ตอนเด็กๆ เราเหมือนเด็กผู้ชาย ผมหยิก แม่เลยจับตัดผมสั้น ใส่เสื้อผ้าผู้ชายจนเข้าชั้นประถม
ส่วนน้องสาวอีกสองคน ผมตรง แม่เลยจับไว้ผมยาวทุกคน ใส่ชุดกระโปรงหวานๆ
พอโต เราก็ไม่ได้สนใจการแต่งตัว ยังอยากสวยนะ แต่ไม่ได้รักสวยรักงามมาก เน้นเร็วกับอะไรที่มันสำเร็จรูปไว้ก่อน มีอะไรก็ใส่อันนั้น เวลาซื้อเสื้อผ้า ก็จะซื้อพวกที่มันใส่ได้ง่ายๆ คือใส่แล้วถูกกาละเทศะทุกที่แน่ๆ แบบไม่ได้มองว่าสวยเลยซื้อ แต่มองว่ามีประโยชน์เลยซื้อ คือไม่ได้เอ็นจอยการแต่งตัวเท่าไหร่ ไม่ได้สนุกกับการลองเสื้อผ้าหลังจากชอปด้วย รู้สึกว่าลองที่ร้านมาแล้ว ยังต้องกลับมาเหนื่อยลองอีกทีที่บ้านเพื่ออะไร
ส่วนบรรดาน้องสาวที่วัยเด็กใส่เสื้อผ้าหวานๆ ก็จะรักสวยรักงามมากกว่า รู้จักเลือกเสื้อผ้าหวานๆ บ้าง เปรี้ยวๆ บ้าง คนนึงจะแต่งหน้าแต่งตัวเก่ง อีกคนถึงไม่แต่งหน้า แต่ก็คอยจัดทรงผม หาเครื่องประดับมาใส่
ก็เลยรู้สึกสงสัยน่ะค่ะว่ามีผลมั้ยจากการใส่เสื้อผ้าในวัยเด็ก แบบเด็กเล็กๆ เลย
สมัยวัยรุ่นที่ยังทำอะไรตามเพื่อนๆ บางทีอยากมีโมเมนท์ enjoy การแต่งตัวแบบคนอื่นบ้าง เลยฝืนตัวเอง ลุกขึ้นมาเลือกเสื้อผ้าสวยๆ แต่งตัว แต่ก็ทำได้ครั้งสองครั้ง เพราะไม่ใช่ความชอบตัวเองจริงๆ
การแต่งตัวให้เด็กเล็ก ส่งผลต่อความชอบของการแต่งตัวให้ในวัยผู้ใหญ่หรือเปล่าคะ
ส่วนน้องสาวอีกสองคน ผมตรง แม่เลยจับไว้ผมยาวทุกคน ใส่ชุดกระโปรงหวานๆ
พอโต เราก็ไม่ได้สนใจการแต่งตัว ยังอยากสวยนะ แต่ไม่ได้รักสวยรักงามมาก เน้นเร็วกับอะไรที่มันสำเร็จรูปไว้ก่อน มีอะไรก็ใส่อันนั้น เวลาซื้อเสื้อผ้า ก็จะซื้อพวกที่มันใส่ได้ง่ายๆ คือใส่แล้วถูกกาละเทศะทุกที่แน่ๆ แบบไม่ได้มองว่าสวยเลยซื้อ แต่มองว่ามีประโยชน์เลยซื้อ คือไม่ได้เอ็นจอยการแต่งตัวเท่าไหร่ ไม่ได้สนุกกับการลองเสื้อผ้าหลังจากชอปด้วย รู้สึกว่าลองที่ร้านมาแล้ว ยังต้องกลับมาเหนื่อยลองอีกทีที่บ้านเพื่ออะไร
ส่วนบรรดาน้องสาวที่วัยเด็กใส่เสื้อผ้าหวานๆ ก็จะรักสวยรักงามมากกว่า รู้จักเลือกเสื้อผ้าหวานๆ บ้าง เปรี้ยวๆ บ้าง คนนึงจะแต่งหน้าแต่งตัวเก่ง อีกคนถึงไม่แต่งหน้า แต่ก็คอยจัดทรงผม หาเครื่องประดับมาใส่
ก็เลยรู้สึกสงสัยน่ะค่ะว่ามีผลมั้ยจากการใส่เสื้อผ้าในวัยเด็ก แบบเด็กเล็กๆ เลย
สมัยวัยรุ่นที่ยังทำอะไรตามเพื่อนๆ บางทีอยากมีโมเมนท์ enjoy การแต่งตัวแบบคนอื่นบ้าง เลยฝืนตัวเอง ลุกขึ้นมาเลือกเสื้อผ้าสวยๆ แต่งตัว แต่ก็ทำได้ครั้งสองครั้ง เพราะไม่ใช่ความชอบตัวเองจริงๆ