กระทู้ค่อนข้างยาว แต่สรุปสั้นๆ ให้ก่อนเข้าเรื่องคือ พนักงานไม่มีความจริงใจค่ะ
หลอกให้เราทำบัตรเดบิตแบบที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีมากกว่าปกติ
(ปกติควรจะเป็น 200 บาท บัตรที่เขาให้เรามา เราต้องจ่ายไป 350 บาท)
เคยเห็นหลายๆ กระทู้ที่ก็เจอเรื่องแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าวันนึงเราจะเสียค่าโง่โดนซะเอง
ซึ่งที่มาเล่า ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเฉยๆ ไม่ได้ต้องการจะเอาเรื่องอะไรค่ะ พอแล้ว เหนื่อยแล้ว เสียเวลามามากพอแล้ว
เริ่มแรกเลย ต้องบอกก่อนว่า บัตรเดบิตเดิมของเราจะหมดอายุภายในเดือนนี้อยู่แล้ว May 2016
เราเลยถือโอกาสนี้ไปเปลี่ยนเป็นบัตรแบบ chip card ไปเลย
ก็ดำเนินตามขั้นตอนต่างๆ พนักงานก็ให้เราเซ็นเอกสาร หยิบบัตรมาให้ พร้อมกับแจ้งว่า ค่าธรรมเนียม 350 บาทค่ะ
ตอนนั้นเราก็เอะใจ เหมือนจำได้ว่าค่าธรรมเนียมมันแค่ 200 บาท คือเปลี่ยนเป็น chip card แล้วค่าธรรมเนียมมันเพิ่มขึ้นหรอ
เลยถามย้ำอีกครั้ง "350 บาทนี่คือค่าธรรมเนียมหรอคะ" พนักงานก็ตอบว่า "ใช่ค่ะ"
ก็ยังคาใจอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น เราก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรมากกว่านั้น
วันนั้นก็ออกจากธนาคารไปพร้อมกับบ่นว่าทำไมค่าธรรมเนียมแพงจัง
กลับบ้านก็ยังคาใจอยู่ เลยมาเปิดเว็บกสิกรดู ชัดเจนเลยค่ะ บัตรเดบิต chip card มี 3 แบบ ซึ่งก็คือ
K-Debit card (แบบธรรมดา ค่าธรรมเนียม 200 บาทต่อปี)
K-My play debit card (มีฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียม 350 บาทต่อปี)
K-Max plus debit card (มีประกัน ค่าธรรมเนียม 650 บาทต่อปี)
(ใส่รูปไม่ได้ เข้าไปดูในลิงก์นี้ได้นะคะ)
http://www.kasikornbank.com/TH/Personal/Debit/Pages/Debit.aspx
สิทธิพิเศษ(?) ของ K-My play (ที่เราไม่มีทางใช้แน่ๆ) ตามนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้PrimeTime สนุกไปกับภาพยนตร์และซีรี่ออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศ
รับโค้ดดูหนังฟรี 1 เดือน
รับส่วนลด 15-30% ในเดือนถัดไป
KKBOX เพลิดเพลินกับเพลงฮิตกว่ายี่สิบล้านเพลงทั่วโลก
รับโค้ดฟังเพลงฟรี 1 เดือน
รับส่วนลด 15% ในเดือนถัดไป
OOKBEE อ่านไม่อั้นไปกับแมกกาซีน,หนังสือพิมพ์,นวนิยาย หลากหลายสไตล์
รับโค้ดอ่านหนังสือฟรี 1 เดือน
รับส่วนลด 20% ในเดือนถัดไป
ดูหน้าบัตรก็จะเห็นว่าบัตรที่เราได้มาคือ K-My play ก็เลยสงสัยว่าจะทำยังไง
เปลี่ยนเป็น K-Debit card ธรรมดาได้มั้ย เพราะฟังก์ชั่นอื่นๆ ของบัตรแพงๆ นี่ยังไงเราก็ไม่ใช้อยู่แล้ว
เลยเข้าเว็บไปหน้าแชทของกสิกร จนท.บอกว่าสามารถไปเปลี่ยนได้
โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 200 บาท ไม่ต้องเสียค่าออกบัตร ส่วนค่าธรรมเนียมเก่าจะทยอยคืน
โอเคค่ะ เราก็กลับไปสาขาที่เราออกบัตร (หลังจากเปลี่ยนบัตรมาแค่ 2 วัน)
คุยกับพนักงานที่ไม่ใช่คนเดิม ยอมรับค่ะว่างงมากก แต่ที่พอเข้าใจคร่าวๆ ก็คือ เปลี่ยนบัตรได้ แค่เสียค่าออกบัตร 150 บาท
ค่าธรรมเนียมไม่ต้องเสียเพิ่ม ส่วนต่างจะคืน เราถามว่าจะทยอยคืน หรือจะคืนทีเดียว เขาบอกเขาไม่ทราบ ต้องขึ้นอยู่กับสาขาใหญ่
และเขาดูจะโน้มน้าวให้เราถือบัตรเดิมมากๆ ทั้งบอกว่านี่เป็นบัตรแบบ Visa นะคะ (แบบธรรมดาก็ Visa ไม่ใช่เรอะ?!)
