สวัสดีคะ
ครั้งแรกกับรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ด้วยตัวเอง ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้สนับสนุนค่าเครื่องบินและที่พักอย่างเป็นทางการ...คุณแม่ข้าพเจ้าเองเจ้าคะ คิคิ คุณแม่อยากไปลูกเป็นไกด์ให้ได้นะคะ คิคิ
ขอเริ่มทริปเลยแล้วกัน เกริ่นเรื่องไม่เป็นแฮะ เก็บไว้เป็น "สเปเชี่ยลความทรงจำ" แล้วกัน อย่าแปลกใจนะคะ ที่จะเห็นแต่คุณแม่ คุณแม่สวย แต่ลูกไม่สวยอะ ไม่กล้าเอาตัวเองออกสื่อ ฮึฮึ
(มี Part 2 นะคะ
http://ppantip.com/topic/35154743)
วันที่ 14 เมษายน 59
เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ตื่นเต้นเนอะ เคยไปแต่สนามบินดอนเมือง) แม่ของเราโพสก่อนใคร ลูกหยิบกล้องไม่ทันคะคุณแม่ขา คิคิ
เดินทางโดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ต่อเครื่องที่ฮานอยสนามบินนอยไบ ไป - กลับ 2 คน 18,452 บาท
เครื่องบินเล็กนะ มีอาหารให้ด้วย (เพิ่งรู้) นั่งประมาณชั่วโมงกว่าๆ ...ว๊าววววว เมฆประเทศเวียดนามไม่เห็นเหมือนเมฆประเทศไทยเลย (???)
ผ่านหมู่เมฆาลงไป เอ่ออออออ เวียดนามหมอกหนาเนอะ กว่าเราจะเห็นก็เกือบแตะพื้นอยู๋แล้วอะ
ถึงฮานอยในเวลา 17 นาฬิกา โดยประมาณ
มาถึงแล้ว ออกไปดูข้างนอกหน่อยเถอะ เข้าได้หนิ ไม่ต้องทำวีซ่า นอกสนามบินอากาศเย็น อุณหภูมิที่กัปตันบอกไว้ 24 องศาเซลเซียล อากาศชื้น (ชื้นมากกกกก) หมอกก็เยอะ ทำไมอะ?
(เอ่อ...เธอสองคนนั้นอะ เค้าให้เดินออกไปแบบนั้นด้วยหรอ?)
ตอนแรกกะจะเข้าเมืองไปเดินเล่นสักหน่อย แต่ดูรีวิวเที่ยวเวียดนามแล้วไปไม่ยากนะ เจอที่ขึ้นรถประจำทางแล้ว แท็กซี่จอดกันก็เยอะ แต่... มันเย็นแล้วอะ เดินเที่ยวในสนามบินก็ได้ เดินไปเดินมาเหมือนเดินอยู่ในโลตัส (เพื่ออะไร?)
มีภาพให้ดูที่ขึ้นรถประจำทางเข้าเมืองกับแท็กซี่ด้วย เผื่อใครไป หาไม่ยากหรอก
เดินตรงออกจากสนามบินมองไปทางซ้ายมือ เห็นปุ๊ปเลยป้าย!
รถเข้าเมืองเยอะมาก (สวัสดีคะ ตอนนี้เราอยู่ชนบทกันนะคะ...คิคิ)
นอนกันเถอะ เพิ่ง 2 ทุ่มเอง ไม่มีอะไรทำนั่งเล่นเน็ตในโรงแรมขนาดกระทัดรัดน่ารัก (เอากระเป๋าใบโตเก็บเข้าไม่ได้)
(แล้วเทอมินอร์ 1 อยู่ไหนอะ มองไม่เห็นเลย)
วันที่ 15 เมษายน 59
เช้าแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราต้องเดินทางเข้าสู่ฮาเนะดะ Go! Go! ทามสคริปอย่างรวดเร็ว 4 ชั่วโมงผ่านไป เข้าเขตน่านน้ำประเทศญี่ปุ่นแล้วคะ นี่แหลมจังหวัด คาโกะชิมะ ชิมิ สวยจัง
ผ่านไปอีกชั่วโมงกว่า เอ๊ะ!? ทำไมยังไม่ถึงหรอ?
สนามบินรึเปล่า สวยจัง
นี่ก็สวย อยู่จังหวัดอะไรนะ
ในที่สุดพวกเราสองแม่ลูกก็เดินทางสู่สนามบินฮาเนดะโดยสวัสดิภาพ
เดินเอ้อละเหยลอยชายรอแม่ออกจากห้องน้ำ ใส่ซิมการ์ดที่ซื้อมาจากประเทศไทยดีกว่า เค้าตั้งให้ใช้ในญี่ปุ่นได้แล้ว แต่... เกิดไรขึ้น ซิมการ์ดใช้ไม่ได้ (หรือใช้ไม่เป็น?) มันไม่ขึ้นสัญญาณที่เค้าตั้งมาให้อะ สะเทือนใจ แล้วเราจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร กระซิกๆ
เราสองคนรับกระเป๋าเรียบร้อย แผนที่เตรียมไว้กระดาษ A4 4 แผ่น ที่เตรียมการมา 2 เดือนถูกนำออกมาใช้ เราต้องหาจุดศูนย์ข้อมูลของ Keikyu สิ เราต้องใช้สายนี้เพื่อไปให้ถึงโรงแรมที่ ฟูจิซาวะ ภาษาอังกฤษอันต่ำต้อยด้อยค่าของข้าพเจ้านำออกมาใช้อย่างรวดเร็ว ไม่มีเน็ตมันโหดร้ายจริงๆ ได้ตั๋วมา 2 ใบ ไปถึงรถไฟตามที่เจ้าหน้าที่บอกทันที
นั่งยาวๆ เรารู้ อีกไกลกว่าจะถึง ...
ชิมบาชิ!!! โว๊ะ ไม่ใช่นะ ผิดทางแล้ว ....ในที่สุดข้าพเจ้าก็หลงทาง สวรรค์ทรงโปรด ในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ใจบุญเป็นคนไทยที่ไปอยู่ญี่ปุ่นบอกทางให้ เราต้องนั่งกลับสถานี Keikyu-Kamata เพื่อเปลี่ยนรถไฟอีกสายไปฟูจิซาวะ ขอบพระคุณมากๆ คะ
ดีใจเหมือนได้เพชร ถึงแล้ว โรงแรมอยู่ใกล้สถานีชนิดที่มองจากสถานีเห็นเลย Sotetsu Fresa Hotel, Fujisawa 2 คืน 6,854 บาท จองผ่าน Booking.com คะ ลืมถ่ายภาพห้องพักไว้ ห้องเล็กไปหน่อย แต่อยู่สบาย สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ พนักงานเฟรนลี่มากๆ ให้ 8 เต็ม 10 คะ
วางกระเป๋าแล้ว แม่จ๋าหาอะไรกินกันเถอะ ที่สถานี Fujisawa มีร้านน่ากิน ถูกด้วย
ร้านขนมคนต่อคิวเยอะมากคะ ลองซื้อกิน เฮ้ย อร่อยจิง!
อิ่มอร่อยจบไปอีกวันคะ
วันที่ 16 เมษายน 59 Hakone Trip
เช้าวันใหม่ด้วยจิตใจเบิกบาน ตี 4 ครึ่ง (ตามเวลาท้องถิ่น) ตื่นอาบน้ำแต่งตัวปลุกแม่ ตี 5.45 โดยประมาณออกเดินทางไปฮาโกะเนะ เช้าสดใส ลมแรงและยะเยือก 13 องศา! เห็นแม่ใส่แค่นี้ แต่อยากจิบอก เสื้อจั้มสูท เสื้อแขนยาว ตบท้ายด้วยเสื้อกันหนาวดังที่เห็น + พร๊อป ผ้าพันคอด้วย (ในกระเป๋าที่แม่สะพายไปมีโอเวอร์โค้ทอีกตัว) เตรียมพร้อม!!? แล้วเรามีอะไร ถุงน่องแบบหนา เดรสบางเบา + เสื้อสูท แค่นี้เอง เบาๆ
(ไม่ควรออกสื่อนะ =*=X)
ระหว่างทาง ผู้ชายคนนี้ก็ขึ้นมา แบบว่า พวงกุญแจได้ใจมากอะ
มาถึงสถานี Odawara ซื้อตั๋ว ฮาโกะเนะ พาส 2 วัน 2 ใบ 8,000 เยน ขอคู่มือและแผนที่เที่ยวมาด้วย เราก็มัวแต่มองหาห้องขายตั๋ว ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เช่นกัน จุดจำหน่ายพาสฮาโกะเนะ เดินออกประตูคืนตั๋วมองไปทาง 10 นาฬิกาคะ เราจะได้ตั๋วพร้อมของกำนัลเล็กน้อยจาก Odakyu
(ภาพไม่ชัด ยังกล้าลงเนอะ)
เราก็ไปขึ้นรถไฟสายนี้กันได้เลยคะ เดินหย่อนตั๋วและรับตั๋วคืนเข้ามาข้างในอีกครั้ง จะมีชานชลาไป Hakone-Umoto ขึ้นโล้ดดดด
มาไกลแล้วแฮะ ลืมถ่ายรูปตามระเบียบ
ตอนนี้เรานั่งอยู่ในเคเบิ้ลคาร์นะคะ นั่งไปเรื่อยๆ จนสุดทาง สุดทางแล้วตอนลงจากเคเบิ้ลคาร์ระวังกันด้วย ทางลาดชันมากๆ เจอศาลเจ้าด้วย น่าแวะ แต่ไม่ก่อน จุดหมายเราคือกระเช้าลอยฟ้า (ดูเรียก) คิคิ
เจอน้องแมวด้วย ตัวแรกในญี่ปุ่น!! น่ารัก ไม่กล้าทัก กลัวโดนเหมียวตบ
เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ใครพาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย หรือ ใครเป็นหอบหืด กรุณาเดินขึ้นไปแบบช้าๆ นะคะ ทางชันจริงๆ เรายังหอบเล็กน้อย ไม่ต้องกลัวกระเช้าจะเต็ม ถึงแถวยาวก็ได้ขึ้นคะ
"แม่มาเร็วมาเกาะลูกอีฟ!" =*=!
