คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมไม่เคยเปิดคาเฟ่แมวนะครับ แต่ก็คลุกคลีกับคนที่ทำธุรกิจคาเฟ่แมว 2 - 3 รายครับ
อาจจะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ได้บ้าง
ขอเริ่มที่ตอบคำถามก่อนละกันนะครับ
1. เราอยากตกแต่งคาเฟ่เราควรไปหาซื้อของตกแต่งที่ไหนดีค่ะ ที่มีดีไซน์น่ารักๆ และก็สามารถสื่ออารมณ์ถึงน้องแมวได้
ตอบ : (จริงๆระบุยากนะครับเพราะ คุณ จขกท.ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน) ถ้าของชิ้นเล็กๆก็สั่งตามเวปทั่วไปครับ ถูกว่าเดินไปซื้อจากร้าน
แต่ถ้าจะซื้อเยอะๆ(ในแง่จำนวนชิ้นนะครับ)ก็ไปดูที่ร้านแล้วต่อรองราคาเลยครับ ฅ
ส่วนงานตกแต่งภายในโดยมากเป็นงาน Build-in / งาน Made by order ครับ คงต้องคุยกับทางช่างเอง
หรือไปซื้อของมาประยุกต์เองครับ
** บาลานซ์เงินต้นทุนค่าตกแต่งร้านดีๆนะครับ อย่าไปลงเยอะมากจนเงินทุนเหลือไม่มาก และอย่าลงน้อยไปจนร้านโล่งๆ
จริงๆพวกนี้ลองเปิดหาไอเดียตามเนท หรือดูรูปสวยจาก Pinterest เป็นไอเดียวแล้วมาดัดแปลงได้ครับ
ลองหาไอเดียที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ทำให้ร้านโดดเด่นจากร้านอื่น หรือมีกิมมิคของร้านครับ **
2.เราควรเลือกเมนูอาหารอย่างไร เพื่อที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าท่านอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้อยากมาเล่นกับแมว เข้ามาใช้บริการที่ร้านด้วย ควรมีทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารด้วยรึป่าว และขนม อาหาร หรือเครื่องดื่ม
ตอบ : ขึ้นกับงบประมาณ และการจัดการครับ บางที่ก็มีเฉพาะขนม - เครื่องดื่ม - ของกินเล่น บางที่มีอาหารง่ายๆเพิ่มมาด้วย
บางที่ก็มีอาหาร-เครื่องดื่มที่มีการตกแต่งแบบน่ารักๆเพิ่มมูลค่าไปอีก
มีย่อมดีกว่าไม่มีครับ แต่มีแล้วคุ้มหรือไม่คุ้ม ถ้าจะมีต้องลงทุนเพิ่มมากน้อยแค่ไหน อันนี้เจ้าของกิจการคงต้องประเมินเองครับ
แล้วต้องระลึกเสมอครับว่า ราคาอาหาร-เครื่องดื่มที่ขายในร้านไม่ได้มีต้นทุนเฉพาะค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าน้ำ-ไฟ ค่าสถานที่นะครับ
มันมีค่าแมว ค่าดูแลแมว ค่าอุปกรณ์ต่างๆที่พิเศษขึ้นมา รวมถึงค่าตกแต่งที่เราคงต้องพิเศษกว่าร้านกาแฟทั่วไปนะครับ
แล้วการที่บอกว่าทำไม่เป็น แล้วมีแนวโน้มว่าจะไม่ทำ
ลองคิดนะครับว่าเราไม่ได้เปิดร้านขายอาหาร ไม่ได้เปิดร้านขายกาแฟ แบบปกติ
เราเปิดคาเฟ่แมว เรามีจุดขายของธุรกิจเราอยู่แล้ว ทำไมเลือกจะไม่เอาจุดเด่นมาใช้ละครับ?
ทำไม่เป็นก็ควรลองทำครับ เป็นการเพิ่มมูลค่าของเรา โดยที่ต้นทุนเราอาจจะไม่ได้เพิ่มอะไรมากมายครับ
(ลองคิดถึงรีวิวพวก คิตตี้คาเฟ่ หรือ คาเฟ่ที่มีกิมมิคดูครับ)
กรณีลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ
สมมติผมไปคาเฟ่แมว เจอข้าวผัดจานละ 80 - 100 บาท (ซึ่งถือว่าราคาแพงในระดับหนึ่ง) แต่เมื่อร้านยกมาเสิร์ฟ
- เจอข้าวผัดหน้าตาบ้านๆ เหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ความคิดว่าไม่คุ้มค่า และร้านขายแพงจะพุ่งขึ้นมาทันที
สิ่งทีจะตามมาคือ ถ้าชอบที่นี่มาคราวหน้าไม่สั่งดีกว่า => ไม่ได้ขาย หรือ ที่นี่ขายแพงไม่มาดีกว่า => เสียลูกค้า
- เจอข้าวผัดที่ตกแต่งน่ารักๆ ที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย เสียเวลาอีกนิดหน่อย
(พวกนี้มีอุปกรณ์ตัวช่วยให้ทำง่ายๆ ตลอดจนวิธีการตกแต่ง Youtube หรือเวปสอนเพียบครับ)
เราจะรู้สึกว่า เออ ราคามันก็สูงแฮะ แต่ก็พอรับได้นะ เพราะของที่เราได้มามันให้ความรู้สึกว่า "พิเศษ" กว่าทั่วๆไป
ถ้าไม่ตั้งราคาสูงเกินไป => การตัดสินใจของลูกค้ายากขึ้น กับทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้ม => โอกาสในการกลับมาใช้บริการ/สั่งอาหารสูง
มันน่าจะโอเคกว่าไหมครับ?
3. การทำคาเฟ่แมว มีข้อควรระมัดระวังอะไรบ้างค่ะ และสิ่งที่เราต้องคำนึงเป็นหลักเลยมีอะไรบ้าง
ตอบ : แสนล้านสิ่งครับ
- ข้อควรระวังของร้านอาหาร / ร้านกาแฟทั่วไป
เรื่องการคุมต้นทุน การจัดสรรแบ่งส่วนเงินทุน การกำหนดราคาขาย เงินหมุนเวียนภายในร้าน เงินทุนสำรอง
การบริหารจัดการภายใน การกำหนดหลุ่มลูกค้า และตั้งราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
การทำบัญชีรับ-จ่าย (ซึ่งมันจะจุกจิกขึ้นเยอะครับ เพราะต้นทุนหลายๆอย่างวิ่ง หรือมาทุกวัน
รวมถึงเรื่องการเสียภาษีต่างๆ การไปขออนุญาตต่างๆอีก)
รวมถึงการหาจุดเด่น การวางแผนตลาดที่จะมาแข่งกับคู่แข่งในพื้นที่ใกล้เคียง ฯลฯ
ยังไม่นับเรื่องของรสชาติอาหาร / กาแฟ ความหลากหลายของเมนู ฯลฯ
...ลองไล่อ่านกระทู้เรื่องการเปิดร้านกาแฟ / ร้านอาหารในนี้ จะเห็นข้อควรระวังอะไรเยอะแยะมากมายครับ
- เรื่องของการมีแมว
คาเฟ่แมว ดังนั้นจุดขายคือแมว ดังนั้นแมวโทรมๆ ขนเปื้อนๆ เป็นมันๆกลีบๆ ขนร่วง ขนพันกันเป็นก้อนๆ หน้าตาอมโรค เราอยากไปเล่นด้วยไหม?
ดังนั้นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องการอาบน้ำ การทำความสะอาด การดูแลตัวแมว ต้องเพิ่มขึ้นมาละครับ
ตรงนี้ใครจะทำ เจ้าของ? คุณแม่? หรือต้องจ้างคนมาช่วย?
แล้วแมวคือสิ่งมีชีวิตครับ มีกิน มีขับถ่าย มีอารมณ์ดี มีอารมณ์เสีย มีกัดกัน มีป่วย
ปัญหาที่ต้องคิดใครให้อาหาร? อึแล้วใครตามเก็บ? ต้องวางกะบะทรายที่ไหน? กะบะทรายบ้านๆใช้ได้ไหม? ลูกค้ากินข้าวไปดมขี้แมวไปได้ไหม?
อาหารแมววางที่ไหน? แมวขนร่วงมาใครทำความสะอาด? ทำความสะอาดถี่แค่ไหน? ทำยังไง?
