รีวิวการเดินทางกับสายการบิน Malaysia Airline
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมจะมารีวิวสายการบิน Full service ของประเทศเพื่อนบ้านเรา Malaysia Airline นั่นเองครับ Malaysia Airline จัดเป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ซึ่งจัดอันดับโดย Skytrax แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตั้งแต่ที่ Malaysia Airline มีข่าวการหายไปของไฟท์ MH 370 และอุบัติเหตุของไฟท์ MH 017 ก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของสายการบิน Malaysia Airline อยู่เยอะพอสมควร แต่เนื่องจากผมต้องเดินทางไปทำงานที่มาเลเซีย 2 สัปดาห์ ทางบริษัทเป็นคนดำเนินการเรื่องการเดินทางและตั๋วเครื่องบิน รวมถึงลูกค้าขอให้เดินทางกลับในไฟท์เดียวกันด้วยสายการบิน Malaysia Airline ดังนั้นผมก็เลยต้องเดินทางด้วยสายการบิน “ว่าวกะลันตัน” อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย จริงๆตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวกระทู้นี้ แต่พอมาหาข้อมูลในพันทิป ผมเห็นว่าข้อมูลเกี่ยวกับ Malaysia Airline มีค่อนข้างน้อย ดังนั้นก็เลยถือโอกาสทำรีวิวซักหน่อย เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆชาวพันทิปได้ลองอ่านกันครับ
รายละเอียดไฟท์ที่ผมจะเดินทาง คือ
1 Labuan - Kuala Lumpur (MH 2609) 12.05 - 14.25 PM,Boeing 737-800
Domestic Flight (ไฟท์บินภายในประเทศ) ชั้นธุรกิจหรือ Business Class
2 Kuala Lumpur - Bangkok (MH 774) 16.35 - 17.40 PM,Boeing 737-800
International Flight (ไฟท์บินระหว่างประเทศ) ชั้นประหยัดหรือ Economy Class
เริ่มต้นกันด้วยภาพเมืองลาบวนซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กของประเทศมาเลเซียและอยู่ไม่ไกลจากประเทศบรูไนมาก บรรยากาศของลาบวนก็คล้ายกับบ้านเราครับ แต่ที่ผมประทับใจอย่างหนึ่งก็คือ ที่ลาบวนเก็บสายไฟลงใต้ดิน ทำให้ทัศนียภาพของเมืองดูสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
หลังจากนั่งรถกับทีมคณะทำงานไม่นาน ก็มาถึงสนามบินลาบวน หรือ Labuan Airport ซึ่งเป็นสนามบินเล็กๆ แต่ก็ออกแบบได้สวยงามและคลาสสิคดีครับ
เคาเตอร์เชคอินที่สนามบินลาบวน ผมเห็นมีแค่เคาเตอร์ของสายการบิน คือ Malaysia Airline กับ Air Asia เท่านั้นครับ ซึ่งผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปภายในสนามบินไว้มากเท่าไรนะครับ แต่สำหรับผมแล้วก็ถือว่าประทับใจเพราะการบริการของพนักงานประจำเคาเตอร์ดีเลยทีเดียวครับ พนักงานหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสและพูดภาษาอังกฤษได้ดี เนื่องจากที่นี่เป็นสนามบินเล็กๆ คนก็จะไม่พลุกพล่านมาก ทำให้การเช๊คอินเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ผมก็เลยถือโอกาสโหลดกระเป๋าตั้งแต่ลาบวนถึงสุวรรณภูมิเลยครับ
