JJNY : ‘อ๋อย’ ดักทาง ’มีชัย’ หลอกให้รับแล้วแก้รธน.ภายหลัง / ‘เหวง’ สงสัย ‘มีชัย’ ชวนคนรับ รธน. อาจผิดกฏหมาย

‘อ๋อย’ดักทาง’มีชัย’หลอกให้รับแล้วแก้รธน.ภายหลัง ไม่ขอไปตายดาบหน้า
http://www.matichon.co.th/news/135890

วันที่ 14 พฤษภาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุให้รับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วค่อยแก้ภายหลังว่า เชื่อว่าน่าส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ กรธ.อย่างมาก เพราะเท่ากับเป็นการยอมรับอย่างเปิดเผยว่า ร่างรัฐธรรมนูญนี้มีปัญหา ทั้งๆ ที่เพิ่งมีการพิจารณาอย่างละเอียดโดย กรธ.บอกให้รับไปก่อนแล้วแก้ที่หลัง มันเป็นคำพูดที่คนคุ้นเคย และเข็ดแล้ว รวมถึงถ้าเปรียบเทียบร่างรัฐธรรมนูญปี 50 กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับกรธ.จะพบว่า ร่างของกรธ.แก้ยากมากกว่าร่างรัฐธรรมนูญปี 50 แบบเทียบกันไม่ได้เลย โดยร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ให้แก้โดยที่ประชุมรัฐสภาใช้เสียงข้างมาก ส่วนเรื่องสำคัญให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ก็ถูกระงับยับยั้งไว้ด้วยข้ออ้างที่ว่า จะเป็นการล้มล้างการปกครอง หรือได้อำนาจมาโดยไม่เป็นไปวิถีทางประชาธิปไตย

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 โดยที่ส.ว.ก็มาจากคสช.และยังต้องการเสียงจากพรรคการเมืองที่ไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่มีตำแหน่งประธานสภา คือ พรรคฝ่ายค้าน ถึงร้อยละ 20 ของพรรคการเมืองเหล่านี้รวมกัน ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าพรรคการเมืองเหล่านี้มีเสียงเป็นเอกฉันท์ ก็ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ นอกจากนั้น ถ้าจะแก้เรื่องสำคัญๆ ยังต้องถูกโยงไปทำประชามติ หรืออาจถูกส่งตีความที่ศาลรัฐธรรมนูญได้อีก ดังนั้น จะเห็นว่าร่างของกรธ.นี้แก้ยากมาก อย่างที่หลายๆ คนบอกว่า เหมือนกับจะแก้ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นการที่นายมีชัยมาพูดอย่างนี้ ทำให้คนรู้สึกว่า กำลังขอให้ช่วยกันผ่านไปก่อน แล้วไปตายเอาดาบหน้า ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่เห็นว่า การแก้ไขในวันข้างหน้าแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ หวั่นมีคนทำประชามติวุ่นวาย ทำบานปลาย นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เห็นมีการพูดลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่น่าเกิด เพราะไม่มีใครสนใจไปขัดขวางการลงประชามติ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่กระบวนการทำประชามติไม่เสรี และไม่เป็นธรรม มีการชี้แจง ชี้นำ ให้รับอยู่ฝ่ายเดียวโดยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่สามารถให้คุณให้โทษประชาชนได้ ในขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยเกือบจะไม่สามารถแสดงความเห็นได้เลย แต่ความไม่พอใจนี้ ก็ไม่นำไปสู่การขัดขวาง หรือก่อกวนการลงประชามติ มีแต่จะไปก่อกวนเรียกร้องให้ตีความพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ แก้กฎหมายนี้ให้ดีขึ้นบ้าง คุ้มครองสิทธิผู้ไม่เห็นด้วยได้แสดงความเห็น

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การพูดว่าหวั่นจะมีการขัดขวาง ก่อกวนการลงประชามติ เหมือนตีปลาหน้าไซ ที่จะนำไปสู่การไม่ทำประชามติเสียเอง แม้ว่าเวลานี้โพลบางสำนักออกมา คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ใครๆ ก็รู้ว่าเวลานี้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดความจริง โดยเฉพาะไปพูดกับใครว่าไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะกำลังถูกจับไปปรับทัศนคติหรือถูกจับดำเนินคดีต่างกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงเอง และยิ่งประธานกรธ.ออกมาพูดเอง ร่างรัฐธรรมนูญมีปัญหา แต่ขอให้รับไปก่อน แล้วค่อยไปแก้ที่หลัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของคนอย่างมาก อาจทำให้มีวางแผนว่า ถ้าใกล้วันทำประชามติ แล้วถ้ามีสัญญาณว่าร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่าน อาจจะมีการหาทางล้มเลิกประชามติ โดยอ้างเหตุความวุ่นวาย และถ้าประชามติไม่เกิดขึ้นเชื่อว่า จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือที่ต่างประเทศมีต่อไทยเป็นอย่างมาก ทำไทยอยู่ในฐานะที่ลำบาก

อย่างไรก็ตาม การอ้างหวั่นเกิดเหตุความวุ่นวาย ไม่สามารถลงประชามติได้ มันฟังไม่ขึ้น เพราะว่าฝ่ายรัฐมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนกระทั่ง แม้แต่ใครแสดงความเห็นแตกต่างแทบทำไม่ได้ รัฐบาลไม่เปิดให้ต่างประเทศสังเกตการณ์ และทางกกต.ก็ไม่ได้มีกฎระเบียบใดๆ ที่จะให้ประชาชนผู้สนใจ โดยเฉพาะผู้ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นที่ผู้สังเกตการณ์ มันก็ทำให้คนยิ่งเป็นห่วง ถ้าหากมีการกลัวแพ้กันมากๆ ก็จะมีความพยายามทุจริตการลงประชามติได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าไปทางไหนก็มีปัญหาทั้งนั้น ถ้าคิดจะล้มการทำประชามติด้วยข้ออ้างความวุ่นวาย ก็ยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย


นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงการซักถามตัวแทนไทยถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย (ยูพีอาร์) ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า การซักถามจากประเทศต่างๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จับกุมคุมขังคนตามอำเภอใจ ทหารมีอำนาจเหมือนหรือมากกว่าตำรวจ ในการจับกุมคุมขัง การสอบสวน ที่ไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา จำกัดสิทธิผู้ต้องสงสัยหรือผู้ที่ถูกกล่าวหา การจำกัดสิทธิการเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งการใช้มาตรการที่อ้างว่า จัดการกับผู้มีอิทธิพล ที่ใช้เป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไม่เป็นธรรม การดำเนินคดีในศาลทหาร ที่ประเทศต่างๆ เห็นว่า ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นกลาง และคดีจำนวนมาก จำเลยไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ ฎีกา

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าการชี้แจงผู้แทนไทยนั้น ประเทศต่างๆ ไม่รับฟัง เป็นการชี้แจงตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งระหว่างการชี้แจง ยังมีการกระทำในสิ่งที่เป็นข้อห่วงใยจากประเทศต่างๆ จึงพูดถึงประเทศไทยแบบเป็นตัวตลก และน่าละอาย เรื่องนี้จะส่งผลเสียต่อประเทศไทย ต่อระบบการบังคับใช้กฎหมาย ระบบยุติธรรม การเคารพและปฏิบัติตามตามพันธกรณีระหว่างประเทศไทย และส่งผลเสียต่อการคบค้าสมาคมกับประเทศต่างๆ รวมถึงการหาทางแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่ ที่ต้องอาศัยการเจรจาหารือกับประเทศต่างๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่