สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ร่วมอาชีพทุกท่าน🙏🏻😊💅🏻
อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ในอาชีพนี้ที่ผ่านมาเกือบสิบปี วันนี้เราทำได้ในจุดนึง แต่อาจจะยังไม่ใช่จุดสูงสุด แต่ถามว่าทุกวันนี้ พอใจมั้ย ตอบเลยว่ามาก ความภูมิใจในงาน รักในงาน ความใส่ใจกับงานที่ทำลงไปค่ะ😘
👆🏻จุดเริ่มต้น ของอาชีพนี้ อาจจะยาวไปแต่ตั้งใจเล่าให้ฟังกันนะ😅
🔙ย้อนไปประมาณ10ปีที่แล้ว💅🏻
เริ่มจากไปเพ้นท์เล็บครั้งแรก (งานใช้เพลทปั๊มลาย) รู้สึกเล็บสวย ชอบ แล้วบังเอิญไปเจอร้านขายตัวปั๊มแบบที่เพ้นท์เล็บมา ก็เลยซื้อมาลองเล่นดู สนุก ชอบ ลองทำให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ เก็บเงินแบบขำๆ 50 บาท ไรงี้
ไปๆมาๆ รู้ตัวอีกที ก็ไปหาซื้อสี ยาทาเล็บ อุปกรณ์เพ้นท์เล็บ หนังสือลาย มาดู หัดทำ เปิดหนังสือดู ทำเองหัดเอง งูๆปลาๆ ไม่รูอะไรเลย เมื่อก่อน ยังไม่มี facebook หรือ social ต่างๆมากนัก ไม่มีช่องทางการเรียนรู้เหมือนสมัยนี้ ตอนนั้น ทำงานไป เรียนไป งานที่ทำคือ ขายของ กิ๊ฟช๊อป ข้างทางนี่แหล่ะค่ะ แล้วก็ลองหัดทำเล็บเอง จนแม่มาเห็น
แล้วถามว่าเรากำลังทำอะไร เราก็ตอบไปว่าเพ้นท์เล็บ แต่สิ่งที่แม่เราพูดกับเราในวันนั้น มันคือแรงผลักดันที่ทำให้เรามีวันนี้
แม่บอกว่า "ใครจะมาทำเล็บ เศรษฐกิจแบบนี้ ดูพี่ข้างบ้านสิ เคยเอามาทำสุดท้ายไม่มีใครทำ เจ๊ง สุดท้ายก็ปิดไป"
นาทีนั้น บอกตรงๆว่าไม่พอใจแม่มากที่พูดแบบนี้ แต่เราเป็นคนที่รั้นในระดับนึง ไม่เชื่อ อยากลอง วันนั้นเถียงแม่กลับไปด้วย ว่าแล้วไง ก็จะทำอ่ะ เลยไม่สนใจ ตั้งใจทำต่อไป และแล้วก็ลองมาตั้งโต๊ะข้างๆที่ขายของ
พร้อมติดป้าย เพ้นท์เล็บนิ้วละ5บาท
เริ่มจากใช้ตัวปั๊ม ปากกาเพ้นท์ ทำลายง่ายๆ จุดๆดอกไม้ไรงี้ (แบบที่เคยทำเก็บไว้ หายไปหมดละ แอบเสียดาย ว่าจะเก็บไว้ดู)
วันแรกมีลูกค้ามาทำเล็บ แม่เรายังมายืนดูเลย555 ตอนนั้น ก็เริ่มหัดทำไปเรื่อยพอมีลูกค้าบ้างนิดหน่อย วันนึงได้200-300 ก็ดีใจละ
จนวันนึง มีผู้หญิงคนนึงมาทักเราที่ร้านข้างทางที่เราตั้งโต๊ะ เสนองานให้ไปเป็นพนักงานที่ร้านเค้า แถวทองหล่อ จะส่งให้เรียน บลาๆ แต่ต้องเซ็นต์สัญญา ให้ไปเรียนก่อน รอร้านเปิด เราก็โอเคตกลง เพราะมันคือโอกาสที่ดี แต่พอไปจริงๆกลับไม่เป็นแบบที่คิดไว้เลย
