บท ฉาก โดยเฉพาะเสียงลากคนดูให้เพริดกระเจิงไปมากๆ แม้ก่อนมาจะตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอความหลอนลึกของมันแต่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ อันที่จริงหนังไม่ได้ทำให้กลัวแบบโฉ่งฉ่าง แต่มันค่อยๆ ทำให้เห็นภาวะผวาและหวาดกลัวของตัวละครตั้งแต่สิบนาทีแรกที่หนังฉาย ภายใต้บรรยากาศขมุกขมัวและไม่เป็นมิตร-เรื่องของครอบครัวเคร่งศาสนาที่ถูกอัปเปหิออกมาจากนิคมเก่าเพราะทัศนคติเรื่องศาสนาไม่ตรงกัน นำมาสู่การตั้งรกรากใหม่ในพื้นที่อันโดดเดี่ยว ติดกับชายป่า มีลำธาร ซึ่งมันก็พอประทังชีวิตอยู่ไปได้
การเป็นคริสเตียนนั้น สิ่งหนึ่งซึ่งต้องพึงระลึกไว้เสมอคือ เราพึ่งพิงชีวิตอยู่กับพระเจ้า และด้วยบริบทแวดล้อมที่เพาะปลูกอะไรไม่ขึ้น ล่าสัตว์ยากแสนเข็นของครอบครัวนี้ ทำให้การศรัทธาในพระเจ้านั้นรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่า ลำพังความสามารถของมนุษย์นั้นไม่อาจเอาชนะสิ่งแวดล้อมอันทึบทึมเหล่านี้ได้
และความยากเย็นของการมีชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งความโดดเดี่ยวนี้บีบให้วิลเลียมส์-พ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก ภายใต้บริบทความเยือกหลอนของถิ่นที่อยู่ใหม่ หนังขับความขี้ขลาดภายใต้ท่าทีติดดีของศาสนิกชนที่เคร่งครัดของเขาอย่างหนักหน่วงและดีเยี่ยม จนเขากลายเป็นชายที่น่าเห็นใจและน่าสมเพชไปในเวลาเดียวกัน โดยมีความไม่มั่นคง ไม่แน่นอนในถิ่นที่อยู่อันดิบเถื่อนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ความประสาทคนในครอบครัวทบทวีมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การหาต้นเหตุหายนะของชีวิตด้วยการขับเด็กสาวซึ่งเป็นพี่คนโตของครอบครัวให้เป็นอื่นด้วยการสงสัยว่าเธอเป็นแม่มด
ขณะที่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือภาวะของเพศหญิงที่ชิงกันเองในครอบครัว ทั้งแม่และลูกสาว ที่ในระยะหลังๆ หนังให้ความรู้สึกของการเชือดเฉือนและระแวงกันของเพศหญิงอย่างรุนแรงมากๆ ความน้อยเนื้อต่ำใจของลูกสาวในช่วงเวลาที่ลูกชายคือหัวแก้วหัวแหวน, การถูกแม่ใช้ให้ไปซักเสื้อผ้าของพ่อ ซึ่งถ้าไม่ได้ติดหยุมหยิมไปเอง หนังเล่นกับภาพจำเรื่อง "แม่มด" ของคนดูด้วยการเลือกนักแสดงผู้มารับบทแม่ให้มีลักษณะเหมือนอีกา ผมฟู หน้าเสี้ยม และแน่นอนว่าไม่น่ามองหากเทียบกับลูกสาว (ที่ออกมาฉากไหนก็ดึงสายตามันทุกฉาก)
สมาชิกของครอบครัวมี 7 คน จะอิงกับบาป 7 ประการของคริสศาสนาหรือไม่นั้นก็สุดรู้ แต่ถ้าลองเทียบกันก็พอเข้าทำเนาอยู่ ทั้งความหยิ่งยโสไปจนกระทั่งความใคร่ คาเล็บ-ลูกชายคนรองผู้กำลังแตกเนื้อหนุ่มและต้องข่มจิตข่มใจต่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างหนัก กับบทลงเอยของแอปเปิ้ลซึ่งเขา "ได้มา" ในท้ายที่สุด
