สวัสดีครับ (***ผมจะอัพเดทให้เรื่อยๆไปจนกว่าจะถึงช่วงต้นปีหน้า หรือ 2017 KGSP นะครับ)
สิ่งที่ผมจะรีวิวนี้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะสมัครต่อในปีหน้า 2017 และปีต่อๆไปครับ
ระยะเวลาในการสมัคร : สมัครศึกษาต่อในระดับปริญญาโทหรือเอก จะเปิดรับสมัครช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงปลายมีนาคมของทุกปีครับ (ถ้าจะสมัครในยูที่ดังๆ เช่น SNU KU เขาจะปิดรับสมัครในช่วงต้นมีนาคมครับ)
ข้อดีของทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ในความคิดของผม คือเป็นทุนการศึกษาให้เปล่าครับ ให้เงินเดือนใช้เดือนละ 900,000 วอน โดยในปีแรกจะเป็นช่วงที่เราต้องไปเรียนภาษาเกาหลี และถ้าหากเราสอบ TOPIK ได้ถึงระดับ 5 หรือ 6 เราจะได้เงินเดือนใช้เพิ่มอีก 100,000 วอน รวมทั้งสิ้นก็มีเงินเดือนใช้เดือนละ 1,000,000 วอนครับ พวกประกันสุขภาพ ค่าสนับสนุนงานวิจัยทางรัฐบาลก็จะช่วยออกให้ด้วยครับ (แต่ส่วนใหญ่ Professor ในแล็ปจะเป็นคนดูแลเรื่องงานวิจัยและจัดสรรงบให้เราเองนะครับ) อีกทั้งทางรัฐบาลเกาหลีจะจัดการเรื่องค่าตั๋วเครื่องบินไปและกลับให้ด้วยครับ สำหรับผม ผมใช้เวลาในการเตรียมตัวสมัครทุนนี้ 5 เดือนครับ และผมคิดว่าคนที่จะสมัครสายวิศวะหรือวิทย์ ควรจะมี contact กับ Professor ในยูที่จะส่งด้วยครับ แต่สิ่งนี้ไม่อาจจะช่วยให้ได้ทุน 100%นะครับ เพราะมันขึ้นกับอะไรหลายๆอย่างด้วยครับ และการขอ acceptance letter ไม่ได้การันตีว่าจะผ่านทั้งรอบยูและรอบ NIIED นะครับ (เพราะเคยเห็นมีคนขอและไม่ผ่านตั้งแต่รอบยูเลยครับ)
เอกสารที่ใช้มีอะไรบ้าง
1. Application Form อันนี้เป็นข้อมูลส่วนตัวที่ต้องกรอกลงในแบบฟอร์มที่ทาง NIIED กำหนดมาครับ แนะนำว่าควรจะพิมพ์ลงในไฟล์ .docx ซึ่งจะมีให้ดาวน์โหลดครับ และอีกเรื่องที่มีอยู่ช่วงนึงเป็นปัญหาเล็กๆ ว่าจะใส่เกรดลงในแต่ละเทอมยังไง ต้องแปลงเป็น percentile score ก่อนไหม สรุปคือใส่เกรดเต็ม 4.00 ตามปกติครับในช่องแต่ละปี แต่ละเทอม แปลงเป็น percentile score เฉพาะช่องสุดท้ายครับ คณะกรรมการจะดู 2 ช่องสุดท้าย (cGPA และ percentile score) เป็นหลักครับ แต่ถ้าจะแปลงเกรดแต่ละเทอมเป็น percentile scores ก่อนแล้วกรอกลงไปก็ไม่ผิดครับ แต่ต้องใส่หน่วยเป็น /100 ให้ถูก ซึ่งผมแปลงครับ แต่ความจริงไม่ต้องแปลงนะครับ
2. Letter of Self-Introduction และ
Statement of Purpose 2 อย่างนี้ผมจะอธิบายการเขียนต่อไปนะครับ
3. Letter of Recommendation จดหมายรับรองจากอาจารย์ อันนี้บางคนส่ง 1 ฉบับ เพราะทาง NIIED บอกให้ส่งแค่ฉบับเดียว ส่วนบางคนส่ง 2 ฉบับ ตามมาตรฐานควรส่ง 2 ฉบับนะครับเพราะ ส่วนตัวผมคิดว่า แค่ความเห็นของอาจารย์แค่ฉบับเดียว มันมีนำ้หนักรับรองเราไม่หนักแน่นพอหรอกครับ ถ้าได้หลายๆความเห็นเกี่ยวกับตัวเราจากอาจารย์หลายๆท่าน มันสามารถจะบอกว่าตัวเราเป็นคนอย่างไรได้ดีกว่า โดยเอาความเห็นจากอาจารย์หลายๆท่านมาเฉลี่ย ส่วนตัวผมส่ง 3 ฉบับครับ ส่วนเรื่องที่ว่าให้ใครเขียนดี