เกาะแสมสาร และเกาะขาม ได้ยินชื่อมานาน จนอยากมาเหยียบทะเลที่นี่สักครั้ง
เพราะถือว่าเป็นเกาะที่มีการอนุรักษ์ทะเลได้อย่างดี และมีอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเล

เราไม่รอช้า เมื่อได้ยินข่าวว่ามี สายการบินแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางใหม่
บินตรง จากสนามบินเชียงใหม่ มายัง สนามบิน อู่ตะเภา ชลบุรี
ราคาไม่ต้องพูดถึง ห้าร้อยกว่าบาท รวมภาษี ก็อยู่ที่ หกร้อยกว่าบาท งานนี้ไม่พลาด จองทันที ฮ่าๆๆ



เราขึ้นเครื่องบินจากเชียงใหม่ ในรอบเช้า พอมาถึง สนามบินอู่ตะเภา ก็เป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเปิด
มองรอบๆ ผู้คนมากมายต่างพากันมาเที่ยว และพักผ่อน กันอย่างมากมาย
สนามบินอู่ตะเภา ไม่ใหญ่มาก และกำลังมีการก่อสร้าง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา....

ระบบการขนส่งผู้โดยสาร จะเป็นรูปแบบของการเหมารถ เพื่อต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ค่าเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ จะค่อนข้างแพง
จะมีรถแท็กซี่  รถตู้ ราคาคนละ 250 บาทไปยังพัทยา ถ้าไปไกลกว่านั้นก็จะแพงมากขึ้น ตามการตกลงระหว่างเรากับผู้ไปส่ง



เราเลือกรถอยู่นาน เพราะไม่มีรถที่จะเข้าไปยังที่พัก
ท้ายสุด ก็ได้รถตู้ โดยเขาคิดคนละ 250 บาทไปยัง ประภาคารรีสอร์ท ช่องแสมสาร


พอถึงที่พัก ก็เก็บข้าวของ




และเดินดูบริเวณที่พักรอบๆ


มีมุมนั่งเล่น ดูวิวทะเลสวยๆ


ห้องพัก และบ้านมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับการการเลือกของเรา




สามารถเข้าไปดูรายละเอียดห้องพัก และจองไว้ก่อนได้ที่
http://prapakarnresort.com/
มีหลายแบบให้เราเลือก

หลังจากสำรวจเรื่องที่พัก และดูบรรยากาศรอบๆ แล้ว ก็ออกเดินทางไปกันต่อ การมาครั้งนี้
เราเลือก การใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ของช่องแสมสาร
จะเป็น คันสีฟ้า  ถ้าพักที่ ประภาคารรีสอร์ท สามารถขึ้นข้างหน้า ได้เลย
รถประจำทางจะมาทุก 5 -  10 นาที  โดยเส้นทางที่รถผ่าน จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด
ขึ้นตลอดสาย ราคาแค่ 10 บาทเท่านั้น


สถานที่แรกที่เราไป เราเลือกไปที่


ไปดูปลากัน ^__^ ค่าเข้าชม คนละ 20 บาท


มีปลาการ์ตูนทั้ง 6 กลุ่ม สายพันธุ์ มีการเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์ปลาการ์ตูน ชมปลาทะเลหลาก หลายชนิดใน
ฟาร์มแห่งนี้ยังเป็นแหล่งสะสมพันธุ์ปลาทะเลอยู่เกือบ 100 ชนิด
อาทิ ปลาหมอทะเล , ปลานก แก้ว , ปลาฉลาม , ปลาเก๋า , ปลาโนรี , ปลาช่อนทะเล และปลาขี้ตัง เป็นต้น


กฏของที่นี่ ดูได้อย่างเดียว ห้ามจับปลา ห้ามเอามือลงไปในบ่อเด็ดขาด


ต้องบอกว่ามาที่นี่ เราจะเห็น ปลาน่ารักๆ เยอะมากจริงๆ







วิวรอบๆ


เห็นความสวยงามของปลาพันธุ์ต่างๆ แล้วก็ได้เวลาไปหามุมพักผ่อน เราเลือกไปที่ หาดน้ำใส


การเดินทางไปหาดน้ำใส ก็ให้รอรถแถวข้างหน้าฟาร์มปลาการ์ตูน ถ้าเห็นรถสามล้อ ก็โบกเลย
และสอบถามเหมารถให้เขาไปส่ง ข้างใน เพราะว่า หาดน้ำใส เป็นหาดของหน่วยงานราชการ ไม่อนุญาตให้
รถโดยสารเขาไป จะต้องแลกบัตรประชาชน หรือมีบัตรผ่าน ถึงจะเข้าไปได้ แต่รถสามล้อส่วนใหญ่ จะมีบัตร
ซึ่งเข้าไปได้ง่ายๆ ราคา คนละ 30 บาท







หาดน้ำใส เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน มีร้านอาหารและเครื่องดื่มบริการมากมาย ราคาไม่แพง
เพราะเป็นการจัดการของหน่วยงานราชการทั้งหมด


หลังจากพักผ่อน จนสบายทั้งตัว ทั้งใจแล้วก็ได้เวลากลับที่พักกัน อาจจะสงสัยว่าจะกลับยังไง
เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่ เขามีรถส่วนตัวกันหมด เรามันคนไม่มีอะไร ฮ่าๆๆ ต้องเดินคะ
แต่เดินไปหา ร้านที่มีบริการนวด แถวๆ นั้น จะมีคุณป้า (รถสามล้อ) เขารับส่งนักท่องเที่ยวจาก หาดน้ำใส
ไปส่ง ที่คิวรถประจำทางสีฟ้า (แถวๆ นั้นจะมีของกินเพียบ) นั่งรอที่จุดรถประจำทางสัก 5 นาที
ก็จะมีรถผ่านมา และเราก็เดินทางกลับที่พักกัน ราคารถโดยสารเหมือนเดิม 10 บาท



เย็นๆๆ หิวๆๆๆ ไม่ต้องกังวล ข้างๆ ที่พัก เป็นตลาดๆๆๆๆ ชื่อว่า "ตลาดชาวเล" แน่นอนว่าต้องมีของทะเลสดๆ




ราคาไม่แพง เพราะสดจริงๆ


ของสดมาก เพราะหมู่บ้านช่องแสมสาร เกือบทั้งหมด ทำอาชีพประมง


ขึ้นชื่อว่าตลาด ของกินก็เลยมากมาย เราสามารถเลือกได้ตามสบาย


ได้ของทะลสดๆ แล้วก็เดินกลับมายังทีพัก ที่นี่มีบริการปิ้งย่าง จาน มีด อุปกรณ์ต่างๆ ด้วย คิดค่าบริการ 100 บาท


เย็นๆ บรรยากาศเย็นดี  พระอาทิตย์ตกดินก็สวยเหลือเกิน


นั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ ปล่อยใจไป ฟังเสียงน้ำทะเล ลมพัดเบาๆ จนง่วง......