การเลือกใช้เทคโนโลยีถือว่าทันสมัย แต่ถ้ามันไม่เสถียรก็อย่าเพิ่งนำมาใช้เลยดีกว่า เป็นประเด็นขึ้นมาสำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลคัดเลือกโอลิมปิก 2016 แมตซ์ที่คนไทยทั้งประเทศรอคอย คือ ไทย พบ ญี่ปุ่น

ย้อนกลับไปดูแล้ว ย้อนกลับไปดูอีก สำหรับการแข่งขันแมตซ์เมื่อวาน จุดพีคของเกมส์ พีคแบบสุดๆ ทีมไทยนำทีมญี่ปุ่นซึ่งนำห่าง อะไรที่ทำให้เป็นจุดพีคของเกมส์ คือ โค้ชทีมไทยโดนใบแดงจากกรรมการ เนื่องจากถ่วงเวลา แต่แท้ที่จริงคือ ทางทีมสตาฟโค้ชได้กดสัญญาณจากแทปแล็ตเพื่อขอดูชาเลนจ์การทำฟาล์วของผู้เล่นทีมญี่ปุ่น แต่กรรมการบอกว่าไม่มีสัญญาณในการขอดูชาเลนจ์ เพราะแบบนี้ทำให้ทีมไทยโดนถ่วงเวลาการเล่น

ช็อตที่ทุกคนมองว่าเป็นการทำฟาล์วของผู้เล่นทีมญี่ปุ่น Miyashita ซึ่งเป็นนักกีฬาในรูปภาพนั้น เธอได้ล้มตัวลงแล้วล้ำเส้นกลางไปยังผ่านไทยก็จริง แต่ถ้าตามหลักแล้ว ถือว่าไม่ฟาล์วเพราะไม่ได้กีดขวางหรือขวางทางการเล่นของผู้เล่นทีมไทย การขอชาเลนจ์ในการดูว่าผู้เล่นทีมญี่ปุ่นนั้นทำฟาล์วจริงหรือเปล่าแต่กลับไม่ได้รับอนุญาตจากกรรมการ เพียงเพราะสัญญาณการกดจากแทปแล็ตไม่ไปขึ้นที่กรรมการ

ถ้าการใช้เทคโนโลยีในการแข่งขัน มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างหลายๆ แต้มที่เราได้มาเพราะเราตัดสินใจถูกเลือกขอดูชาเลนจ์มันเป็นผลดีต่อทีม แต่ผลเสียก็อย่างที่ทุกคนได้รับรู้และพูดกันว่า 'เค้าโกงทีมเรา' แต่ก็อยากให้ทุกคนนั้นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมีสติ การให้อภัยส่งผลดีที่สุด การแช่งไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ยังไงทีมไทยก็ไปถึงฝัน พวกเค้าจะไปโอลิมปิก 2016 และเราเชื่อว่าพวกเขาทำได้ สู้ๆ นะทีมไทย

ปล. 1. ความคิดเห็นส่วนตัว เราว่าไม่ควรด่านักกีฬาญี่ปุ่น แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็คือบทเรียนของพวกเค้าแล้ว
      2. ควรใช้คำวิจารณ์ที่สุภาพ สื่อให้เห็นความเป็นไทย
      3. การให้อภัย จะทำให้พวกเราแข็งแกร่งและเป็นทีมที่น่ากลัวระดับโลก