ควรจะให้อาจารย์ที่เราสนิทด้วยตอนเรียนระดับมหาวิทยาลัยเขียนให้ครับ และอาจารย์ที่เขียนให้ควรจะทำงานในมหาวิทยาลัยอยู่นะครับ เพราะเขาจะมีให้กรอกข้อมูลของอาจารย์ด้วยครับ บางคนอาจจะบอกว่าให้อาจารย์ที่สอนภาษาเกาหลี เขียนให้ได้ไหมในกรณีที่เป็นชาวเกาหลี เนื่องจากเขาใจว่า คนเกาหลีมักจะเชื่อคนเกาหลีด้วยกันมากกว่า ผมอยากจะบอกว่า ไม่เสมอไปนะครับ เน้นว่าควรจะให้อาจารย์ที่สนิทที่สุด ที่เขารู้จักรากเง้านิสัยของเราดี เขียนให้จะดีที่สุดครับ
4. KGSP Applicant Pledge.
5. Personal Medical Assessment ใบนี้เราต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของเราเองครับ ถ้าผ่านรอบ 2 จะมีใบตรวจสุขภาพที่เป็นแบบฟอร์มของทาง NIIED อันนี้จะให้แพทย์เป็นผู้ประเมินครับ
6. Bachelor's Transcript ส่งฉบับจริงนะครับ ( ขอฉบับเป็นภาษาอังกฤษจากสำนักทะเบียนมหาวิทยาลัยได้เลยครับ )
7. Applicant's Proof of Citizenship กับ
Parents' Proof Citizenship ใช้ใบเกิดของเราใบเดียวได้ครับ ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองผ่านกงสุลให้เรียบร้อย ก่อนส่งให้เขียนใส่แผ่นกระดาษเล็กๆแล้วระบุว่า Using for identifying application's and parents' proof of citizenship ครับ
8. ใบคะแนนสอบภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี : ส่วนนี้เป็น optional ครับ จะส่งก็ได้ ไม่ส่งก็ได้ แต่แนะนำว่าให้ส่งดีกว่าครับเพราะมันมีคะแนนด้วยครับ ภาษาอังกฤษสามารถส่งได้ทั้ง TOEFL, IELTS, TOEIC แบบ Public (Monthly) เลยนะครับ การสอบ TOEIC ที่เปิดสอบทุกๆวัน เขาไม่ยอมรับนะครับ ถ้าอยากจะทราบว่าคะแนนขั้นตำ่ควรจะผ่านเท่าไหร่ถึงจะดี ให้เข้าไปดูเว็บไซต์แอดมิชชันของแต่ละยู เขาจะมีกำหนดขั้นตำ่ว่าควรได้เท่าไหร่บ้าง ผมแนะนำว่าควรจะทำคะแนนให้ผ่านเกณฑ์เยอะๆครับ
9. Published papers and awards: ส่วนนี้ก็เป็น optional อีกนะครับ แนะนำให้ส่งรางวัลหรือเกียรติประวัติที่สอดคล้องกับสาขาที่เราจะสมัครต่อนะครับ อย่างเช่น ผมต่อสายวิศวะ ผมส่งใบประกาศเข้าค่ายคณิตศาสตร์โอลิมปิกค่าย 1 และ 2
* แนะนำให้ส่ง CV แยกไปด้วยนะครับเพราะ CV จะเป็นตัวบอกว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ทำอะไรมาบ้าง ซึ่งบางทีเราเขียนใน Self-intro ไม่หมด ทางคณะกรรมการจะได้รู้ครับ
เรื่องงานเขียน Self-Introduction และ Statement of Purpose (SOP) ทั้ง 2 อย่างนี้ต้องพิมพ์ลงไปในแบบฟอร์มที่ NIIED ให้มานะครับ
การเขียน Self-intro ทาง NIIED ได้ระบุมานะครับว่าให้ใส่อะไรลงไปบ้าง ถ้าหากข้อมูลที่เราใส่เยอะ เราสามารถลบสิ่งที่ NIIED ระบุมาได้นะครับ ส่วนตัวผมลบครับเพราะเขียนเยอะนิดนึง เนื้อหาคร่าวๆที่ผมเขียนมีอะไรบ้าง ผมขอบอกคร่าวๆดังนี้นะครับ อันนี้ขออนุญาตพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษนะครับ
- What and When were the major moments in your life that led you to your current research interest(s) and school/department/program?
