อย่าไปบ้า คำว่า start up มาก
ช่วงปีนี้ จะมีคำๆนึง เกิดขึ้นมา นัน่ก็คือ startup ซึ่ง ความหมายดั่ง เดิม ก็คือ การที่ธุรกิจ นึง อยู่ในช่วงเดิบโต แบบสุดๆ แต่คำๆนี้ ที่เอามาใช้ในระยะหลัง จะหมายถึง ธุรกิจ ที่ใช้ ไอที (ย้ำนะว่า ต้องไอที) โดยการเขียนโปรแกรม (codingได้) ซึ่งจะเป็นแอพๆนึง แล้วก็ต้อง ทำให้เกิดการกระจายตัว scalable และ ทำซ้ำได้ repeatable แล้วพอถึงจุดๆนึง ก็เตรียมตัว exit คือ ขายกิจการ ออกไป แล้วทำอย่างอื่นต่อ นั่นเอง
หรือ ถ้าพูดชัดๆเลย start up ก็คือ รูปแบบธุรกิจอย่างนึง ซึ่งเบื้องต้น ก็ต้องใช้เงินลงทุน สูง (บางส่วน หรือ เรียก boot-strapping) ซึ่งคนโดยทั่วไป คงจะทำไม่ได้ เพราะ เขาไม่ได้มีเงินตั้งต้นขนาดนั้น แล้วพวกที่ทำ start up ก็มักจะเป็นคนที่ทำ ธุรกิจไอที มาอยู่ก่อนแล้ว คือ มีความรู้ทางธุรกิจ และ การเขียนโปรแกรม ระดับเซียน จากนั้นเขาจะทำการระดมทุน จาก crown funding (ระดมจากคนทั่วไป) หรือ ขอทุน จาก angel investor (คนที่สนใจในธุรกิจนั้นๆ แน่นอน ว่า เขาก็รู้ธุรกิจเหล่านั้นดีอยู่แล้วด้วย เพื่อ ขยายกิจการ
อย่างเช่น สมมติ มีคนพึ่งคิด ไอจี ขึ้นมา หากไม่มียอดผุ้ใช้ เป็นร้อยล้าน คนที่ให้ทุน เขาก็จะปฎิเสธไป ธุรกิจ start up ก็เลยไม่สามารถไปต่อได้ ยกเว้น อาจจะใช้ทุนส่วนตัว ต่อยอดแทน แต่มันจะกลายเป็น sme แทน start up ไง
สรุปคือ หาก คนทั่วไปทำไม่ได้ เพราะไม่มีทุน เป็นร้อยล้าน และ ไม่มีความรู้เฉพาะทาง เพียงพอ แล้วการลงทุนทำธุรกิจ มันมีความเสี่ยงสูงมาก หมดตัวเป็นหนี้ ไม่มีใครช่วยนะ เพราะถ้ามันง่าย ป่านนี้ คงไม่มีลูกจ้าง พนักงาน หรือ คนจนๆหรอก ยังไง อย่าลืม อย่าทำอะไรเกินตัว หัดพอใจชีวิตตัวเองบ้าง และที่สำคัญ ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้อีกเช่นกัน
อย่าไปบ้า คำว่า start up มาก
ช่วงปีนี้ จะมีคำๆนึง เกิดขึ้นมา นัน่ก็คือ startup ซึ่ง ความหมายดั่ง เดิม ก็คือ การที่ธุรกิจ นึง อยู่ในช่วงเดิบโต แบบสุดๆ แต่คำๆนี้ ที่เอามาใช้ในระยะหลัง จะหมายถึง ธุรกิจ ที่ใช้ ไอที (ย้ำนะว่า ต้องไอที) โดยการเขียนโปรแกรม (codingได้) ซึ่งจะเป็นแอพๆนึง แล้วก็ต้อง ทำให้เกิดการกระจายตัว scalable และ ทำซ้ำได้ repeatable แล้วพอถึงจุดๆนึง ก็เตรียมตัว exit คือ ขายกิจการ ออกไป แล้วทำอย่างอื่นต่อ นั่นเอง
หรือ ถ้าพูดชัดๆเลย start up ก็คือ รูปแบบธุรกิจอย่างนึง ซึ่งเบื้องต้น ก็ต้องใช้เงินลงทุน สูง (บางส่วน หรือ เรียก boot-strapping) ซึ่งคนโดยทั่วไป คงจะทำไม่ได้ เพราะ เขาไม่ได้มีเงินตั้งต้นขนาดนั้น แล้วพวกที่ทำ start up ก็มักจะเป็นคนที่ทำ ธุรกิจไอที มาอยู่ก่อนแล้ว คือ มีความรู้ทางธุรกิจ และ การเขียนโปรแกรม ระดับเซียน จากนั้นเขาจะทำการระดมทุน จาก crown funding (ระดมจากคนทั่วไป) หรือ ขอทุน จาก angel investor (คนที่สนใจในธุรกิจนั้นๆ แน่นอน ว่า เขาก็รู้ธุรกิจเหล่านั้นดีอยู่แล้วด้วย เพื่อ ขยายกิจการ
อย่างเช่น สมมติ มีคนพึ่งคิด ไอจี ขึ้นมา หากไม่มียอดผุ้ใช้ เป็นร้อยล้าน คนที่ให้ทุน เขาก็จะปฎิเสธไป ธุรกิจ start up ก็เลยไม่สามารถไปต่อได้ ยกเว้น อาจจะใช้ทุนส่วนตัว ต่อยอดแทน แต่มันจะกลายเป็น sme แทน start up ไง
สรุปคือ หาก คนทั่วไปทำไม่ได้ เพราะไม่มีทุน เป็นร้อยล้าน และ ไม่มีความรู้เฉพาะทาง เพียงพอ แล้วการลงทุนทำธุรกิจ มันมีความเสี่ยงสูงมาก หมดตัวเป็นหนี้ ไม่มีใครช่วยนะ เพราะถ้ามันง่าย ป่านนี้ คงไม่มีลูกจ้าง พนักงาน หรือ คนจนๆหรอก ยังไง อย่าลืม อย่าทำอะไรเกินตัว หัดพอใจชีวิตตัวเองบ้าง และที่สำคัญ ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้อีกเช่นกัน