เรื่องเกิดขึ้นที่ สถานี BTS สายสีลม สถานีที่มีลิฟท์ สถานีกลางกรุง สถานีหนึ่ง ทีมีชื่อว่า สถานีช่องนนทรี ณ เวลา 4 ทุ่มครึ่งกว่า ของวันอังคารที่ 10 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา ชานชาลาฝั่งมาจากสยาม ไปทางบางหว้า
สืบเนื่องจาก คนญี่ปุ่นที่รู้จักกัน ใช้ช่วงเวลาวันหยุดของเขา ตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยอย่างเป็นทางการ (ปกติจะแค่บินมาทำงานแล้วก็กลับตลอดๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เที่ยว) ทางเราก็ดีใจสิ เค้ามีใจให้เมืองไทย อะไรช่วยอำนวยความสะดวกทางฝั่งไทยให้ได้ ช่วยเลย
ก่อนอื่นเลย ก็ส่งข้อความไปถามถึงญี่ปุ่น ว่า เมื่อมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว (ถึงไทยราว 21.00-21.30) จะไปโรงแรม (แถวช่องนนทรี) อย่างไร
ทางคนญี่ปุ่นตอบมาว่า นั่งแอร์พอร์ตลิงค์ไปลงสถานีพญาไท และต่อแท็กซี่
*** จุดๆนี้ ขออนุญาตเอ่ยอ้างถึงแท็กซี่ที่ไม่ดี ซึ่งทราบว่าเป็นส่วนน้อยของสังคมนะคะ แต่ที่ไม่ทราบคือ บุญนำกรรมแต่งของทางเรา เป็นอย่างไรมา จะโชคไม่ดีหรือไม่ค่ะ ***
เราก็ ห๊ะ อะไรนะ ผู้หญิงตัวคนเดียว พร้อมกระเป๋าเดินทางร่วม 30 กก. แถมเป็นต่างชาติ มาต่อแท็กซี่ตอนสามสี่ทุ่ม ทางเราก็เลยปรึกษาทั้งผู้ใหญ่ รุ่นพี่ เพื่อน คนไทย ที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน .. ได้คำตอบว่า ให้แนะนำไปว่า แอร์พอร์ตลีมูซีนไหม แลปลอดภัย เชื่อถือได้ สะดวกสบายกว่า แพงนิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับเวลาถูกโกง (ที่เป็นข่าวบางครั้ง) อาจจะราคาถูกกกว่าด้วยซ้ำไปมั้ยนะ ที่แน่ๆ ถ้าเจอคนคิดโกง ก็ไม่ใช่คนจิตใจดีละ วางใจไม่ได้ละถึงความปลอดภัยไปอีกสเต็ปที่ต้องคิดต่อทันที
คุยไปคุยมา ศึกษาแผนผังสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี เรียบร้อย โอเค มีลิฟท์ทางฝั่งเดียวกับโรงแรม ไม่ต้องยกกระเป๋า 30 กก.ลงบันไดโดยลำพังผู้หญิงคนเดียว และะรถไฟฟ้ายามเลย 4 ทุ่ม แล้วก็คนไม่เยอะมากแล้ว กระเป๋าใบใหญ่ ก็ไม่รบกวนใคร รถไฟฟ้าก็แลเป็นทางเลือกที่ดี
รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใช้อยู่ จะมีพื้นที่สำหรับรถคนพิการ ซึ่งก็เผื่อได้ไปสำหรับกระเป๋าเดินทาง เราก็ศึกษาไปก่อนว่า ถ้าโชคดีรอบรถไฟที่จะขึ้นเที่ยวนั้นได้รถไฟรุ่นดังกล่าว ต้องขึ้นประตูไหน เพื่อจะนำไปพยายามอธิบายบอกคนญี่ปุ่น แต่ก็ยากนิด เพราะ ไม่มีหมายเลขกำกับประตูว่าประตูเลขที่เท่าไหร่แบบที่ญี่ปุ่น
แต่ที่ตกใจหนักมาก คือ ทำไมออกแบบลิฟท์ให้ไปไว้ที่กลางเกาะกลางถนนแบบน้านนน ????
