและการเข้าหาเป้า แต่ของมาเลเซียเป็นอะไรที่แตกต่างเพราะมีคุณสมบัติ ในการพลางที่ดี จรวดแบบอื่นๆถ้าถูกเรดาห์เรือจำได้ว่า เป็นจรวด แต่ของมาเลเซีย ถึงถูกตรวจจับแต่มันก็ปรากฏบนจอเล็กกว่าแบบอื่น

ดังนั้น  อวป. ผมให้มาเลเซียครับ


ปืนเรือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้ไม่ยาวครับ  เป็นเรือที่แปลกครับ ที่เรือส่วนใหญ่ของอาเซียนต่างใช้ปืน76มม.รุ่นเดียวกัน คือOTO Melara 76 mm.
https://en.wikipedia.org/wiki/OTO_Melara_76_mm
มีแค่มาเลเซียที่แหวกมาใช้57มม. Bofors 57 mark 3
https://en.wikipedia.org/wiki/Bofors_57_mm_gun
และเวียดนาม ที่ใช้76.2มม.  AK-176
https://en.wikipedia.org/wiki/AK-176
ซึ่งไม่ต่างอะไรมากครับ
สรุปว่า เรือที่ใช้ปืน76มม.ร่วมทั้ง76.2มม.ของเวียดนามเสมอกันครับ แต่มาเลเซียได้เปรียบ เรื่องอัตรายิงเพราะกระสุนเล็กกว่า โดยที่ปืน57มม. ของมาเลเซียมีอัตรายิงที่220นัด/นาที ส่วนแบบที่เหลืออยู่ที่120นัด/นาที


อาวุธป้องต่อต้านอากาศยานพื้น-อากาศ(SAM) และอาวุธป้องกันภัยจากอากาศยาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรือมาเลเซียและอินโดและสิงคโปร์ ติดตั้ง Sylver VLS อินโดและมาเลเซียยิงได้แค่ vl-mica ยิงได้20กม. ของมาเลเซียมี16ท่อยิง ท่อยิงละ1นัด และ อินโด 12ท่อยิง ท่อละ1นัด เรือสิงคโปร์มี 32 ท่อยิง ติดตั้ง aster15/30 รวม 32 นัด ซึ่งaster15และ30 มีระยะยิง30และ120กม.ตามลำดับ  

เรือไทย มี Mk41 VLS รุ่นเดียวกันกับเรือชุดเรือหลวงนเรศวร 8cell ยิงessm 1cellใส่ได้4ลูก ทั้งหมด32ลูก ระยะยิงไกลสุดประมาณ50กม. เรือไทยยังมี Phalanx CIWS 1ระบบที่ท้ายเรือ

ทางพม่า มีIgla ซึ่งเป็นจรวดนำวิถีด้วยความร้อน ระยะยิง 5.2กม. 6 ท่อยิง อาจสงสัยครับ มันคือmanpadแบบเดียวกับที่ ทบ.มีประจำการครับ
นอกจากนี้ยังมี  NG-18 30 mm CIWS จำนวน3กระบอก

เวียมนาม ติดตั้ง Kashtan CIWS 1ระบบ ที่มีทั้งปืน30มม.และจรวดนำวิถี9M311 ระยะยิง8กม. และยังมีAK-630 30มม. อีก2กระบอกครับ

ด้วยทั้งหมดนี้ผมขอแบบเป็นสองสาย คือ จรวดและCIWS สำหรับจรวด เรือสิงคโปร์ได้เปรียบที่สามารถจัดการข้าศึกได้ ไกลกว่าด้วยaster30   มาทางCIWS เรือพม่าและเวียดนามถือว่าเน้นครับด้วยมี3ระบบเท่ากัน ถือว่าในระยะประชิด เรือสองชาตินี้อันตรายครับ


การปราบเรือดำน้ำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรือไทยมีท่อตอปิโดmk.32 ยิงลูกตอปิโดmk46  นอกจากนั้น vls ยังสามารถยิง vl-asroc ได้
ส่วนเรือมาเลเซีย อินโด และ สิงคโปร์ มีแค่ท่อยิงตอปิโดเท่านั้น ซึ่งทางสิงคโปร์ ใช้ A244-S จากอิตาลี
พม่า มีทั้งตอปิโดและจรวดปราบเรือดำน้ำไม่นำวิถี
และเวียดนาม ซึ่งผมรู้สึกแปลกที่ เรือมีแค่ทุ่นระเบิดน้ำลึก ไม่มีตอปิโดเมื่อแบบเรือต้นแบบของรัสเซีย
(เรือมาเลเซีย อินโด และ พม่า ผมไม่มีข้อมูลของตัวลูกดอปิโดครับ)

สรุป เรือไทย และพม่า มีความหลากหลายของอาวุธปราบเรือดำน้ำมากกว่าชาติแื่นๆครับ แต่ถ้าเทียบเรื่องประสิทธิภาพ เรือไทยมีดีกว่าครับ


สิ่งที่ผมทำนี้ไม่ใช่การอวยเรือประเทศไหน หรือบอกว่าเรือเราเห็นเท่าเพื่อนบ้านเลย เป็นการเทียบเพื่อให้เห็นว่า  ในชาติอาเซียนเรือมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง ใครมีอะไรดีในด้านไหน

นี่เป็นเพื่อส่วนที่ใช้ทำลายเป้าหมายเท่านั้น อาวุธพวกนี้จะไม่มีประสิทธิภาพเลยถ้าขาดระบบควบคุมและค้นหา ลูกเรือที่ผ่านการฝึกจนชำนาญและองค์ประกอบอื่นๆครับ เรือถึงจะมีประสิทธิภาพที่ดี และ ป้องกัยอธิปไตยของชาติตนเองครับ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยมานะที่นี้ด้วย  แสดงความคิดเห็นหรือแชณืข้อมูลด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณครับ