[CR] หนีร้อน ไปนอนพัทยา – เล่นน้ำเกาะล้าน – ชมไร่องุ่นและเขาชีจรรย์ – กินส้มตำเจ้าดัง



กรุงเทพฯ ร้อนแสนร้อน เลยหาเรื่องออกไปรับลมเย็นๆ ชายทะเลกันดีกว่า ไม่ใกล้ไม่ไกล “พัทยา” เป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ

เริ่มจากหาที่พักก่อน โจทย์ของเราคือ
1. เห็นวิวทะเลจากห้องพัก (มาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เดี๋ยวจะมีรูปให้ชมเพียบเลยค่ะ)
2. มีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า (เรื่องกินเรื่องใหญ่สำหรับเราค่ะ)
3. เดินไปท่าเรือแหลมบาลีฮายได้ เพราะเรามีโปรแกรมข้ามไปเล่นน้ำกันที่เกาะล้านค่ะ
4. มีสระว่ายน้ำ (เล่นหรือไม่เล่นอีกเรื่องนึงค่ะ ขอมีไว้ก่อน)
5. ราคาไม่เกิน 2,500 บาท

เมื่อโจทย์มีแล้ว ก็เข้า Google เลยจ้า หาอยู่สักพักก็มาถูกใจกับ Siam Bayshore Resort & Spa มาไล่ดูตามโจทย์ที่เราตั้งกันไว้ ข้อ 1-4 ผ่านจ้า แต่มาสะดุดตรงข้อที่ 5 เนื่องจากเราตั้งงบไว้ไม่เกิน 2,500 ซึ่งวันที่เราจะไปพัก (เสาร์ที่ 7 – อาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม) ราคาของ Siam Bayshore อยู่ที่คืนละประมาณ 3,500 บาท (เฉลี่ยจากหลายๆเว็บ) เกินงบไปตั้ง 1 พันบาท เลยต้องไปพึ่งอากู๋อีกรอบค่ะ ค้นไปค้นมาก็มาถูกใจกับที่นี่ “Balihai Bay Pattaya” ลองเข้าไปที่เฟสบุ๊คของโรงแรม ปรากฏว่าวันที่เราจะไปพักมีโปรโมชั่นพอดีค่ะ ราคาคืนละ 2,199 บาท รวมอาหารเช้า ตรงโจทย์เป๊ะๆ จองปั๊บเลยค่ะ ^_^ ตามมาชมที่พักกันเลยจ้าว่าตรงโจทย์เรายังไงบ้าง เม่าออกรถ

เข้ามาที่ล็อบบี้ ตรงนี้เป็นเคาน์เตอร์ที่เราต้องมาเช็คอินกันก่อนค่ะ





ขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องพักกันดีกว่า เราได้ห้อง 502 อยู่ชั้น 5 ค่ะ





ที่แอบตกใจก็คือ ห้องน้ำเป็นแบบกระจกใส และที่สำคัญคือฉากเลื่อนปิดอยู่ข้างนอกจ้า เม่าโศก แอบระทึกเล็กน้อย 555





สิ่งของเครื่องใช้ในห้องน้ำค่ะ



มีน้ำเปล่าให้ 2 ขวดตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไป มีชา กาแฟ และหม้อต้มน้ำร้อนให้ด้วยค่ะ ส่วนกล่องแดงๆ ข้างหน้า ไม่ฟรีนะจ๊ะ ข้ามไปเนอะ เดี๋ยวกระทู้จะติดเรท 18+ อมยิ้ม07



เปิดไปชมระเบียงกันซะหน่อยเพื่อเช็คโจทย์แรกของเรา นั่นคือวิวทะเลค่ะ  (ปล. รูปอาจไม่เรียงตามลำดับเวลานะคะ สลับไปสลับมาเพื่อจะได้บรรยายทีเดียวค่ะ)
จ๊ะเอ๋! เสาแดงๆ เหลืองๆ นั่นคืออะไร ตอนแรกนึกว่าพื้นที่ก่อสร้างค่ะ ปรากฏว่าเป็นเครื่องเล่น อยู่หน้าห้องพอดิบพอดี กลางคืนจะเสียงดังมั้ยเนี่ย เริ่มหวั่นๆแฮะ เม่าตาสว่าง



