(ผมขอแท็กห้องกล้องด้วยเพราะผมอยากให้ข้อมูลเรื่องถ่ายภาพไปด้วยนะครับ)
ประเทศจีนเป็นประเทศที่ผมเดินทางท่องเที่ยวบ่อยที่สุด เฉลี่ยประมาณสองปีไปครั้งหนึ่ง รวมแล้วก็นับครั้งไม่ถ้วน แต่เมืองจีนก็ยังมีอะไรน่าเที่ยว เย้ายวนใจให้กลับไปอีกได้เรื่อย ๆ
ครั้งล่าสุดนี้ก็เพิ่งจะไปมาเมื่อหลังสงกรานต์ คือวันที่ 23 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมานี้เอง ไปกัน 16 ชีวิต คนเยอะแบบนี้แบกเป้ไปกันเองไม่ไหวหรอกครับ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนชอบแบกเป้ตะลอน ๆ เอง แต่ทริปนี้ผมได้อาสาเพื่อน ๆ เป็นผู้จัดเสียเอง ไม่ได้เก่งกาจอะไร เพราะใช้บริการไกด์จีนทางโน้นให้มาเท็กแคร์ทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ทั้งรถบัส โรงแรม ค่าตั๋ว อาหารทุกมื้อ แต่โปรแกรมทัวร์ในแต่ละวันผมเป็นผู้กำหนดเอง โดยตกลงกันไว้ก่อนในช่วงเจรจาทางอินเตอร์เน็ต พอได้ราคาและเงื่อนไขที่น่าพอใจแล้วก็ตกลงใช้บริการของเขาเลย แล้วผมจะแนะนำไกด์คนนี้ให้นะครับ
ก่อนอื่นมาดูแผนที่เส้นทางในทริปนี้นะครับ เผื่อใครจะตามรอยจะได้ตามถูก พวกเราจองตั๋วสายการบินแอร์เอเซียมาลงที่ซีอาน ขากลับก็บินกลับไทยจากซีอานเช่นกัน จากซีอานเรานั่งรถไฟชั้นวีไอพีเตียงนุ่มห้องละ 4 คน ใช้เวลาเดินทาง 22 ชั่วโมงก็ไปถึงปลายทาง ณ เมืองตุนหวง มณฑลกานซู ที่สถานีรถไฟตุนหวงเราได้พบกับไกด์จีนพูดอังกฤษและรถบัสขนาดใหญ่ 50 ที่นั่ง ที่จะพาเราเที่ยวตลอด 8 วัน ต่อจากนี้ไป รถบัสหน้าตาแบบนี้ครับ ใหม่เอี่ยม กว้างเกินจำนวนคน พวกนั่งหลัง ๆ ก็ยึดที่นั่งกันไปคนละเบาะเลย
ทัวร์ของเราใช้เวลาท่องเที่ยวทั้งสิ้น 8 วัน ไปตามจุดเที่ยวที่น่าสนใจต่าง ๆ แต่ในตอนนี้ผมจะเน้นไปที่ภูเขาสายรุ้ง ตามหัวข้อกระทู้ที่จั่วไว้เท่านั้น ถ้ามีผู้สนใจผมจะทำรีวิวในส่วนอื่น ๆ ให้ชมต่อไปนะครับ
รถบัสพามาถึงเมืองจางเย่ในวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการเดินทางในมณฑลกานซู เราเข้าเช็คอินโรงแรมแบบธุรกิจ หรือเรียกว่าโรงแรมไร้ดาว แต่สภาพสวยงามสะอาดได้มาตรฐาน ค่าห้องผมเดาว่าคืนละพันถึงพันสองร้อยบาท แต่ผมไม่ได้ถามไกด์เพราะราคาที่พักรวมกับค่าทัวร์อยู่แล้ว ผมแนะนำโรงแรมให้เป็นไอเดียนะครับ โรงแรมอยู่ใกล้จตุรัสกลางเมืองเลย มีร้านค้า ห้างต่าง ๆ ให้เดินเล่นได้ด้วย
นามบัตรโรงแรม
