เป็นคนชอบรีวิวแบบสรุปสั้นๆนะคะ
เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
น้ำหอมหลักร้อยตัวแรก
น้ำหอมของ soap&glory ที่มีขายในบูท ซื้อมาเนื่องจากได้ยินเขาลือกันในเน็ตว่ากลิ่นคล้าย miss dior cherie เลยซื้อมา ปรากฏลองใช้แล้วเราไม่ชอบเลย เราว่ากลิ่นหอมไม่เหมือนของดิออร์เชอรี่น่ะ ไม่ค่อยได้ใช้เลยตัวนี้ ตั้งทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเลย ราคาหลักร้อยเกือบๆพัน อีกอย่างเราว่าโลชั่นของยี่ห้อนี้กลิ่นหอมกว่าค่ะ
ตัวที่ 2 ของหลักร้อย
ของ beauty cottage ราคาไม่เกิน 600 บาท กลิ่นนี้เขาบอกกันว่าคล้ายโคลเอ้โบว์ครีม เราว่าก็คล้ายอยู่น่ะ หอม ดูมีอะไร ดูแพง ดูคุณหนู แต่กลิ่นติดไม่ทน กลิ่นถือว่าหอมใช้ได้ ราคาน่ารักไม่แพง เราเลยใช้บ่อยมากและเผลอทิ้งขวดไปแล้วค่ะ เลยเอารูปจากกูเกิ้ลมา ถ้าเจ้าของรูปผ่านมาเห็นก็ขออนุญาติด้วยนะคะ กลิ่นนี้แนะนำมากๆสำหรับน้องๆนศ.
ตัวที่ 3 ของหลักร้อย
น้ำหอมของ body shop ตอนนั้นซื้อมาตอนลดราคาเลยราคาไม่ถึงพัน ตอนนี้ไม่แน่ใจราคาเท่าไหร่ ตัวนี้กลิ่นกุหลาบมากกก ซึ่งจขกท.ไม่ชอบ กุหลาบโดดๆมาเลย รู้สึกว่าไม่มีความซับซ้อนของกลิ่น มันง่ายไป แล้วก็ติดไม่ทนด้วยค่ะ
ตัวที่ 4 และ 5 ราคาเริ่มแพงขึ้นมาอีกนิด
อันนี้น้ำหอมของ yves rocher ซื้อตอนลดราคา ราคาประมาณพันต้นๆกับเก้าร้อยกว่าๆ ชอบกลิ่นของน้ำหอม 2 ตัวนี้ มันหวานสดใส กลิ่นคล้ายน้ำหอมราคาแพง ขวดสีเขียวกลิ่นคล้ายๆดอกมะลิแบบสดชื่น เฟรชๆ เสียดายอย่างเดียวกลิ่นติดไม่ทน ทั้ง 2 ตัวนี้เราเลยใช้บ่อยมาก เพราะราคาไม่แรงแถมกลิ่นดูแพงด้วย ตอนนี้หมดไปแล้วทั้ง 2 ขวดเผลอทิ้งขวดไปแล้วด้วย เลยเอารูปจากในกูเกิ้ลมา น้องนศ.ที่หัดใช้น้ำหอมเราแนะนำ 2 ตัวนี้น่ะ มันหอมกว่าน้ำหอมของโอเรียลทอลปริ้นเซส เพิ่มตังค์อีกหน่อย ได้น้ำหอมที่กลิ่นดูไฮขึ้นมาอีกระดับ
ตัวที่ 6 น้ำหอมหลักร้อยของผู้ชาย
อันนี้ก็ของ yves rocher เหมือนกันค่ะ แฟนใช้จนหมดเกลี้ยงเลย กลิ่นคล้ายๆ davidoff cool water สดชื่น สปอร์ต แต่มาในราคาที่ถูกกว่าไม่ถึงพัน แต่กลิ่นก็ติดไม่ทนด้วยเหมือนกัน กลิ่นติดอยู่ประมาณครึ่งวันค่ะ แนะนำสำหรับน้องๆนศ.เลยค่ะ
ตัวที่ 7 น้ำหอมหลักพันขวดแรก