นั่งรอในสนามบินซักพัก พนักงานก็ประกาศให้ Boarding ได้ ในระหว่างทางเดินขึ้นเครื่องนั้น เราก็จะมองเห็นโลโก้ว่าวกะลันตันบนเครื่องบิน Boeing 737-800 ซึ่งจอดรออยู่และที่สำคัญไฟท์นี้พิเศษหน่อยครับเพราะผมได้ที่นั่งเป็นชั้นธุรกิจหรือ Business Class นั่นเองครับ
พอขึ้นบนเครื่องเสร็จ ก็จัดการเก็บสัมภาระบน overhead compartment จากนั้นก็นั่งประจำที่และรัดเข็มขัดตามคำแนะนำของลูกเรือ สำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจตกแต่งด้วยเบาะโทนสีน้ำเงินเข้ม "ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังเข้าสู่โหมดของความสงบและเงียบสงัดอย่างลุ่มลึก" อารมณ์ประมาณนั้นครับ สำหรับที่นั่งก็กว้างสะดวกสบายตามมาตรฐานชั้นธุรกิจทั่วไป ช่องห่างระหว่างที่นั่งกว้างพอสมควร คนตัวเตี้ยๆอย่างผมเหยียดขาได้สบายๆเลยครับ เครื่องค่อนข้างใหม่และมี PTV ถือว่าผ่านมากมายสำหรับไฟท์บินภายในประเทศที่ต้องเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
คู่มือความปลอดภัยของเครื่องบินบ่งบอกว่าเป็น Boeing 737-800 พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยในที่เก็บของหน้าที่นั่ง หลังจากนั้นพนักงานก็เริ่มบริการผ้าร้อนและสอบถามเมนูอาหารครับ ผมเลือกเป็นเมนูบะหมี่ปลาไปครับเพราะน่าจะกินได้ง่ายดี ต่อจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มเปิดวีดิโอสาธิตความปลอดภัยครับ
หลังจากกัปตันประกาศว่า "Cabin Crew Prepare for Take Off" เครื่องบินก็ค่อยๆไต่ระดับทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ในวันที่ผมเดินทางอากาศดีและท้องฟ้าแจ่มใสมากครับ
เมื่อสัญญานรัดเข็มขัดได้ดับลง พนักงานก็เริ่มแจกถั่วอบเกลือ 2 ห่อ กับเครื่องดื่มที่ผมได้สั่งไว้ คือ ชาเขียวร้อน นั่นเองครับ ถั่วอบเกลือรสชาติออกมันๆเค็มๆอร่อยดี แต่ผมว่าถั่วแข็งไปหน่อยครับ ส่วนชาเขียวร้อน รสชาติออกหวานนิดๆ ซ่อนขมหน่อยๆ ตัดกับอากาศที่ค่อนข้างเย็นในห้องโดยสาร ทำให้ฟินกันไปเลยทีเดียว
ในระหว่างรออาหารนั้นเราก็ต้องมาสำรวจ Entertainment กันหน่อยครับ ทุกที่นั่งทั้งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดจะมี PTV สีขาว ตัดกับเบาะสีน้ำเงินเข้มอย่างลงตัว ข้างในมีหนังและเพลงใหม่ๆเพียบครับ ผมนั่งฟังเพลงของ Adel นักร้องคนโปรดของผม+ดูหนังเรื่อง Spectre 007 แต่เสียดายดูหนังไม่จบเพราะถึงกัวลาลัมเปอร์ก่อน เลยกะว่าจะไปดูต่อไฟล์จากกัวลาลัมเปอร์มายังกรุงเทพมหานคร