ตรงจตุรัสกลางเมืองมีหอโบราณแบบนี้ โรงแรมอยู่ใกล้จตุรัสนี้เลย ผมว่าเป็นทำเลที่ดีครับ ภูเขาสายรุ้งอยู่นอกเมืองห่างออกไปราวรถวิ่ง 1 ชั่วโมง ยังไงเราก็ต้องพักในเมืองนะครับ การเดินทางไปอุทยาน ผมแนะนำว่าให้เหมาแท็กซี่ไปถ้ามากันพอเหมานะครับ ให้โรงแรมติดต่อรถให้ก็ได้ ส่วนรถสาธารณะผมเคยอ่านว่ามีเหมือนกันแต่ต้องไปขึ้นรถที่ท่ารถสถานีตะวันตก ค่ารถคนละ 10 หยวน ส่งถึงหน้าอุทยานด้านหลินเจ๋อตันเซี่ย คืออุทยานด้าน Rainbow Mountains เลยครับ
ทางเข้าอุทยานมีถึง 3 ทางเข้า แต่ละทางเข้าอยู่ห่างกันสิบกว่าถึงยี่สิบกว่ากิโลเมตร และบริหารจัดการแยกกัน เรียกว่าแข่งกันเลยก็ได้ ทางเข้าแรกและมีคนรู้จักมากที่สุดก็คือทางเข้าหลินเจ๋อตันเซี่ย (Rainbow Mountains) ทางเข้าที่สองคือซูหนานตันเซี่ย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ice Valley ทางเข้านี้อยู่ห่างจากทางเข้าแรก 20 กม. ไม่มีรถสาธารณะเชื่อมไปถึงนะครับ ต้องเหมาแท็กซี่ไป นับเป็นการจัดการที่ยังไม่ลงตัว คงเรื่องผลประโยชน์และการแข่งขันนั่นแหละครับ
ทางเข้าที่สามคือ บิงกัวตันเสี่ย BinGou Danxia อยู่ก่อนถึงทางเข้าแรก แต่ผมไม่ได้ไป อ่านในเวปท่องเที่ยวฝรั่งบอกว่าเป็นหมู่หินลักษณะแปลก ๆ ไม่มีสีสันสวยงามเท่า Rainbow Mountains
ค่าตั๋วเข้าอุทยานทั้งสามแห่งราคาเท่ากันคือ 40 หยวน และค่ารถไฟฟ้าของอุทยานอีกคนละ 20 หยวน ตั๋วแต่ละอุทยานเอาไปใช้กับอีกแห่งหนึ่งไม่ได้นะครับ
แนะนำสถานที่กันไปแล้ว ต่อไปจะพาเข้าอุทยานเลยนะครับ รถบัสพาพวกเราทั้ง 16 ชีวิตออกจากเมืองจางเย่ในเวลาประมาณ 16.00 น. ไปถึงทางเข้าอุทยานด้านซู่หนาน (ซู่หนานตันเสี่ย หรือ Ice Valley) ในเวลาประมาณ 17.00 น. ฤดูที่พวกเราไปนั้นพระอาทิตย์ตกช้ามากประมาณ 20.00 น. พวกเราก็ให้ไปถึงอุทยานในเวลาแสงอ่อน ๆ และอยากดูวิวช่วงพระอาทิตย์ตกด้วยน่ะครับ
ภาพทางเข้าอุทยานด้านซู่หนานตันเสี่ย
พอไปถึงก็ซื้อบัตรแล้วขึ้นรถไฟฟ้า อุทยานด้านนี้มีจุดจอดรถไฟฟ้าให้ชมวิวแค่สองจุดนะครับ จุดแรกไม่มีอะไรมากเป็นหินใหญ่แกะภาษาจีนเหมือนป้ายให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูป แต่จุดที่สองเป็นไฮไลท์ครับ แนะนำให้มาเวลาเย็น จะได้แสงสวยกว่ามาช่วงกลางวัน ชมภาพเลยนะครับ ผมขอใส่ข้อมูลถ่ายภาพไปด้วยเป็นแนวทางแก่ผู้ชอบการถ่ายภาพครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