บัตรนี้ใช้ดูหนังได้นะคะ (แต่สิทธิ์เต็มตั้งแต่ต้นเดือนตลอดไม่เคยไปทันอะค่ะ)
แต่ประเด็นคือ เขาก็ย้ำกับเราว่า ถึงจะทำเป็นแบบบัตรธรรมดา (K-Debit card) ยังไงก็เสียค่าธรรมเนียม 350 บาทต่อปีอยู่ดี (หื้ม??)
เราเลยถามว่า "ไม่ใช่ว่าเสีย 200 หรอกหรอคะ"
เขาเลยบอกประมาณว่า ที่เป็น 200 เพราะเขาเวฟหรือเพราะคืนจากของบัตรเก่า ซึ่งจริงๆ จำนวนเต็มคือ 350
(ที่เราเข้าใจคร่าวๆ ประมาณนี้ คือพนักงานยืนยันว่ายังไงก็ค่าธรรมเนียม 350 อยู่ดี ไม่มี 200)
พูดเรื่องเวฟๆ เรื่องคืนเรื่องหักเรางง เลยถามเช็คเพื่อความชัวร์ "หมายความว่า ถึงเป็นบัตรแบบธรรมดา ปีถัดไปก็เสียค่าธรรมเนียม 350 อยู่ดีหรอคะ?"
แล้วพนักงานก็ยืนยันอย่างนั้นว่า "350 บาท"
ตอนนั้นเราเลยไม่ได้เปลี่ยนบัตรค่ะ ยอมรับว่างงมากกก รู้สึกเหมือนเขาตั้งใจพูดอะไรให้เรางง
แถมข้อมูลที่ได้ยังไม่ตรงกับ web chat ด้วย ส่วนต่างที่จะคืนให้ทีหลังก็จะคืนให้ยังไงก็ไม่รู้ คำพูดลอยๆ มาก
เลยมาโทรหา call center อีกที
พอคุยกับ call center เรื่องเปลี่ยนบัตร จนท.call center บอกคล้ายๆ web chat เลยค่ะ ว่าเปลี่ยนได้ ไม่ต้องเสียค่าออกบัตรใหม่ เสียค่าธรรมเนียม 200
เราเลยเล่าเรื่องที่คุยกับสาขาแล้วมันออกมาอีกแบบให้เขาฟัง เขาเลยบอกเดี๋ยวไปคุยกับสาขาให้ เราก็รอให้เขาโทรกลับมาอีกที
พอเขาโทรกลับมาคราวนี้สรุปได้ว่า เปลี่ยนได้ค่ะ ไม่เสียค่าออกบัตรค่ะ แต่ว่าเสียค่าธรรมเนียม 200 บาทเพิ่ม
ส่วนค่าธรรมเนียมเก่าที่เสียไป 350 บาท จะ
ไม่ ได้ คืน
อีกทั้งจนท.ยังถามย้ำว่า ตอนที่พนักงานออกบัตรใบนี้ให้ เราไม่ได้ทักท้วงหรอ ซึ่งเราก็บอกแล้วว่าเราถามว่า ค่าธรรมเนียมคือ 350 หรอ
โอเค เราพลาดเองที่เราถามแค่นั้น การที่เราไม่แย้งอย่างอื่นคงเหมือนเป็นการยอมรับ
แต่ว่า... ระหว่างพนักงานกับลูกค้า ใครต้องมีความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ดีกว่ากัน?