อะไรคือการลงลิฟท์แล้วต้องข้ามถนนต่อ ถนนที่ไม่มีทางม้าลายที่จะวางใจด้านความปลอดภัย พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
คือ หรือทางคนต่างชาติ และทางเรา จะคิดแบบที่มันควรจะทำได้แบบสากลมากเกินไป เช่น ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่น คงทราบดี
คือ อาจมีเหตุผลที่เป็นเหตุเป็นผลมากกว่านี้ ที่ออกแบบลิฟท์ให้ไปไว้ที่กลางเกาะกลางถนน ที่เราอาจจะคิดไปไม่ถึงจริงๆ ช่วยแจ้งให้ทราบทีค่ะ
จนต้องศึกษาย้อนกลับไปที่แผนผังสถานีพญาไทของทางแอร์พอร์ทลิงค์ ว่ามีลิฟท์หรือบันไดเลื่อนรองรับเรียบร้อยดีนะ พบว่า ไม่มีปัญหา มีรองรับ ก็เลยบอกทางคนญี่ปุ่นไปด้วยเช่นกัน
แลกระบวนการความปลอดภัยของไทย ยุ่งยากมาก เราเคยชินกันเกินไป พอมาคิดทีละสเต็ป มันไม่ค่อยปลอดภัยนักเลย เราตัดสินใจ ส่งข้อความไปบอกคนญี่ปุ่นว่า งั้นเราไปรอรับที่ที่แอร์พอร์ตลิงค์พญาไทนะ ถ้าจะขึ้นแอร์พอร์ทลิงค์จะออกจากสุวรรณภูมิแล้ว ช่วยส่งข้อความมาบอกเรา เราจะได้ตั้งท่ารอหาว่าจะออกมาจากประตูฝั่งไหน และจะได้ช่วยกันลากกระเป๋าขึ้นรถไฟฟ้าต่อได้ แล้วจะได้หลังจากลงลิฟท์ที่สถานีช่องนนทรีแล้ว จะได้พาข้ามถนนตอนกลางคืนกัน อย่างน้อยก็ข้ามกัน 2 คน อุ่นใจขึ้น
เมื่อถึงวันเวลานัด ไปยืนรอแขกบ้านแขกเมืองที่แอร์พอร์ตลิงค์พญาไท ระหว่างรอ เราก็เลยค้นพบว่า.. ที่สถานีพญาไทไม่มีป้ายบอกไฟลท์เครื่องบินขาเข้าออกแบบสถานีมักกะสัน ก็เลยไม่รู้ว่า เครื่องแลนด์แล้วหรือยัง แต่เช็คผ่านเว็บไซต์สุวรรณภูมิได้
รอไปอีกสักพัก ทางคนญี่ปุ่นส่งข้อความมาบอกว่า เขาจะขึ้นรถไฟที่ออกจากสุวรรณภูมิรอบขบวนเวลา 21.45 น. นะ เราก็คิดคำนวณเวลาคร่าวๆ น่าจะใช้เวลาเดินทางราว 20 นาที หลังจากพอได้เจอกันแล้ว ก็ต่อบีทีเอสมา พร้อมกระเป๋าเดินทางใบมาตรฐานการเดินทางข้ามประเทศปกติ
พอถึงสถานีปลายทาง
สถานีช่องนนทรี ณ เวลา 4 ทุ่มครึ่งกว่า ทางเราศึกษาแผนผังสถานีมาแล้ว เดินไปลิฟท์ตรงชั้นชานชาลาได้ทันที รู้ว่ามีซ่อนอยู่หลังชานชาลา เดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนเฝ้าชานชาลา(และลิฟท์?) ว่าจะขอใช้ลิฟท์ มีกระเป๋าเดินทางมาด้วย .. คือ ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เห็นนะ กระเป๋าเดินทางลาก 4 ล้อ ไซต์ 28 (ที่โหลดมาเกือบเต็มโควต้า 30 โล ตามโควต้าของสายการบิน) เราก็โซโล่ภาษาบ้านเกิดบอกว่าจะขอใช้ลิฟท์แล้ว
แต่ทว่า .. ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกมาว่า
"ลิฟท์สำหรับคนพิการที่นั่งรถคนพิการเท่านั้น ใช้ไม่ได้ ไม่ให้ใช้ !!!!!!!!"
เดี๋ยวนะะะะ
ตรรกะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพิการ หรือ ตรรกะบีทีเอสพิการ ?!?!
ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับ "เหตุผลล่ะคะ ทำไมมาพร้อมกระเป๋าเดินทางไซต์ขนาดนี้ถึงใช้ไม่ได้คะ ? "
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอก "สำหรับคนพิการที่มาพร้อมรถนั่งคนพิการ(คงหมายถึงวีลแชร์)"
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
(จุดๆนี้อารมณ์เริ่มขึ้นเบาๆละ ใจคอคือจะปล่อยให้ผู้หญิง แถมเป็นคนต่างชาติ ยกกระเป๋าลงบันไดรวมเท่ากับตึกสูง 4 ชั้นจริงๆสินะ พยายามรักษาสีหน้าสุดความสามารถ) ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปใหม่ว่า "นี่กระเป๋าใบใหญ่มากเลยนะ จะให้ยกลงบันได ทั้งที่มีลิฟท์อยู่ตรงนี้เนี่ยอะนะคะ ? "
( ในใจคิด แค่มีลิฟท์แค่บางสถานี และมีแต่บันไดเลื่อนขึ้น ก็ไม่ค่อยจะเป็นสากลแล้วนะ ยังมีตรรกะการใช้ลิฟท์แบบนี้ด้วยเหรอวะ นี่มันสถานีรถไฟฟ้าสาธารณะนะ !! )
ถามสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใหม่ที่ตอบชัดถ้อยชัดคำ จนคนญี่ปุ่นยอมศิโรราบละ จนเราก็เกรงใจคนญี่ปุ่นละ ดึกละ บินมาไกล ยังมาเปิดศึกกับอะไรแบบนี้ แลไม่เหมาะ เพราะได้คำตอบจาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่า
"ยกลงเอง เค้าไม่ให้ใช้"
????%>*++€€><~~~+๑@#$%&*#$%&*(*)()__/**-~!!!!
ในใจนี่ตะโกนเสียงดังมาก
"อะไรวะะะะะะะะะะะะ !!!!!!"
(ตะโกนในใจ/ขออภัยที่ไม่สุภาพค่ะ จุดๆอารมณ์ตรงนั้นคืออย่างนี้เลยค่ะ)
จึงหันไปคุยกับคนญี่ปุ่นด้วยภาษาญี่ปุ่น (ลืมบอกไปว่า คนญี่ปุ่นพอจะฟังพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้บ้างค่ะ ดังนั้น พอจะฟังคำว่า
"ไม่ได้" จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้เข้าใจแน่นอนค่ะ) เลยคุยกันว่าช่วยกันยกลงนะ เดั๋ยวถึงข้างล่างจะไปถามเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ข้างล่าง !! .. ในขณะที่แขกบ้านแขกเมืองยิ้มแย้มบอกไม่เป็นไรๆๆ แต่ทางเราในฐานะเจ้าบ้านนี่ รู้สึกขายหน้าไปถึงประเทศชาติค่ะ
ลงไปถึงชั้นกดบัตร .. เดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคน บอกถามจะขอใช้ลิฟท์ กระเป๋าไซต์นี้ จะให้ยกลงบันไดมั้ย (อารมณ์ค้างเบางๆมาจากชั้นบน แต่ถูกตัดกำลังไปบ้างด้วยน้ำหนักกระเป๋าที่ยกลงมาเท่ากับความสูงตึก 2 ชั้น)
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวอ1วอ2 ในวอคุยถามไซต์กระเป๋า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านนี้บอกในวอว่า ใบใหญ่มาก
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เชิญพาไปลงลิฟท์ ไปส่งถึงชั้นล่าง สถานีที่ออกแบบจุดขึ้นลงลิฟท์ได้ไม่เข้าใจมากถึงมากที่สุด
.. ลงมาถึงข้างล่าง นี่คือลงมาอยู่ตำแหน่งเกาะกลางถนน !!!!!!! ดีนะ ค่ำมืดแล้ว รถน้อยแล้ว ค่อยข้ามถนนง่ายหน่อย เราคนไทย ข้ามถนนของบ้านเกิดตัวเองไม่เก่ง แต่ก็แลจะเก่งกว่าคนญี่ปุ่น ประเทศที่แทบจะก้มเล่นมือถือในรหว่างเดินข้ามถนนตามสัญญาณไฟได้ (จริงๆไม่ควรทำเช่นกันนะคะ แค่เปรียบเทียบให้เห็นถึงความปลอดภัยของทางประเทศเขาค่ะ)