- What or who influenced your decision or interest? What quality about them appealed to you? อย่างเช่นผมสนใจที่จะทำวิจัยต่อทางด้าน drug discovery in cancer(s) ผมจึงเริ่มที่จะเปิดหัวข้อเรื่องด้วยปัญหาต่างๆที่ในปัจจุบันนักวิจัยยังไม่สามารถไขปัญหาเกี่ยวกับมะเร็งได้ เราสามารถที่จะคิดค้นวิธีรักษามะเร็ง (alternative methods) หรือหาวิธีค้นพบตัวยาที่ใช้รักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพดีกว่ายาที่รักษาในปัจจุบัน เอามาผูกกับปัญหาต่างๆที่ผมเคยประสบพบเจอทั้งในครอบครัวและเหตุการณ์ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านั้นทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการทำงานวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งต่อไป เป็นต้นครับ
- What did you choose your research topic(s)field/school and undergraduate major? อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาตรีในสาขานี้ และเล่าถึงประสบการณ์ในขณะที่เรียนอยู่คร่าวๆตอนปริญญาตรี ส่วนตัวผมได้เล่าเรื่องที่บางทีอาจารย์ที่สอนได้ทิ้งปัญหาเด็ดๆฝากให้คิด และควรจะเล่าเกี่ยวกับโปรเจคที่ได้ทำตอนปี4 ด้วยครับว่า เราทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไร ทำไมถึงเลือกทำงานวิจัยนั้น รวมไปถึงอะไรเป็นตัวจุดประกายให้ทำโปรเจคนั้น นอกจากนั้นก็เล่าถึงประสบการณ์การไปเกาหลี การทำงานร่วมกับยูที่เกาหลี ทำไมถึงตัดสินใจเรียนต่อที่เกาหลี อะไรคือแรงบันดาลใจ ส่วนใหญ่ที่ผมเขียนไปจะเป็นเชิงเทคโนโลยีนะครับ สุดท้ายผมได้เขียนประสบการณ์ที่คาดว่าจะได้จาก KGSP ลงไปด้วยครับ ว่า KGSP มีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างไรบ้าง
สำหรับ SOP นะครับ ผมเขียนคร่าวๆดังนี้ครับ
- What are your career and future goals?
- What aspects of the school/department/program appeals to you?
- What characteristics of the school/department/program can help you accomplish your goals?
- What positive aspects do you bring to the school/department/program?
ในส่วน SOP ผมเขียนในเชิงเจาะลึกมากกว่าใน self-intro ซึ่งข้อความบางส่วนมันจะคล้ายกับ self-intro อยู่บ้างก็ตามนะครับ ขยายความในเรื่องแนวคิดและไอเดียงานวิจัยที่เราได้แพลนว่าจะทำ ส่วนตัวผมลงลึกในไอเดียที่ผมมีเกี่ยวกับ drug discovery และ drug delivery นะครับ แต่ถ้าใครมีไอเดียที่พอจะเป็นไปและมีส่วนอ้างอิงซับพอทจาก journals ก็ใส่ไปก็ได้ครับ รวมถึงบอกด้วยว่าหลังเรียนจบจะทำอะไรแบบคร่าวๆพอครับ กี่ปีๆว่าไป
ถ้าใครมีอะไรสงสัยสามารถพิมพ์ถามใน comments ด้านล่างโพสต์นี้ได้นะครับ ผมจะตอบให้ครับ ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ
และใครที่สนใจสมัครโดยตรงของ KAIST แบบ early หรือ regular admission สามารถถามผมได้นะครับ ผมยินดีให้ข้อมูลครับ
สุดท้ายแล้วครับ ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ นอกจากทุน KGSP ก็ยังมีทุนของยูในเกาหลีด้วยนะครับ ส่วนใครที่สนใจทุนที่ผูกมัดอย่าง ทุน กพ. ซึ่งผมสอบผ่านข้อเขียนของทุนกระทรวงวิทย์ ป.โท-เอกในปีนี้ เหลือแต่สัมภาษณ์เดือนหน้า ก็สามารถสอบถามผมได้นะครับ ผมสามารถแนะนำหนังสืออ่านสอบให้ได้นะครับ
***สำหรับคนที่สนใจสมัครทุน KGSP หรือทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ สามารถเข้า join เพจบน facebook ชื่อ Thai KGSP 2016(Graduate) ได้นะครับ ในเพจจะรวมข้อมูลของทุน คนที่จะสมัครทุน KGSP และคนที่ได้ทุนไว้ครับ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในแอดมินเพจเองครับhttps://www.facebook.com/groups/697809093672121/
รีวิว การสมัครทุนรัฐบาลเกาหลี ปี 2016 ครับ
สิ่งที่ผมจะรีวิวนี้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะสมัครต่อในปีหน้า 2017 และปีต่อๆไปครับ
ถ้าอยากจะดูรายละเอียดการรับสมัครต่างๆ ดูได้จากเว็บไซต์ http://www.studyinkorea.go.kr/en/main.do;jsessionid=14AEC40F98119064BACF425C7A448E10.node_20
เอกสารที่ใช้มีอะไรบ้าง
1. Application Form อันนี้เป็นข้อมูลส่วนตัวที่ต้องกรอกลงในแบบฟอร์มที่ทาง NIIED กำหนดมาครับ แนะนำว่าควรจะพิมพ์ลงในไฟล์ .docx ซึ่งจะมีให้ดาวน์โหลดครับ และอีกเรื่องที่มีอยู่ช่วงนึงเป็นปัญหาเล็กๆ ว่าจะใส่เกรดลงในแต่ละเทอมยังไง ต้องแปลงเป็น percentile score ก่อนไหม สรุปคือใส่เกรดเต็ม 4.00 ตามปกติครับในช่องแต่ละปี แต่ละเทอม แปลงเป็น percentile score เฉพาะช่องสุดท้ายครับ คณะกรรมการจะดู 2 ช่องสุดท้าย (cGPA และ percentile score) เป็นหลักครับ แต่ถ้าจะแปลงเกรดแต่ละเทอมเป็น percentile scores ก่อนแล้วกรอกลงไปก็ไม่ผิดครับ แต่ต้องใส่หน่วยเป็น /100 ให้ถูก ซึ่งผมแปลงครับ แต่ความจริงไม่ต้องแปลงนะครับ
2. Letter of Self-Introduction และ Statement of Purpose 2 อย่างนี้ผมจะอธิบายการเขียนต่อไปนะครับ
3. Letter of Recommendation จดหมายรับรองจากอาจารย์ อันนี้บางคนส่ง 1 ฉบับ เพราะทาง NIIED บอกให้ส่งแค่ฉบับเดียว ส่วนบางคนส่ง 2 ฉบับ ตามมาตรฐานควรส่ง 2 ฉบับนะครับเพราะ ส่วนตัวผมคิดว่า แค่ความเห็นของอาจารย์แค่ฉบับเดียว มันมีนำ้หนักรับรองเราไม่หนักแน่นพอหรอกครับ ถ้าได้หลายๆความเห็นเกี่ยวกับตัวเราจากอาจารย์หลายๆท่าน มันสามารถจะบอกว่าตัวเราเป็นคนอย่างไรได้ดีกว่า โดยเอาความเห็นจากอาจารย์หลายๆท่านมาเฉลี่ย ส่วนตัวผมส่ง 3 ฉบับครับ ส่วนเรื่องที่ว่าให้ใครเขียนดี ควรจะให้อาจารย์ที่เราสนิทด้วยตอนเรียนระดับมหาวิทยาลัยเขียนให้ครับ และอาจารย์ที่เขียนให้ควรจะทำงานในมหาวิทยาลัยอยู่นะครับ เพราะเขาจะมีให้กรอกข้อมูลของอาจารย์ด้วยครับ บางคนอาจจะบอกว่าให้อาจารย์ที่สอนภาษาเกาหลี เขียนให้ได้ไหมในกรณีที่เป็นชาวเกาหลี เนื่องจากเขาใจว่า คนเกาหลีมักจะเชื่อคนเกาหลีด้วยกันมากกว่า ผมอยากจะบอกว่า ไม่เสมอไปนะครับ เน้นว่าควรจะให้อาจารย์ที่สนิทที่สุด ที่เขารู้จักรากเง้านิสัยของเราดี เขียนให้จะดีที่สุดครับ