อยู่ๆ ลูกค้าจะรู้ไหมว่าบัตรมีกี่แบบให้เลือก ถ้าพนักงานไม่บอก (แต่นี่ไม่ให้เราเลือกด้วยซ้ำ)
แล้วการที่พนักงานไม่พูด เราก็เข้าใจไปว่ามันมีแบบเดียว เราผิด? โอเค เราผิด เราโง่เอง
ซึ่งทางออกที่เขาหาให้ได้คือ ให้ถือบัตรนี้ไปจนเดือนมกราปี 2560 แล้วค่อยเปลี่ยนบัตรใหม่
ก็คือเสียค่าธรรมเนียม 200 แต่จะไม่เสียค่าออกบัตร
นั่นหมายความว่าค่าธรรมเนียมของบัตร K-My play 350 บาทที่เราเสียไป ก็จะเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับ 7 เดือนเศษ (ปลายพฤษภา - สิ้นธันวา)
ซึ่งมันก็แบบ...เออะะะะะะ โอ้โหหหหหหหหหหหหหหหห ดีจังเลยค่ะ ดีออก ดีจริงๆ
-----------------------------------
สรุปตอนนี้ก็ยังถือบัตร K-My play อยู่ค่ะ ส่วนต่าง 150 บาทจากบัตรธรรมดาก็ถือซะว่าเสียค่าโง่ค่ะ
ถือว่าจ่ายเงินไปสำหรับบทเรียนว่าต่อไปนี้ก่อนไปธนาคารให้หาข้อมูลให้แน่น และอย่าไปเชื่อคำพูดพนักงานให้มาก
ตอนนี้ไม่พยายามทำอะไรแล้วค่ะ เหนื่อย เสียเงินไม่เท่าไหร่ เสียความรู้สึกยังไงก็เอาคืนมาไม่ได้ค่ะ
เอาเวลาที่ไปเสียกับสาขา เวลาที่โทรหาคอลเซ็นเตอร์มานอนเล่นอยู่บ้านยังสบายใจกว่า
ทุกๆ คนก็ระวังกันด้วยนะคะ ลาก่อน
ปล.ถ้าพนักงานมาอ่าน ก็คงรู้แหละค่ะว่าเราเป็นใคร แต่เราไม่สนใจแล้วค่ะ ตามสบายเลย
ใครจะไปเปลี่ยนเป็นบัตร Chip card ที่ Kbank ควรระวังนะคะ
หลอกให้เราทำบัตรเดบิตแบบที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีมากกว่าปกติ
(ปกติควรจะเป็น 200 บาท บัตรที่เขาให้เรามา เราต้องจ่ายไป 350 บาท)
เคยเห็นหลายๆ กระทู้ที่ก็เจอเรื่องแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าวันนึงเราจะเสียค่าโง่โดนซะเอง
ซึ่งที่มาเล่า ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเฉยๆ ไม่ได้ต้องการจะเอาเรื่องอะไรค่ะ พอแล้ว เหนื่อยแล้ว เสียเวลามามากพอแล้ว
เริ่มแรกเลย ต้องบอกก่อนว่า บัตรเดบิตเดิมของเราจะหมดอายุภายในเดือนนี้อยู่แล้ว May 2016
เราเลยถือโอกาสนี้ไปเปลี่ยนเป็นบัตรแบบ chip card ไปเลย
ก็ดำเนินตามขั้นตอนต่างๆ พนักงานก็ให้เราเซ็นเอกสาร หยิบบัตรมาให้ พร้อมกับแจ้งว่า ค่าธรรมเนียม 350 บาทค่ะ
ตอนนั้นเราก็เอะใจ เหมือนจำได้ว่าค่าธรรมเนียมมันแค่ 200 บาท คือเปลี่ยนเป็น chip card แล้วค่าธรรมเนียมมันเพิ่มขึ้นหรอ
เลยถามย้ำอีกครั้ง "350 บาทนี่คือค่าธรรมเนียมหรอคะ" พนักงานก็ตอบว่า "ใช่ค่ะ"