ก่อนจะข้าม หันไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มาส่งถึงชั้นล่างลิฟท์ ถามว่า .. "ทำไมชั้นชานชาลาลงมาชั้นขายตั๋วถึงไม่ให้ใช้ลิฟท์ ? แล้วคนต่างชาติ มาประเทศเรา กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มีลิฟท์ ไม่ให้ใช้ลิฟท์ ?"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบว่า "ใช้ได้นะครับ ทำไมคนข้างบนไม่วอลงมา ให้คนข้างล่างขึ้นไปรับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ โอกาสหน้า แจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างบนวอลงมาให้คนขึ้นไปรับเลยนะครับ"
แอบคิดในใจ แปลว่า ต้องปล่อยกระเป๋าทิ้งไว้ข้างบน แล้วลงมาบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างล่าง เพราะคนข้างบนเขาไม่ให้ เอ้ออออ แปลกไปมั้ยยย พวกคุณประสานงานการทำงาน มีการอบรมระบบระเบียบการจัดการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับบุคคลในองค์กรกันอย่างไร แล้วนี่คือ BTS เลยนะคะ
แต่ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านนั้นไป คือ สุภาพ บริการดีมาก ช่วยคูลดาวน์อารมณ์เราตรงนั้นได้ดีมากเช่นกันค่ะ
--------------------------------------------------------
ทั้งนี้ทั้งนั้นและทั้งหมด อาจจะมีบางมุมมองว่า คนอื่นเค้าก็แบกขึ้นลงได้/ขึ้นแท็กซี่สิจะได้ไม่ยุ่งยาก/แอร์พอร์ทลีมูซีนสิ .. นี่มามีปัญหาอะไรนักหนา ก่อนจะเทใจไปกับความคิดแบบนี้หมด ลองเผื่อใจไปอีกหลายๆมุมมองดูก่อนได้ค่ะ มันมีมุมที่มัควรจะเป็นไปและสมควรไปทางด้านมุมนั้น และเป็นสากลกว่า มากกว่ามุมความคิดนี้ค่ะ อีกทั้งเป็นการช่วยใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีการเชื่อมต่อกันตามที่รณรงค์ให้ใช้ลดปัญหารถติดในอีกมุมด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้ กับสิ่งที่คิดในใจ ที่เจอมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่งว่างสะดวกมาเล่าพิมพ์แชร์ต่อ
ขอคำตอบค่ะ จากทางผู้เกี่ยวข้อง ในฐานะเจ้าบ้าน และผู้ใช้บริการ ทั้งกรณี เรื่องของการใช้ลิฟท์บนสถานี :
1. ทำไม BTS ถึงให้ใช้แค่คนพิการที่ต้องมาพร้อมรถคนพิการ ทำไมถึงปิดลิฟท์ไว้ไม่ให้ใช้คะ
-- จริงอยู่ในตอนจบเรื่องนี้ ได้ใช้ลิฟท์ แต่ก็ยกกระเป๋าเดินทางอีกใบใหญ่ลงมาครึ่งทางของสถานีที่มีลิฟท์ด้วยนะคะ และในอีกมุม ยังมีคนที่จำเป็นต้องใช้ เช่น นักท่องเที่ยวที่มีกระเป๋าเดินทางใบโตก็ดี คนต่างชาติจะคุยภาษาอังกฤษกันได้แน่นอนใช่ไหมคะ จึงล็อกไว้หากบอกว่าต้องขออนุญาตก่อนใช้ ? อีกทั้งคนธรรมดาที่ขาเจ็บเดินกระเผกประมาณว่าวันก่อนไปเดินสะดุดตะแกรงท่อระบายน้ำมาจะไปทำงานไม่อยากเสียวันลางาน ต้องการใช้ก็ดี ที่ลิฟท์มันเป็นอยู่คือปัจจุบันคือล็อกใช้ไม่ได้ ? คนที่ป่วยแต่จะยังพอพยุงตัวเองไปถึงปลายทางได้ ถ้ามีลิฟท์ช่วยพยุงเขาได้ด้วยก็ดี ฯลฯ
และ
2. ทำไมสร้างลิฟท์สถานีช่องนนทรีไว้ที่เกาะกลางถนนคะ ลงมาถึงข้างล่างต้องข้ามถนนที่ไม่มีแม้กระทั่งทางม้าลาย ?
-- ถ้าข้ามพลาด รถชนเข้า ใครผิดคะ ? ถ้าข้ามแล้วหากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเกิดถูกจับเพราะข้ามถนนไม่ตรงทางม้าลาย ใครช่วยรับผิดชอบไหมคะ ? เกาะกลางถนนตรงนั้นเหมือนมีทางช่องให้คล้ายๆให้แท็กซี่มาจอดรับได้ แต่นี่มันใช่ที่มันควรจะเป็นจริงๆหรือคะ ?