1.พาไปเรียน=การไปดูสาธิตผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้น
2.ร้านยังไม่เปิด แต่เราต้องไปนั่นนี่นู่นกับเจ้าของร้านเพื่อดูลูกให้เค้า
3.เรายังเรียนอยู่ ก่อนมาทำงานตกลงไว้แล้วว่าเข้างานได้กี่โมง พอถึงเวลา อิดออดหาว่าเราโกหก ให้เอาใบรับรองกับอาจารย์มาให้ดู
4.เจ้าของร้านงี่เง่ามาก วันๆพาเราไปห้าง เพื่อดูลูก ส่วนเค้าก็ช๊อปปิ้งค่ะ
สุดท้ายเกือบเดือนตัดสินใจออกค่ะ เค้าจะไม่จ่ายเงินเราหาเรื่องหักเงิน อ้างสารพัด เราก็ทะเลาะกัน สุดท้ายเราไม่เอาเงินค่ะ
กลับมาตั้งโต๊ะเหมือนเดิม
จนไม่นาน พี่ขายเราขายของอยู่ที่ตลาดนัดแห่งนึง ซึ่งมีร้านทำเล็บเค้าต้องการช่าง เลยให้เพื่อนฝากให้ ลองให้เราไปเทสดู
ซึ่งตอนนั้น เพ้นท์ได้แค่ดอกไม่กลมๆลายจุดๆ ไล่สีไม่เป็น วาดยังเบี้ยวๆอยู่เลย😅
ไปเจอพี่คนที่เป็นช่างเพ้นท์ เค้าก็สอนวาดดอกชบาแล้วบอกให้กลับไปหัดวาดมา
สรุปเราได้เริ่มทำงานที่นี่อีกครั้ง
เงินเดือน8000บาท กับตำแหน่งช่างเพ้นท์
จากวันแรกที่เข้าไป คอยดู จำ สังเกตุเวลาที่พี่เค้าเพ้นท์เล็บให้ลูกค้า ลายดอกไม้ง่ายๆเราจะกล้าทำ แต่พอลายยากๆ พวกผีเสื้อ ไรงี้ เราจะไม่กล้าทำ ส่งต่อให้พี่เค้าทำ แล้วเราคอยดูว่าเริ่มวาดยังไง พอดูแล้วก็ไปหัดวาด จนวาดได้ กล้ารับงานลูกค้ามากขึ้น
ส่วนงานปั้น3d เราเรียนรู้จากเจ้าของร้าน เค้าสอนเราปั้นดอกไม้ ดอกกลม ดอกแหลม
แต่ก็สอนแค่นั้น พอเราเรียนรู้วิธีการปั้นได้ เราก็คอยสังเกตุเอา แล้วมาหัดปั้นเอง จนเป็น แต่การทำงานในร้านใหญ่ แต่การจัดการพนักงานไม่ดี ทำงานคนหมู่มาก มีอิจฉากันเป็นเรื่องธรรมดา เราเองคนนอก ไม่ใช่คนบ้านเดียวกันกับเค้าทั้งร้าน ก็มีการแบ่งพวก ไม่คุยกัน
เราต้องทำงานภายใต้ความกดดัน อึดอัดแต่ก็ยังทน จนวันนึงพี่ที่เป็นช่างเพ้นท์อีกคน เค้ามีปัญหากับทางร้าน สุดท้ายเค้าออกไป เราเลยต้องรับบทหนักเพราะหน้าที่เพ้นท์จะเป็นเรา เจ้าของร้าน กับพี่เค้า แต่เค้าจะ มาบ้างไม่มาบ้าง
แต่วันนี้เราก็รู้สึกขอบคุณนะ ประสบการณ์วันนั้นสอนตัวเราทุกๆอย่าง ให้เราเก่งขึ้น
ชั่วโมงบินสูงขึ้น ฝีมือพัฒนาขึ้น
ในที่สุดก็ทนความกดดันไม่ไหว เกือบปี