4. KGSP Applicant Pledge.
5. Personal Medical Assessment ใบนี้เราต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของเราเองครับ ถ้าผ่านรอบ 2 จะมีใบตรวจสุขภาพที่เป็นแบบฟอร์มของทาง NIIED อันนี้จะให้แพทย์เป็นผู้ประเมินครับ
6. Bachelor's Transcript ส่งฉบับจริงนะครับ ( ขอฉบับเป็นภาษาอังกฤษจากสำนักทะเบียนมหาวิทยาลัยได้เลยครับ )
7. Applicant's Proof of Citizenship กับ Parents' Proof Citizenship ใช้ใบเกิดของเราใบเดียวได้ครับ ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองผ่านกงสุลให้เรียบร้อย ก่อนส่งให้เขียนใส่แผ่นกระดาษเล็กๆแล้วระบุว่า Using for identifying application's and parents' proof of citizenship ครับ
8. ใบคะแนนสอบภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี : ส่วนนี้เป็น optional ครับ จะส่งก็ได้ ไม่ส่งก็ได้ แต่แนะนำว่าให้ส่งดีกว่าครับเพราะมันมีคะแนนด้วยครับ ภาษาอังกฤษสามารถส่งได้ทั้ง TOEFL, IELTS, TOEIC แบบ Public (Monthly) เลยนะครับ การสอบ TOEIC ที่เปิดสอบทุกๆวัน เขาไม่ยอมรับนะครับ ถ้าอยากจะทราบว่าคะแนนขั้นตำ่ควรจะผ่านเท่าไหร่ถึงจะดี ให้เข้าไปดูเว็บไซต์แอดมิชชันของแต่ละยู เขาจะมีกำหนดขั้นตำ่ว่าควรได้เท่าไหร่บ้าง ผมแนะนำว่าควรจะทำคะแนนให้ผ่านเกณฑ์เยอะๆครับ
9. Published papers and awards: ส่วนนี้ก็เป็น optional อีกนะครับ แนะนำให้ส่งรางวัลหรือเกียรติประวัติที่สอดคล้องกับสาขาที่เราจะสมัครต่อนะครับ อย่างเช่น ผมต่อสายวิศวะ ผมส่งใบประกาศเข้าค่ายคณิตศาสตร์โอลิมปิกค่าย 1 และ 2
* แนะนำให้ส่ง CV แยกไปด้วยนะครับเพราะ CV จะเป็นตัวบอกว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ทำอะไรมาบ้าง ซึ่งบางทีเราเขียนใน Self-intro ไม่หมด ทางคณะกรรมการจะได้รู้ครับ
เรื่องงานเขียน Self-Introduction และ Statement of Purpose (SOP) ทั้ง 2 อย่างนี้ต้องพิมพ์ลงไปในแบบฟอร์มที่ NIIED ให้มานะครับ
การเขียน Self-intro ทาง NIIED ได้ระบุมานะครับว่าให้ใส่อะไรลงไปบ้าง ถ้าหากข้อมูลที่เราใส่เยอะ เราสามารถลบสิ่งที่ NIIED ระบุมาได้นะครับ ส่วนตัวผมลบครับเพราะเขียนเยอะนิดนึง เนื้อหาคร่าวๆที่ผมเขียนมีอะไรบ้าง ผมขอบอกคร่าวๆดังนี้นะครับ อันนี้ขออนุญาตพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษนะครับ
- What and When were the major moments in your life that led you to your current research interest(s) and school/department/program?