จากนั้นพนักงานก็เริ่มเสริ์ฟอาหาร ซึ่งมาเป็นเซทแบบนี้เลยนะครับ ในเซทก็จะมีบะหมี่ปลาราดซอสอะไรซักอย่าง รสชาติออกหวานเผ็ดเค็ม ก็ถือว่าอร่อยดีครับ แต่เส้นบะหมี่แห้งไปหน่อย เสริ์ฟพร้อมกับสลัดกุ้งซอสเลมอน สลัดกุ้งรสชาติจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ อย่างไงบอกไม่ถูก แต่ก็ถือผ่านครับ มีของหวานเป็นชีทเค้กส้ม อันนี้ผมชอบมากกกก เค้กนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปากเลยยย รสชาติเลี่ยนๆของชีทตัดกับซอสส้มที่หวานอมเปรี้ยวช่างเป็นอะไรที่ลงตัวมากครับ ผมซัดซะเกลี้ยงเลยครับ อยากบอกว่าอิ่มและแน่นท้องมากมาก จนไม่ได้ไม่ลองขนมปังกระเทียมกับขนมปังธัญญาพืชของเขาเลยครับ นั่งเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็เดินทางมาถึง KL International Airport ครับเพื่อรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพมหานคร ไฟท์นี้กัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลครับ
สำหรับไฟท์แรกจาก Labuan–Kuala Lumpur (MH 2609) โดยรวมถือว่าประทับใจครับ ผมให้คะแนน 9/10 พนักงานบนเครื่องบริการได้ดี แต่จะดูขรึมๆหน่อย จนบางทีเราไม่กล้าขอพวกเครื่องดื่มเพิ่ม (หรือเราคิดไปเองรึป่าวไม่รู้นะครับ 555) ผ้าร้อนที่แจกในตอนแรกค่อนข้างผืนเล็กไปหน่อย ส่วนที่นั่งก็สะดวกสบาย ไม่อึดอัดครับ เครื่องบินค่อนข้างใหม่ มี PTV และ Entertainment ครบครัน ทั้งหนังและเพลง รสชาติอาหารถือว่าเหมาะสำหรับชาวต่างชาติอย่างผม แต่ขนมปังดูไม่น่ากินเท่าไรครับ ผมว่าการจัดเซทอาหารของ TG ไฟท์บินในประเทศสำหรับชั้นธุรกิจทำได้ดีกว่านี้ครับ แต่โดยภาพรวมผมก็ค่อนข้างประทับใจครับ ที่สำคัญกัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลสำหรับไฟท์นี้
มาต่อกันที่ไฟท์ Kuala Lumpur–Bangkok (MH 774) บินด้วยเครื่องบิน Boeing 737-800 เครื่องนี้แหละที่จะพาผมกลับไทย แต่ไฟท์นี้ผมนั่งในชั้นประหยัดนะครับ มาดูกันว่า International flight ของ Malaysia Airline จะเป็นไงบ้าง ไฟท์นี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้เท่าไร กะว่าขึ้นครื่องก็จะดูหนัง Spectre 007 ให้จบครับ พนักงานเริ่มประกาศให้ Boarding ผู้โดยสายก็ทะยอยขึ้นเครื่องกัน ไฟท์นี้เกือบเต็มทุกที่นั่งครับ สิ่งแรกที่เจอก็คือ ข้างในเครื่องค่อนข้างเก่าและที่สำคัญ ไม่มี PTV ด้วยครับ เห้ยยย วัยรุ่นซ็งเลยอะ อุตส่าห์ว่าจะดูหนังต่อซักหน่อย อดดด !! เป็นไฟท์ International ที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ บินแค่ 2 ชั่วโมงเอง
โชคดีหน่อยตอนเช๊คอินล่วงหน้าที่สนามบินลาบวน ผมเลือกที่นั่งติดทางออกฉุกเฉิน ทำให้มีที่เหยียดขาพอสมควร ไม่รู้สึกอึดอัดมากครับ สำหรับ 2 ชั่วโมงถือว่าสบายมากครับ หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า ไต่ระดับจนได้ความสูงที่เหมาะสมแล้ว สัญญารัดเข็มขัดก็ดับลง พนักงานก็เริ่มบริการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนที่นั่งเบาะข้างหน้าได้อาหารก่อน แอบมากระซิบบอกว่าอย่าสั่งข้าวผัดเด็ดขาด เพราะรสชาติมันกินไม่ได้ว่างั้น ผมก็เลยเลือกเป็นเมนูอื่นที่ไม่ใช่ข้าวผัดครับ อาหารที่ผมได้เป็นแบบเซ็ทกล่องเล็กๆ (ลืมถ่ายรูป) เสริ์ฟพร้อมคุ๊กกี้ 1 ชิ้นและถั่วอบเกลือ 