ขอข้ามเสาแดงๆ นั้นไป ซูมดูวิวทะเลกันดีกว่าค่ะ ซ้ายมือเป็นหอนาฬิกา ที่อยู่ไกลๆ โน่นคืออะไรไม่แน่ใจ



ใครพอทราบบ้างว่าคืออะไร ??? อยากรู้จัง



ส่องไปเรื่อยๆ ค่ะ เพลินดี เพี้ยนแช๊ะ เพี้ยนแช๊ะ เพี้ยนแช๊ะ







ส่องไปทางขวา จะเห็นถนนที่จะเดินไป Walking Street ค่ะ



ดูวิวกันพอประมาณ นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทานข้าวเที่ยงกันเลยเริ่มจะหิวแล้ว ข้ามไปหาของกินที่เกาะล้านดีกว่าค่ะ ไหนๆ ก็จะไปเล่นน้ำอยู่แล้ว กำลังจะก้าวขาเข้าห้อง หันไปเจอเจ้านี่ค่ะ เลยแงะออกมาดู มันคือที่ตากผ้าค่ะ เล่นน้ำเปียกๆ กลับมา ตากผ้าที่นี่ได้เลยจ้า ผึ่งแดดผึ่งลมไปในตัว ถูกใจมากๆค่ะ



ออกจากโรงแรม เดินไปท่าเรือแหลมบาลีฮายกันค่ะ



มากี่ครั้ง ก็ต้องถ่ายมุมนี้ทุกครั้งค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร ถ้าไม่ถ่ายเหมือนมาไม่ถึงยังไงไม่รู้



ตั๋วเรือพร้อม ใจพร้อม ก็ลุยกันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีนิดๆ ก็มาถึงหาดตาแหวนค่ะ





เติมพลังก่อนเล่นน้ำค่ะ หาร้านที่คนน้อยหน่อย จะได้ไม่รอคิวนาน ก็เข้าไปเลยค่ะ นาทีนี้ไม่คิดมากแล้วค่ะ หิวจัด ><
เมนูที่สั่งมีข้าวผัดปู + แกงจืดเต้าหู้หมูสับ + ปลาหมึกย่าง + พล่ากุ้ง (จานนี้ลืมถ่ายรูปมาค่ะ เนื่องจากหิวจัด) + น้ำเปล่า 1 ขวด + น้ำแข็ง 2 แก้ว รวมค่าเสียหายมื้อนี้ 530 บาท







เติมพลังเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเล่นน้ำค่ะ เล่นได้ประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็ขึ้นแล้วค่ะ รู้สึกว่าน้ำทะเลวันนี้ไม่ใส และคนก็เยอะมากๆ เลยค่ะ
ก่อนลงเรือข้ามกลับไปพัทยา แวะถ่ายรูปอีกซะหน่อยค่ะ (รูปเยอะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊า ^^”)











กลับมาถึงที่พัก แวะไปดูสระว่ายน้ำซะหน่อย ตอนแรกว่าจะลงเล่นกันค่ะ แต่ผู้ร่วมทริปเหนื่อยกันซะแล้ว เลยไปอาบน้ำพักผ่อนที่ห้องดีกว่า





กลับเข้าห้อง ส่องบรรยากาศยามเย็นชิวๆ กันค่ะ



ผู้คนเริ่มทะยอยกลับเข้าฝั่งค่ะ



ส่องลงไปข้างล่าง เห็นพนักงานกำลังเซ็ตเจ้าเครื่องเล่นเตรียมพร้อมให้บริการค่ะ ตกกลางคืนปรากฏว่าไม่เสียงดังอย่างที่คิด เนื่องจากไม่มีคนมาเล่นเลยค่ะ นั่งมองพนักงานแล้วแอบสงสารนิดๆ จัง


เก็บภาพบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินมาให้ชมค่ะ ท้องฟ้าสวยมาก แทบไม่ต้องแต่งภาพกันเลยค่ะ เพี้ยนแช๊ะ เพี้ยนแช๊ะ