ขึ้นเงินให้เป็น 10,000 บาท ตอนที่พี่คนนั้นออกไป ทั้งที่บอกจะขึ้นให้ตั้งแต่3เดือน เราทำงานต่ออีกไม่นานก็เลยออกมา
จังหวะที่มีพี่ลูกค้าคนนึงมาชวนเราไปทำงานด้วย เสนอเงินให้ 15,000 บาทเราก็เลยตกลงไป
ไปทำงานจริง พี่เค้าดีกับเรามากๆ
เค้าไม่ได้มาดูแล แต่ให้เราจัดการร้านเอง กับเด็กอีกคน ที่มาจากร้านเดียวกับเรา
แต่ปัญหาคือ ร้านเปิดในห้างใหม่ ไม่มีคนเดิน ห้างจัดการแย่ ทนเปิดอยู่ไม่กี่เดือน ก็ปิดลง ด้วยปัญหาหลายอย่าง
เราก็เลยคิดว่ากลับมาตั้งโต๊ะทำเล็บแบบเดิมดีกว่า สบายใจดี ลองไปเปิดเองที่ตลาดเปิดท้ายในโลตัสแถวบ้าน ทำอยู่ประมาน1เดือน ก็ย้ายกลับมาแถวบ้าน ที่เดิมที่เคยทำ เพราะเวลาจำกัดในการเปิดร้าน+ค่าที่แพง กลับมาทำก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะเราฝีมือดีขึ้น เรียกราคาได้แพงกว่าเดิม
แต่แล้วไม่นานก็ต้องไปหางานทำอีกตามเคย เนื่องจากที่ๆเราตั้งคือริมถนนบนฟุตบาท พอหน้าฝน ไม่มีใครมาทำ ลำบาก เพราะมันเปียก ก็ได้งานทำ แล้วก็อยู่ได้ไม่กี่เดือน เพราะตอนแรกเค้าจ้างเรารายเดือน แต่ไปๆมาๆขอเปลี่ยนเป็นแบ่งเปอร์เซ็นต์ 60/40 เรา40 แต่ร้านค่อนข้างเงียบ รายได้มันไม่พอกับที่เราเสียเวลานั่งรถไป-กลับ ระยะทางอีก ก็เลยออกมาอีกครั้ง กลับมาตั้งโต๊ะเองที่เดิม เพราะตอนนั้นหมดหน้าฝนพอดี
ก็ทำอยู่เป็นเดือน พอดีข้างๆร้านมีที่ว่างซึ่งอยู่ด้านใน มีเต๊นท์ แต่เป็นร้านขายอาหารหมดทุกร้าน มีที่ว่างติดกับร้านแม่เรา เค้าปล่อยเช่า พ่อกับแม่เลยออกความเห็นให้เรามาทำร้านข้างใน โดยทำห้องกระจกขึ้นมาเอง ติดแอร์ เราก็โอเค ลงทุนอีกเยอะ
แต่โชคดี พี่ที่เราเคยไปทำงานกับเค้า แล้วร้านเค้าปิดไป เค้าใจดี ยกอุปกรณ์ทำเล็บให้เรา แทบทุกอย่าง โดยไม่คิดเงินเลย
เลยประหยัดไปได้เยอะมากๆ
สุดท้ายเราเปิดร้านนี้มาได้6ปีกว่าแล้ว ลูกค้าใหม่ เก่า มีมาบ้างหายไปบ้าง
แต่สิ่งหนึ่งที่ขอบคุณคือ ลูกค้าประจำทุกคนที่น่ารัก ถึงแม้จะไม่ได้มาทำแต่ก็ไม่เคยนอกใจไปทำที่อื่น ทุกวันนี้ อยู่ได้เพราะลูกค้าประจำ รักกันไม่เปลี่ยนแปลง🙏🏻😘
กว่าจะจบ5555😅
ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่าน😊
แค่อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆถ้าเราไม่ลงมือทำค่ะ ประสบการณ์ที่ดีจะสอนตัวเราเองให้มีวันนี้ 👏🏻👍🏻✌🏻️😉
