สวัสดี นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะ
ในการที่จะตั้งกระทู้นี้ เราก้คิดอยู่ตั้งนานว่าควรหรือไม่
แต่เราเป็นว่าถ้าเราได้คลอดกระทู้นี้ไปใครจะเห็นด้วยรึป่าวนั้น ก็แล้วแต่เลย
ปล.ด่าได้แต่อย่าแรง ตะเตือนไต....
เอาเป็นว่า
เริ่ม
...
..
.
เราต้องขอบอกนิสัยเราก่อนนะว่าเป็นผู้หญิงที่เรียบง่าย ไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่อ่อนหวาน ซุ่มซ่าม ชอบความท้าทายตื่นเต้น แต่ขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจ. นิ่งๆและพูดตามสมองสั่งการ คือต้องได้ดั่งใจ. ไม่ชอบความผิดหวังเลยใครๆก็จะบอกว่าเรานิสัยเหมือนผู้ชาย ส่วนถ้าอยู่กับแฟน เราก็ยังคงความเป็นตัวเรา แต่มีอย่างนึงที่เพื่อนๆของแฟนจะชอบเรามาก คือเราไม่งี่เง่า ไม่ว่าแฟนเราจะมองผู้หญิงคนไหนจะชมเค้ายังไง เราก็จะไม่หึงแถมยังช่วยดูช่วยตัดสินให้ด้วย
ส่วนนิสัยของแฟนเรา จะเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างปากไม่ดี
แต่ตลก. ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห งอนง่ายแต่หายเร็ว ซื่อสัตย์และพูดความจริงเช่นชอบคือชอบไม่ชอบคือไม่ชอบ ว่ากันง่ายๆนิสัยผู้หญิงเลย ที่เหมือนกันคือความขี้หงุดหงิดและการพูดตรงๆของเราทั้งคู่ บ้างทีเราก้คิดว่าควรจะสลับกัน 555555
เรื่องมันก็มีอยู่ว่าเรากับแฟนเราคบกันมาเกือบ6ปีแล้ว ซึ่งในระหว่างที่คบกับก็มีเรื่องราวอะไรหลายๆอย่างเข้ามามากมาย เรื่องที่เด็ดๆและใจถึงของเราคือการที่เราบอกให้เค้าไปมีคนอื่น นั่นเป็นอะไรที่เพื่อนของเรา แบบ "เห้ยยย เอาจริงอะ คิดอะไรเนี่ย?" ส่วนเพื่อนเค้าก็จะพูดประมาณว่า "อยากมีแฟนแบบเราจัง ทำไมใจดีจัง" คำถามต่างๆก็เข้ามาเยอะแยะ เราก็บอกเค้าว่าไปเถอะลองดู อยากรู้ว่าต่อมหึงของเรามันใช้การได้มั๊ย 555555 สรุปว่าเค้าก็ไปคะ ไปมีคนอื่น!!!!!! แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเราก็ให้เค้าไปมีคนอื่นนะคะ มันมีที่มาที่ไป คือบังเอิญว่าช่วงนั้นมี ผญ. คนนึงเข้ามาพอดี เค้าเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเค้า ซึ่งเค้าก้พูดประมาณว่า ผญ. คนนั้นน่ารัก เจอกันครั้งแรกแฟรนลี่ดี พูดบ่อยๆ จนเรารู้สึกว่าไม่ใช่ละ เค้าน่าจะคิดอะไรกับ ผญ.คนนี้เราเลยบอกให้เค้าไป แต่ทำสัญญากันนะ ว่าไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แต่ขออย่างเดียวอย่ามีอะไรกัน!!! ทุกครั้งเค้าไปไหนมาไหนด้วยกันเค้าก้จะกลับมาเล่าให้ฟังว่าทำอะไรบ้าง เราก้จะคอยถามเค้าตลอดว่า "เธอชอบ ผญ. คนนั้นรึยัง เธอรักเค้าไปรึยัง?" เค้าก็ตอบเรานะว่าเค้า"ชอบ แต่ไม่ได้รัก ใครจะรัก ผญ.2คนได้พร้อมกัน " เราก็โอเค อ่อลืมบอกไปคะว่าตอนนั้นเราเรียนมหาลัยและเราก้อยู่หอด้วยกัน ถึงเค้าจะไปกับผญ.คนนั้น แต่เค้าก็ต้องกลับมานอนห้องอยู่ดี และการที่เค้าไปกับผญ.คนนั้นก้จะไปแปปเดียวเช่นไปดูหนังบ้างไปกินข้าว แต่ทุกครั้งที่ไปก็จะมีเพื่อนของผญ.คนนั้นไปด้วย เพราะนางก็มีแฟนแล้วคะ หุหุ