อิซซี่ มิยาเกะ ตัวนี้กลิ่นคุ้นเคยกันดี ตัวดังของแบรนด์นี้เลย ยอมรับว่าหอมมากกลิ่นแนวดอกไม้ ติดทนแต่มีคนใช้เยอะค่ะ แถมกลิ่นส่วนมากจำได้ เคยใส่ไปชนกับลูกค้าด้วย แบบกลิ่นเดียวกันเลยอะไรแบบนี้ ก็เลยไม่ได้ซื้อต่อค่ะ
ตัวที่ 8 หลักพันเช่นกัน
อันนี้พี่ที่ทำงานให้ไซส์เล็กมาค่ะ แต่พอลองใช้แล้วจะเก็บตังค์ไปซื้อไซส์ใหญาแน่นอน ของ bulgari omnia ขวดสีขาว กลิ่นหอมใส สดชื่น กระจ่างงง ติดทนพอสมควร เหมาะใช้กับหน้าร้อนสุดๆ
ตัวที่ 9
อันนี้ของ estee lauder ค่ะ เนื่องจากส่วนตัวจขกท.ชอบใช้กลิ่นแนวสดชื่น ซีทรัส อันนี้คือตอบโจทย์ใช่เลย! มีกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวผสมดอกไม้ หอมมาก ชอบบบ ใช้แบบทนุถนอมมากจริงๆ
ตัวที่ 10
ตัวนี้ เวอร์ซาเช่ กลิ่น crystal bright แนวหวานๆใสๆ ดอกไม้ๆ มี 3 ไซส์เลย เนื่องจากแฟนชอบกลิ่นนี้ค่ะ เขาบอกว่าเวลาเราฉีดได้กลิ่นแบบคุณหนูเรียบร้อยมากๆ ดูแพง แต่ตัวเองอ่ะกลิ่นนี้ชอบแต่ไม่มาก ชอบเรื่องความติดทนมากกว่า ติดเช้ายันเย็น ติดถึงเสื้อผ้าเลยค่ะ ทนจริงจังมาก
ตัวที่ 11
ตัวนี้เป็นลูกรักในหน้าร้อนนี้เลย ฉีดบ่อยมาก chanel chance กลิ่นแนวผลไม้รสเปรี้ยวผสมดอกไม้อีกแล้ว แนวสดชื่นๆเหมาะกับหน้าร้อน แต่ตัวนี้ออกฉุนกว่าเอสเต้น่ะ ฉุนกว่าเวอร์ซาเช่ด้วย ห้ามฉีดเกิน 4 ปั้มไม่งั้นคนเดินข้างๆอาจมึนหัวได้ เคยลองฉีดตัวนี้หน้าหนาว ปรากฏว่าไม่รอดอ่ะมันฉุนไป แต่พอเอามาฉีดหน้าร้อนนี่ดีงามมากค่ะ ชอบปานกลาง
ตัวที่ 12
น้ำหอมโคลเอ้โบว์ครีมในตำนาน แพงมาก หอมมาก ใช้นางอย่างทนุถนอมมาก กลิ่นดอกกุหลาบผสมลิ้นจี่ หอมแบบมีชั้นเชิง ไม่ใช่แบบกุหลาบโดดๆ ฉีดแล้วรู้สึกกลายเป็นคุณหนูสายหวาน
ตัวที่ 13 นางคือลูกรัก
น้ำหอมของ burberry กลิ่น my burberry แนวดอกไม้หลากชนิดอันนี้ไม่มีกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวผสมเลยมาแนวฟรอรัลล้วนๆ ตัวนี้ชอบมาก เพราะมันหวานแบบผู้ใหญ่ค่ะ มันให้ความละมุนด้วย อธิบายไม่ถูกเลย คือดีงามมากสำหรับตัวเอง เป็นน้ำหอมที่รู้สึกเหมาะกับบุคลิกตัวเองมากที่สุด เลยรักนางมาก หมดแล้วซื้อต่อแน่นอน
ตัวที่ 14 ของผู้ชายค่ะ