ตกกลางคืนประมาณ 1 ทุ่มนิดๆ  เราก็ไปเดินเล่นกันที่ Walking Street ค่ะ บรรยากาศยังไม่คึกคักเท่าไร เลยเดินกลับห้อง นอนดูทีวีดีกว่าค่ะ ขอตัดภาพมาที่มื้อเช้าเลยนะคะ













หลังจากอิ่มหนำสำราญกับมื้อเช้า ก็กลับเข้าห้อง จัดแจงแพ็คกระเป๋าเช็คเอาท์ เพื่อเตรียมเที่ยวอีก 2-3 ที่ค่ะ มาพัทยาหลายครั้ง แต่ยังมีที่ที่เราไม่เคยไปอีกเพียบเลย  รอบนี้มาเลยตั้งใจจะไปเที่ยวซะหน่อยค่ะ เริ่มจากที่แรกกันเลย “ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค”

เดินจากลานจอดรถมาจะเจอสวนสวยๆ ด้านหน้าทางเข้าค่ะ





เห็นว่าที่นี่มีรถนำเที่ยวภายในไร่ด้วย ไม่รอช้าจัดการซื้อตั๋ว ราคาคนละ 100 บาท แถมน้ำองุ่น 1 ขวด สามารถนำตั๋วไปรับได้ที่โรงงานผลิตน้ำองุ่นซึ่งอยู่ภายในไร่  ถ้าพร้อมแล้วโดดขึ้นรถตามมาเลยค่ะ เม่าออกรถ





พี่คนขับจะจอดแวะให้ลงไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ จุดละประมาณ 10 นาทีค่ะ





จุดนี้คือโรงเรือนสำหรับปลูกองุ่นค่ะ เข้าไปถ่ายรูปได้ แต่ห้ามเด็ดทานนะคะ







บริเวณนี้เป็นรีสอร์ทค่ะ เพิ่งทราบว่าที่ไร่องุ่นมีที่พักด้วย กลางคืนน่าจะเงียบสงบมากๆ เลย



ด้านซ้ายมือในภาพเป็นโรงงานผลิตน้ำองุ่น เราก็นำตั๋วไปแลกน้ำองุ่นได้คนละ 1 ขวดค่ะ  ส่วนทางด้านขวาคือโรงงานผลิตไวน์ค่ะ



น้ำองุ่น 20% รสชาติออกหวาน เย็นชื่นใจดีค่ะ



ปิดท้ายไร่องุ่นด้วยภาพนี้ค่ะ ...บ๊ายบายซิลเวอร์เลค



มาต่อกันที่ “เขาชีจรรย์” อยู่ไม่ไกลจากไร่องุ่นค่ะ





ถ่ายรูปเดินเล่นสักพัก ก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาอะไรหม่ำดีกว่าค่ะ มื้อนี้เราอยากทานส้มตำเป็นพิเศษ พึ่งอากู๋อีกตามเคย เสิร์ชดูสักพักก็มาเจอกับร้านนี้ค่ะ “ส้มตำป้ามล” เค้าว่าไก่ทอดที่นี่อร่อยมาก ต้องลองซะหน่อยแล้ว เนื่องจากเราไปถึงร้านตอนเที่ยงพอดี ลูกค้าแน่นร้านเลยค่ะ กว่าอาหารจะมาเสิร์ฟก็รอกันไปร่วมครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้

และแล้วจานแรกที่ถือว่าเป็นพระเอกของร้านก็มาเสิร์ฟค่ะ “ไก่ทอดหนังกรอบ” เสิร์ฟมาร้อนๆ ก็อร่อยดีค่ะ



ลาบเป็ด – ทุกคนต่างลงมติว่าจานนี้อร่อยที่สุดในมื้อนี้ค่ะ



ตำข้าวโพด – รสชาติออกเปรี้ยวนำ แต่รวมๆ ก็ถือว่าใช้ได้อยู่ค่ะ



ตำไทย – ออกเปรี้ยวนำอีกเช่นกัน



แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ

ชื่อสินค้า:   พัทยา - เกาะล้าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่