แล้วปัญหาที่สำคัญกว่านั้นคือ ทำยังไงแมวเราจะไม่ป่วย (ทั้งจากป่วยเอง หรือ ลูกค้านำมาติด)
ซึ่งจะตามาด้วยเราจะตั้งกฏอย่างไรที่จะทำให้แมวเราปลอดภัย และลูกค้าไม่อึดอัดครับ
มีโจทย์ให้แก้ ให้คิดเยอะมากครับ คุณเจ้าของลอง list มาแล้ว ลองวางแผนรับมือไว้ครับ
ปล. แต่ที่คุยๆกับเจ้าของกิจการ ต่างบอกว่าเหนื่อยมาก บางเจ้าพอไหวมีกำไรบ้าง บางเจ้าบางเดือนมีติดตัวแดง แต่จะถอยก็ลำบากครับ
เจ้าที่เหนื่อยคือเงินทุนน้อย มาทีหลัง เจ้าที่อยู่ได้สบายหน่อยก้เป็นเจ้าที่ตั้งแรกๆ ทำจนคืนทุนไปเกือบหมดแล้วครับ
อาจจะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ได้บ้าง
ขอเริ่มที่ตอบคำถามก่อนละกันนะครับ
1. เราอยากตกแต่งคาเฟ่เราควรไปหาซื้อของตกแต่งที่ไหนดีค่ะ ที่มีดีไซน์น่ารักๆ และก็สามารถสื่ออารมณ์ถึงน้องแมวได้
ตอบ : (จริงๆระบุยากนะครับเพราะ คุณ จขกท.ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน) ถ้าของชิ้นเล็กๆก็สั่งตามเวปทั่วไปครับ ถูกว่าเดินไปซื้อจากร้าน
แต่ถ้าจะซื้อเยอะๆ(ในแง่จำนวนชิ้นนะครับ)ก็ไปดูที่ร้านแล้วต่อรองราคาเลยครับ ฅ
ส่วนงานตกแต่งภายในโดยมากเป็นงาน Build-in / งาน Made by order ครับ คงต้องคุยกับทางช่างเอง
หรือไปซื้อของมาประยุกต์เองครับ
** บาลานซ์เงินต้นทุนค่าตกแต่งร้านดีๆนะครับ อย่าไปลงเยอะมากจนเงินทุนเหลือไม่มาก และอย่าลงน้อยไปจนร้านโล่งๆ
จริงๆพวกนี้ลองเปิดหาไอเดียตามเนท หรือดูรูปสวยจาก Pinterest เป็นไอเดียวแล้วมาดัดแปลงได้ครับ
ลองหาไอเดียที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ทำให้ร้านโดดเด่นจากร้านอื่น หรือมีกิมมิคของร้านครับ **
2.เราควรเลือกเมนูอาหารอย่างไร เพื่อที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าท่านอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้อยากมาเล่นกับแมว เข้ามาใช้บริการที่ร้านด้วย ควรมีทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารด้วยรึป่าว และขนม อาหาร หรือเครื่องดื่ม
ตอบ : ขึ้นกับงบประมาณ และการจัดการครับ บางที่ก็มีเฉพาะขนม - เครื่องดื่ม - ของกินเล่น บางที่มีอาหารง่ายๆเพิ่มมาด้วย
บางที่ก็มีอาหาร-เครื่องดื่มที่มีการตกแต่งแบบน่ารักๆเพิ่มมูลค่าไปอีก
มีย่อมดีกว่าไม่มีครับ แต่มีแล้วคุ้มหรือไม่คุ้ม ถ้าจะมีต้องลงทุนเพิ่มมากน้อยแค่ไหน อันนี้เจ้าของกิจการคงต้องประเมินเองครับ
แล้วต้องระลึกเสมอครับว่า ราคาอาหาร-เครื่องดื่มที่ขายในร้านไม่ได้มีต้นทุนเฉพาะค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าน้ำ-ไฟ ค่าสถานที่นะครับ
มันมีค่าแมว ค่าดูแลแมว ค่าอุปกรณ์ต่างๆที่พิเศษขึ้นมา รวมถึงค่าตกแต่งที่เราคงต้องพิเศษกว่าร้านกาแฟทั่วไปนะครับ
แล้วการที่บอกว่าทำไม่เป็น แล้วมีแนวโน้มว่าจะไม่ทำ
ลองคิดนะครับว่าเราไม่ได้เปิดร้านขายอาหาร ไม่ได้เปิดร้านขายกาแฟ แบบปกติ
เราเปิดคาเฟ่แมว เรามีจุดขายของธุรกิจเราอยู่แล้ว ทำไมเลือกจะไม่เอาจุดเด่นมาใช้ละครับ?