เอาเป็นว่าเราไม่หึงอะไรสงสัยต่อมคงจะเสียแล้วจริงๆ แต่ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรมั๊ย ก็รู้สึกนะ นอยด์ๆบ้างอยากฟังเพลงเศร้าบ้าง มันก้ต้องมีบ้างแหละ และเรื่องราวของเค้าก็จบลง โถ่..รู้สึกพึ่งหาเพลงเศร้าฟังได้ไม่กี่เพลง แหะๆ เค้าก็บอกเรานะ ว่า เค้าไม่อยากทำแบบนี้วันนึงถ้าเกิดว่าเค้ารักผญ.คนนั้น แล้วเราหล่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าเค้ารักเรามาก มากจนแบบไม่อยากให้มีใครมาแทนที่ตรงนี้ได้ ฟังแค่นั้นเราก็ยิ้มจนแก้มแทบแตก
คิดว่าตัวเราเนี่ยโชคดีแค่ไหนที่เจอผู้ชายคนนี้ และชีวิตเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆ......
จนกระทั่ง
....
..
.
เราเรียนจบและเริ่มทำงาน
เรากับแฟนเราทำงานคนละที่ แต่ที่ทำงานก็ไม่ไกลกันหรอก ถ้ารถไม่ติดขับรถมาถึงที่ทำงานเราประมาณ20นาที แต่ถ้ารถติดก็เกือบชั่วโมง (ส่วนใหญ่รถจะติด!!!!) ในช่วงการเริ่มทำงานเดือน สองเดือนแรกขอเราก็เรื่อยๆผู้ใหญ่ดีเอ็นดูเรา แต่ออกแนวน่าเบื่อหน่อยๆเพราะว่าผู้ใหญ่ทั้งนั้นนนนนน แต่โชคดีมีเพื่อนที่เข้ามาพร้อมๆกันอีกก็กลายเป็นแก็งค์ชะนีกับอีแอบสมบูรณ์แบบคือพวกเราสนิทกันไวมาก มีเรื่องอะไรก็เม้าท์ๆๆๆ รวมตัวกันเป็นน้ำลายแตกฟอง คือมันก็โอเคมีสีสันขึ้นมาหน่อย จนเราทำงานเข้าเดือนที่3 อยู่ๆก็มีนักศึกษาฝึกงานที่เป็นผู้ชายเข้ามาอยู่ห้องข้างๆ โหยยยย อีแอบของเรากระชุ่มกระชวยเป็นที่สุดเพราะได้แทะโลมน้องๆ และแล้วอีแอบของเราก็ได้ฟันธงว่า น้องๆฝึกงานเนี่ยเป็นชัวร์ 100% เราก็จะคอยถามอีแอบว่าใช่หรอ เป็นหรอ ไม่น่าจะใช่นะ จะเป็นประเด็นสำหรับขาเม้าท์มาก น้องนักศึกษาคนนึง ออกแนวกวนๆ(ทีน)เราให้ชื่อว่าบูม และอีกคนก็จะเรียบร้อยๆไม่ค่อยพูดค่อยจา ชื่อว่าคิง
เราก็ใช้ชีวิตการทำงานของเราไปเหมือนทุกๆวัน จนวันที่เราต้องเจอกับบูมและคิง เพราะสายงานเราต้องทำงานร่วมกัน เราเจอกันบ่อย เจอกันทุกวัน เรากับบูมเริ่มสนิทกัน เริ่มคุยเล่นกันได้ เพราะอายุเราก็ใกล้เคียงกัน และอย่างที่บอกคือกวนประสาท!!! ส่วนกับคิงนั้นก็บอกแล้วว่าน้องไม่ค่อยพูด เราเลยทำได้แค่ยิ้มและทักทายกันแบบเบาๆ
มีอยู่วันนึงบูมไม่มาทำงาน และเราก็เริ่มที่จะมองหา ถามจากคิงว่าบูมไปไหนทำไมไม่มา ก็ได้คำตอบมาว่าบูมไม่สบาย. เราก็งงกับตัวเองว่า เอ๊ะนี่มันอะไรยังไงกันคะ!!! รู้สึกแบบวันทั้งวันมันน่าเบื่อ เวลาก็นาน หงุดหงิด แต่ก็ยังไม่ยอมรับตัวเองนะว่าจะคิดอะไร และวันต่อมา บูมก็มาทำงาน เราก็แซวไปนะว่า"ไหนบอกไหวไหนบอกโอเคไง???"