2 ถุง ผมจำชื่อเมนูไม่ได้ครับ ว่าเขาเรียกอะไร แต่หน้าตาดูธรรมดามากและไม่ค่อยมีสีสัน หลังจากที่ได้ลองชิมคำแรก "อื้อหือออ" รสชาติแบบว่า อธิบายไม่ถูกเลย มันๆ เค็มๆ แบบกล้ำกลืนฝืนกินมากครับ กินได้ประมาณ 3 คำ หันไปมองคนข้างๆที่สั่งเมนูเดียวกัน ปรากฏว่ากินไม่ได้เหมือนกัน เลยได้พากันนั่งกินคุ้กกี้กับถั่วอบเกลือแทน จากนั้นพนักงานก็บริการเครื่องดื่ม ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ น้ำผลไม้ น้ำเปล่าและน้ำอัดลม เหมือนสายการบินทั่วไปครับ
บินได้ประมาณ 1.50 นาที ก็ประกาศลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครับและก็ลงจอดได้อย่างปลอดภัยและนิ่มนวลครับ
สำหรับไฟท์ Kuala Lumpur–Bangkok (MH 774) ผมให้ 6/10 แล้วกันครับ เนื่องจากเครื่องเก่า ไม่มี PTV ไม่มี Entertainment อะไรเลยครับ ในส่วนรสชาติอาหารไม่ค่อยถูกปากเท่าไรครับ ถ้าเทียบกับสายการบิน full service เจ้าอื่น สำหรับไฟท์ International ที่บิน 2 ชั่วโมงนี่ ผมว่า Malaysia Airline ไม่ค่อยโอเคเท่าไรในเรื่องของอาหาร ( ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) เจ้าอื่นทำได้ดีกว่าเยอะมากและสายการบินนี้ต้องมาลุ้นซักหน่อยว่าจะได้นั่งเครื่องเก่าหรือเครื่องใหม่ครับ ส่วนพนักงานบริการก็โอเคครับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษครับ ส่วนกัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลครับ
[SR] รีวิวการเดินทางกับสายการบิน Malaysia Airline (MH)
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมจะมารีวิวสายการบิน Full service ของประเทศเพื่อนบ้านเรา Malaysia Airline นั่นเองครับ Malaysia Airline จัดเป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ซึ่งจัดอันดับโดย Skytrax แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตั้งแต่ที่ Malaysia Airline มีข่าวการหายไปของไฟท์ MH 370 และอุบัติเหตุของไฟท์ MH 017 ก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความปลอดภัยของสายการบิน Malaysia Airline อยู่เยอะพอสมควร แต่เนื่องจากผมต้องเดินทางไปทำงานที่มาเลเซีย 2 สัปดาห์ ทางบริษัทเป็นคนดำเนินการเรื่องการเดินทางและตั๋วเครื่องบิน รวมถึงลูกค้าขอให้เดินทางกลับในไฟท์เดียวกันด้วยสายการบิน Malaysia Airline ดังนั้นผมก็เลยต้องเดินทางด้วยสายการบิน “ว่าวกะลันตัน” อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย จริงๆตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวกระทู้นี้ แต่พอมาหาข้อมูลในพันทิป ผมเห็นว่าข้อมูลเกี่ยวกับ Malaysia Airline มีค่อนข้างน้อย ดังนั้นก็เลยถือโอกาสทำรีวิวซักหน่อย เพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆชาวพันทิปได้ลองอ่านกันครับ
รายละเอียดไฟท์ที่ผมจะเดินทาง คือ
