"งาแกะ พระนาคปรก หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่สุดยอดนิยมแห่งเมืองสุพรรณ"
จ.สุพรรณบุรี มีพระเกจิอาจารย์ผู้ชำนาญด้านไสยศาสตร์ มีความรู้ความชำนาญคาถาอาคมมากมาย ตั้งแต่สมัยเก่าก่อนจนถึงปัจจุบัน และหนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิตฺโต (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์) วัดดอนไร่ อ.สามชุก ด้วยความที่ท่านมีอายุยืนยาวถึง ๘๕ ปี จึงได้รับการขนานนามว่า “พระเกจิอาจารย์ผู้มีอายุยืนยาว ๕ แผ่นดิน”
ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อมุ่ย เกิดเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ณ บ้านดอนไร่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๕๒ ณ พัทธสีมาวัดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยมี หลวงพ่อกฤษณ์ วัดท่าช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ต่อมาท่านได้ลาสิกขาเพื่อช่วยบิดามารดาทำไร่นา ในช่วงนี้ท่านได้เกิดล้มป่วยหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จึงตั้งสัจจะอธิษฐานว่าหากหายป่วยจะขอบวชเป็นพระสงฆ์ ถวายชีวิตในพระพุทธศาสนาตลอดไป ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยของท่านได้หายไปอย่างปาฏิหาริย์
ท่านจึงอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ ตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๔๖๕ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุบผาราม ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีหลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทวน วัดบ้านกร่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์กุล วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทฺธรักฺขิโต”
หลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอๆ จึงทำให้ท่านมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง อาจารย์ที่ท่านไปศึกษามานั้นมีมากมาย อาทิ หลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม พระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท, พระอาจารย์กูน วัดบ้านทึง อ.สามชุก, หลวงพ่อปลั่ง วัดวิมลโภคาราม อ.สามชุก ฯลฯ
งานด้านการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนไร่ พ.ศ.๒๔๗๖ เป็นเจ้าคณะตำบลหนองสะเดา
สมณศักดิ์ พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสุวรรณวุฒาจารย์”
หลวงพ่อมุ่ย เป็นพระสมถะ ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เสมอต้นเสมอปลาย มีความเมตตาแก่สัตว์โลกทั่วไปทุกหมู่เหล่า ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ ตามที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานถวายชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา
ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฏกษัตริยาราม เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถีที่พระวิสุทธิสารเถระ (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นผู้จัดสร้าง เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้พบหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามท่านว่า “ทำไมจึงขลังนัก”
หลวงพ่อมุ่ย ตอบว่า หากท่านจะขลังก็คงขลังที่ความดี เพราะตั้งแต่ท่านบวชมา ท่านไม่เคยทำชั่วเลย
พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อเริ่มอาพาธ จนถึงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ ท่านก็ละสังขารลงด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุ ๘๕ ปี
หลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้มีวิชาอาคมสูง พระเครื่องที่ท่านปลุกเสกจึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในทุกด้าน จนเป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้านในพุทธคุณต่างๆ พระเครื่องหลวงพ่อมุ่ย มีหลายอย่าง อาทิ รูปเหมือนปั๊ม, เหรียญรูปเหมือน, พระพิมพ์สมเด็จ, ผ้ายันต์, ตะกรุด, พระกริ่ง, เครื่องราง ฯลฯ
มีพระเครื่อง ของเก่า-ของโบราณ อยากปรึกษา ส่งรูปมาที่ เอส
ID line; mario-s-
Email; anusorn.ses@gmail.com
(โชว์) "งาแกะ พระนาคปรก หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่สุดยอดนิยมแห่งเมืองสุพรรณ"
จ.สุพรรณบุรี มีพระเกจิอาจารย์ผู้ชำนาญด้านไสยศาสตร์ มีความรู้ความชำนาญคาถาอาคมมากมาย ตั้งแต่สมัยเก่าก่อนจนถึงปัจจุบัน และหนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิตฺโต (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์) วัดดอนไร่ อ.สามชุก ด้วยความที่ท่านมีอายุยืนยาวถึง ๘๕ ปี จึงได้รับการขนานนามว่า “พระเกจิอาจารย์ผู้มีอายุยืนยาว ๕ แผ่นดิน”
ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อมุ่ย เกิดเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ณ บ้านดอนไร่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๕๒ ณ พัทธสีมาวัดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยมี หลวงพ่อกฤษณ์ วัดท่าช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ต่อมาท่านได้ลาสิกขาเพื่อช่วยบิดามารดาทำไร่นา ในช่วงนี้ท่านได้เกิดล้มป่วยหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จึงตั้งสัจจะอธิษฐานว่าหากหายป่วยจะขอบวชเป็นพระสงฆ์ ถวายชีวิตในพระพุทธศาสนาตลอดไป ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยของท่านได้หายไปอย่างปาฏิหาริย์
ท่านจึงอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒ ตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๔๖๕ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุบผาราม ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีหลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทวน วัดบ้านกร่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์กุล วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทฺธรักฺขิโต”
หลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอๆ จึงทำให้ท่านมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง อาจารย์ที่ท่านไปศึกษามานั้นมีมากมาย อาทิ หลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม พระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท, พระอาจารย์กูน วัดบ้านทึง อ.สามชุก, หลวงพ่อปลั่ง วัดวิมลโภคาราม อ.สามชุก ฯลฯ
งานด้านการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนไร่ พ.ศ.๒๔๗๖ เป็นเจ้าคณะตำบลหนองสะเดา
สมณศักดิ์ พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสุวรรณวุฒาจารย์”
หลวงพ่อมุ่ย เป็นพระสมถะ ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เสมอต้นเสมอปลาย มีความเมตตาแก่สัตว์โลกทั่วไปทุกหมู่เหล่า ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ ตามที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานถวายชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา
ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฏกษัตริยาราม เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถีที่พระวิสุทธิสารเถระ (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นผู้จัดสร้าง เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้พบหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามท่านว่า “ทำไมจึงขลังนัก”
หลวงพ่อมุ่ย ตอบว่า หากท่านจะขลังก็คงขลังที่ความดี เพราะตั้งแต่ท่านบวชมา ท่านไม่เคยทำชั่วเลย
พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อเริ่มอาพาธ จนถึงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ ท่านก็ละสังขารลงด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุ ๘๕ ปี
หลวงพ่อมุ่ย เป็นผู้มีวิชาอาคมสูง พระเครื่องที่ท่านปลุกเสกจึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในทุกด้าน จนเป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้านในพุทธคุณต่างๆ พระเครื่องหลวงพ่อมุ่ย มีหลายอย่าง อาทิ รูปเหมือนปั๊ม, เหรียญรูปเหมือน, พระพิมพ์สมเด็จ, ผ้ายันต์, ตะกรุด, พระกริ่ง, เครื่องราง ฯลฯ
มีพระเครื่อง ของเก่า-ของโบราณ อยากปรึกษา ส่งรูปมาที่ เอส
ID line; mario-s-
Email; anusorn.ses@gmail.com