สวัสดีครับ
ผม Poppa Journey คนเดิม เพิ่มเติมคือจะมาพาเที่ยวกันอีกแล้วครับ
หากใครไม่รู้จักลองตามผลงานรีวิวก่อนหน้าได้ครับ
ต้อนรับแขกครั้งแรก (
http://ppantip.com/topic/35081565 )
ในส่วนของวันนี้พบกับ แทน แท้น แท๊นนนนน
ไปไต้หวันป่ะ
ไม่รอช้ามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
วันนั้นที่หน้าคอมพิวเตอร์แลปทอปและตั๋วโปรโมทชั่นสายการบินหมีดำสายการบินหนึ่งปรากฎอยู่หน้าจอ
คลิ๊ก ป๊าปปปป ผมไม่รอช้าที่จะกดจองตั๋วเครื่องบิน บินตรงจาก เชียงใหม่ – ไทเป
ใช่แล้วครับ
ผมตัดสินใจใช้ช่วงวันหยุดสงกรานต์ของแฟนผมไปเที่ยวไต้หวันกัน
ด้วยเหตุผลคือ มีบินตรง ไม่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงกรุงเทพ และ เป็นประเทศที่เราสองคนยังไม่เคยไปมาก่อน
อีกอย่างคือ ได้แรงบันดาลใจจากพี่ป๊อป Poppumon ที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะเหลือเกินจนทำให้เราอยากไปครับ
ส่วนการเดินทางหลายๆอย่างก็ได้น้องๆ GoGraph นี่แหละที่เขียนรีวิวดีมาก ลอกตามเลยละกัน ฮ่าๆ อย่างอื่นก็หาตามกรุ๊ปเฟซบุ๊คครับ
ช่วยได้เยอะเลย ทั้งกรุ๊ป Taiwan หว่อไล่เล่อ กับ ท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณมากๆครับ
แต่น่าเสียดายที่แฟนผมมีเวลาแค่ 4 วัน 3 คืน เลยต้องแบ่งพาร์ทเที่ยวครับ
เพราะฉะนั้นการเดินทางครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนการเดินทางครับ
ส่วนแรกเป็นการเดินทางในไทเปซะส่วนใหญ่ เน้นกิน เน้นเที่ยว ช็อปปิ้ง
ส่วนที่สองจะเป็นการออกไปสัมผัสธรรมชาติด้วยตัวคนเดียวของผมเอง–ได้เวลาแรดแย้วว ฮี่
สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่าน ผมมีได้ทำวีดีโอของการเดินทางครั้งนี้ไว้ด้วยครับ แบ่งเป็นสองพาร์ทเหมือนกัน ลองคลิ๊กดูกันได้นะครับ
พาร์ทแรก
Gongguan Market - Xemending - Shilin Market - Beitou hot spring - Zhongshan - Taipei Fish Market - Jiufen - Chiang kai-shek Memorial hall
พาร์ทที่สอง
ส่วนนอกเมืองไทเป นั่งรถ HSR จาก Taipei ไปลง Taichung แล้วนั่ง Bus ต่อไป Sun Moon Lake นอนหนึ่งคืนครับ
วันรุ่งขึ้นนั่งรถบัสต่อไป Alishan แล้วนอนอีกหนึ่งคืน กลับมา Taipei ขึ้นเขาช้าง แล้วกลับบ้านครับ
เอาล่ะ มาเริ่มลิ้มรสสัมผัสวิถีฮิปสเตอร์สโลว์ไลฟ์กับรูปถ่ายและตัวอักษรกันครับ เชิญรับชมได้บัดเดี๋ยวนี้ค๊าบบบ
เตรียมตัวก่อนไปไต้หวัน
1.
ขอวีซ่า เนื่องจากอยู่เชียงใหม่ ทำให้ผมต้องหาเวลาไปทำวีซ่าที่ กทม ค่าทำวีซ่าอยู่ที่ 1,500 บาท (ณ มีนาคม 2016) ตอนนี้น่าจะ 1,700 บาท แล้วนะครับ ซึ่งก็ไม่ยากครับ ไปเช้าๆเลย ผมไปประมาณ 7:30 ก็รอนานหน่อย แต่ใช้เวลา 2-3 วันก็ได้เล่มคืนละครับ หากใครไม่อยากไปกทม จากเชียงใหม่ สามารถทำได้คือ ขอวีซ่าไปญี่ปุ่นครับ หรือ มีวีซ่าเชงเก้น, อเมริกา ที่ยังไม่หมดอายุ ก็ได้เหมือนกันครับ
2.
แลกเงิน คิดง่ายๆเงินไต้หวันกับไทย ถ้าไม่อยากปวดหัวก็ 1TWD = 1 บาทไทยครับ
3.
Internet เอาไว้ช่วยหาโรงแรม ที่กินที่เที่ยว เอาแบบง่ายๆ แบบผมเลยก็ ซื้อซิมที่สนามบินครับ แพ๊คเกจมีเยอะมากๆ ผมเลือก 7 วัน 500$ พอดิบพอดีกับวันที่ผมมาครับ อีกอย่างเน็ตก็แรงมากๆครับ โหลดรูป อัพรูป ปรี๊ดๆ แถม Unlimited อีก
4.