เพราะก่อนหน้าที่บูมจะหยุดงานบูมใส่ผ้าปิดปากและใส่เสื้อกันหนาว ) บูมก็บอกว่า"มันก็ต้องมีบ้างพี่" โอเควันนั้นเราก็ทำงานได้อย่างสุขใจ ......แต่ทำไงดีพรุ่งนี้เราต้องลางานเนื่องจากมีธุระที่ รพ. คือใจแบบไม่อยากหยุดเลย เสียดายยยยยยย ที่ไม่เจอหน้าบูม เกิดอาการเซงๆ แต่ก็หยุดไปโดยที่ไม่บอกบูม จนพอมาทำงานเราเดินเข้าไปในห้องบูมปุ๊บ เจอหน้าบูมปั๊บ สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มที่น่ารักๆของบูม เราสัมผัสมันได้ถึงความจริงใจ บูมยกมือไหว้สวัสดีเรา เรารับไหว้แทบไม่ทัน แล้วบูมก้ถาม "ไปไหนมาพี่?" เราสวนกลับโดยเร็วพลัน "คิดถึงหรอ?" 5555 เป็นผญ.นะเนี่ยช่างกล้า!!! บูมเลยหัวเราะ และบอกว่า"เปล่าครับ แค่ถามดู" แล้วเราก็ยิ้มให้กัน เราก็เดินออกจากห้องแล้วบูมก็เดินตามออกมาสะกิด "พี่ใช้ไอโฟนรึป่าว ผมขอยืมสายชาร์จหน่อย" เราก็บอกว่า "อือ สายอยู่ที่ห้องมาเอาไปสิ" แค่นั้นแหละก็รู้สึกดี เป็นแบบนี้ทุกๆวัน บูมจะมาเอาสายชาร์จที่ห้องจะมาแกล้งมาแซวตลอด จนในใจเริ่มมั่นใจกับความรู้สึกของตัวเอง คือเราต้องชอบเด็กนี่เเน่ๆ แต่สมองก็ยังบอกว่าไม่ใช่หรอกแค่ขำๆ เถียงกับตัวเองได้เก่งจัง ปรบมืออออออ
"นี่พวกเธอเชื่อฉันสิ ว่าเด็กพวกนั้นกินกันเอง พนันกันมั๊ยล่ะ คนเท่าไหร่ว่ามา!!!!" เสียงอีแอบดังขึ้นในเช้าวันอังคาร เรามั่นใจแต่ไม่100% ว่าบูมกับคิงจะเป็นผู้ชายแท้ๆ เพราะผู้ชายสมัยนี้ดูกันยากกว่ามองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าซะอีก เห้ออ เอาว่ะงานนี้ต้องมีแผน หึหึ เย็นวันนั้นก่อนจะเลิกงานบูมจะเอาที่ชาร์จแบตมาคืนให้ ก่อนหน้าที่บูมจะมาเราเลยเขียนใส่ในกระดาษว่า ขอไลน์หน่อย มีเรื่องอยากถาม.... พอบูมเข้ามาเราก็ยัดกระดาษลงในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของบูมแล้วก็บอกว่าออกไปอ่านข้างนอก บูมเลยถาม "ผมต้องเข้ามาอีกมั๊ย " เราเลยบอกได้คำเดียวว่าแล้วแต่... พอประตูห้องปิดลงเราก็ได้ยินเสียงบูมหัวเราะแล้วก็ไม่เข้ามาอีกเลย บอกได้คำเดียวว่า อยู่ๆก็นอยด์มากกกกกกกกก.......
เช้าวันพุธ.....ทุกคนทำงานกันปกติ เรากับบูมเจอกัน และบูมก็ทำตัวปกติ ไม่พูดถึงเรื่องขอไลน์ เหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เป็นวันที่เราอารมณ์ไม่ดีทั้งวันเลย จนก่อนเลิกงานเราก็คิดว่าเราควรต้องถาแล้วหละ จะเขินทำไมแค่จะถามว่าพวกแกน่ะเป็นเกย์กันรึเปล่าาาาาาา พอคิดได้ก็รอเวลาจะเลิกงานที่บูมต้องเอาที่ชาร์จมาคืน พอมาเท่านั้นแหละ เราก็บอกว่า
เรา: ไหนละที่เราขอ?
