เมื่อวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2559 ท่าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการบริหารและขับเคลื่อนการพัฒนาฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ได้เชิญ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ไปเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ ดร.โสภณ ได้เสนอแนวคิดการพัฒนาแฟลตดินแดง ดร.โสภณ จึงขอขยายความไว้ดังนี้:
1. ที่จะสร้างแฟลตใหม่ให้ชาวแฟลตดินแดงที่เช่าอยู่ในปัจจุบันอยู่ต่อไปในราคาต่ำกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัวนั้น รัฐบาลควรกำหนดให้แน่ชัดว่าจะให้อยู่ต่อไปอีกกี่ปี ไม่ใช่อยู่ต่อไปชั่วกัลปาวสาน พอในอีก 50 ปีข้างหน้า ตึกเก่าแล้ว ก็สร้างให้อยู่อีก อย่างนี้เป็นการเอาเปรียบสังคม สร้างภาระแก่สังคม กลายเป็นอภิสิทธิ์ชนที่อ้างความจนมาเอาสมบัติของแผ่นดินไปครอบครองอย่างน่าละอาย ในข้อนี้ ควรกำหนดให้อยู่ต่อไป 10 ปี ถ้าเกินกว่านั้นต้องเช่าตามราคาตลาดเหมือนคนทั่วไป ถ้าไม่สามารถเช่าได้ เช่น ฐานะไม่ดี อายุมากแล้วและอยู่ตัวคนเดียว ก็ควรไปอยู่สถานสงเคราะห์ที่รัฐจัดให้ เอาห้องนั้นให้คนจนอื่นได้อยู่ต่อไป เป็นต้น
2. รัฐบาลควรป้องกันการเซ้งสิทธิเช่นที่ผ่านมา โดยเซ้งกันในราคาห้องละ 400,000 บาท (ตามคำบอกเล่าของท่านรัฐมนตรีเอง) หากพบว่ามีการเซ้งสิทธิ หรือปล่อยเช่าหาผลประโยชน์ ก็ให้ผู้เช่าเดิมที่ย้ายขึ้นแฟลตใหม่นี้เสียสิทธิไปในทันที เพื่อนำห้องเช่าเหล่านั้นไปให้คนจนอื่นอยู่ หรือให้เช่าในราคาตลาด นำกำไรมาพัฒนาประเทศต่อไป
3. ค่าดูแลชุมชน ควรจัดเก็บให้คุ้มกับการดำเนินการ ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติแทบเก็บไม่ได้ ทำให้การดูแลไม่ได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งในการนี้ท่านรัฐมนตรีชี้แจงว่าจะมีการเก็บค่าดูแลชุมชนตารางเมตรละ 25 บาท ซึ่ง ดร.โสภณ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ถือว่าสมเหตุสมผลกับอาคารพักอาศัยประเภทนี้
4. ที่ว่าการสร้างแฟลตนี้จะให้ก่อสร้างเพิ่มจำนวนหน่วยให้ข้าราชการและประชาชนทั่วไปอยู่ นับเป็นความคิดที่ดีมาก แต่ในกรณีให้ข้าราชการอยู่นั้น สมควรให้เช่าในราคาตลาดทั่วไป ไม่สมควรให้ได้สิทธิพิเศษใด ๆ เพราะปรกติข้าราชการก็มีสวัสดิการที่ดีอยู่แล้ว จึงไม่ควรได้สิทธิพิเศษเหนือประชาชนเจ้าของประเทศ
5. ท่านรัฐมนตรีกล่าวว่าการพัฒนาโครงการนี้จะใช้เวลาประมาณ 8 ปี ดร.โสภณ จึงเสนอให้นักพัฒนาที่ดินภาคเอกชนเข้าร่วมการพัฒนานี้ โดยอาจให้ร่วมพัฒนาเป็นแปลง ๆ ไป เพื่อนำเงินรายได้เข้าคลังหลวงเพื่อนำมาพัฒนาประเทศต่อไป ข้อนี้จะทำให้รัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แถมยังได้รายได้เข้ามาอีกด้วย โดยรัฐเป็นเพียงผู้ออกค่าที่ดินเท่านั้น
จากการสังเกตการประชุมในครั้งนี้ ดร.โสภณ พบว่า "แกนนำ" แฟลตดินแดงเดิมไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย มีผู้แทนชาวชุมชนใหม่ ๆ เข้าร่วม ทั้งนี้เพราะท่านรัฐมนตรีกล่าวว่าแกนนำส่วนหนึ่ง เป็นผู้มีผลประโยชน์จากการให้เช่าช่วง หรือเซ้งแฟลต และได้ยุติบทบาทไปแล้ว เพราะท่านรัฐมนตรีใช้กฎหมายที่เป็นธรรมเข้าบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ข้อนี้แสดงให้เห็นว่ากระทรวงได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมแล้ว