ปลั๊กไฟ ผมเตรียมหัวแปลงมานะครับ แต่ไม่ได้ใช้เลย เพราะปลั๊กไฟที่นี่เป็นขาแบนเหมือนบ้านเราครับ มีแค่ 2 รูปนะครับ พวกขากลางสายดินใช้ไม่ได้นะ อาจจะต้องใช้ตัวแปลงครับ ส่วนกระแสไฟ เดี๋ยวนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าก็รับได้ทั้งสองแบบ 110/220v แล้ว เพราะงั้นชิวๆฮะ
5.
Easy Card หรือการ์ดเติมเงิน แบบที่ทัชที่เครื่องแล้วก็ตัดเงินเหมือนบัตร Rabbit BTS บ้านเราคับ ใช้ในการเดินทางด้วย รถเมลล์ MRT ที่จอดรถจักรยาน หรือซื้อของในร้านมินิมาร์ทก็ได้ (ไม่ต้องเก็บเหรียญทอนด้วย) มีขายตามร้านมินิมาร์ท , information center ตามสถานี MRT หรือตามตู้ที่สถานีครับ มีแบบมัดจำเอาไปคืนได้ ราคา 500NT มัดจำ 100NT กับ แบบไม่ต้องมัดจำราคา 100NT ก็เลือกเอาตามสะดวกครับ ส่วนใหญ่ผมก็ใช้บัตรนี้ตลอด
6.
MRT MAP เนื่องจากส่วนใหญ่เราจะอยู่ไทเปเยอะหน่อย เพราะฉะนั้นแผนที่รถไฟฟ้าก็จำเป็นครับ
แผนที่จาก http://english.metro.taipei ครับ
น่าจะหมดละนะครับ อื่นๆผมบอกไว้ในรีวิวข้างล่างละครับ มาต่อกันเลย
อ๊ะ เดี๋ยวๆ ช่วงฝากร้าน (ตึก โป๊ะ!)
หากรักกันชอบกัน ฝากกด บวกงามๆ ด้านล่างนี้ด้วยนะครับ
ส่วนใครจะตามหาเพจหรือพูดคุยทักทายก็ดูเพจหรือเว็บไซต์ได้ที่โปรไฟล์ผมได้เลยนะครับ
อ่ะ ไปจริงๆละ อย่าลืมกด + นะจ๊ะ รักคนอ่านทุกคน
แผนการเดินทางที่พอเอาเข้าจริงก็ปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศด้วยครับ
[CR] Go Taiwan - ไปไต้หวันป่ะ
สวัสดีครับ
ผม Poppa Journey คนเดิม เพิ่มเติมคือจะมาพาเที่ยวกันอีกแล้วครับ
หากใครไม่รู้จักลองตามผลงานรีวิวก่อนหน้าได้ครับ
ต้อนรับแขกครั้งแรก ( http://ppantip.com/topic/35081565 )
ในส่วนของวันนี้พบกับ แทน แท้น แท๊นนนนน
ไปไต้หวันป่ะ
ไม่รอช้ามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
วันนั้นที่หน้าคอมพิวเตอร์แลปทอปและตั๋วโปรโมทชั่นสายการบินหมีดำสายการบินหนึ่งปรากฎอยู่หน้าจอ
คลิ๊ก ป๊าปปปป ผมไม่รอช้าที่จะกดจองตั๋วเครื่องบิน บินตรงจาก เชียงใหม่ – ไทเป
ใช่แล้วครับ
ผมตัดสินใจใช้ช่วงวันหยุดสงกรานต์ของแฟนผมไปเที่ยวไต้หวันกัน
ด้วยเหตุผลคือ มีบินตรง ไม่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงกรุงเทพ และ เป็นประเทศที่เราสองคนยังไม่เคยไปมาก่อน
อีกอย่างคือ ได้แรงบันดาลใจจากพี่ป๊อป Poppumon ที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะเหลือเกินจนทำให้เราอยากไปครับ
ส่วนการเดินทางหลายๆอย่างก็ได้น้องๆ GoGraph นี่แหละที่เขียนรีวิวดีมาก ลอกตามเลยละกัน ฮ่าๆ อย่างอื่นก็หาตามกรุ๊ปเฟซบุ๊คครับ
ช่วยได้เยอะเลย ทั้งกรุ๊ป Taiwan หว่อไล่เล่อ กับ ท่องเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณมากๆครับ
แต่น่าเสียดายที่แฟนผมมีเวลาแค่ 4 วัน 3 คืน เลยต้องแบ่งพาร์ทเที่ยวครับ
เพราะฉะนั้นการเดินทางครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนการเดินทางครับ
ส่วนแรกเป็นการเดินทางในไทเปซะส่วนใหญ่ เน้นกิน เน้นเที่ยว ช็อปปิ้ง
ส่วนที่สองจะเป็นการออกไปสัมผัสธรรมชาติด้วยตัวคนเดียวของผมเอง–ได้เวลาแรดแย้วว ฮี่
สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่าน ผมมีได้ทำวีดีโอของการเดินทางครั้งนี้ไว้ด้วยครับ แบ่งเป็นสองพาร์ทเหมือนกัน ลองคลิ๊กดูกันได้นะครับ
พาร์ทแรก
Gongguan Market - Xemending - Shilin Market - Beitou hot spring - Zhongshan - Taipei Fish Market - Jiufen - Chiang kai-shek Memorial hall
พาร์ทที่สอง
ส่วนนอกเมืองไทเป นั่งรถ HSR จาก Taipei ไปลง Taichung แล้วนั่ง Bus ต่อไป Sun Moon Lake นอนหนึ่งคืนครับ
วันรุ่งขึ้นนั่งรถบัสต่อไป Alishan แล้วนอนอีกหนึ่งคืน กลับมา Taipei ขึ้นเขาช้าง แล้วกลับบ้านครับ
เอาล่ะ มาเริ่มลิ้มรสสัมผัสวิถีฮิปสเตอร์สโลว์ไลฟ์กับรูปถ่ายและตัวอักษรกันครับ เชิญรับชมได้บัดเดี๋ยวนี้ค๊าบบบ
เตรียมตัวก่อนไปไต้หวัน
1. ขอวีซ่า เนื่องจากอยู่เชียงใหม่ ทำให้ผมต้องหาเวลาไปทำวีซ่าที่ กทม ค่าทำวีซ่าอยู่ที่ 1,500 บาท (ณ มีนาคม 2016) ตอนนี้น่าจะ 1,700 บาท แล้วนะครับ ซึ่งก็ไม่ยากครับ ไปเช้าๆเลย ผมไปประมาณ 7:30 ก็รอนานหน่อย แต่ใช้เวลา 2-3 วันก็ได้เล่มคืนละครับ หากใครไม่อยากไปกทม จากเชียงใหม่ สามารถทำได้คือ ขอวีซ่าไปญี่ปุ่นครับ หรือ มีวีซ่าเชงเก้น, อเมริกา ที่ยังไม่หมดอายุ ก็ได้เหมือนกันครับ
2. แลกเงิน คิดง่ายๆเงินไต้หวันกับไทย ถ้าไม่อยากปวดหัวก็ 1TWD = 1 บาทไทยครับ
3. Internet เอาไว้ช่วยหาโรงแรม ที่กินที่เที่ยว เอาแบบง่ายๆ แบบผมเลยก็ ซื้อซิมที่สนามบินครับ แพ๊คเกจมีเยอะมากๆ ผมเลือก 7 วัน 500$ พอดิบพอดีกับวันที่ผมมาครับ อีกอย่างเน็ตก็แรงมากๆครับ โหลดรูป อัพรูป ปรี๊ดๆ แถม Unlimited อีก
4. ปลั๊กไฟ ผมเตรียมหัวแปลงมานะครับ แต่ไม่ได้ใช้เลย เพราะปลั๊กไฟที่นี่เป็นขาแบนเหมือนบ้านเราครับ มีแค่ 2 รูปนะครับ พวกขากลางสายดินใช้ไม่ได้นะ อาจจะต้องใช้ตัวแปลงครับ ส่วนกระแสไฟ เดี๋ยวนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าก็รับได้ทั้งสองแบบ 110/220v แล้ว เพราะงั้นชิวๆฮะ
5. Easy Card หรือการ์ดเติมเงิน แบบที่ทัชที่เครื่องแล้วก็ตัดเงินเหมือนบัตร Rabbit BTS บ้านเราคับ ใช้ในการเดินทางด้วย รถเมลล์ MRT ที่จอดรถจักรยาน หรือซื้อของในร้านมินิมาร์ทก็ได้ (ไม่ต้องเก็บเหรียญทอนด้วย) มีขายตามร้านมินิมาร์ท , information center ตามสถานี MRT หรือตามตู้ที่สถานีครับ มีแบบมัดจำเอาไปคืนได้ ราคา 500NT มัดจำ 100NT กับ แบบไม่ต้องมัดจำราคา 100NT ก็เลือกเอาตามสะดวกครับ ส่วนใหญ่ผมก็ใช้บัตรนี้ตลอด
6. MRT MAP เนื่องจากส่วนใหญ่เราจะอยู่ไทเปเยอะหน่อย เพราะฉะนั้นแผนที่รถไฟฟ้าก็จำเป็นครับ
แผนที่จาก http://english.metro.taipei ครับ
น่าจะหมดละนะครับ อื่นๆผมบอกไว้ในรีวิวข้างล่างละครับ มาต่อกันเลย
อ๊ะ เดี๋ยวๆ ช่วงฝากร้าน (ตึก โป๊ะ!)
หากรักกันชอบกัน ฝากกด บวกงามๆ ด้านล่างนี้ด้วยนะครับ
ส่วนใครจะตามหาเพจหรือพูดคุยทักทายก็ดูเพจหรือเว็บไซต์ได้ที่โปรไฟล์ผมได้เลยนะครับ
อ่ะ ไปจริงๆละ อย่าลืมกด + นะจ๊ะ รักคนอ่านทุกคน
แผนการเดินทางที่พอเอาเข้าจริงก็ปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศด้วยครับ