versace pour homme กลิ่นแบบคุณชายมาก อะไรจะนุ่มนวลชวนฝันเบอร์นั้น ชอบให้แฟนฉีดในวันที่แต่งตัวเนี๊ยบๆค่ะ เข้ากันมาก จะดูแบบกลายเป็นผช.สำอางค์ คุ๊ณช๊าย คุณชายขึ้นมาทันที
ตัวที่ 15
davidoff champien กลิ่นแนวเครื่องเทศผสมกลิ่นไม้แมนๆเลยค่ะ ชอบให้แฟนฉีดในวันที่แฟนแต่งตัวเซอร์มันเหมาะมาก กลิ่นเข้ากับลุคเซอร์ๆค่ะ
ตัวที่ 16 สุดท้ายแล้วค่ะ
davidoff cool water night dive ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเหมาะสำหรับฉีดตอนงานกลางคืน เพราะกลิ่นนี้มีความฉุนเล็กน้อยค่ะ แต่ก็ยังคงแนวสปอร์ตอยู่ อันนี้แฟนไม่ค่อยชอบ แต่เราก็ว่าหอมดีค่ะ
หลักการเลือกน้ำหอม คือเลือกให้ตรงกับลุคที่เราแต่งตัวในวันนั้นค่ะ สภาพอากาศ ความชอบและบุคลิกของเรา มันถึงจะช่วยให้เรามีเสน่ห์มากขึ้น
และที่สำคัญต้องเลือกให้ตรงกับเงินในกระเป๋าของเรา น้ำหอมหลักร้อยบางตัวก็หอมคล้ายกลิ่นราคาแพงแต่นางอาจจะติดทนไม่เท่าเคาว์เตอร์แบรนด์แค่นั้นเอง
จบแล้วค่ะ กรุน้ำหอมไม่ใหญ่มากเพราะกว่าจะซื้อคิดแล้วคิดอีก บางตัวเก็บตังค์หลายเดือนเลย
หวังว่ากระทู้นี่จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆน้องๆในการเลือกซื้อน้ำหอมนะคะ ขอให้ได้น้ำหอมที่ใช่ค่ะ
[CR] รีวิวน้ำหอมราคาหลักร้อยยันน้ำหอมเคาว์เตอร์แบรนด์(16 ตัว)
เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
น้ำหอมหลักร้อยตัวแรก
น้ำหอมของ soap&glory ที่มีขายในบูท ซื้อมาเนื่องจากได้ยินเขาลือกันในเน็ตว่ากลิ่นคล้าย miss dior cherie เลยซื้อมา ปรากฏลองใช้แล้วเราไม่ชอบเลย เราว่ากลิ่นหอมไม่เหมือนของดิออร์เชอรี่น่ะ ไม่ค่อยได้ใช้เลยตัวนี้ ตั้งทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเลย ราคาหลักร้อยเกือบๆพัน อีกอย่างเราว่าโลชั่นของยี่ห้อนี้กลิ่นหอมกว่าค่ะ
ตัวที่ 2 ของหลักร้อย
ของ beauty cottage ราคาไม่เกิน 600 บาท กลิ่นนี้เขาบอกกันว่าคล้ายโคลเอ้โบว์ครีม เราว่าก็คล้ายอยู่น่ะ หอม ดูมีอะไร ดูแพง ดูคุณหนู แต่กลิ่นติดไม่ทน กลิ่นถือว่าหอมใช้ได้ ราคาน่ารักไม่แพง เราเลยใช้บ่อยมากและเผลอทิ้งขวดไปแล้วค่ะ เลยเอารูปจากกูเกิ้ลมา ถ้าเจ้าของรูปผ่านมาเห็นก็ขออนุญาติด้วยนะคะ กลิ่นนี้แนะนำมากๆสำหรับน้องๆนศ.