รูปประกอบข้างล่าง เพื่อนที่ทำงานแถวนั้นส่งมาให้ค่ะ
วันก่อนโดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนชานชาลารถไฟฟ้าบอกให้ยกกระเป๋าเดินทางลงบันไดเองค่ะ ทั้งที่มีลิฟท์อยู่ตรงนั้นค่ะ!?!
สืบเนื่องจาก คนญี่ปุ่นที่รู้จักกัน ใช้ช่วงเวลาวันหยุดของเขา ตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยอย่างเป็นทางการ (ปกติจะแค่บินมาทำงานแล้วก็กลับตลอดๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เที่ยว) ทางเราก็ดีใจสิ เค้ามีใจให้เมืองไทย อะไรช่วยอำนวยความสะดวกทางฝั่งไทยให้ได้ ช่วยเลย
ก่อนอื่นเลย ก็ส่งข้อความไปถามถึงญี่ปุ่น ว่า เมื่อมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว (ถึงไทยราว 21.00-21.30) จะไปโรงแรม (แถวช่องนนทรี) อย่างไร
ทางคนญี่ปุ่นตอบมาว่า นั่งแอร์พอร์ตลิงค์ไปลงสถานีพญาไท และต่อแท็กซี่
*** จุดๆนี้ ขออนุญาตเอ่ยอ้างถึงแท็กซี่ที่ไม่ดี ซึ่งทราบว่าเป็นส่วนน้อยของสังคมนะคะ แต่ที่ไม่ทราบคือ บุญนำกรรมแต่งของทางเรา เป็นอย่างไรมา จะโชคไม่ดีหรือไม่ค่ะ ***
เราก็ ห๊ะ อะไรนะ ผู้หญิงตัวคนเดียว พร้อมกระเป๋าเดินทางร่วม 30 กก. แถมเป็นต่างชาติ มาต่อแท็กซี่ตอนสามสี่ทุ่ม ทางเราก็เลยปรึกษาทั้งผู้ใหญ่ รุ่นพี่ เพื่อน คนไทย ที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน .. ได้คำตอบว่า ให้แนะนำไปว่า แอร์พอร์ตลีมูซีนไหม แลปลอดภัย เชื่อถือได้ สะดวกสบายกว่า แพงนิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับเวลาถูกโกง (ที่เป็นข่าวบางครั้ง) อาจจะราคาถูกกกว่าด้วยซ้ำไปมั้ยนะ ที่แน่ๆ ถ้าเจอคนคิดโกง ก็ไม่ใช่คนจิตใจดีละ วางใจไม่ได้ละถึงความปลอดภัยไปอีกสเต็ปที่ต้องคิดต่อทันที
คุยไปคุยมา ศึกษาแผนผังสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี เรียบร้อย โอเค มีลิฟท์ทางฝั่งเดียวกับโรงแรม ไม่ต้องยกกระเป๋า 30 กก.ลงบันไดโดยลำพังผู้หญิงคนเดียว และะรถไฟฟ้ายามเลย 4 ทุ่ม แล้วก็คนไม่เยอะมากแล้ว กระเป๋าใบใหญ่ ก็ไม่รบกวนใคร รถไฟฟ้าก็แลเป็นทางเลือกที่ดี
รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใช้อยู่ จะมีพื้นที่สำหรับรถคนพิการ ซึ่งก็เผื่อได้ไปสำหรับกระเป๋าเดินทาง เราก็ศึกษาไปก่อนว่า ถ้าโชคดีรอบรถไฟที่จะขึ้นเที่ยวนั้นได้รถไฟรุ่นดังกล่าว ต้องขึ้นประตูไหน เพื่อจะนำไปพยายามอธิบายบอกคนญี่ปุ่น แต่ก็ยากนิด เพราะ ไม่มีหมายเลขกำกับประตูว่าประตูเลขที่เท่าไหร่แบบที่ญี่ปุ่น
แต่ที่ตกใจหนักมาก คือ ทำไมออกแบบลิฟท์ให้ไปไว้ที่กลางเกาะกลางถนนแบบน้านนน ????
