คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เรียน จขกท
ธนาคารได้มีการให้สินเชื่อหลากหลายโครงการมีทั้งสินเชื่อโครงการพิเศษที่มีระยะเวลา หรือสินเชื่อในระบบปกติของธนาคารโดยเฉพาะการสนับสนุนการประกอบอาชีพทั้งด้านการเกษตรและอาชีพอื่นๆรวมทั้งสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าเกษตรกร(กรณีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะให้บริการกับลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้กับทางธนาคารมาแล้วก่อน เช่น การกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้า เป็นต้น)
เจ้าหน้าที่สินเชื่อสาขาที่ท่านเป็นลูกค้าจะพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อหลายปัจจัย เช่น วัตถุประสงค์ในการขอกู้ ความเป็นไปได้ของโครงการ ความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพนั้น ๆ และความสามารถในการชำระคืน หากยังไม่เป็นลุกค้า ธ.ก.ส. จะต้องติดต่อขอสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่สาขาตามภูมิลำเนา หรือสถานที่อยู่อาศัยหรือประกอบอาชีพ/กิจการ เป็นหลัก กรณีขอขึ้นทะเบียน ณ สาขาที่ประกอบอาชีพ/กิจการ แต่เป็นคนละพื้นที่กับสาขาตามภูมิลำเนานั้น ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ประกอบอาชีพ/กิจการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นไป เพื่อสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าผู้กู้ เอกสารในการขอขึ้นทะเบียน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- เอกสารการสมรสหรือหย่า (ในกรณีที่มี)
- ใบเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล (ในกรณีที่มี)
- ใบกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดิน (กรณีใช้ที่ดินค้ำประกันจำนอง)
- ใบแสดงรายได้ (ในกรณีที่มี)
หลักประกันเงินกู้ทางธนาคารรับพิจารณาหลักค้ำประกัน ดังนี้ :
- อสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ดินประเมิน (กรณีที่ดิน สปก. ต้องได้รับอนุญาตและรับรองจาก สปก.จังหวัดให้สามารถนำมาค้ำประกันสินเชื่อเฉพาะด้านการเกษตรกับทาง ธ.ก.ส. ได้)
- บุคคลค้ำประกันหรือบุคคลค้ำประกันร่วมกลุ่ม
กรณีบุคคลค้ำประกัน เป็นบุคคลที่ทางธนาคารเห็นสมควร หรือเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือ ข้าราชการ ระดับ 3 ขึ้นไป หรือพนักงานบริษัทเอกชนที่มีอายุงานอย่างน้อย 3 ปี ขึ้นไป ใช้ 2 ท่านกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินกู้และปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณา
- เงินฝากค้ำประกัน คือ ใช้บัญชีเงินฝากที่ลูกค้าฝากเงินไว้กับธนาคาร ธ.ก.ส. จะสามารถขอกู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของวงเงินฝากที่มีอยู่ (ฝาก 10,000 บาท กู้ได้ไม่เกิน 9,000 บาท) อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับเงินฝากประเภทนั้น บวก 2 % หรือกรณีใช้สลากออมทรัพย์ทวีสินค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย คิดจากอัตราดอกเบี้ย MRR - 2.75 (ปัจจุบัน MRR = 7%) = ร้อยละ 4.25 ต่อปี
กรณีชำระคืน
- กู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ชำระคืนภายใน 12 เดือน
- กู้เพื่อการลงทุน ชำระคืนภายใน 15 ปี
อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศของธนาคารปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยรายคนต่ำสุดอยู่ที่ ร้อยละ 7 ต่อปี
และทางธนาคารมีการประเมินความเสี่ยงลูกค้าแต่ละราย อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 7 ต่อปี + อัตราจากผลการประเมินความเสี่ยงอีกไม่เกินร้อยละ 3 ขึ้นอยู่กับผลการประเมิน
เมื่อลูกค้าสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. เรียบร้อยแล้ว และแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธ.ก.ส. สาขาที่รับขึ้นทะเบียน เจ้าหน้าที่จะแนะนำสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการ และดำเนินการตามขั้นตอนสินเชื่อต่อไป
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในเรื่องของรายละเอียดโปรดติดต่อ เจ้าหน้าที่สินเชื่อสาขา หรือหมายเลข Call Center 0-2555-0555 ตลอด 24 ชั่วโมง