กว่าจะมีวันนี้ งานกับสิ่งที่รัก ช่างทำเล็บ💅🏻
อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ในอาชีพนี้ที่ผ่านมาเกือบสิบปี วันนี้เราทำได้ในจุดนึง แต่อาจจะยังไม่ใช่จุดสูงสุด แต่ถามว่าทุกวันนี้ พอใจมั้ย ตอบเลยว่ามาก ความภูมิใจในงาน รักในงาน ความใส่ใจกับงานที่ทำลงไปค่ะ😘
👆🏻จุดเริ่มต้น ของอาชีพนี้ อาจจะยาวไปแต่ตั้งใจเล่าให้ฟังกันนะ😅
🔙ย้อนไปประมาณ10ปีที่แล้ว💅🏻
เริ่มจากไปเพ้นท์เล็บครั้งแรก (งานใช้เพลทปั๊มลาย) รู้สึกเล็บสวย ชอบ แล้วบังเอิญไปเจอร้านขายตัวปั๊มแบบที่เพ้นท์เล็บมา ก็เลยซื้อมาลองเล่นดู สนุก ชอบ ลองทำให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ เก็บเงินแบบขำๆ 50 บาท ไรงี้
ไปๆมาๆ รู้ตัวอีกที ก็ไปหาซื้อสี ยาทาเล็บ อุปกรณ์เพ้นท์เล็บ หนังสือลาย มาดู หัดทำ เปิดหนังสือดู ทำเองหัดเอง งูๆปลาๆ ไม่รูอะไรเลย เมื่อก่อน ยังไม่มี facebook หรือ social ต่างๆมากนัก ไม่มีช่องทางการเรียนรู้เหมือนสมัยนี้ ตอนนั้น ทำงานไป เรียนไป งานที่ทำคือ ขายของ กิ๊ฟช๊อป ข้างทางนี่แหล่ะค่ะ แล้วก็ลองหัดทำเล็บเอง จนแม่มาเห็น
แล้วถามว่าเรากำลังทำอะไร เราก็ตอบไปว่าเพ้นท์เล็บ แต่สิ่งที่แม่เราพูดกับเราในวันนั้น มันคือแรงผลักดันที่ทำให้เรามีวันนี้
แม่บอกว่า "ใครจะมาทำเล็บ เศรษฐกิจแบบนี้ ดูพี่ข้างบ้านสิ เคยเอามาทำสุดท้ายไม่มีใครทำ เจ๊ง สุดท้ายก็ปิดไป"
นาทีนั้น บอกตรงๆว่าไม่พอใจแม่มากที่พูดแบบนี้ แต่เราเป็นคนที่รั้นในระดับนึง ไม่เชื่อ อยากลอง วันนั้นเถียงแม่กลับไปด้วย ว่าแล้วไง ก็จะทำอ่ะ เลยไม่สนใจ ตั้งใจทำต่อไป และแล้วก็ลองมาตั้งโต๊ะข้างๆที่ขายของ
พร้อมติดป้าย เพ้นท์เล็บนิ้วละ5บาท
เริ่มจากใช้ตัวปั๊ม ปากกาเพ้นท์ ทำลายง่ายๆ จุดๆดอกไม้ไรงี้ (แบบที่เคยทำเก็บไว้ หายไปหมดละ แอบเสียดาย ว่าจะเก็บไว้ดู)
วันแรกมีลูกค้ามาทำเล็บ แม่เรายังมายืนดูเลย555 ตอนนั้น ก็เริ่มหัดทำไปเรื่อยพอมีลูกค้าบ้างนิดหน่อย วันนึงได้200-300 ก็ดีใจละ
จนวันนึง มีผู้หญิงคนนึงมาทักเราที่ร้านข้างทางที่เราตั้งโต๊ะ เสนองานให้ไปเป็นพนักงานที่ร้านเค้า แถวทองหล่อ จะส่งให้เรียน บลาๆ แต่ต้องเซ็นต์สัญญา ให้ไปเรียนก่อน รอร้านเปิด เราก็โอเคตกลง เพราะมันคือโอกาสที่ดี แต่พอไปจริงๆกลับไม่เป็นแบบที่คิดไว้เลย