ทำไม่เป็นก็ควรลองทำครับ เป็นการเพิ่มมูลค่าของเรา โดยที่ต้นทุนเราอาจจะไม่ได้เพิ่มอะไรมากมายครับ
(ลองคิดถึงรีวิวพวก คิตตี้คาเฟ่ หรือ คาเฟ่ที่มีกิมมิคดูครับ)
กรณีลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ
สมมติผมไปคาเฟ่แมว เจอข้าวผัดจานละ 80 - 100 บาท (ซึ่งถือว่าราคาแพงในระดับหนึ่ง) แต่เมื่อร้านยกมาเสิร์ฟ
- เจอข้าวผัดหน้าตาบ้านๆ เหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ความคิดว่าไม่คุ้มค่า และร้านขายแพงจะพุ่งขึ้นมาทันที
สิ่งทีจะตามมาคือ ถ้าชอบที่นี่มาคราวหน้าไม่สั่งดีกว่า => ไม่ได้ขาย หรือ ที่นี่ขายแพงไม่มาดีกว่า => เสียลูกค้า
- เจอข้าวผัดที่ตกแต่งน่ารักๆ ที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย เสียเวลาอีกนิดหน่อย
(พวกนี้มีอุปกรณ์ตัวช่วยให้ทำง่ายๆ ตลอดจนวิธีการตกแต่ง Youtube หรือเวปสอนเพียบครับ)
เราจะรู้สึกว่า เออ ราคามันก็สูงแฮะ แต่ก็พอรับได้นะ เพราะของที่เราได้มามันให้ความรู้สึกว่า "พิเศษ" กว่าทั่วๆไป
ถ้าไม่ตั้งราคาสูงเกินไป => การตัดสินใจของลูกค้ายากขึ้น กับทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้ม => โอกาสในการกลับมาใช้บริการ/สั่งอาหารสูง
มันน่าจะโอเคกว่าไหมครับ?
3. การทำคาเฟ่แมว มีข้อควรระมัดระวังอะไรบ้างค่ะ และสิ่งที่เราต้องคำนึงเป็นหลักเลยมีอะไรบ้าง
ตอบ : แสนล้านสิ่งครับ
- ข้อควรระวังของร้านอาหาร / ร้านกาแฟทั่วไป
เรื่องการคุมต้นทุน การจัดสรรแบ่งส่วนเงินทุน การกำหนดราคาขาย เงินหมุนเวียนภายในร้าน เงินทุนสำรอง
การบริหารจัดการภายใน การกำหนดหลุ่มลูกค้า และตั้งราคาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
การทำบัญชีรับ-จ่าย (ซึ่งมันจะจุกจิกขึ้นเยอะครับ เพราะต้นทุนหลายๆอย่างวิ่ง หรือมาทุกวัน
รวมถึงเรื่องการเสียภาษีต่างๆ การไปขออนุญาตต่างๆอีก)
รวมถึงการหาจุดเด่น การวางแผนตลาดที่จะมาแข่งกับคู่แข่งในพื้นที่ใกล้เคียง ฯลฯ
ยังไม่นับเรื่องของรสชาติอาหาร / กาแฟ ความหลากหลายของเมนู ฯลฯ
...ลองไล่อ่านกระทู้เรื่องการเปิดร้านกาแฟ / ร้านอาหารในนี้ จะเห็นข้อควรระวังอะไรเยอะแยะมากมายครับ
- เรื่องของการมีแมว
คาเฟ่แมว ดังนั้นจุดขายคือแมว ดังนั้นแมวโทรมๆ ขนเปื้อนๆ เป็นมันๆกลีบๆ ขนร่วง ขนพันกันเป็นก้อนๆ หน้าตาอมโรค เราอยากไปเล่นด้วยไหม?
ดังนั้นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องการอาบน้ำ การทำความสะอาด การดูแลตัวแมว ต้องเพิ่มขึ้นมาละครับ
ตรงนี้ใครจะทำ เจ้าของ? คุณแม่? หรือต้องจ้างคนมาช่วย?
แล้วแมวคือสิ่งมีชีวิตครับ มีกิน มีขับถ่าย มีอารมณ์ดี มีอารมณ์เสีย มีกัดกัน มีป่วย
ปัญหาที่ต้องคิดใครให้อาหาร? อึแล้วใครตามเก็บ? ต้องวางกะบะทรายที่ไหน? กะบะทรายบ้านๆใช้ได้ไหม? ลูกค้ากินข้าวไปดมขี้แมวไปได้ไหม?
อาหารแมววางที่ไหน? แมวขนร่วงมาใครทำความสะอาด? ทำความสะอาดถี่แค่ไหน? ทำยังไง?