รถไฟฟ้าจอดรอ ณ จุดจอดเบื้องล่าง พวกเราเดินขึ้นบันไดที่ทางอุทยานสร้างไว้ เดินไปหยุดถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ไม่ทันเหนื่อยก็มาถึงบนสุดของจุดชมวิว เวลาขณะนั้นราว 18.00 น. แต่ยังสว่าง แสงเริ่มอ่อน ๆ เฉียง ๆ ถ่ายภาพได้สวยเลยครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
อาศัยเพื่อนร่วมทริปเป็นส่วนประกอบภาพครับ
เสียดายไม่ได้เอาฟิลเตอร์ไปถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่วันนั้นดูแล้วท้องฟ้าไม่มีเมฆกรองแสงช่วยเลย พระอาทิตย์จ้ามาก แม้มองด้วยตาเปล่าก็ไม่สวยงามไม่เป็นไข่แดง ผมเลยอาศัยแสงตกกระทบทางด้านอื่นถ่ายเป็นแสงเฉียงดีกว่าครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F6.3 สปีด 1/100 iso 4000 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
เป็นภาพเพื่อน ๆ กำลังทะยอยเดินลงไปที่รถไฟฟ้า เวลานี้เริ่มโพล้เพล้แล้วครับ
มาถึงภาพสุดท้ายของอุทยานซู่หนานตันเสี่ย หรือ Ice Valley แล้ว เห็นท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตกสวยงามดี เวลาที่เรากลับไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับสู่ทางออกประมาณ 20.00 น. แล้วครับ
แล้วผมจะมาต่อส่วนของอุทยานภูเขาสายรุ้งนะครับ ขอพักยกก่อน รอติดตามนะครับ
[CR] Rainbow Mountains ภูเขาสายรุ้งสุดขอบฟ้า ไม่มาคงไม่รู้ว่ามันสีนี้จริง ๆ
(ผมขอแท็กห้องกล้องด้วยเพราะผมอยากให้ข้อมูลเรื่องถ่ายภาพไปด้วยนะครับ)
ประเทศจีนเป็นประเทศที่ผมเดินทางท่องเที่ยวบ่อยที่สุด เฉลี่ยประมาณสองปีไปครั้งหนึ่ง รวมแล้วก็นับครั้งไม่ถ้วน แต่เมืองจีนก็ยังมีอะไรน่าเที่ยว เย้ายวนใจให้กลับไปอีกได้เรื่อย ๆ
ครั้งล่าสุดนี้ก็เพิ่งจะไปมาเมื่อหลังสงกรานต์ คือวันที่ 23 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมานี้เอง ไปกัน 16 ชีวิต คนเยอะแบบนี้แบกเป้ไปกันเองไม่ไหวหรอกครับ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนชอบแบกเป้ตะลอน ๆ เอง แต่ทริปนี้ผมได้อาสาเพื่อน ๆ เป็นผู้จัดเสียเอง ไม่ได้เก่งกาจอะไร เพราะใช้บริการไกด์จีนทางโน้นให้มาเท็กแคร์ทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ทั้งรถบัส โรงแรม ค่าตั๋ว อาหารทุกมื้อ แต่โปรแกรมทัวร์ในแต่ละวันผมเป็นผู้กำหนดเอง โดยตกลงกันไว้ก่อนในช่วงเจรจาทางอินเตอร์เน็ต พอได้ราคาและเงื่อนไขที่น่าพอใจแล้วก็ตกลงใช้บริการของเขาเลย แล้วผมจะแนะนำไกด์คนนี้ให้นะครับ