บูม: ขออะไรหรอ? (ทำหน้าใสซื่อมาก อยากตบ!)
เรา: ก็ไลน์ไงที่ขอไปเมื่อวาน
บูม: อ่อ >>>>
ลีลาบิดๆซักพัก) เอาโทรศัพท์มาสิ
เรา: ก็แค่นั้น ลีลาอยู่ได้
แล้วเราก็แยกกัน....เราก็เข้าไปดูในหน้าหลัก ไปสะดุดตรงภาพหน้าปก จนต้องอุทานเป็นคำหยาบคาย..... ภาพหน้าปกเป็นภาพที่บูมนั่งซบไหล่ผู้ชายคนนึง จนต้องทักไลน์ไป
เรา: เห้ยยยยย เป็นเกย์?
บูม: จ้า
เรา: จริงดิ (มือไม้สั่น ฝันสลาย น้ำตาเอ่อ>>>เยอะ!)
บูม: จ้า
เรา: แบบนี้ก้แย่เลย ต้องเสียพนันให้อีแอบ เราอุส่าห์พนันว่าเธอเป็นผู้ชาย(ทำเป็นใจดีสู้เสือ)
บูม: นี่เป็นผู้ชาย
เรา: ก็ใช่ไง เธอเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชาย
บูม: ป่าว เราชอบผู้หญิง
เรา: เอาดีๆ จะเสียตังหรือจะได้ตังเนี่ย
บูม: เป็นผู้ชาย (จบการสนทนา ดีใจแทบตาย ไม่ใช่ว่าจะได้ตังนะ แค่นู้ว่าไม่เป็นเกย์ก็พอ)
ถึงเวลาเลิกงานของเย็นวันพุธ เรานั่งรถกลับบ้านเลยตัดสินใจทักไลน์บูมไป....
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ คอยติดตามกันนะคะ
เมื่อวันนึงฉันรู้สึกเกิดรักในความใกล้ชิด...
ในการที่จะตั้งกระทู้นี้ เราก้คิดอยู่ตั้งนานว่าควรหรือไม่
แต่เราเป็นว่าถ้าเราได้คลอดกระทู้นี้ไปใครจะเห็นด้วยรึป่าวนั้น ก็แล้วแต่เลย
ปล.ด่าได้แต่อย่าแรง ตะเตือนไต....
เอาเป็นว่า
เริ่ม
...
..
.
เราต้องขอบอกนิสัยเราก่อนนะว่าเป็นผู้หญิงที่เรียบง่าย ไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่อ่อนหวาน ซุ่มซ่าม ชอบความท้าทายตื่นเต้น แต่ขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจ. นิ่งๆและพูดตามสมองสั่งการ คือต้องได้ดั่งใจ. ไม่ชอบความผิดหวังเลยใครๆก็จะบอกว่าเรานิสัยเหมือนผู้ชาย ส่วนถ้าอยู่กับแฟน เราก็ยังคงความเป็นตัวเรา แต่มีอย่างนึงที่เพื่อนๆของแฟนจะชอบเรามาก คือเราไม่งี่เง่า ไม่ว่าแฟนเราจะมองผู้หญิงคนไหนจะชมเค้ายังไง เราก็จะไม่หึงแถมยังช่วยดูช่วยตัดสินให้ด้วย
ส่วนนิสัยของแฟนเรา จะเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างปากไม่ดี แต่ตลก. ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห งอนง่ายแต่หายเร็ว ซื่อสัตย์และพูดความจริงเช่นชอบคือชอบไม่ชอบคือไม่ชอบ ว่ากันง่ายๆนิสัยผู้หญิงเลย ที่เหมือนกันคือความขี้หงุดหงิดและการพูดตรงๆของเราทั้งคู่ บ้างทีเราก้คิดว่าควรจะสลับกัน 555555