ยากจะบอกว่าแอบเปิ้ลลูกนี้คือสัญลักษณ์เดียวกันกับแอปเปิ้ลซึ่งอดัมกับอีฟลอบเด็ดมาในสวนเอเดนตามคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือไม่ แต่เป็นความน่าสนใจไม่น้อยที่ท้ายที่สุดแล้วแอปเปิ้ลปรากฏตัวขึ้นในถิ่นที่ซึ่งไม่มีมันอยู่จริง
อาจจะบอกได้ว่า หนึ่งในคุณงามความดีอย่างหนึ่งซึ่งหนังทำไว้ดีมากๆ คือการขับอารมณ์คนดูให้เพริดกระเจิงไปในป่าอันลี้ลับพร้อมตัวละคร โดยปราศจากฉากหลอนหัวสมองใดๆ จะมีก็เพียงแต่การดิ้นรนใช้ชีวิตของตัวละคร ท่ามกลางบรรยากาศอันแปลกแยกและไม่เป็นมิตรเท่านั้น
รวมถึงการพูดถึงการเป็นคริสเตียนที่ดีได้อย่างน่าสนใจ เพราะในฐานะคริสเตียนแล้ว เมื่อคุณทดท้อในพระเจ้า, ขาดศรัทธา จนนำไปสู่การไต่หาคนผิดสักคนขึ้นมาเป็นแพะในเหตุการณ์วิปโยคใดๆ นั่นย่อมหมายถึงจุดบอดที่เปิดโอกาสให้ซาตานเข้ามาครอบงำชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้ (ซาตานจะเข้ามาเมื่อมนุษย์เสื่อมศรัทธาในตัวพระเจ้า)
นี่คือหนังที่เล่าถึงความหวาดหวั่นของผู้คนในยุคล่าแม่มดได้อย่างดีเยี่ยม ว่าต่อให้มีแม่มดจริงๆ หรือไม่มีแม่มดอยู่จริง ถึงที่สุดเมื่อตกอยู่ในสภาวะขลาดกลัวและหาทางออกให้ปัญหาไม่ได้ "การล่าแม่มด" คือหนึ่งในคำตอบของภาวะเช่นนี้
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
The VVitch (2015) โศกนาฏกรรมของคนนอก
บท ฉาก โดยเฉพาะเสียงลากคนดูให้เพริดกระเจิงไปมากๆ แม้ก่อนมาจะตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอความหลอนลึกของมันแต่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ อันที่จริงหนังไม่ได้ทำให้กลัวแบบโฉ่งฉ่าง แต่มันค่อยๆ ทำให้เห็นภาวะผวาและหวาดกลัวของตัวละครตั้งแต่สิบนาทีแรกที่หนังฉาย ภายใต้บรรยากาศขมุกขมัวและไม่เป็นมิตร-เรื่องของครอบครัวเคร่งศาสนาที่ถูกอัปเปหิออกมาจากนิคมเก่าเพราะทัศนคติเรื่องศาสนาไม่ตรงกัน นำมาสู่การตั้งรกรากใหม่ในพื้นที่อันโดดเดี่ยว ติดกับชายป่า มีลำธาร ซึ่งมันก็พอประทังชีวิตอยู่ไปได้
การเป็นคริสเตียนนั้น สิ่งหนึ่งซึ่งต้องพึงระลึกไว้เสมอคือ เราพึ่งพิงชีวิตอยู่กับพระเจ้า และด้วยบริบทแวดล้อมที่เพาะปลูกอะไรไม่ขึ้น ล่าสัตว์ยากแสนเข็นของครอบครัวนี้ ทำให้การศรัทธาในพระเจ้านั้นรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาตระหนักได้ว่า ลำพังความสามารถของมนุษย์นั้นไม่อาจเอาชนะสิ่งแวดล้อมอันทึบทึมเหล่านี้ได้