ก็ยังคาใจอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น เราก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรมากกว่านั้น
วันนั้นก็ออกจากธนาคารไปพร้อมกับบ่นว่าทำไมค่าธรรมเนียมแพงจัง
กลับบ้านก็ยังคาใจอยู่ เลยมาเปิดเว็บกสิกรดู ชัดเจนเลยค่ะ บัตรเดบิต chip card มี 3 แบบ ซึ่งก็คือ
K-Debit card (แบบธรรมดา ค่าธรรมเนียม 200 บาทต่อปี)
K-My play debit card (มีฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียม 350 บาทต่อปี)
K-Max plus debit card (มีประกัน ค่าธรรมเนียม 650 บาทต่อปี)
(ใส่รูปไม่ได้ เข้าไปดูในลิงก์นี้ได้นะคะ) http://www.kasikornbank.com/TH/Personal/Debit/Pages/Debit.aspx
สิทธิพิเศษ(?) ของ K-My play (ที่เราไม่มีทางใช้แน่ๆ) ตามนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูหน้าบัตรก็จะเห็นว่าบัตรที่เราได้มาคือ K-My play ก็เลยสงสัยว่าจะทำยังไง
เปลี่ยนเป็น K-Debit card ธรรมดาได้มั้ย เพราะฟังก์ชั่นอื่นๆ ของบัตรแพงๆ นี่ยังไงเราก็ไม่ใช้อยู่แล้ว
เลยเข้าเว็บไปหน้าแชทของกสิกร จนท.บอกว่าสามารถไปเปลี่ยนได้
โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 200 บาท ไม่ต้องเสียค่าออกบัตร ส่วนค่าธรรมเนียมเก่าจะทยอยคืน
โอเคค่ะ เราก็กลับไปสาขาที่เราออกบัตร (หลังจากเปลี่ยนบัตรมาแค่ 2 วัน)
คุยกับพนักงานที่ไม่ใช่คนเดิม ยอมรับค่ะว่างงมากก แต่ที่พอเข้าใจคร่าวๆ ก็คือ เปลี่ยนบัตรได้ แค่เสียค่าออกบัตร 150 บาท
ค่าธรรมเนียมไม่ต้องเสียเพิ่ม ส่วนต่างจะคืน เราถามว่าจะทยอยคืน หรือจะคืนทีเดียว เขาบอกเขาไม่ทราบ ต้องขึ้นอยู่กับสาขาใหญ่
และเขาดูจะโน้มน้าวให้เราถือบัตรเดิมมากๆ ทั้งบอกว่านี่เป็นบัตรแบบ Visa นะคะ (แบบธรรมดาก็ Visa ไม่ใช่เรอะ?!)
บัตรนี้ใช้ดูหนังได้นะคะ (แต่สิทธิ์เต็มตั้งแต่ต้นเดือนตลอดไม่เคยไปทันอะค่ะ)
แต่ประเด็นคือ เขาก็ย้ำกับเราว่า ถึงจะทำเป็นแบบบัตรธรรมดา (K-Debit card) ยังไงก็เสียค่าธรรมเนียม 350 บาทต่อปีอยู่ดี (หื้ม??)
เราเลยถามว่า "ไม่ใช่ว่าเสีย 200 หรอกหรอคะ"
เขาเลยบอกประมาณว่า ที่เป็น 200 เพราะเขาเวฟหรือเพราะคืนจากของบัตรเก่า ซึ่งจริงๆ จำนวนเต็มคือ 350
(ที่เราเข้าใจคร่าวๆ ประมาณนี้ คือพนักงานยืนยันว่ายังไงก็ค่าธรรมเนียม 350 อยู่ดี ไม่มี 200)
พูดเรื่องเวฟๆ เรื่องคืนเรื่องหักเรางง เลยถามเช็คเพื่อความชัวร์ "หมายความว่า ถึงเป็นบัตรแบบธรรมดา ปีถัดไปก็เสียค่าธรรมเนียม 350 อยู่ดีหรอคะ?"