ตัวที่ 3 ของหลักร้อย
น้ำหอมของ body shop ตอนนั้นซื้อมาตอนลดราคาเลยราคาไม่ถึงพัน ตอนนี้ไม่แน่ใจราคาเท่าไหร่ ตัวนี้กลิ่นกุหลาบมากกก ซึ่งจขกท.ไม่ชอบ กุหลาบโดดๆมาเลย รู้สึกว่าไม่มีความซับซ้อนของกลิ่น มันง่ายไป แล้วก็ติดไม่ทนด้วยค่ะ
ตัวที่ 4 และ 5 ราคาเริ่มแพงขึ้นมาอีกนิด
อันนี้น้ำหอมของ yves rocher ซื้อตอนลดราคา ราคาประมาณพันต้นๆกับเก้าร้อยกว่าๆ ชอบกลิ่นของน้ำหอม 2 ตัวนี้ มันหวานสดใส กลิ่นคล้ายน้ำหอมราคาแพง ขวดสีเขียวกลิ่นคล้ายๆดอกมะลิแบบสดชื่น เฟรชๆ เสียดายอย่างเดียวกลิ่นติดไม่ทน ทั้ง 2 ตัวนี้เราเลยใช้บ่อยมาก เพราะราคาไม่แรงแถมกลิ่นดูแพงด้วย ตอนนี้หมดไปแล้วทั้ง 2 ขวดเผลอทิ้งขวดไปแล้วด้วย เลยเอารูปจากในกูเกิ้ลมา น้องนศ.ที่หัดใช้น้ำหอมเราแนะนำ 2 ตัวนี้น่ะ มันหอมกว่าน้ำหอมของโอเรียลทอลปริ้นเซส เพิ่มตังค์อีกหน่อย ได้น้ำหอมที่กลิ่นดูไฮขึ้นมาอีกระดับ
ตัวที่ 6 น้ำหอมหลักร้อยของผู้ชาย
อันนี้ก็ของ yves rocher เหมือนกันค่ะ แฟนใช้จนหมดเกลี้ยงเลย กลิ่นคล้ายๆ davidoff cool water สดชื่น สปอร์ต แต่มาในราคาที่ถูกกว่าไม่ถึงพัน แต่กลิ่นก็ติดไม่ทนด้วยเหมือนกัน กลิ่นติดอยู่ประมาณครึ่งวันค่ะ แนะนำสำหรับน้องๆนศ.เลยค่ะ
ตัวที่ 7 น้ำหอมหลักพันขวดแรก
อิซซี่ มิยาเกะ ตัวนี้กลิ่นคุ้นเคยกันดี ตัวดังของแบรนด์นี้เลย ยอมรับว่าหอมมากกลิ่นแนวดอกไม้ ติดทนแต่มีคนใช้เยอะค่ะ แถมกลิ่นส่วนมากจำได้ เคยใส่ไปชนกับลูกค้าด้วย แบบกลิ่นเดียวกันเลยอะไรแบบนี้ ก็เลยไม่ได้ซื้อต่อค่ะ
ตัวที่ 8 หลักพันเช่นกัน
อันนี้พี่ที่ทำงานให้ไซส์เล็กมาค่ะ แต่พอลองใช้แล้วจะเก็บตังค์ไปซื้อไซส์ใหญาแน่นอน ของ bulgari omnia ขวดสีขาว กลิ่นหอมใส สดชื่น กระจ่างงง ติดทนพอสมควร เหมาะใช้กับหน้าร้อนสุดๆ
ตัวที่ 9
อันนี้ของ estee lauder ค่ะ เนื่องจากส่วนตัวจขกท.ชอบใช้กลิ่นแนวสดชื่น ซีทรัส อันนี้คือตอบโจทย์ใช่เลย! มีกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวผสมดอกไม้ หอมมาก ชอบบบ ใช้แบบทนุถนอมมากจริงๆ
ตัวที่ 10
ตัวนี้ เวอร์ซาเช่ กลิ่น crystal bright แนวหวานๆใสๆ ดอกไม้ๆ มี 3 ไซส์เลย เนื่องจากแฟนชอบกลิ่นนี้ค่ะ เขาบอกว่าเวลาเราฉีดได้กลิ่นแบบคุณหนูเรียบร้อยมากๆ ดูแพง แต่ตัวเองอ่ะกลิ่นนี้ชอบแต่ไม่มาก ชอบเรื่องความติดทนมากกว่า ติดเช้ายันเย็น ติดถึงเสื้อผ้าเลยค่ะ ทนจริงจังมาก