1.พาไปเรียน=การไปดูสาธิตผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้น
2.ร้านยังไม่เปิด แต่เราต้องไปนั่นนี่นู่นกับเจ้าของร้านเพื่อดูลูกให้เค้า
3.เรายังเรียนอยู่ ก่อนมาทำงานตกลงไว้แล้วว่าเข้างานได้กี่โมง พอถึงเวลา อิดออดหาว่าเราโกหก ให้เอาใบรับรองกับอาจารย์มาให้ดู
4.เจ้าของร้านงี่เง่ามาก วันๆพาเราไปห้าง เพื่อดูลูก ส่วนเค้าก็ช๊อปปิ้งค่ะ
สุดท้ายเกือบเดือนตัดสินใจออกค่ะ เค้าจะไม่จ่ายเงินเราหาเรื่องหักเงิน อ้างสารพัด เราก็ทะเลาะกัน สุดท้ายเราไม่เอาเงินค่ะ
กลับมาตั้งโต๊ะเหมือนเดิม
จนไม่นาน พี่ขายเราขายของอยู่ที่ตลาดนัดแห่งนึง ซึ่งมีร้านทำเล็บเค้าต้องการช่าง เลยให้เพื่อนฝากให้ ลองให้เราไปเทสดู
ซึ่งตอนนั้น เพ้นท์ได้แค่ดอกไม่กลมๆลายจุดๆ ไล่สีไม่เป็น วาดยังเบี้ยวๆอยู่เลย😅
ไปเจอพี่คนที่เป็นช่างเพ้นท์ เค้าก็สอนวาดดอกชบาแล้วบอกให้กลับไปหัดวาดมา
สรุปเราได้เริ่มทำงานที่นี่อีกครั้ง
เงินเดือน8000บาท กับตำแหน่งช่างเพ้นท์
จากวันแรกที่เข้าไป คอยดู จำ สังเกตุเวลาที่พี่เค้าเพ้นท์เล็บให้ลูกค้า ลายดอกไม้ง่ายๆเราจะกล้าทำ แต่พอลายยากๆ พวกผีเสื้อ ไรงี้ เราจะไม่กล้าทำ ส่งต่อให้พี่เค้าทำ แล้วเราคอยดูว่าเริ่มวาดยังไง พอดูแล้วก็ไปหัดวาด จนวาดได้ กล้ารับงานลูกค้ามากขึ้น
ส่วนงานปั้น3d เราเรียนรู้จากเจ้าของร้าน เค้าสอนเราปั้นดอกไม้ ดอกกลม ดอกแหลม
แต่ก็สอนแค่นั้น พอเราเรียนรู้วิธีการปั้นได้ เราก็คอยสังเกตุเอา แล้วมาหัดปั้นเอง จนเป็น แต่การทำงานในร้านใหญ่ แต่การจัดการพนักงานไม่ดี ทำงานคนหมู่มาก มีอิจฉากันเป็นเรื่องธรรมดา เราเองคนนอก ไม่ใช่คนบ้านเดียวกันกับเค้าทั้งร้าน ก็มีการแบ่งพวก ไม่คุยกัน
เราต้องทำงานภายใต้ความกดดัน อึดอัดแต่ก็ยังทน จนวันนึงพี่ที่เป็นช่างเพ้นท์อีกคน เค้ามีปัญหากับทางร้าน สุดท้ายเค้าออกไป เราเลยต้องรับบทหนักเพราะหน้าที่เพ้นท์จะเป็นเรา เจ้าของร้าน กับพี่เค้า แต่เค้าจะ มาบ้างไม่มาบ้าง
แต่วันนี้เราก็รู้สึกขอบคุณนะ ประสบการณ์วันนั้นสอนตัวเราทุกๆอย่าง ให้เราเก่งขึ้น
ชั่วโมงบินสูงขึ้น ฝีมือพัฒนาขึ้น
ในที่สุดก็ทนความกดดันไม่ไหว เกือบปี