อะไรคือการลงลิฟท์แล้วต้องข้ามถนนต่อ ถนนที่ไม่มีทางม้าลายที่จะวางใจด้านความปลอดภัย พร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
คือ หรือทางคนต่างชาติ และทางเรา จะคิดแบบที่มันควรจะทำได้แบบสากลมากเกินไป เช่น ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่น คงทราบดี
คือ อาจมีเหตุผลที่เป็นเหตุเป็นผลมากกว่านี้ ที่ออกแบบลิฟท์ให้ไปไว้ที่กลางเกาะกลางถนน ที่เราอาจจะคิดไปไม่ถึงจริงๆ ช่วยแจ้งให้ทราบทีค่ะ
จนต้องศึกษาย้อนกลับไปที่แผนผังสถานีพญาไทของทางแอร์พอร์ทลิงค์ ว่ามีลิฟท์หรือบันไดเลื่อนรองรับเรียบร้อยดีนะ พบว่า ไม่มีปัญหา มีรองรับ ก็เลยบอกทางคนญี่ปุ่นไปด้วยเช่นกัน
แลกระบวนการความปลอดภัยของไทย ยุ่งยากมาก เราเคยชินกันเกินไป พอมาคิดทีละสเต็ป มันไม่ค่อยปลอดภัยนักเลย เราตัดสินใจ ส่งข้อความไปบอกคนญี่ปุ่นว่า งั้นเราไปรอรับที่ที่แอร์พอร์ตลิงค์พญาไทนะ ถ้าจะขึ้นแอร์พอร์ทลิงค์จะออกจากสุวรรณภูมิแล้ว ช่วยส่งข้อความมาบอกเรา เราจะได้ตั้งท่ารอหาว่าจะออกมาจากประตูฝั่งไหน และจะได้ช่วยกันลากกระเป๋าขึ้นรถไฟฟ้าต่อได้ แล้วจะได้หลังจากลงลิฟท์ที่สถานีช่องนนทรีแล้ว จะได้พาข้ามถนนตอนกลางคืนกัน อย่างน้อยก็ข้ามกัน 2 คน อุ่นใจขึ้น
เมื่อถึงวันเวลานัด ไปยืนรอแขกบ้านแขกเมืองที่แอร์พอร์ตลิงค์พญาไท ระหว่างรอ เราก็เลยค้นพบว่า.. ที่สถานีพญาไทไม่มีป้ายบอกไฟลท์เครื่องบินขาเข้าออกแบบสถานีมักกะสัน ก็เลยไม่รู้ว่า เครื่องแลนด์แล้วหรือยัง แต่เช็คผ่านเว็บไซต์สุวรรณภูมิได้
รอไปอีกสักพัก ทางคนญี่ปุ่นส่งข้อความมาบอกว่า เขาจะขึ้นรถไฟที่ออกจากสุวรรณภูมิรอบขบวนเวลา 21.45 น. นะ เราก็คิดคำนวณเวลาคร่าวๆ น่าจะใช้เวลาเดินทางราว 20 นาที หลังจากพอได้เจอกันแล้ว ก็ต่อบีทีเอสมา พร้อมกระเป๋าเดินทางใบมาตรฐานการเดินทางข้ามประเทศปกติ
พอถึงสถานีปลายทาง สถานีช่องนนทรี ณ เวลา 4 ทุ่มครึ่งกว่า ทางเราศึกษาแผนผังสถานีมาแล้ว เดินไปลิฟท์ตรงชั้นชานชาลาได้ทันที รู้ว่ามีซ่อนอยู่หลังชานชาลา เดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนเฝ้าชานชาลา(และลิฟท์?) ว่าจะขอใช้ลิฟท์ มีกระเป๋าเดินทางมาด้วย .. คือ ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เห็นนะ กระเป๋าเดินทางลาก 4 ล้อ ไซต์ 28 (ที่โหลดมาเกือบเต็มโควต้า 30 โล ตามโควต้าของสายการบิน) เราก็โซโล่ภาษาบ้านเกิดบอกว่าจะขอใช้ลิฟท์แล้ว
แต่ทว่า .. ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอกมาว่า "ลิฟท์สำหรับคนพิการที่นั่งรถคนพิการเท่านั้น ใช้ไม่ได้ ไม่ให้ใช้ !!!!!!!!"
เดี๋ยวนะะะะ
ตรรกะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพิการ หรือ ตรรกะบีทีเอสพิการ ?!?!
ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับ "เหตุผลล่ะคะ ทำไมมาพร้อมกระเป๋าเดินทางไซต์ขนาดนี้ถึงใช้ไม่ได้คะ ? "
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบอก "สำหรับคนพิการที่มาพร้อมรถนั่งคนพิการ(คงหมายถึงวีลแชร์)"
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
(จุดๆนี้อารมณ์เริ่มขึ้นเบาๆละ ใจคอคือจะปล่อยให้ผู้หญิง แถมเป็นคนต่างชาติ ยกกระเป๋าลงบันไดรวมเท่ากับตึกสูง 4 ชั้นจริงๆสินะ พยายามรักษาสีหน้าสุดความสามารถ) ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปใหม่ว่า "นี่กระเป๋าใบใหญ่มากเลยนะ จะให้ยกลงบันได ทั้งที่มีลิฟท์อยู่ตรงนี้เนี่ยอะนะคะ ? "
( ในใจคิด แค่มีลิฟท์แค่บางสถานี และมีแต่บันไดเลื่อนขึ้น ก็ไม่ค่อยจะเป็นสากลแล้วนะ ยังมีตรรกะการใช้ลิฟท์แบบนี้ด้วยเหรอวะ นี่มันสถานีรถไฟฟ้าสาธารณะนะ !! )
ถามสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใหม่ที่ตอบชัดถ้อยชัดคำ จนคนญี่ปุ่นยอมศิโรราบละ จนเราก็เกรงใจคนญี่ปุ่นละ ดึกละ บินมาไกล ยังมาเปิดศึกกับอะไรแบบนี้ แลไม่เหมาะ เพราะได้คำตอบจาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่า "ยกลงเอง เค้าไม่ให้ใช้"
????%>*++€€><~~~+๑@#$%&*#$%&*(*)()__/**-~!!!!
ในใจนี่ตะโกนเสียงดังมาก "อะไรวะะะะะะะะะะะะ !!!!!!"
(ตะโกนในใจ/ขออภัยที่ไม่สุภาพค่ะ จุดๆอารมณ์ตรงนั้นคืออย่างนี้เลยค่ะ)
จึงหันไปคุยกับคนญี่ปุ่นด้วยภาษาญี่ปุ่น (ลืมบอกไปว่า คนญี่ปุ่นพอจะฟังพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้บ้างค่ะ ดังนั้น พอจะฟังคำว่า "ไม่ได้" จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้เข้าใจแน่นอนค่ะ) เลยคุยกันว่าช่วยกันยกลงนะ เดั๋ยวถึงข้างล่างจะไปถามเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ข้างล่าง !! .. ในขณะที่แขกบ้านแขกเมืองยิ้มแย้มบอกไม่เป็นไรๆๆ แต่ทางเราในฐานะเจ้าบ้านนี่ รู้สึกขายหน้าไปถึงประเทศชาติค่ะ
ลงไปถึงชั้นกดบัตร .. เดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคน บอกถามจะขอใช้ลิฟท์ กระเป๋าไซต์นี้ จะให้ยกลงบันไดมั้ย (อารมณ์ค้างเบางๆมาจากชั้นบน แต่ถูกตัดกำลังไปบ้างด้วยน้ำหนักกระเป๋าที่ยกลงมาเท่ากับความสูงตึก 2 ชั้น)
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวอ1วอ2 ในวอคุยถามไซต์กระเป๋า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านนี้บอกในวอว่า ใบใหญ่มาก
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เชิญพาไปลงลิฟท์ ไปส่งถึงชั้นล่าง สถานีที่ออกแบบจุดขึ้นลงลิฟท์ได้ไม่เข้าใจมากถึงมากที่สุด .. ลงมาถึงข้างล่าง นี่คือลงมาอยู่ตำแหน่งเกาะกลางถนน !!!!!!! ดีนะ ค่ำมืดแล้ว รถน้อยแล้ว ค่อยข้ามถนนง่ายหน่อย เราคนไทย ข้ามถนนของบ้านเกิดตัวเองไม่เก่ง แต่ก็แลจะเก่งกว่าคนญี่ปุ่น ประเทศที่แทบจะก้มเล่นมือถือในรหว่างเดินข้ามถนนตามสัญญาณไฟได้ (จริงๆไม่ควรทำเช่นกันนะคะ แค่เปรียบเทียบให้เห็นถึงความปลอดภัยของทางประเทศเขาค่ะ)
