ตอนนี้ผมจ่ายภาษีปีละเกือบล้าน ถ้าผมแก่ไป จะจ่ายคืนผม เดือนละ 600 นี่ มันมากไปหรือน้อยไปครับ

ทำไมต้องจนก่อนถึงมีสิทธิ เงินที่จ่ายให้ก็เงินผมเอง

ปีละเจ็ดพันกว่า สิบปีเจ็ดหมื่นกว่า
ถ้าอยู่ถึงร้อยก็ได้คืน สามแสน ไม่ถึงครึ่งของภาษีปีเดียวที่จ่าย

ที่จริงน่าจะคิดกลับกันว่าทำอย่างไร เงินที่ผมจ่ายไว้จะกลับมาเป็นประโยชน์กับผม

ทั้งเรื่อง การรักษาฟรี เงินบำนาญ ผมจะได้รู้สึกดีหน่อยตอนไปจ่ายภาษี
แม้ผมไม่ได้ไปรับการรักษาฟรีก็ตาม

นี่ทำไมต้องคิดอะไรให้กลายเป็นการสงเคราะห์ทุกเรื่องไป
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
คห 2
คุยกันคนละความถี่ นะนี่

จขกท คุยเรื่องความเท่าเทียม
ทุกคนควรมีสิทธิเท่ากัน   อย่างน้อย จขกท ก็จ่ายเงินเสียภาษีมากมาย  จะให้ด้อยสิทธิได้ไง

คุณจก ก็ไปคุยเรื่องสังคม ต้องช่วยคนจน

ผมว่า  มันควรต้องมี ทั้งสอง
เงิน เบี้ยคนชรา  ก็เอาไว้สงเคราะห์คนชรา  เป็นไปตามแนวคิด"ช่วยเหลือ" ของคุณจก,
ก็ควรให้ทุกคนเท่าเทียมกัน   ตามแนวคิด จขกท  นะครับ
-------------------

เพิ่มเติม
                  มีคนบอกว่า  " equality  doesn't  mean  justice "

ตอนที่เก็บภาษีรายได้  ใครมีรายได้มาก  ก็เก็บมาก
แถมยังเป็นแบบขั้นบันไดด้วย
ก็เป็น  unequality  ไปรอบแล้ว

ตอนจ่าย แค่เดือนละ 600 บาท  จะต้อง unequal  อีกรอบด้วยหรือ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คุณ จขกท. คิดแบบนี้ ไม่ถูกนะครับ

ต้องขออภัย ถ้าผมจะบอกตรงๆ อาจจะมีเคืองกันได้
แต่ยังไงก็ต้องบอก เผื่อจะมีคนอื่นคิดอย่างนี้อีก

เงินทุกบาททุกสตางค์ที่คุณ จขกท. ได้มานั้น ใช่ว่ามันจะตกลงมาจากฟ้าจากสวรรค์รึก็เปล่า
แต่เป็นเงินที่คุณได้รับจากการได้ประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรวัตถุ หรือทรัพยากรมีชีวิต
หนึ่งในนั้น ทรัพยากรมีชีวิต นั่นก็คือเพื่อนร่วมชาติของคุณ ที่จับจ่ายหรือใช้บริการของคุณ (หากคุณเป็นนักธุรกิจ ตามที่อ้าง)
คุณย่อมได้ส่วนต่างจากการลงทุนตรงนั้น เป็นเม็ดเงินที่คุณจะต้องตอบแทนคืนโดยการเสียภาษี
และการที่คุณเสียภาษีปีละเกือบล้าน นั่นก็เพราะรัฐต้องขอคืนจากผลประโยชน์ที่คุณได้รับจากแผ่นดินนี้ตามสัดส่วน
ภาษีที่คุณเสียไป ไม่ใช่เงินบริจาค ไม่ใช่เงินที่จะได้รับผลตอบแทนเหมือนเงินฝากธนาคาร
และไม่ใช่เงินที่จะตีค่าตอบแทนออกมาเป็นบุญคุณ  

หากใครมีความคิดอย่างนี้ จะดูเหมือนเป็นการทวงบุญคุณประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย
ในทางกลับกัน ผู้ที่ใช้เงินภาษีของรัฐในการดำรงชีพเช่นข้าราชการ และผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยเปล่าจากรัฐ
นั่นแหละ จึงควรจะสำนึกในบุญคุณของผู้ที่เสียภาษี ตามมโนสำนึกที่ดีที่ควรจะเป็น

ต้องขออภัยอีกครั้งครับ
ความคิดเห็นที่ 7
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด

คนจ่ายภาษีเยอะแปลว่าทำงานหนักทั้งนั้นครับ

คนรวยจริงๆน่ะเค้าไม่จ่ายภาษีกัน
ความคิดเห็นที่ 30
เจ้าของกระทู้ มีความคิดนี้ไม่แปลกเลยครับ หลายๆคนก็คงมีความคิดแบบนี้

600 บาท มันอาจไม่เยอะสำหรับ จขกท แต่เมื่อถึงเวลาที่ จขกท ควรได้ถึงไม่ได้ทั้งๆที่เจ้า จขกท ก็เสียภาษีตามกฎหมาย และ เงิน 600 บาทก็มาจากภาษีของประชาชนทุกคน

และการที่ จขกท จ่ายภาษีเป็นพลเมืองที่ดี กลับไม่ได้รับสวัสดิการที่ดีพอเมื่อถึงวัยที่ จขกท ไม่สามารถหาเงินได้แล้ว

หลายๆ คห บอกว่าเงินแค่นี่เล็กน้อยสำหรับเจ้าของกระทู้ แต่คุณลองเสีย ภาษี เท่าหรือมากกว่า คนทั่วไป คุณจะมีความคิดว่าเราได้อะไรจากการจ่ายภาษี บ้าง แล้วก็จะรู้สึกว่าเสียดายเงินภาษีที่จ่ายไป

และการที่มีคนคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะภาษีมาจาก พนักงานบริษัท บริษัท,องค์กร,ห้างร้าน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ฯลฯ ล้วนแต่ทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่บางคนที่มีรายได้ถึงขั้น แต่ไม่ยอมเสียภาษีอีกเยอะ แต่มาใช้ทรัพยากร ที่มาจากภาษี ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของหลายคนอย่างหน้าตาเฉยๆ จึงไม่แปลกใจที่ จขกท จะรู้สึกแบบกระทู้นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่