แล้วปัญหาที่สำคัญกว่านั้นคือ ทำยังไงแมวเราจะไม่ป่วย (ทั้งจากป่วยเอง หรือ ลูกค้านำมาติด)
ซึ่งจะตามาด้วยเราจะตั้งกฏอย่างไรที่จะทำให้แมวเราปลอดภัย และลูกค้าไม่อึดอัดครับ
มีโจทย์ให้แก้ ให้คิดเยอะมากครับ คุณเจ้าของลอง list มาแล้ว ลองวางแผนรับมือไว้ครับ
ปล. แต่ที่คุยๆกับเจ้าของกิจการ ต่างบอกว่าเหนื่อยมาก บางเจ้าพอไหวมีกำไรบ้าง บางเจ้าบางเดือนมีติดตัวแดง แต่จะถอยก็ลำบากครับ
เจ้าที่เหนื่อยคือเงินทุนน้อย มาทีหลัง เจ้าที่อยู่ได้สบายหน่อยก้เป็นเจ้าที่ตั้งแรกๆ ทำจนคืนทุนไปเกือบหมดแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากเปิดคาเฟ่แมว แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
เราอายุ 22 ปี เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีมาสดๆ ร้อนๆ และกำลังอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ
ซึ่งเราอยากทำร้านกาแฟเป็นคาเฟ่เล็กๆ สไตล์มินิมอล แต่ก็แอบคิดถึงน้องแมวที่เลี้ยงอยู่ด้วย ว่าจะเปิดเป็นคาเฟ่แมวดีมั้ย
เราเลี้ยงแมวระบบปิดนะคะ มีทั้งหมด 14 ตัวค่ะ หลากหลายสายพันธุ์ แมวทุกตัวของเราฉีดวัคซีนและได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ตลอด
ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มอะไรเลยค่ะ เป็นแค่ความคิด ความฝัน ตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มยังไง เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
คุณพ่อคุณแม่ไม่ซีเรียสค่ะ ถ้าเราอยากทำอะไร ก็สามารถทำได้ ท่านอยู่เป็นกำลังใจห่างๆ ท่านเลี้ยงเราแบบอิสระให้เราคิดเอง ทำเอง ตั้งแต่เด็ก
เราพอมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง (จากการขายเสื้อผ้าช่วงเรียน ป.ตรี) ประมาณ 6 หลักค่ะ
(ซึ่งเราตั้งใจจะไม่ใช่เงินของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่ถ้าท่านช่วยก็โอเค)
เรามีตึกเป็นอาคารพาณิชย์อยู่ค่ะ ชั้นบนเป็นห้องพัก ซึ่งก็เป็นธุรกิจของครอบครัว
ชั้นล่างเมื่อก่อนเป็นร้านขายกิ๊ฟช้อป แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้เช่าต่อแล้ว จึงว่างอยู่ค่ะ
เราเลยขออนุญาตคุณพ่อว่าอยากจะทำเป็นคาเฟ่ และท่านก็ไม่ได้ติดอะไรค่ะ
เราอยากขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ พี่ๆ ชาวพันธุ์ทิพย์ด้วยค่ะ ว่าเราควรเดินหน้าหรือถอยหลังดี
ถ้าเดินหน้า เราควรเริ่มต้นยังไงค่ะ
1. เราอยากตกแต่งคาเฟ่เราควรไปหาซื้อของตกแต่งที่ไหนดีค่ะ ที่มีดีไซน์น่ารักๆ และก็สามารถสื่ออารมณ์ถึงน้องแมวได้
2. เราควรเลือกเมนูอาหารอย่างไร เพื่อที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าท่านอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้อยากมาเล่นกับแมว เข้ามาใช้บริการที่ร้านด้วย ควรมีทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารด้วยรึป่าว และขนม อาหาร หรือเครื่องดื่ม ควรตกแต่งเป็นรูปแมวด้วยมั้ย แต่เราทำไม่เป็นนะคะ (ชงกาแฟเป็นอย่างเดียว ไปเรียนมาหลักสูตรพร้อมเครื่องชงกาแฟค่ะ) ส่วนอาหาร ถ้าทำคุณแม่พร้อมจะช่วยค่ะ (ตอนนี้ท่านแค่ดูแลห้องเช่า ไม่ได้ทำงานประจำอะไรค่ะ)
3. การทำคาเฟ่แมว มีข้อควรระมัดระวังอะไรบ้างค่ะ และสิ่งที่เราต้องคำนึงเป็นหลักเลยมีอะไรบ้าง
ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นที่เข้ามาแนะนำนะคะ
ปล.นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดอะไรไปขออภัยด้วยค่ะ