ก่อนอื่นมาดูแผนที่เส้นทางในทริปนี้นะครับ เผื่อใครจะตามรอยจะได้ตามถูก พวกเราจองตั๋วสายการบินแอร์เอเซียมาลงที่ซีอาน ขากลับก็บินกลับไทยจากซีอานเช่นกัน จากซีอานเรานั่งรถไฟชั้นวีไอพีเตียงนุ่มห้องละ 4 คน ใช้เวลาเดินทาง 22 ชั่วโมงก็ไปถึงปลายทาง ณ เมืองตุนหวง มณฑลกานซู ที่สถานีรถไฟตุนหวงเราได้พบกับไกด์จีนพูดอังกฤษและรถบัสขนาดใหญ่ 50 ที่นั่ง ที่จะพาเราเที่ยวตลอด 8 วัน ต่อจากนี้ไป รถบัสหน้าตาแบบนี้ครับ ใหม่เอี่ยม กว้างเกินจำนวนคน พวกนั่งหลัง ๆ ก็ยึดที่นั่งกันไปคนละเบาะเลย
ทัวร์ของเราใช้เวลาท่องเที่ยวทั้งสิ้น 8 วัน ไปตามจุดเที่ยวที่น่าสนใจต่าง ๆ แต่ในตอนนี้ผมจะเน้นไปที่ภูเขาสายรุ้ง ตามหัวข้อกระทู้ที่จั่วไว้เท่านั้น ถ้ามีผู้สนใจผมจะทำรีวิวในส่วนอื่น ๆ ให้ชมต่อไปนะครับ
รถบัสพามาถึงเมืองจางเย่ในวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการเดินทางในมณฑลกานซู เราเข้าเช็คอินโรงแรมแบบธุรกิจ หรือเรียกว่าโรงแรมไร้ดาว แต่สภาพสวยงามสะอาดได้มาตรฐาน ค่าห้องผมเดาว่าคืนละพันถึงพันสองร้อยบาท แต่ผมไม่ได้ถามไกด์เพราะราคาที่พักรวมกับค่าทัวร์อยู่แล้ว ผมแนะนำโรงแรมให้เป็นไอเดียนะครับ โรงแรมอยู่ใกล้จตุรัสกลางเมืองเลย มีร้านค้า ห้างต่าง ๆ ให้เดินเล่นได้ด้วย
นามบัตรโรงแรม
ตรงจตุรัสกลางเมืองมีหอโบราณแบบนี้ โรงแรมอยู่ใกล้จตุรัสนี้เลย ผมว่าเป็นทำเลที่ดีครับ ภูเขาสายรุ้งอยู่นอกเมืองห่างออกไปราวรถวิ่ง 1 ชั่วโมง ยังไงเราก็ต้องพักในเมืองนะครับ การเดินทางไปอุทยาน ผมแนะนำว่าให้เหมาแท็กซี่ไปถ้ามากันพอเหมานะครับ ให้โรงแรมติดต่อรถให้ก็ได้ ส่วนรถสาธารณะผมเคยอ่านว่ามีเหมือนกันแต่ต้องไปขึ้นรถที่ท่ารถสถานีตะวันตก ค่ารถคนละ 10 หยวน ส่งถึงหน้าอุทยานด้านหลินเจ๋อตันเซี่ย คืออุทยานด้าน Rainbow Mountains เลยครับ
ทางเข้าอุทยานมีถึง 3 ทางเข้า แต่ละทางเข้าอยู่ห่างกันสิบกว่าถึงยี่สิบกว่ากิโลเมตร และบริหารจัดการแยกกัน เรียกว่าแข่งกันเลยก็ได้ ทางเข้าแรกและมีคนรู้จักมากที่สุดก็คือทางเข้าหลินเจ๋อตันเซี่ย (Rainbow Mountains) ทางเข้าที่สองคือซูหนานตันเซี่ย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ice Valley ทางเข้านี้อยู่ห่างจากทางเข้าแรก 20 กม. ไม่มีรถสาธารณะเชื่อมไปถึงนะครับ ต้องเหมาแท็กซี่ไป นับเป็นการจัดการที่ยังไม่ลงตัว คงเรื่องผลประโยชน์และการแข่งขันนั่นแหละครับ
ทางเข้าที่สามคือ บิงกัวตันเสี่ย BinGou Danxia อยู่ก่อนถึงทางเข้าแรก แต่ผมไม่ได้ไป อ่านในเวปท่องเที่ยวฝรั่งบอกว่าเป็นหมู่หินลักษณะแปลก ๆ ไม่มีสีสันสวยงามเท่า Rainbow Mountains