ขึ้นเงินให้เป็น 10,000 บาท ตอนที่พี่คนนั้นออกไป ทั้งที่บอกจะขึ้นให้ตั้งแต่3เดือน เราทำงานต่ออีกไม่นานก็เลยออกมา
จังหวะที่มีพี่ลูกค้าคนนึงมาชวนเราไปทำงานด้วย เสนอเงินให้ 15,000 บาทเราก็เลยตกลงไป
ไปทำงานจริง พี่เค้าดีกับเรามากๆ
เค้าไม่ได้มาดูแล แต่ให้เราจัดการร้านเอง กับเด็กอีกคน ที่มาจากร้านเดียวกับเรา
แต่ปัญหาคือ ร้านเปิดในห้างใหม่ ไม่มีคนเดิน ห้างจัดการแย่ ทนเปิดอยู่ไม่กี่เดือน ก็ปิดลง ด้วยปัญหาหลายอย่าง
เราก็เลยคิดว่ากลับมาตั้งโต๊ะทำเล็บแบบเดิมดีกว่า สบายใจดี ลองไปเปิดเองที่ตลาดเปิดท้ายในโลตัสแถวบ้าน ทำอยู่ประมาน1เดือน ก็ย้ายกลับมาแถวบ้าน ที่เดิมที่เคยทำ เพราะเวลาจำกัดในการเปิดร้าน+ค่าที่แพง กลับมาทำก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะเราฝีมือดีขึ้น เรียกราคาได้แพงกว่าเดิม
แต่แล้วไม่นานก็ต้องไปหางานทำอีกตามเคย เนื่องจากที่ๆเราตั้งคือริมถนนบนฟุตบาท พอหน้าฝน ไม่มีใครมาทำ ลำบาก เพราะมันเปียก ก็ได้งานทำ แล้วก็อยู่ได้ไม่กี่เดือน เพราะตอนแรกเค้าจ้างเรารายเดือน แต่ไปๆมาๆขอเปลี่ยนเป็นแบ่งเปอร์เซ็นต์ 60/40 เรา40 แต่ร้านค่อนข้างเงียบ รายได้มันไม่พอกับที่เราเสียเวลานั่งรถไป-กลับ ระยะทางอีก ก็เลยออกมาอีกครั้ง กลับมาตั้งโต๊ะเองที่เดิม เพราะตอนนั้นหมดหน้าฝนพอดี
ก็ทำอยู่เป็นเดือน พอดีข้างๆร้านมีที่ว่างซึ่งอยู่ด้านใน มีเต๊นท์ แต่เป็นร้านขายอาหารหมดทุกร้าน มีที่ว่างติดกับร้านแม่เรา เค้าปล่อยเช่า พ่อกับแม่เลยออกความเห็นให้เรามาทำร้านข้างใน โดยทำห้องกระจกขึ้นมาเอง ติดแอร์ เราก็โอเค ลงทุนอีกเยอะ
แต่โชคดี พี่ที่เราเคยไปทำงานกับเค้า แล้วร้านเค้าปิดไป เค้าใจดี ยกอุปกรณ์ทำเล็บให้เรา แทบทุกอย่าง โดยไม่คิดเงินเลย
เลยประหยัดไปได้เยอะมากๆ
สุดท้ายเราเปิดร้านนี้มาได้6ปีกว่าแล้ว ลูกค้าใหม่ เก่า มีมาบ้างหายไปบ้าง
แต่สิ่งหนึ่งที่ขอบคุณคือ ลูกค้าประจำทุกคนที่น่ารัก ถึงแม้จะไม่ได้มาทำแต่ก็ไม่เคยนอกใจไปทำที่อื่น ทุกวันนี้ อยู่ได้เพราะลูกค้าประจำ รักกันไม่เปลี่ยนแปลง🙏🏻😘
กว่าจะจบ5555😅
ขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่าน😊
แค่อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆถ้าเราไม่ลงมือทำค่ะ ประสบการณ์ที่ดีจะสอนตัวเราเองให้มีวันนี้ 👏🏻👍🏻✌🏻️😉