ย้อนไปเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว มีพี่คนนึงแชร์เว็บไซต์เกี่ยวกับ ยอดเขาต่างๆในภูมิภาคนี้ ตามประสาคนชอบเที่ยวอย่างเรา ก็อดที่จะเข้าไปดูไม่ได้ อ่านรายละเอียดต่างๆนานา แล้วมาสะดุดอยู่ที่นึง....
ยอดเขาแหลมๆมีแต่หิน และท้องฟ้า เวิ้งว้าง ดูน่ากลัว และน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน ...... เหมือนถูกแรงดึงดูด เหมือนมีเสียงเรียกออกมาจากภาพนั้น.......มาพิชิตชั้นสิ ชั้นรออยู่นะ.......และนั่นล่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ Mt. Kinabalu - Kota Kinabalu, Malaysia
Mt. Kinabalu อยู่บนเกาะบอร์เนียว รัฐ Sabah ประเทศ มาเลเซีย ซึ่งจริงๆเกาะบอร์เนียวเนี่ย มันเป็นของอินโดนีเซียด้วยส่วนนึง อีกส่วนนึงเป็นของมาเลเซีย Mt.Kinabalu เป็นส่วนหนึ่งของ Kinabalu National Park ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับยูเนสโก เรียบร้อยแล้ว ในฐานะที่เป็นป่าฝนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ยอดของ Mt. Kinabalu ที่ที่สูงสุดที่ให้ขึ้นได้ เรียกว่ายอด Low's Peak มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,096 เมตร ซึ่งชื่อ Low ก็ตั้งมาจาก Hugh Low ชาวอังกฤษ ผู้มาถึงที่ราบบริเวณยอดเขาได้คนแรก ในปี 1851 แต่ ยอดของ Mt.Kinabalu ถูกพิชิตได้โดยนักสัตววิทยา John Whitehead ในปี 1888
วันที่ 1
การเดินทางของผมเริ่มต้นตอนเช้าของวันที่ 14 เมษายน 2016 ด้วย สายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ AK891 DMK-KUL ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงที่สนามบิน KLIA2 ที่ มาเลเซีย
บรรยากาศโดยรวม ค่อนข้างโปร่งโล่ง สำหรับสนามบินนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก ร้านอาหาร เยอะจริงๆ ด้วยความที่จะต้องต่ออีกไฟลท์เพื่อไปที่ Sabah ในเวลาบ่ายสองกว่าๆนั้น ส่วนตัวกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างทาง จึงรีบไป check-in ที่เคาท์เตอร์ และรีบผ่าน ตม. เพื่อไปที่เกท ผลปรากฎว่าด้านในคนน้อยและ ตม.เร็วมาก เวลาจึงเหลือมาก และตอนนั้นหิวข้าวมาก แอบเสียดายเล็กๆว่า น่าจะกินข้าวมาจากด้านนอก เพราะด้านในมีร้านอาหารอยู่ร้านเดียว นอกนั้นเป็นขนมปังและกาแฟ
แนะนำว่า ก่อนเข้า ตม. ให้หาอะไรกินให้เรียบร้อย ของกินด้านนอกเยอะ และดีกว่าด้านในมากๆ เมื่อเข้ามาที่หน้าเกท และมีเวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ก็เริ่มเบื่อ ทำโน่นนี่ไปเรื่อย ยังดีที่ว่า wifi ที่นี่น่าคบหามาก เล่นฆ่าเวลาชิลๆ
เวลา 14.25 ได้เวลาขึ้นเครื่อง ไฟล์ 5114 KUL-BKI ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องก็มาจอดที่สนามบิน Kota Kinabalu เป็นสนามบินเล็ก เงียบมาก เวลาเย็นแล้วด้วย คนน้อยไปอีก
หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ เดินออกมาด้านหน้า เพื่อจะเข้าไปในตัวเมือง ซึ่งวิธีการหลักๆ มี 2 วิธีคือ นั่งแท็กซี่ หรือไม่ก็ นั่ง airport bus สำหรับ air port bus นั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียว เป็นรถบัสติดแอร์คันใหญ่ ราคาเข้าเมืองคนละ 5 ริงกิต ตารางเวลาค่อนข้างชัดเจน ตามด้านล่างเลย