- What or who influenced your decision or interest? What quality about them appealed to you? อย่างเช่นผมสนใจที่จะทำวิจัยต่อทางด้าน drug discovery in cancer(s) ผมจึงเริ่มที่จะเปิดหัวข้อเรื่องด้วยปัญหาต่างๆที่ในปัจจุบันนักวิจัยยังไม่สามารถไขปัญหาเกี่ยวกับมะเร็งได้ เราสามารถที่จะคิดค้นวิธีรักษามะเร็ง (alternative methods) หรือหาวิธีค้นพบตัวยาที่ใช้รักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพดีกว่ายาที่รักษาในปัจจุบัน เอามาผูกกับปัญหาต่างๆที่ผมเคยประสบพบเจอทั้งในครอบครัวและเหตุการณ์ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านั้นทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการทำงานวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งต่อไป เป็นต้นครับ
- What did you choose your research topic(s)field/school and undergraduate major? อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาตรีในสาขานี้ และเล่าถึงประสบการณ์ในขณะที่เรียนอยู่คร่าวๆตอนปริญญาตรี ส่วนตัวผมได้เล่าเรื่องที่บางทีอาจารย์ที่สอนได้ทิ้งปัญหาเด็ดๆฝากให้คิด และควรจะเล่าเกี่ยวกับโปรเจคที่ได้ทำตอนปี4 ด้วยครับว่า เราทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไร ทำไมถึงเลือกทำงานวิจัยนั้น รวมไปถึงอะไรเป็นตัวจุดประกายให้ทำโปรเจคนั้น นอกจากนั้นก็เล่าถึงประสบการณ์การไปเกาหลี การทำงานร่วมกับยูที่เกาหลี ทำไมถึงตัดสินใจเรียนต่อที่เกาหลี อะไรคือแรงบันดาลใจ ส่วนใหญ่ที่ผมเขียนไปจะเป็นเชิงเทคโนโลยีนะครับ สุดท้ายผมได้เขียนประสบการณ์ที่คาดว่าจะได้จาก KGSP ลงไปด้วยครับ ว่า KGSP มีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างไรบ้าง
สำหรับ SOP นะครับ ผมเขียนคร่าวๆดังนี้ครับ
- What are your career and future goals?
- What aspects of the school/department/program appeals to you?
- What characteristics of the school/department/program can help you accomplish your goals?
- What positive aspects do you bring to the school/department/program?
ในส่วน SOP ผมเขียนในเชิงเจาะลึกมากกว่าใน self-intro ซึ่งข้อความบางส่วนมันจะคล้ายกับ self-intro อยู่บ้างก็ตามนะครับ ขยายความในเรื่องแนวคิดและไอเดียงานวิจัยที่เราได้แพลนว่าจะทำ ส่วนตัวผมลงลึกในไอเดียที่ผมมีเกี่ยวกับ drug discovery และ drug delivery นะครับ แต่ถ้าใครมีไอเดียที่พอจะเป็นไปและมีส่วนอ้างอิงซับพอทจาก journals ก็ใส่ไปก็ได้ครับ รวมถึงบอกด้วยว่าหลังเรียนจบจะทำอะไรแบบคร่าวๆพอครับ กี่ปีๆว่าไป
ถ้าใครมีอะไรสงสัยสามารถพิมพ์ถามใน comments ด้านล่างโพสต์นี้ได้นะครับ ผมจะตอบให้ครับ ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ
และใครที่สนใจสมัครโดยตรงของ KAIST แบบ early หรือ regular admission สามารถถามผมได้นะครับ ผมยินดีให้ข้อมูลครับ
สุดท้ายแล้วครับ ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ นอกจากทุน KGSP ก็ยังมีทุนของยูในเกาหลีด้วยนะครับ ส่วนใครที่สนใจทุนที่ผูกมัดอย่าง ทุน กพ. ซึ่งผมสอบผ่านข้อเขียนของทุนกระทรวงวิทย์ ป.โท-เอกในปีนี้ เหลือแต่สัมภาษณ์เดือนหน้า ก็สามารถสอบถามผมได้นะครับ ผมสามารถแนะนำหนังสืออ่านสอบให้ได้นะครับ
***สำหรับคนที่สนใจสมัครทุน KGSP หรือทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ สามารถเข้า join เพจบน facebook ชื่อ Thai KGSP 2016(Graduate) ได้นะครับ ในเพจจะรวมข้อมูลของทุน คนที่จะสมัครทุน KGSP และคนที่ได้ทุนไว้ครับ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในแอดมินเพจเองครับhttps://www.facebook.com/groups/697809093672121/