เรื่องมันก็มีอยู่ว่าเรากับแฟนเราคบกันมาเกือบ6ปีแล้ว ซึ่งในระหว่างที่คบกับก็มีเรื่องราวอะไรหลายๆอย่างเข้ามามากมาย เรื่องที่เด็ดๆและใจถึงของเราคือการที่เราบอกให้เค้าไปมีคนอื่น นั่นเป็นอะไรที่เพื่อนของเรา แบบ "เห้ยยย เอาจริงอะ คิดอะไรเนี่ย?" ส่วนเพื่อนเค้าก็จะพูดประมาณว่า "อยากมีแฟนแบบเราจัง ทำไมใจดีจัง" คำถามต่างๆก็เข้ามาเยอะแยะ เราก็บอกเค้าว่าไปเถอะลองดู อยากรู้ว่าต่อมหึงของเรามันใช้การได้มั๊ย 555555 สรุปว่าเค้าก็ไปคะ ไปมีคนอื่น!!!!!! แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเราก็ให้เค้าไปมีคนอื่นนะคะ มันมีที่มาที่ไป คือบังเอิญว่าช่วงนั้นมี ผญ. คนนึงเข้ามาพอดี เค้าเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเค้า ซึ่งเค้าก้พูดประมาณว่า ผญ. คนนั้นน่ารัก เจอกันครั้งแรกแฟรนลี่ดี พูดบ่อยๆ จนเรารู้สึกว่าไม่ใช่ละ เค้าน่าจะคิดอะไรกับ ผญ.คนนี้เราเลยบอกให้เค้าไป แต่ทำสัญญากันนะ ว่าไปไหนมาไหนด้วยกันได้ แต่ขออย่างเดียวอย่ามีอะไรกัน!!! ทุกครั้งเค้าไปไหนมาไหนด้วยกันเค้าก้จะกลับมาเล่าให้ฟังว่าทำอะไรบ้าง เราก้จะคอยถามเค้าตลอดว่า "เธอชอบ ผญ. คนนั้นรึยัง เธอรักเค้าไปรึยัง?" เค้าก็ตอบเรานะว่าเค้า"ชอบ แต่ไม่ได้รัก ใครจะรัก ผญ.2คนได้พร้อมกัน " เราก็โอเค อ่อลืมบอกไปคะว่าตอนนั้นเราเรียนมหาลัยและเราก้อยู่หอด้วยกัน ถึงเค้าจะไปกับผญ.คนนั้น แต่เค้าก็ต้องกลับมานอนห้องอยู่ดี และการที่เค้าไปกับผญ.คนนั้นก้จะไปแปปเดียวเช่นไปดูหนังบ้างไปกินข้าว แต่ทุกครั้งที่ไปก็จะมีเพื่อนของผญ.คนนั้นไปด้วย เพราะนางก็มีแฟนแล้วคะ หุหุ เอาเป็นว่าเราไม่หึงอะไรสงสัยต่อมคงจะเสียแล้วจริงๆ แต่ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรมั๊ย ก็รู้สึกนะ นอยด์ๆบ้างอยากฟังเพลงเศร้าบ้าง มันก้ต้องมีบ้างแหละ และเรื่องราวของเค้าก็จบลง โถ่..รู้สึกพึ่งหาเพลงเศร้าฟังได้ไม่กี่เพลง แหะๆ เค้าก็บอกเรานะ ว่า เค้าไม่อยากทำแบบนี้วันนึงถ้าเกิดว่าเค้ารักผญ.คนนั้น แล้วเราหล่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าเค้ารักเรามาก มากจนแบบไม่อยากให้มีใครมาแทนที่ตรงนี้ได้ ฟังแค่นั้นเราก็ยิ้มจนแก้มแทบแตก คิดว่าตัวเราเนี่ยโชคดีแค่ไหนที่เจอผู้ชายคนนี้ และชีวิตเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆ......
จนกระทั่ง
....
..
.