1 Labuan - Kuala Lumpur (MH 2609) 12.05 - 14.25 PM,Boeing 737-800
Domestic Flight (ไฟท์บินภายในประเทศ) ชั้นธุรกิจหรือ Business Class
2 Kuala Lumpur - Bangkok (MH 774) 16.35 - 17.40 PM,Boeing 737-800
International Flight (ไฟท์บินระหว่างประเทศ) ชั้นประหยัดหรือ Economy Class
เริ่มต้นกันด้วยภาพเมืองลาบวนซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กของประเทศมาเลเซียและอยู่ไม่ไกลจากประเทศบรูไนมาก บรรยากาศของลาบวนก็คล้ายกับบ้านเราครับ แต่ที่ผมประทับใจอย่างหนึ่งก็คือ ที่ลาบวนเก็บสายไฟลงใต้ดิน ทำให้ทัศนียภาพของเมืองดูสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
หลังจากนั่งรถกับทีมคณะทำงานไม่นาน ก็มาถึงสนามบินลาบวน หรือ Labuan Airport ซึ่งเป็นสนามบินเล็กๆ แต่ก็ออกแบบได้สวยงามและคลาสสิคดีครับ
เคาเตอร์เชคอินที่สนามบินลาบวน ผมเห็นมีแค่เคาเตอร์ของสายการบิน คือ Malaysia Airline กับ Air Asia เท่านั้นครับ ซึ่งผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปภายในสนามบินไว้มากเท่าไรนะครับ แต่สำหรับผมแล้วก็ถือว่าประทับใจเพราะการบริการของพนักงานประจำเคาเตอร์ดีเลยทีเดียวครับ พนักงานหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสและพูดภาษาอังกฤษได้ดี เนื่องจากที่นี่เป็นสนามบินเล็กๆ คนก็จะไม่พลุกพล่านมาก ทำให้การเช๊คอินเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ผมก็เลยถือโอกาสโหลดกระเป๋าตั้งแต่ลาบวนถึงสุวรรณภูมิเลยครับ
นั่งรอในสนามบินซักพัก พนักงานก็ประกาศให้ Boarding ได้ ในระหว่างทางเดินขึ้นเครื่องนั้น เราก็จะมองเห็นโลโก้ว่าวกะลันตันบนเครื่องบิน Boeing 737-800 ซึ่งจอดรออยู่และที่สำคัญไฟท์นี้พิเศษหน่อยครับเพราะผมได้ที่นั่งเป็นชั้นธุรกิจหรือ Business Class นั่นเองครับ
พอขึ้นบนเครื่องเสร็จ ก็จัดการเก็บสัมภาระบน overhead compartment จากนั้นก็นั่งประจำที่และรัดเข็มขัดตามคำแนะนำของลูกเรือ สำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจตกแต่งด้วยเบาะโทนสีน้ำเงินเข้ม "ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังเข้าสู่โหมดของความสงบและเงียบสงัดอย่างลุ่มลึก" อารมณ์ประมาณนั้นครับ สำหรับที่นั่งก็กว้างสะดวกสบายตามมาตรฐานชั้นธุรกิจทั่วไป ช่องห่างระหว่างที่นั่งกว้างพอสมควร คนตัวเตี้ยๆอย่างผมเหยียดขาได้สบายๆเลยครับ เครื่องค่อนข้างใหม่และมี PTV ถือว่าผ่านมากมายสำหรับไฟท์บินภายในประเทศที่ต้องเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
คู่มือความปลอดภัยของเครื่องบินบ่งบอกว่าเป็น Boeing 737-800 พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยในที่เก็บของหน้าที่นั่ง หลังจากนั้นพนักงานก็เริ่มบริการผ้าร้อนและสอบถามเมนูอาหารครับ ผมเลือกเป็นเมนูบะหมี่ปลาไปครับเพราะน่าจะกินได้ง่ายดี ต่อจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มเปิดวีดิโอสาธิตความปลอดภัยครับ