ธนาคารได้มีการให้สินเชื่อหลากหลายโครงการมีทั้งสินเชื่อโครงการพิเศษที่มีระยะเวลา หรือสินเชื่อในระบบปกติของธนาคารโดยเฉพาะการสนับสนุนการประกอบอาชีพทั้งด้านการเกษตรและอาชีพอื่นๆรวมทั้งสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าเกษตรกร(กรณีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะให้บริการกับลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้กับทางธนาคารมาแล้วก่อน เช่น การกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้า เป็นต้น)
เจ้าหน้าที่สินเชื่อสาขาที่ท่านเป็นลูกค้าจะพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อหลายปัจจัย เช่น วัตถุประสงค์ในการขอกู้ ความเป็นไปได้ของโครงการ ความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพนั้น ๆ และความสามารถในการชำระคืน หากยังไม่เป็นลุกค้า ธ.ก.ส. จะต้องติดต่อขอสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่สาขาตามภูมิลำเนา หรือสถานที่อยู่อาศัยหรือประกอบอาชีพ/กิจการ เป็นหลัก กรณีขอขึ้นทะเบียน ณ สาขาที่ประกอบอาชีพ/กิจการ แต่เป็นคนละพื้นที่กับสาขาตามภูมิลำเนานั้น ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ประกอบอาชีพ/กิจการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นไป เพื่อสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าผู้กู้ เอกสารในการขอขึ้นทะเบียน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- เอกสารการสมรสหรือหย่า (ในกรณีที่มี)
- ใบเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล (ในกรณีที่มี)
- ใบกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดิน (กรณีใช้ที่ดินค้ำประกันจำนอง)
- ใบแสดงรายได้ (ในกรณีที่มี)
หลักประกันเงินกู้ทางธนาคารรับพิจารณาหลักค้ำประกัน ดังนี้ :
- อสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน) กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาที่ดินประเมิน (กรณีที่ดิน สปก. ต้องได้รับอนุญาตและรับรองจาก สปก.จังหวัดให้สามารถนำมาค้ำประกันสินเชื่อเฉพาะด้านการเกษตรกับทาง ธ.ก.ส. ได้)
- บุคคลค้ำประกันหรือบุคคลค้ำประกันร่วมกลุ่ม
กรณีบุคคลค้ำประกัน เป็นบุคคลที่ทางธนาคารเห็นสมควร หรือเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือ ข้าราชการ ระดับ 3 ขึ้นไป หรือพนักงานบริษัทเอกชนที่มีอายุงานอย่างน้อย 3 ปี ขึ้นไป ใช้ 2 ท่านกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินกู้และปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณา
- เงินฝากค้ำประกัน คือ ใช้บัญชีเงินฝากที่ลูกค้าฝากเงินไว้กับธนาคาร ธ.ก.ส. จะสามารถขอกู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90 ของวงเงินฝากที่มีอยู่ (ฝาก 10,000 บาท กู้ได้ไม่เกิน 9,000 บาท) อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับเงินฝากประเภทนั้น บวก 2 % หรือกรณีใช้สลากออมทรัพย์ทวีสินค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย คิดจากอัตราดอกเบี้ย MRR - 2.75 (ปัจจุบัน MRR = 7%) = ร้อยละ 4.25 ต่อปี
กรณีชำระคืน
- กู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ชำระคืนภายใน 12 เดือน
- กู้เพื่อการลงทุน ชำระคืนภายใน 15 ปี
อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามประกาศของธนาคารปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยรายคนต่ำสุดอยู่ที่ ร้อยละ 7 ต่อปี
และทางธนาคารมีการประเมินความเสี่ยงลูกค้าแต่ละราย อยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 7 ต่อปี + อัตราจากผลการประเมินความเสี่ยงอีกไม่เกินร้อยละ 3 ขึ้นอยู่กับผลการประเมิน
เมื่อลูกค้าสอบขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. เรียบร้อยแล้ว และแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธ.ก.ส. สาขาที่รับขึ้นทะเบียน เจ้าหน้าที่จะแนะนำสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการ และดำเนินการตามขั้นตอนสินเชื่อต่อไป
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในเรื่องของรายละเอียดโปรดติดต่อ เจ้าหน้าที่สินเชื่อสาขา หรือหมายเลข Call Center 0-2555-0555 ตลอด 24 ชั่วโมง
แสดงความคิดเห็น
ทำเกษตรมีแต่สัญญาเช่าที่ดินจะกู้เงิน ธกส.ได้ไหมครับ?