ตัวที่ 11
ตัวนี้เป็นลูกรักในหน้าร้อนนี้เลย ฉีดบ่อยมาก chanel chance กลิ่นแนวผลไม้รสเปรี้ยวผสมดอกไม้อีกแล้ว แนวสดชื่นๆเหมาะกับหน้าร้อน แต่ตัวนี้ออกฉุนกว่าเอสเต้น่ะ ฉุนกว่าเวอร์ซาเช่ด้วย ห้ามฉีดเกิน 4 ปั้มไม่งั้นคนเดินข้างๆอาจมึนหัวได้ เคยลองฉีดตัวนี้หน้าหนาว ปรากฏว่าไม่รอดอ่ะมันฉุนไป แต่พอเอามาฉีดหน้าร้อนนี่ดีงามมากค่ะ ชอบปานกลาง
ตัวที่ 12
น้ำหอมโคลเอ้โบว์ครีมในตำนาน แพงมาก หอมมาก ใช้นางอย่างทนุถนอมมาก กลิ่นดอกกุหลาบผสมลิ้นจี่ หอมแบบมีชั้นเชิง ไม่ใช่แบบกุหลาบโดดๆ ฉีดแล้วรู้สึกกลายเป็นคุณหนูสายหวาน
ตัวที่ 13 นางคือลูกรัก
น้ำหอมของ burberry กลิ่น my burberry แนวดอกไม้หลากชนิดอันนี้ไม่มีกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวผสมเลยมาแนวฟรอรัลล้วนๆ ตัวนี้ชอบมาก เพราะมันหวานแบบผู้ใหญ่ค่ะ มันให้ความละมุนด้วย อธิบายไม่ถูกเลย คือดีงามมากสำหรับตัวเอง เป็นน้ำหอมที่รู้สึกเหมาะกับบุคลิกตัวเองมากที่สุด เลยรักนางมาก หมดแล้วซื้อต่อแน่นอน
ตัวที่ 14 ของผู้ชายค่ะ
versace pour homme กลิ่นแบบคุณชายมาก อะไรจะนุ่มนวลชวนฝันเบอร์นั้น ชอบให้แฟนฉีดในวันที่แต่งตัวเนี๊ยบๆค่ะ เข้ากันมาก จะดูแบบกลายเป็นผช.สำอางค์ คุ๊ณช๊าย คุณชายขึ้นมาทันที
ตัวที่ 15
davidoff champien กลิ่นแนวเครื่องเทศผสมกลิ่นไม้แมนๆเลยค่ะ ชอบให้แฟนฉีดในวันที่แฟนแต่งตัวเซอร์มันเหมาะมาก กลิ่นเข้ากับลุคเซอร์ๆค่ะ
ตัวที่ 16 สุดท้ายแล้วค่ะ
davidoff cool water night dive ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเหมาะสำหรับฉีดตอนงานกลางคืน เพราะกลิ่นนี้มีความฉุนเล็กน้อยค่ะ แต่ก็ยังคงแนวสปอร์ตอยู่ อันนี้แฟนไม่ค่อยชอบ แต่เราก็ว่าหอมดีค่ะ
หลักการเลือกน้ำหอม คือเลือกให้ตรงกับลุคที่เราแต่งตัวในวันนั้นค่ะ สภาพอากาศ ความชอบและบุคลิกของเรา มันถึงจะช่วยให้เรามีเสน่ห์มากขึ้น
และที่สำคัญต้องเลือกให้ตรงกับเงินในกระเป๋าของเรา น้ำหอมหลักร้อยบางตัวก็หอมคล้ายกลิ่นราคาแพงแต่นางอาจจะติดทนไม่เท่าเคาว์เตอร์แบรนด์แค่นั้นเอง
จบแล้วค่ะ กรุน้ำหอมไม่ใหญ่มากเพราะกว่าจะซื้อคิดแล้วคิดอีก บางตัวเก็บตังค์หลายเดือนเลย
หวังว่ากระทู้นี่จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆน้องๆในการเลือกซื้อน้ำหอมนะคะ ขอให้ได้น้ำหอมที่ใช่ค่ะ