โดยจุดจอดรถ จะอยู่ในอาคารสนามบิน และเห็นได้ชัดมาก จ่ายเงินเสร็จ เจ้าหน้าที่จะอธิบายว่า มีจุดจอด อยู่ 3 จุด อันนี้จำชื่อไม่ได้ละ แต่เราจะไปลงจุดสุดท้ายปลายทาง ซึ่งเป็น bus terminal
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็มาถึง bus terminal ซึ่งดูๆไปก็คล้ายๆ กับตามต่างจังหวัดบ้านเรา
ที่พักที่เลือกไว้ชื่อ Masada Backpacker เดินจากตรงนี้ไปประมาณ 5 นาที เป็น Hostel เล็กๆ น่ารัก บรรยากาศสงบดี มีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด เข้าที่พัก เก็บข้าวของ ออกมาเดินเล่น หาอะไรกิน
จากที่พัก เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเป็นห้างใหญ่ มีขายของทุกอย่าง ชั้นล่างเป็นพวกโทรศัพท์ หนังละเมิดลิขสิทธิ์ อะไรพวกนี้ ชั้นสอง ชั้นสาม เป็นร้านขายเสื้อผ้า ชั้นสี่ เป็นโรงหลัง ร้านอาหารอยู่ชั้นใต้ดิน ฟู้ดคอร์ดที่นี่อร่อยดี ราคาไม่แพงด้วย
มีเรื่องตลกที่แอบขำไม่ออกเบาๆ คือเราลืมเอาหัวชาร์จ ไอโฟนมา เอามาแต่สายชาร์จ เลยเดินหาซื้อปลั๊กที่เป็นหัว usb จนเจออยู่ร้านนึง ซื้อเรียบร้อย ลองเอาสายออกมาเทส ปรากฎว่าใช้ได้ จ่ายตังเดินออกมากลับที่พัก พอจะเอาโทรศัพท์ออกมา ปรากฎว่า หาสายชาร์จ ไม่เจอ คิดไปคิดมา น่าะลืมไว้ที่ร้าน เลยเดินกลับไปที่ร้าน ถามหากับเด็กคนที่ขายให้เราเลย เด็กบอกว่าคืนแล้ว เราบอก ยังไม่คืน ไม่มี ถ้าคืนแล้วจะมาหาที่นี่หรอ เด็กยืนยันคืนแล้ว เราหันไป สายชาร์จเรา วางอยู่หลังตู้ เราเลยบอกว่า นี่ไงของเรา หยิบมา แล้วเดินออกมาเลย คือร้านคงไม่ได้จะเอาหรอก สายเราเก่าจะตาย แล้วเค้าวางแยกไว้ต่างหากด้วย คงกะว่าเรามาเอาคืน แต่อีเด็กคนขายนี่ ไม่นำพาอะไรทั้งสิ้น
เดินกลับไปกลับมาหลายรอบกับห้างอันนี้ จนกลับมารีบนอนที่ hostel เพราะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามาก นัดกับ tour เอาไว้ว่าให้มารับตอน 6.15
[CR] Mt. Kinabalu - แค่ใจสู้ คงยังไม่พอ
ยอดเขาแหลมๆมีแต่หิน และท้องฟ้า เวิ้งว้าง ดูน่ากลัว และน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน ...... เหมือนถูกแรงดึงดูด เหมือนมีเสียงเรียกออกมาจากภาพนั้น.......มาพิชิตชั้นสิ ชั้นรออยู่นะ.......และนั่นล่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ Mt. Kinabalu - Kota Kinabalu, Malaysia
Mt. Kinabalu อยู่บนเกาะบอร์เนียว รัฐ Sabah ประเทศ มาเลเซีย ซึ่งจริงๆเกาะบอร์เนียวเนี่ย มันเป็นของอินโดนีเซียด้วยส่วนนึง อีกส่วนนึงเป็นของมาเลเซีย Mt.Kinabalu เป็นส่วนหนึ่งของ Kinabalu National Park ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับยูเนสโก เรียบร้อยแล้ว ในฐานะที่เป็นป่าฝนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ยอดของ Mt. Kinabalu ที่ที่สูงสุดที่ให้ขึ้นได้ เรียกว่ายอด Low's Peak มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,096 เมตร ซึ่งชื่อ Low ก็ตั้งมาจาก Hugh Low ชาวอังกฤษ ผู้มาถึงที่ราบบริเวณยอดเขาได้คนแรก ในปี 1851 แต่ ยอดของ Mt.Kinabalu ถูกพิชิตได้โดยนักสัตววิทยา John Whitehead ในปี 1888
วันที่ 1
การเดินทางของผมเริ่มต้นตอนเช้าของวันที่ 14 เมษายน 2016 ด้วย สายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ AK891 DMK-KUL ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงที่สนามบิน KLIA2 ที่ มาเลเซีย