แล้วพนักงานก็ยืนยันอย่างนั้นว่า "350 บาท"
ตอนนั้นเราเลยไม่ได้เปลี่ยนบัตรค่ะ ยอมรับว่างงมากกก รู้สึกเหมือนเขาตั้งใจพูดอะไรให้เรางง
แถมข้อมูลที่ได้ยังไม่ตรงกับ web chat ด้วย ส่วนต่างที่จะคืนให้ทีหลังก็จะคืนให้ยังไงก็ไม่รู้ คำพูดลอยๆ มาก
เลยมาโทรหา call center อีกที
พอคุยกับ call center เรื่องเปลี่ยนบัตร จนท.call center บอกคล้ายๆ web chat เลยค่ะ ว่าเปลี่ยนได้ ไม่ต้องเสียค่าออกบัตรใหม่ เสียค่าธรรมเนียม 200
เราเลยเล่าเรื่องที่คุยกับสาขาแล้วมันออกมาอีกแบบให้เขาฟัง เขาเลยบอกเดี๋ยวไปคุยกับสาขาให้ เราก็รอให้เขาโทรกลับมาอีกที
พอเขาโทรกลับมาคราวนี้สรุปได้ว่า เปลี่ยนได้ค่ะ ไม่เสียค่าออกบัตรค่ะ แต่ว่าเสียค่าธรรมเนียม 200 บาทเพิ่ม
ส่วนค่าธรรมเนียมเก่าที่เสียไป 350 บาท จะ ไม่ ได้ คืน
อีกทั้งจนท.ยังถามย้ำว่า ตอนที่พนักงานออกบัตรใบนี้ให้ เราไม่ได้ทักท้วงหรอ ซึ่งเราก็บอกแล้วว่าเราถามว่า ค่าธรรมเนียมคือ 350 หรอ
โอเค เราพลาดเองที่เราถามแค่นั้น การที่เราไม่แย้งอย่างอื่นคงเหมือนเป็นการยอมรับ
แต่ว่า... ระหว่างพนักงานกับลูกค้า ใครต้องมีความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ดีกว่ากัน?
อยู่ๆ ลูกค้าจะรู้ไหมว่าบัตรมีกี่แบบให้เลือก ถ้าพนักงานไม่บอก (แต่นี่ไม่ให้เราเลือกด้วยซ้ำ)
แล้วการที่พนักงานไม่พูด เราก็เข้าใจไปว่ามันมีแบบเดียว เราผิด? โอเค เราผิด เราโง่เอง
ซึ่งทางออกที่เขาหาให้ได้คือ ให้ถือบัตรนี้ไปจนเดือนมกราปี 2560 แล้วค่อยเปลี่ยนบัตรใหม่
ก็คือเสียค่าธรรมเนียม 200 แต่จะไม่เสียค่าออกบัตร
นั่นหมายความว่าค่าธรรมเนียมของบัตร K-My play 350 บาทที่เราเสียไป ก็จะเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับ 7 เดือนเศษ (ปลายพฤษภา - สิ้นธันวา)
ซึ่งมันก็แบบ...เออะะะะะะ โอ้โหหหหหหหหหหหหหหหห ดีจังเลยค่ะ ดีออก ดีจริงๆ
-----------------------------------
สรุปตอนนี้ก็ยังถือบัตร K-My play อยู่ค่ะ ส่วนต่าง 150 บาทจากบัตรธรรมดาก็ถือซะว่าเสียค่าโง่ค่ะ
ถือว่าจ่ายเงินไปสำหรับบทเรียนว่าต่อไปนี้ก่อนไปธนาคารให้หาข้อมูลให้แน่น และอย่าไปเชื่อคำพูดพนักงานให้มาก
ตอนนี้ไม่พยายามทำอะไรแล้วค่ะ เหนื่อย เสียเงินไม่เท่าไหร่ เสียความรู้สึกยังไงก็เอาคืนมาไม่ได้ค่ะ
เอาเวลาที่ไปเสียกับสาขา เวลาที่โทรหาคอลเซ็นเตอร์มานอนเล่นอยู่บ้านยังสบายใจกว่า
ทุกๆ คนก็ระวังกันด้วยนะคะ ลาก่อน
ปล.ถ้าพนักงานมาอ่าน ก็คงรู้แหละค่ะว่าเราเป็นใคร แต่เราไม่สนใจแล้วค่ะ ตามสบายเลย