หลังจากกัปตันประกาศว่า "Cabin Crew Prepare for Take Off" เครื่องบินก็ค่อยๆไต่ระดับทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ในวันที่ผมเดินทางอากาศดีและท้องฟ้าแจ่มใสมากครับ
เมื่อสัญญานรัดเข็มขัดได้ดับลง พนักงานก็เริ่มแจกถั่วอบเกลือ 2 ห่อ กับเครื่องดื่มที่ผมได้สั่งไว้ คือ ชาเขียวร้อน นั่นเองครับ ถั่วอบเกลือรสชาติออกมันๆเค็มๆอร่อยดี แต่ผมว่าถั่วแข็งไปหน่อยครับ ส่วนชาเขียวร้อน รสชาติออกหวานนิดๆ ซ่อนขมหน่อยๆ ตัดกับอากาศที่ค่อนข้างเย็นในห้องโดยสาร ทำให้ฟินกันไปเลยทีเดียว
ในระหว่างรออาหารนั้นเราก็ต้องมาสำรวจ Entertainment กันหน่อยครับ ทุกที่นั่งทั้งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดจะมี PTV สีขาว ตัดกับเบาะสีน้ำเงินเข้มอย่างลงตัว ข้างในมีหนังและเพลงใหม่ๆเพียบครับ ผมนั่งฟังเพลงของ Adel นักร้องคนโปรดของผม+ดูหนังเรื่อง Spectre 007 แต่เสียดายดูหนังไม่จบเพราะถึงกัวลาลัมเปอร์ก่อน เลยกะว่าจะไปดูต่อไฟล์จากกัวลาลัมเปอร์มายังกรุงเทพมหานคร
จากนั้นพนักงานก็เริ่มเสริ์ฟอาหาร ซึ่งมาเป็นเซทแบบนี้เลยนะครับ ในเซทก็จะมีบะหมี่ปลาราดซอสอะไรซักอย่าง รสชาติออกหวานเผ็ดเค็ม ก็ถือว่าอร่อยดีครับ แต่เส้นบะหมี่แห้งไปหน่อย เสริ์ฟพร้อมกับสลัดกุ้งซอสเลมอน สลัดกุ้งรสชาติจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ อย่างไงบอกไม่ถูก แต่ก็ถือผ่านครับ มีของหวานเป็นชีทเค้กส้ม อันนี้ผมชอบมากกกก เค้กนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปากเลยยย รสชาติเลี่ยนๆของชีทตัดกับซอสส้มที่หวานอมเปรี้ยวช่างเป็นอะไรที่ลงตัวมากครับ ผมซัดซะเกลี้ยงเลยครับ อยากบอกว่าอิ่มและแน่นท้องมากมาก จนไม่ได้ไม่ลองขนมปังกระเทียมกับขนมปังธัญญาพืชของเขาเลยครับ นั่งเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็เดินทางมาถึง KL International Airport ครับเพื่อรอต่อเครื่องกลับกรุงเทพมหานคร ไฟท์นี้กัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลครับ
สำหรับไฟท์แรกจาก Labuan–Kuala Lumpur (MH 2609) โดยรวมถือว่าประทับใจครับ ผมให้คะแนน 9/10 พนักงานบนเครื่องบริการได้ดี แต่จะดูขรึมๆหน่อย จนบางทีเราไม่กล้าขอพวกเครื่องดื่มเพิ่ม (หรือเราคิดไปเองรึป่าวไม่รู้นะครับ 555) ผ้าร้อนที่แจกในตอนแรกค่อนข้างผืนเล็กไปหน่อย ส่วนที่นั่งก็สะดวกสบาย ไม่อึดอัดครับ เครื่องบินค่อนข้างใหม่ มี PTV และ Entertainment ครบครัน ทั้งหนังและเพลง รสชาติอาหารถือว่าเหมาะสำหรับชาวต่างชาติอย่างผม แต่ขนมปังดูไม่น่ากินเท่าไรครับ ผมว่าการจัดเซทอาหารของ TG ไฟท์บินในประเทศสำหรับชั้นธุรกิจทำได้ดีกว่านี้ครับ แต่โดยภาพรวมผมก็ค่อนข้างประทับใจครับ ที่สำคัญกัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลสำหรับไฟท์นี้
