คีรีวง คนน่ารัก
โชคดีที่ได้รับวันหยุดยาวจากลุงตู่ เลยหาทริปมาเที่ยวไกลบ้านหน่อย คีรีวง จ.นครศรีธรรมราช เตรียมตัวมาเที่ยวที่คีรีวงล่วงหน้ามาก่อน 2 เดือนได้ มากับเพื่อนเที่ยวสายภูเขา (เพื่อนชอบเที่ยวป่า) เป็นเพื่อนสมัยมัธยม คบกันมาเนิ่นนาน ส่วนเราเป็นนักท่องเที่ยวสายศิลปะ วัฒนธรรม คือ ชอบเที่ยววัด สถาปัตยกรรม ชมวิถีชีวิตผู้คน ประมาณนั้น คีรีวงจึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับเราสองคน เราเริ่มทริปล่วงหน้าโดยการจองรถไฟเที่ยวไป จองเครื่องบินเที่ยวกลับ จองที่พักโฮมสเตย์ แบบโฮมสเตย์จริงๆ คือ อยู่กับคนคีรีวง ที่ต้องจองก่อน เพราะเป็นทริปวันหยุดยาว ถ้าไปแบบไม่มีแพลน เดี๋ยวจะไม่มีที่นอน หงายเงิบกันกลับบ้าน
หัวลำโพง
เราเริ่มเดินทางวันที่ 4 พ.ค. ด้วยรถไฟ เรากับเพื่อนไปเจอกันที่หัวลำโพง ขึ้นรถไฟ ชั้น 2 ขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-คลองจันดี เวลารถออก 19.30 แต่ออกรถจริงๆ เกือบๆ สองทุ่ม 555 “เรารักรถไฟไทย” ตู้ที่เราอยู่ ครึ่งตู้เป็นฝรั่ง (ตัวเหม็นมาก เดินผ่านนี่กลิ่นโชยเลย)
ตู้นอน แบบยังไม่ได้นอน
กางเตียงแล้ว นอนได้
เช้าแล้วจ้า
ถึงสถานีคลองจันดีเกือบๆ 9 โมงเช้า พอเราลงสถานีเราก็หมุนตัวไปมาอยู่พัก เลยหันไปถามครอบครัวหนึ่งซึ่งนั่งรถไฟมาด้วยกันเรื่องการต่อรถไปคีรีวง บังเอิญครั้งที่ 1 คือ น้องเขาเป็นคนคีรีวง (ชื่อน้องเอ๊กซ์) เลยชวนเรานั่งรถไปด้วย เพราะเดี๋ยวมีญาติมารับ บังเอิญครั้งที่ 2 คือ แม่น้องเอ๊กซ์รู้จักกับพี่วิว พี่ที่เราจะไปพักโฮมสเตย์ด้วย พอน้องเอ๊กซ์โทรไปบอกแม่เท่านั้นแหล่ะ พี่วิวก็โทรเข้าเครื่องเราบอกว่าให้ลงบ้านน้องเอ๊กซ์เลย เดี๋ยวพี่ไปรับ ทำบุญมาดี เลยไม่ต้องเสียตังส์ค่ารถ รถที่มารับเป็นรถกระบะตอนเดียว เรากับเพื่อน และก็น้องเอ๊กซ์ เลยต้องมานั่งท้ายกระบะ ส่วนคุณแม่คุณลูกนั่งหน้าไป เราไม่ได้นั่งท้ายกระบะมานานแล้ว นั่งไปก็คิดถึงตอนเด็กไป ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงคีรีวง ก่อนไปบ้านน้องเอ๊กซ์ เราผ่านสะพานสุดฮิตของคีรีวงด้วย คนถ่ายรูปเต็มเลย คีรีวงฮิตจริงๆ
เตรียมจอด
สถานีคลองจันดี
ครอบครัวน้องเอ๊กซ์ ใจดี๊ ใจดี
สภาพตอนนั่งกระบะหลัง
[CR] คีรีวง คนน่ารัก
โชคดีที่ได้รับวันหยุดยาวจากลุงตู่ เลยหาทริปมาเที่ยวไกลบ้านหน่อย คีรีวง จ.นครศรีธรรมราช เตรียมตัวมาเที่ยวที่คีรีวงล่วงหน้ามาก่อน 2 เดือนได้ มากับเพื่อนเที่ยวสายภูเขา (เพื่อนชอบเที่ยวป่า) เป็นเพื่อนสมัยมัธยม คบกันมาเนิ่นนาน ส่วนเราเป็นนักท่องเที่ยวสายศิลปะ วัฒนธรรม คือ ชอบเที่ยววัด สถาปัตยกรรม ชมวิถีชีวิตผู้คน ประมาณนั้น คีรีวงจึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับเราสองคน เราเริ่มทริปล่วงหน้าโดยการจองรถไฟเที่ยวไป จองเครื่องบินเที่ยวกลับ จองที่พักโฮมสเตย์ แบบโฮมสเตย์จริงๆ คือ อยู่กับคนคีรีวง ที่ต้องจองก่อน เพราะเป็นทริปวันหยุดยาว ถ้าไปแบบไม่มีแพลน เดี๋ยวจะไม่มีที่นอน หงายเงิบกันกลับบ้าน
เราเริ่มเดินทางวันที่ 4 พ.ค. ด้วยรถไฟ เรากับเพื่อนไปเจอกันที่หัวลำโพง ขึ้นรถไฟ ชั้น 2 ขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-คลองจันดี เวลารถออก 19.30 แต่ออกรถจริงๆ เกือบๆ สองทุ่ม 555 “เรารักรถไฟไทย” ตู้ที่เราอยู่ ครึ่งตู้เป็นฝรั่ง (ตัวเหม็นมาก เดินผ่านนี่กลิ่นโชยเลย)
ถึงสถานีคลองจันดีเกือบๆ 9 โมงเช้า พอเราลงสถานีเราก็หมุนตัวไปมาอยู่พัก เลยหันไปถามครอบครัวหนึ่งซึ่งนั่งรถไฟมาด้วยกันเรื่องการต่อรถไปคีรีวง บังเอิญครั้งที่ 1 คือ น้องเขาเป็นคนคีรีวง (ชื่อน้องเอ๊กซ์) เลยชวนเรานั่งรถไปด้วย เพราะเดี๋ยวมีญาติมารับ บังเอิญครั้งที่ 2 คือ แม่น้องเอ๊กซ์รู้จักกับพี่วิว พี่ที่เราจะไปพักโฮมสเตย์ด้วย พอน้องเอ๊กซ์โทรไปบอกแม่เท่านั้นแหล่ะ พี่วิวก็โทรเข้าเครื่องเราบอกว่าให้ลงบ้านน้องเอ๊กซ์เลย เดี๋ยวพี่ไปรับ ทำบุญมาดี เลยไม่ต้องเสียตังส์ค่ารถ รถที่มารับเป็นรถกระบะตอนเดียว เรากับเพื่อน และก็น้องเอ๊กซ์ เลยต้องมานั่งท้ายกระบะ ส่วนคุณแม่คุณลูกนั่งหน้าไป เราไม่ได้นั่งท้ายกระบะมานานแล้ว นั่งไปก็คิดถึงตอนเด็กไป ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงคีรีวง ก่อนไปบ้านน้องเอ๊กซ์ เราผ่านสะพานสุดฮิตของคีรีวงด้วย คนถ่ายรูปเต็มเลย คีรีวงฮิตจริงๆ