ค่าตั๋วเข้าอุทยานทั้งสามแห่งราคาเท่ากันคือ 40 หยวน และค่ารถไฟฟ้าของอุทยานอีกคนละ 20 หยวน ตั๋วแต่ละอุทยานเอาไปใช้กับอีกแห่งหนึ่งไม่ได้นะครับ
แนะนำสถานที่กันไปแล้ว ต่อไปจะพาเข้าอุทยานเลยนะครับ รถบัสพาพวกเราทั้ง 16 ชีวิตออกจากเมืองจางเย่ในเวลาประมาณ 16.00 น. ไปถึงทางเข้าอุทยานด้านซู่หนาน (ซู่หนานตันเสี่ย หรือ Ice Valley) ในเวลาประมาณ 17.00 น. ฤดูที่พวกเราไปนั้นพระอาทิตย์ตกช้ามากประมาณ 20.00 น. พวกเราก็ให้ไปถึงอุทยานในเวลาแสงอ่อน ๆ และอยากดูวิวช่วงพระอาทิตย์ตกด้วยน่ะครับ
ภาพทางเข้าอุทยานด้านซู่หนานตันเสี่ย
พอไปถึงก็ซื้อบัตรแล้วขึ้นรถไฟฟ้า อุทยานด้านนี้มีจุดจอดรถไฟฟ้าให้ชมวิวแค่สองจุดนะครับ จุดแรกไม่มีอะไรมากเป็นหินใหญ่แกะภาษาจีนเหมือนป้ายให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูป แต่จุดที่สองเป็นไฮไลท์ครับ แนะนำให้มาเวลาเย็น จะได้แสงสวยกว่ามาช่วงกลางวัน ชมภาพเลยนะครับ ผมขอใส่ข้อมูลถ่ายภาพไปด้วยเป็นแนวทางแก่ผู้ชอบการถ่ายภาพครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
รถไฟฟ้าจอดรอ ณ จุดจอดเบื้องล่าง พวกเราเดินขึ้นบันไดที่ทางอุทยานสร้างไว้ เดินไปหยุดถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ไม่ทันเหนื่อยก็มาถึงบนสุดของจุดชมวิว เวลาขณะนั้นราว 18.00 น. แต่ยังสว่าง แสงเริ่มอ่อน ๆ เฉียง ๆ ถ่ายภาพได้สวยเลยครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F8 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
อาศัยเพื่อนร่วมทริปเป็นส่วนประกอบภาพครับ
เสียดายไม่ได้เอาฟิลเตอร์ไปถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่วันนั้นดูแล้วท้องฟ้าไม่มีเมฆกรองแสงช่วยเลย พระอาทิตย์จ้ามาก แม้มองด้วยตาเปล่าก็ไม่สวยงามไม่เป็นไข่แดง ผมเลยอาศัยแสงตกกระทบทางด้านอื่นถ่ายเป็นแสงเฉียงดีกว่าครับ
Sony A6000+ lens CZ16 - 70 F4 ถ่ายที่ F6.3 สปีด 1/100 iso 4000 ถ่ายไฟล์ RAW แต่งภาพใน photoshop
เป็นภาพเพื่อน ๆ กำลังทะยอยเดินลงไปที่รถไฟฟ้า เวลานี้เริ่มโพล้เพล้แล้วครับ
มาถึงภาพสุดท้ายของอุทยานซู่หนานตันเสี่ย หรือ Ice Valley แล้ว เห็นท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตกสวยงามดี เวลาที่เรากลับไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับสู่ทางออกประมาณ 20.00 น. แล้วครับ
แล้วผมจะมาต่อส่วนของอุทยานภูเขาสายรุ้งนะครับ ขอพักยกก่อน รอติดตามนะครับ