ที่มา:
http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1409.htm
ดร.โสภณ เสนอ รมว.พม. เรื่องแฟลตดินแดง
1. ที่จะสร้างแฟลตใหม่ให้ชาวแฟลตดินแดงที่เช่าอยู่ในปัจจุบันอยู่ต่อไปในราคาต่ำกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัวนั้น รัฐบาลควรกำหนดให้แน่ชัดว่าจะให้อยู่ต่อไปอีกกี่ปี ไม่ใช่อยู่ต่อไปชั่วกัลปาวสาน พอในอีก 50 ปีข้างหน้า ตึกเก่าแล้ว ก็สร้างให้อยู่อีก อย่างนี้เป็นการเอาเปรียบสังคม สร้างภาระแก่สังคม กลายเป็นอภิสิทธิ์ชนที่อ้างความจนมาเอาสมบัติของแผ่นดินไปครอบครองอย่างน่าละอาย ในข้อนี้ ควรกำหนดให้อยู่ต่อไป 10 ปี ถ้าเกินกว่านั้นต้องเช่าตามราคาตลาดเหมือนคนทั่วไป ถ้าไม่สามารถเช่าได้ เช่น ฐานะไม่ดี อายุมากแล้วและอยู่ตัวคนเดียว ก็ควรไปอยู่สถานสงเคราะห์ที่รัฐจัดให้ เอาห้องนั้นให้คนจนอื่นได้อยู่ต่อไป เป็นต้น
2. รัฐบาลควรป้องกันการเซ้งสิทธิเช่นที่ผ่านมา โดยเซ้งกันในราคาห้องละ 400,000 บาท (ตามคำบอกเล่าของท่านรัฐมนตรีเอง) หากพบว่ามีการเซ้งสิทธิ หรือปล่อยเช่าหาผลประโยชน์ ก็ให้ผู้เช่าเดิมที่ย้ายขึ้นแฟลตใหม่นี้เสียสิทธิไปในทันที เพื่อนำห้องเช่าเหล่านั้นไปให้คนจนอื่นอยู่ หรือให้เช่าในราคาตลาด นำกำไรมาพัฒนาประเทศต่อไป
3. ค่าดูแลชุมชน ควรจัดเก็บให้คุ้มกับการดำเนินการ ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติแทบเก็บไม่ได้ ทำให้การดูแลไม่ได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งในการนี้ท่านรัฐมนตรีชี้แจงว่าจะมีการเก็บค่าดูแลชุมชนตารางเมตรละ 25 บาท ซึ่ง ดร.โสภณ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ถือว่าสมเหตุสมผลกับอาคารพักอาศัยประเภทนี้
4. ที่ว่าการสร้างแฟลตนี้จะให้ก่อสร้างเพิ่มจำนวนหน่วยให้ข้าราชการและประชาชนทั่วไปอยู่ นับเป็นความคิดที่ดีมาก แต่ในกรณีให้ข้าราชการอยู่นั้น สมควรให้เช่าในราคาตลาดทั่วไป ไม่สมควรให้ได้สิทธิพิเศษใด ๆ เพราะปรกติข้าราชการก็มีสวัสดิการที่ดีอยู่แล้ว จึงไม่ควรได้สิทธิพิเศษเหนือประชาชนเจ้าของประเทศ
5. ท่านรัฐมนตรีกล่าวว่าการพัฒนาโครงการนี้จะใช้เวลาประมาณ 8 ปี ดร.โสภณ จึงเสนอให้นักพัฒนาที่ดินภาคเอกชนเข้าร่วมการพัฒนานี้ โดยอาจให้ร่วมพัฒนาเป็นแปลง ๆ ไป เพื่อนำเงินรายได้เข้าคลังหลวงเพื่อนำมาพัฒนาประเทศต่อไป ข้อนี้จะทำให้รัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แถมยังได้รายได้เข้ามาอีกด้วย โดยรัฐเป็นเพียงผู้ออกค่าที่ดินเท่านั้น
จากการสังเกตการประชุมในครั้งนี้ ดร.โสภณ พบว่า "แกนนำ" แฟลตดินแดงเดิมไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย มีผู้แทนชาวชุมชนใหม่ ๆ เข้าร่วม ทั้งนี้เพราะท่านรัฐมนตรีกล่าวว่าแกนนำส่วนหนึ่ง เป็นผู้มีผลประโยชน์จากการให้เช่าช่วง หรือเซ้งแฟลต และได้ยุติบทบาทไปแล้ว เพราะท่านรัฐมนตรีใช้กฎหมายที่เป็นธรรมเข้าบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ข้อนี้แสดงให้เห็นว่ากระทรวงได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมแล้ว
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1409.htm