ก่อนจะข้าม หันไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มาส่งถึงชั้นล่างลิฟท์ ถามว่า .. "ทำไมชั้นชานชาลาลงมาชั้นขายตั๋วถึงไม่ให้ใช้ลิฟท์ ? แล้วคนต่างชาติ มาประเทศเรา กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มีลิฟท์ ไม่ให้ใช้ลิฟท์ ?"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบว่า "ใช้ได้นะครับ ทำไมคนข้างบนไม่วอลงมา ให้คนข้างล่างขึ้นไปรับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ โอกาสหน้า แจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างบนวอลงมาให้คนขึ้นไปรับเลยนะครับ"
แอบคิดในใจ แปลว่า ต้องปล่อยกระเป๋าทิ้งไว้ข้างบน แล้วลงมาบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างล่าง เพราะคนข้างบนเขาไม่ให้ เอ้ออออ แปลกไปมั้ยยย พวกคุณประสานงานการทำงาน มีการอบรมระบบระเบียบการจัดการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับบุคคลในองค์กรกันอย่างไร แล้วนี่คือ BTS เลยนะคะ
แต่ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่านนั้นไป คือ สุภาพ บริการดีมาก ช่วยคูลดาวน์อารมณ์เราตรงนั้นได้ดีมากเช่นกันค่ะ
--------------------------------------------------------
ทั้งนี้ทั้งนั้นและทั้งหมด อาจจะมีบางมุมมองว่า คนอื่นเค้าก็แบกขึ้นลงได้/ขึ้นแท็กซี่สิจะได้ไม่ยุ่งยาก/แอร์พอร์ทลีมูซีนสิ .. นี่มามีปัญหาอะไรนักหนา ก่อนจะเทใจไปกับความคิดแบบนี้หมด ลองเผื่อใจไปอีกหลายๆมุมมองดูก่อนได้ค่ะ มันมีมุมที่มัควรจะเป็นไปและสมควรไปทางด้านมุมนั้น และเป็นสากลกว่า มากกว่ามุมความคิดนี้ค่ะ อีกทั้งเป็นการช่วยใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีการเชื่อมต่อกันตามที่รณรงค์ให้ใช้ลดปัญหารถติดในอีกมุมด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้ กับสิ่งที่คิดในใจ ที่เจอมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่งว่างสะดวกมาเล่าพิมพ์แชร์ต่อ ขอคำตอบค่ะ จากทางผู้เกี่ยวข้อง ในฐานะเจ้าบ้าน และผู้ใช้บริการ ทั้งกรณี เรื่องของการใช้ลิฟท์บนสถานี :
1. ทำไม BTS ถึงให้ใช้แค่คนพิการที่ต้องมาพร้อมรถคนพิการ ทำไมถึงปิดลิฟท์ไว้ไม่ให้ใช้คะ
-- จริงอยู่ในตอนจบเรื่องนี้ ได้ใช้ลิฟท์ แต่ก็ยกกระเป๋าเดินทางอีกใบใหญ่ลงมาครึ่งทางของสถานีที่มีลิฟท์ด้วยนะคะ และในอีกมุม ยังมีคนที่จำเป็นต้องใช้ เช่น นักท่องเที่ยวที่มีกระเป๋าเดินทางใบโตก็ดี คนต่างชาติจะคุยภาษาอังกฤษกันได้แน่นอนใช่ไหมคะ จึงล็อกไว้หากบอกว่าต้องขออนุญาตก่อนใช้ ? อีกทั้งคนธรรมดาที่ขาเจ็บเดินกระเผกประมาณว่าวันก่อนไปเดินสะดุดตะแกรงท่อระบายน้ำมาจะไปทำงานไม่อยากเสียวันลางาน ต้องการใช้ก็ดี ที่ลิฟท์มันเป็นอยู่คือปัจจุบันคือล็อกใช้ไม่ได้ ? คนที่ป่วยแต่จะยังพอพยุงตัวเองไปถึงปลายทางได้ ถ้ามีลิฟท์ช่วยพยุงเขาได้ด้วยก็ดี ฯลฯ
และ
2. ทำไมสร้างลิฟท์สถานีช่องนนทรีไว้ที่เกาะกลางถนนคะ ลงมาถึงข้างล่างต้องข้ามถนนที่ไม่มีแม้กระทั่งทางม้าลาย ?
-- ถ้าข้ามพลาด รถชนเข้า ใครผิดคะ ? ถ้าข้ามแล้วหากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเกิดถูกจับเพราะข้ามถนนไม่ตรงทางม้าลาย ใครช่วยรับผิดชอบไหมคะ ? เกาะกลางถนนตรงนั้นเหมือนมีทางช่องให้คล้ายๆให้แท็กซี่มาจอดรับได้ แต่นี่มันใช่ที่มันควรจะเป็นจริงๆหรือคะ ?
รูปประกอบข้างล่าง เพื่อนที่ทำงานแถวนั้นส่งมาให้ค่ะ