และความยากเย็นของการมีชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งความโดดเดี่ยวนี้บีบให้วิลเลียมส์-พ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก ภายใต้บริบทความเยือกหลอนของถิ่นที่อยู่ใหม่ หนังขับความขี้ขลาดภายใต้ท่าทีติดดีของศาสนิกชนที่เคร่งครัดของเขาอย่างหนักหน่วงและดีเยี่ยม จนเขากลายเป็นชายที่น่าเห็นใจและน่าสมเพชไปในเวลาเดียวกัน โดยมีความไม่มั่นคง ไม่แน่นอนในถิ่นที่อยู่อันดิบเถื่อนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ความประสาทคนในครอบครัวทบทวีมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การหาต้นเหตุหายนะของชีวิตด้วยการขับเด็กสาวซึ่งเป็นพี่คนโตของครอบครัวให้เป็นอื่นด้วยการสงสัยว่าเธอเป็นแม่มด
ขณะที่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือภาวะของเพศหญิงที่ชิงกันเองในครอบครัว ทั้งแม่และลูกสาว ที่ในระยะหลังๆ หนังให้ความรู้สึกของการเชือดเฉือนและระแวงกันของเพศหญิงอย่างรุนแรงมากๆ ความน้อยเนื้อต่ำใจของลูกสาวในช่วงเวลาที่ลูกชายคือหัวแก้วหัวแหวน, การถูกแม่ใช้ให้ไปซักเสื้อผ้าของพ่อ ซึ่งถ้าไม่ได้ติดหยุมหยิมไปเอง หนังเล่นกับภาพจำเรื่อง "แม่มด" ของคนดูด้วยการเลือกนักแสดงผู้มารับบทแม่ให้มีลักษณะเหมือนอีกา ผมฟู หน้าเสี้ยม และแน่นอนว่าไม่น่ามองหากเทียบกับลูกสาว (ที่ออกมาฉากไหนก็ดึงสายตามันทุกฉาก)
สมาชิกของครอบครัวมี 7 คน จะอิงกับบาป 7 ประการของคริสศาสนาหรือไม่นั้นก็สุดรู้ แต่ถ้าลองเทียบกันก็พอเข้าทำเนาอยู่ ทั้งความหยิ่งยโสไปจนกระทั่งความใคร่ คาเล็บ-ลูกชายคนรองผู้กำลังแตกเนื้อหนุ่มและต้องข่มจิตข่มใจต่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างหนัก กับบทลงเอยของแอปเปิ้ลซึ่งเขา "ได้มา" ในท้ายที่สุด
ยากจะบอกว่าแอบเปิ้ลลูกนี้คือสัญลักษณ์เดียวกันกับแอปเปิ้ลซึ่งอดัมกับอีฟลอบเด็ดมาในสวนเอเดนตามคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือไม่ แต่เป็นความน่าสนใจไม่น้อยที่ท้ายที่สุดแล้วแอปเปิ้ลปรากฏตัวขึ้นในถิ่นที่ซึ่งไม่มีมันอยู่จริง
อาจจะบอกได้ว่า หนึ่งในคุณงามความดีอย่างหนึ่งซึ่งหนังทำไว้ดีมากๆ คือการขับอารมณ์คนดูให้เพริดกระเจิงไปในป่าอันลี้ลับพร้อมตัวละคร โดยปราศจากฉากหลอนหัวสมองใดๆ จะมีก็เพียงแต่การดิ้นรนใช้ชีวิตของตัวละคร ท่ามกลางบรรยากาศอันแปลกแยกและไม่เป็นมิตรเท่านั้น
รวมถึงการพูดถึงการเป็นคริสเตียนที่ดีได้อย่างน่าสนใจ เพราะในฐานะคริสเตียนแล้ว เมื่อคุณทดท้อในพระเจ้า, ขาดศรัทธา จนนำไปสู่การไต่หาคนผิดสักคนขึ้นมาเป็นแพะในเหตุการณ์วิปโยคใดๆ นั่นย่อมหมายถึงจุดบอดที่เปิดโอกาสให้ซาตานเข้ามาครอบงำชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้ (ซาตานจะเข้ามาเมื่อมนุษย์เสื่อมศรัทธาในตัวพระเจ้า)
นี่คือหนังที่เล่าถึงความหวาดหวั่นของผู้คนในยุคล่าแม่มดได้อย่างดีเยี่ยม ว่าต่อให้มีแม่มดจริงๆ หรือไม่มีแม่มดอยู่จริง ถึงที่สุดเมื่อตกอยู่ในสภาวะขลาดกลัวและหาทางออกให้ปัญหาไม่ได้ "การล่าแม่มด" คือหนึ่งในคำตอบของภาวะเช่นนี้
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/