เราเรียนจบและเริ่มทำงาน
เรากับแฟนเราทำงานคนละที่ แต่ที่ทำงานก็ไม่ไกลกันหรอก ถ้ารถไม่ติดขับรถมาถึงที่ทำงานเราประมาณ20นาที แต่ถ้ารถติดก็เกือบชั่วโมง (ส่วนใหญ่รถจะติด!!!!) ในช่วงการเริ่มทำงานเดือน สองเดือนแรกขอเราก็เรื่อยๆผู้ใหญ่ดีเอ็นดูเรา แต่ออกแนวน่าเบื่อหน่อยๆเพราะว่าผู้ใหญ่ทั้งนั้นนนนนน แต่โชคดีมีเพื่อนที่เข้ามาพร้อมๆกันอีกก็กลายเป็นแก็งค์ชะนีกับอีแอบสมบูรณ์แบบคือพวกเราสนิทกันไวมาก มีเรื่องอะไรก็เม้าท์ๆๆๆ รวมตัวกันเป็นน้ำลายแตกฟอง คือมันก็โอเคมีสีสันขึ้นมาหน่อย จนเราทำงานเข้าเดือนที่3 อยู่ๆก็มีนักศึกษาฝึกงานที่เป็นผู้ชายเข้ามาอยู่ห้องข้างๆ โหยยยย อีแอบของเรากระชุ่มกระชวยเป็นที่สุดเพราะได้แทะโลมน้องๆ และแล้วอีแอบของเราก็ได้ฟันธงว่า น้องๆฝึกงานเนี่ยเป็นชัวร์ 100% เราก็จะคอยถามอีแอบว่าใช่หรอ เป็นหรอ ไม่น่าจะใช่นะ จะเป็นประเด็นสำหรับขาเม้าท์มาก น้องนักศึกษาคนนึง ออกแนวกวนๆ(ทีน)เราให้ชื่อว่าบูม และอีกคนก็จะเรียบร้อยๆไม่ค่อยพูดค่อยจา ชื่อว่าคิง
เราก็ใช้ชีวิตการทำงานของเราไปเหมือนทุกๆวัน จนวันที่เราต้องเจอกับบูมและคิง เพราะสายงานเราต้องทำงานร่วมกัน เราเจอกันบ่อย เจอกันทุกวัน เรากับบูมเริ่มสนิทกัน เริ่มคุยเล่นกันได้ เพราะอายุเราก็ใกล้เคียงกัน และอย่างที่บอกคือกวนประสาท!!! ส่วนกับคิงนั้นก็บอกแล้วว่าน้องไม่ค่อยพูด เราเลยทำได้แค่ยิ้มและทักทายกันแบบเบาๆ
มีอยู่วันนึงบูมไม่มาทำงาน และเราก็เริ่มที่จะมองหา ถามจากคิงว่าบูมไปไหนทำไมไม่มา ก็ได้คำตอบมาว่าบูมไม่สบาย. เราก็งงกับตัวเองว่า เอ๊ะนี่มันอะไรยังไงกันคะ!!! รู้สึกแบบวันทั้งวันมันน่าเบื่อ เวลาก็นาน หงุดหงิด แต่ก็ยังไม่ยอมรับตัวเองนะว่าจะคิดอะไร และวันต่อมา บูมก็มาทำงาน เราก็แซวไปนะว่า"ไหนบอกไหวไหนบอกโอเคไง???" เพราะก่อนหน้าที่บูมจะหยุดงานบูมใส่ผ้าปิดปากและใส่เสื้อกันหนาว ) บูมก็บอกว่า"มันก็ต้องมีบ้างพี่" โอเควันนั้นเราก็ทำงานได้อย่างสุขใจ ......แต่ทำไงดีพรุ่งนี้เราต้องลางานเนื่องจากมีธุระที่ รพ. คือใจแบบไม่อยากหยุดเลย เสียดายยยยยยย ที่ไม่เจอหน้าบูม เกิดอาการเซงๆ แต่ก็หยุดไปโดยที่ไม่บอกบูม จนพอมาทำงานเราเดินเข้าไปในห้องบูมปุ๊บ เจอหน้าบูมปั๊บ สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มที่น่ารักๆของบูม เราสัมผัสมันได้ถึงความจริงใจ บูมยกมือไหว้สวัสดีเรา เรารับไหว้แทบไม่ทัน แล้วบูมก้ถาม "ไปไหนมาพี่?" เราสวนกลับโดยเร็วพลัน "คิดถึงหรอ?" 5555 เป็นผญ.นะเนี่ยช่างกล้า!!! บูมเลยหัวเราะ และบอกว่า"เปล่าครับ แค่ถามดู" แล้วเราก็ยิ้มให้กัน เราก็เดินออกจากห้องแล้วบูมก็เดินตามออกมาสะกิด "พี่ใช้ไอโฟนรึป่าว ผมขอยืมสายชาร์จหน่อย" เราก็บอกว่า "อือ สายอยู่ที่ห้องมาเอาไปสิ" แค่นั้นแหละก็รู้สึกดี เป็นแบบนี้ทุกๆวัน บูมจะมาเอาสายชาร์จที่ห้องจะมาแกล้งมาแซวตลอด จนในใจเริ่มมั่นใจกับความรู้สึกของตัวเอง คือเราต้องชอบเด็กนี่เเน่ๆ แต่สมองก็ยังบอกว่าไม่ใช่หรอกแค่ขำๆ เถียงกับตัวเองได้เก่งจัง ปรบมืออออออ