บรรยากาศโดยรวม ค่อนข้างโปร่งโล่ง สำหรับสนามบินนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก ร้านอาหาร เยอะจริงๆ ด้วยความที่จะต้องต่ออีกไฟลท์เพื่อไปที่ Sabah ในเวลาบ่ายสองกว่าๆนั้น ส่วนตัวกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างทาง จึงรีบไป check-in ที่เคาท์เตอร์ และรีบผ่าน ตม. เพื่อไปที่เกท ผลปรากฎว่าด้านในคนน้อยและ ตม.เร็วมาก เวลาจึงเหลือมาก และตอนนั้นหิวข้าวมาก แอบเสียดายเล็กๆว่า น่าจะกินข้าวมาจากด้านนอก เพราะด้านในมีร้านอาหารอยู่ร้านเดียว นอกนั้นเป็นขนมปังและกาแฟ
แนะนำว่า ก่อนเข้า ตม. ให้หาอะไรกินให้เรียบร้อย ของกินด้านนอกเยอะ และดีกว่าด้านในมากๆ เมื่อเข้ามาที่หน้าเกท และมีเวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ก็เริ่มเบื่อ ทำโน่นนี่ไปเรื่อย ยังดีที่ว่า wifi ที่นี่น่าคบหามาก เล่นฆ่าเวลาชิลๆ
เวลา 14.25 ได้เวลาขึ้นเครื่อง ไฟล์ 5114 KUL-BKI ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องก็มาจอดที่สนามบิน Kota Kinabalu เป็นสนามบินเล็ก เงียบมาก เวลาเย็นแล้วด้วย คนน้อยไปอีก
หลังจากรับกระเป๋าเสร็จ เดินออกมาด้านหน้า เพื่อจะเข้าไปในตัวเมือง ซึ่งวิธีการหลักๆ มี 2 วิธีคือ นั่งแท็กซี่ หรือไม่ก็ นั่ง airport bus สำหรับ air port bus นั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียว เป็นรถบัสติดแอร์คันใหญ่ ราคาเข้าเมืองคนละ 5 ริงกิต ตารางเวลาค่อนข้างชัดเจน ตามด้านล่างเลย
โดยจุดจอดรถ จะอยู่ในอาคารสนามบิน และเห็นได้ชัดมาก จ่ายเงินเสร็จ เจ้าหน้าที่จะอธิบายว่า มีจุดจอด อยู่ 3 จุด อันนี้จำชื่อไม่ได้ละ แต่เราจะไปลงจุดสุดท้ายปลายทาง ซึ่งเป็น bus terminal
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็มาถึง bus terminal ซึ่งดูๆไปก็คล้ายๆ กับตามต่างจังหวัดบ้านเรา
ที่พักที่เลือกไว้ชื่อ Masada Backpacker เดินจากตรงนี้ไปประมาณ 5 นาที เป็น Hostel เล็กๆ น่ารัก บรรยากาศสงบดี มีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด เข้าที่พัก เก็บข้าวของ ออกมาเดินเล่น หาอะไรกิน
จากที่พัก เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเป็นห้างใหญ่ มีขายของทุกอย่าง ชั้นล่างเป็นพวกโทรศัพท์ หนังละเมิดลิขสิทธิ์ อะไรพวกนี้ ชั้นสอง ชั้นสาม เป็นร้านขายเสื้อผ้า ชั้นสี่ เป็นโรงหลัง ร้านอาหารอยู่ชั้นใต้ดิน ฟู้ดคอร์ดที่นี่อร่อยดี ราคาไม่แพงด้วย
มีเรื่องตลกที่แอบขำไม่ออกเบาๆ คือเราลืมเอาหัวชาร์จ ไอโฟนมา เอามาแต่สายชาร์จ เลยเดินหาซื้อปลั๊กที่เป็นหัว usb จนเจออยู่ร้านนึง ซื้อเรียบร้อย ลองเอาสายออกมาเทส ปรากฎว่าใช้ได้ จ่ายตังเดินออกมากลับที่พัก พอจะเอาโทรศัพท์ออกมา ปรากฎว่า หาสายชาร์จ ไม่เจอ คิดไปคิดมา น่าะลืมไว้ที่ร้าน เลยเดินกลับไปที่ร้าน ถามหากับเด็กคนที่ขายให้เราเลย เด็กบอกว่าคืนแล้ว เราบอก ยังไม่คืน ไม่มี ถ้าคืนแล้วจะมาหาที่นี่หรอ เด็กยืนยันคืนแล้ว เราหันไป สายชาร์จเรา วางอยู่หลังตู้ เราเลยบอกว่า นี่ไงของเรา หยิบมา แล้วเดินออกมาเลย คือร้านคงไม่ได้จะเอาหรอก สายเราเก่าจะตาย แล้วเค้าวางแยกไว้ต่างหากด้วย คงกะว่าเรามาเอาคืน แต่อีเด็กคนขายนี่ ไม่นำพาอะไรทั้งสิ้น
เดินกลับไปกลับมาหลายรอบกับห้างอันนี้ จนกลับมารีบนอนที่ hostel เพราะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามาก นัดกับ tour เอาไว้ว่าให้มารับตอน 6.15