มาต่อกันที่ไฟท์ Kuala Lumpur–Bangkok (MH 774) บินด้วยเครื่องบิน Boeing 737-800 เครื่องนี้แหละที่จะพาผมกลับไทย แต่ไฟท์นี้ผมนั่งในชั้นประหยัดนะครับ มาดูกันว่า International flight ของ Malaysia Airline จะเป็นไงบ้าง ไฟท์นี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้เท่าไร กะว่าขึ้นครื่องก็จะดูหนัง Spectre 007 ให้จบครับ พนักงานเริ่มประกาศให้ Boarding ผู้โดยสายก็ทะยอยขึ้นเครื่องกัน ไฟท์นี้เกือบเต็มทุกที่นั่งครับ สิ่งแรกที่เจอก็คือ ข้างในเครื่องค่อนข้างเก่าและที่สำคัญ ไม่มี PTV ด้วยครับ เห้ยยย วัยรุ่นซ็งเลยอะ อุตส่าห์ว่าจะดูหนังต่อซักหน่อย อดดด !! เป็นไฟท์ International ที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ บินแค่ 2 ชั่วโมงเอง
โชคดีหน่อยตอนเช๊คอินล่วงหน้าที่สนามบินลาบวน ผมเลือกที่นั่งติดทางออกฉุกเฉิน ทำให้มีที่เหยียดขาพอสมควร ไม่รู้สึกอึดอัดมากครับ สำหรับ 2 ชั่วโมงถือว่าสบายมากครับ หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า ไต่ระดับจนได้ความสูงที่เหมาะสมแล้ว สัญญารัดเข็มขัดก็ดับลง พนักงานก็เริ่มบริการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนที่นั่งเบาะข้างหน้าได้อาหารก่อน แอบมากระซิบบอกว่าอย่าสั่งข้าวผัดเด็ดขาด เพราะรสชาติมันกินไม่ได้ว่างั้น ผมก็เลยเลือกเป็นเมนูอื่นที่ไม่ใช่ข้าวผัดครับ อาหารที่ผมได้เป็นแบบเซ็ทกล่องเล็กๆ (ลืมถ่ายรูป) เสริ์ฟพร้อมคุ๊กกี้ 1 ชิ้นและถั่วอบเกลือ 2 ถุง ผมจำชื่อเมนูไม่ได้ครับ ว่าเขาเรียกอะไร แต่หน้าตาดูธรรมดามากและไม่ค่อยมีสีสัน หลังจากที่ได้ลองชิมคำแรก "อื้อหือออ" รสชาติแบบว่า อธิบายไม่ถูกเลย มันๆ เค็มๆ แบบกล้ำกลืนฝืนกินมากครับ กินได้ประมาณ 3 คำ หันไปมองคนข้างๆที่สั่งเมนูเดียวกัน ปรากฏว่ากินไม่ได้เหมือนกัน เลยได้พากันนั่งกินคุ้กกี้กับถั่วอบเกลือแทน จากนั้นพนักงานก็บริการเครื่องดื่ม ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ น้ำผลไม้ น้ำเปล่าและน้ำอัดลม เหมือนสายการบินทั่วไปครับ
บินได้ประมาณ 1.50 นาที ก็ประกาศลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครับและก็ลงจอดได้อย่างปลอดภัยและนิ่มนวลครับ
สำหรับไฟท์ Kuala Lumpur–Bangkok (MH 774) ผมให้ 6/10 แล้วกันครับ เนื่องจากเครื่องเก่า ไม่มี PTV ไม่มี Entertainment อะไรเลยครับ ในส่วนรสชาติอาหารไม่ค่อยถูกปากเท่าไรครับ ถ้าเทียบกับสายการบิน full service เจ้าอื่น สำหรับไฟท์ International ที่บิน 2 ชั่วโมงนี่ ผมว่า Malaysia Airline ไม่ค่อยโอเคเท่าไรในเรื่องของอาหาร ( ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) เจ้าอื่นทำได้ดีกว่าเยอะมากและสายการบินนี้ต้องมาลุ้นซักหน่อยว่าจะได้นั่งเครื่องเก่าหรือเครื่องใหม่ครับ ส่วนพนักงานบริการก็โอเคครับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษครับ ส่วนกัปตันลงจอดได้อย่างนิ่มนวลครับ