"นี่พวกเธอเชื่อฉันสิ ว่าเด็กพวกนั้นกินกันเอง พนันกันมั๊ยล่ะ คนเท่าไหร่ว่ามา!!!!" เสียงอีแอบดังขึ้นในเช้าวันอังคาร เรามั่นใจแต่ไม่100% ว่าบูมกับคิงจะเป็นผู้ชายแท้ๆ เพราะผู้ชายสมัยนี้ดูกันยากกว่ามองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าซะอีก เห้ออ เอาว่ะงานนี้ต้องมีแผน หึหึ เย็นวันนั้นก่อนจะเลิกงานบูมจะเอาที่ชาร์จแบตมาคืนให้ ก่อนหน้าที่บูมจะมาเราเลยเขียนใส่ในกระดาษว่า ขอไลน์หน่อย มีเรื่องอยากถาม.... พอบูมเข้ามาเราก็ยัดกระดาษลงในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของบูมแล้วก็บอกว่าออกไปอ่านข้างนอก บูมเลยถาม "ผมต้องเข้ามาอีกมั๊ย " เราเลยบอกได้คำเดียวว่าแล้วแต่... พอประตูห้องปิดลงเราก็ได้ยินเสียงบูมหัวเราะแล้วก็ไม่เข้ามาอีกเลย บอกได้คำเดียวว่า อยู่ๆก็นอยด์มากกกกกกกกก.......
เช้าวันพุธ.....ทุกคนทำงานกันปกติ เรากับบูมเจอกัน และบูมก็ทำตัวปกติ ไม่พูดถึงเรื่องขอไลน์ เหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เป็นวันที่เราอารมณ์ไม่ดีทั้งวันเลย จนก่อนเลิกงานเราก็คิดว่าเราควรต้องถาแล้วหละ จะเขินทำไมแค่จะถามว่าพวกแกน่ะเป็นเกย์กันรึเปล่าาาาาาา พอคิดได้ก็รอเวลาจะเลิกงานที่บูมต้องเอาที่ชาร์จมาคืน พอมาเท่านั้นแหละ เราก็บอกว่า
เรา: ไหนละที่เราขอ?
บูม: ขออะไรหรอ? (ทำหน้าใสซื่อมาก อยากตบ!)
เรา: ก็ไลน์ไงที่ขอไปเมื่อวาน
บูม: อ่อ >>>>ลีลาบิดๆซักพัก) เอาโทรศัพท์มาสิ
เรา: ก็แค่นั้น ลีลาอยู่ได้
แล้วเราก็แยกกัน....เราก็เข้าไปดูในหน้าหลัก ไปสะดุดตรงภาพหน้าปก จนต้องอุทานเป็นคำหยาบคาย..... ภาพหน้าปกเป็นภาพที่บูมนั่งซบไหล่ผู้ชายคนนึง จนต้องทักไลน์ไป
เรา: เห้ยยยยย เป็นเกย์?
บูม: จ้า
เรา: จริงดิ (มือไม้สั่น ฝันสลาย น้ำตาเอ่อ>>>เยอะ!)
บูม: จ้า
เรา: แบบนี้ก้แย่เลย ต้องเสียพนันให้อีแอบ เราอุส่าห์พนันว่าเธอเป็นผู้ชาย(ทำเป็นใจดีสู้เสือ)
บูม: นี่เป็นผู้ชาย
เรา: ก็ใช่ไง เธอเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชาย
บูม: ป่าว เราชอบผู้หญิง
เรา: เอาดีๆ จะเสียตังหรือจะได้ตังเนี่ย
บูม: เป็นผู้ชาย (จบการสนทนา ดีใจแทบตาย ไม่ใช่ว่าจะได้ตังนะ แค่นู้ว่าไม่เป็นเกย์ก็พอ)
ถึงเวลาเลิกงานของเย็นวันพุธ เรานั่งรถกลับบ้านเลยตัดสินใจทักไลน์บูมไป....
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ คอยติดตามกันนะคะ