ขึ้นมาถึงได้นั่งในกระเช้าแล้วชื่นใจ
เห็นฟูจิซานแล้ว เย่ๆๆๆๆ บอกแล้วสภาพอากาศสดใส เห็นฟูจิแน่นอน โชคดีจุง คุคุ
แต่น่าเสียดาย ไม่ได้กินไข่ดำอยากอายุยืนเพิ่มขึ้นอีก 7 ปีจัง วันที่ไปกระเช้าช่วงแรกจากสถานีโซอุนซานกำลังปรับปรุงไม่เปิดให้บริการ จะมีเจ้าหน้าที่นำขบวนพาเรามาขึ้นรถบัสเพื่อต่อไปขึ้นกระเช้าในช่วงสุดท้ายคะ
ต่อกันเลยคะ
ลงสถานีท่าเรือโทเก็นได เห็นเรือโจรสลัดแล้ว เรือใหญ่โตมโหระทึก(?) แม่จ๋าอย่ารีบเดิน หนูขอถ่ายรูปเรือก่อน ระหว่างนั้น...เจ้าหน้าที่ขายตั๋ว มองแล้ว....มองอีก... มันจะมาได้รึยังเนี้ย งือ.... เราก็ยื่นพาสให้เขาดู เรียบร้อยได้ขึ้นแล้ว อ๊ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน ข้าพเจ้าได้ข่าวมีชั้นเฟริสคราส แน่สิ ซื้อ ไม่แพง เอาแบบราวทริปคะ (คิดการล่วงหน้าไว้แล้ว) 770 Yen x 2 = 1,540 Yen.
(ขออภัยคุณผู้หญิงหน้าเฟรมด้วยนะคะ เราไม่ได้รู้จักกันนะคะ)
ขึ้นมาแล้วเจ้าหน้าที่ให้เข้าประตู Frist Class แสดงตั๋วทั้ง 4 ใบ ให้เขาดูเขาจะเปิดประตูให้เราเข้าไปคะ ที่ว่างจริงๆ เรือออกทันที (นี่รอเราจริงๆ หรอ ขอโทษคร่าาาา) วิ่งหาที่นั่งตามสบาย
แม่ถามว่า "จะซื้อทำไมให้เปลืองเงิน"
"เอาน่า ซื้อมาแล้วหนิ ใครจะไปรู้ว่าวันนี้คนน้อย"
แล้วเมื่อเปิดประตูด่านฟ้า(ดูเรียก?)ออกไป ลมแรงมากอากาศหนาว บรื้ออออ แม่เราจัดโอเวอร์โค้ทออกมาแล้ว!!
คุณแม่เซลฟี่เองไปหลายภาพหลายมุม ตามสไตล์ชอบถ่ายรูป คิคิ น่ารักเนอะแม่เรา
มีเรืออีกลำสวนมาด้วย เค้าว่าใกล้ถึงท่าเรือจะมีจุดชมฟูจิได้อีก แต่ไม่เห็นเลยแฮะ
ถึงท่าเรือ ฮาโกเนะมาจิ แล้วยังไม่ลงคะ ยืนด่านฟ้าต่อไป มองลงมาข้างลง คนเยอะจุง
ใกล้กับท่าเรือ มีเรือเล็กออกมาตกปลากันด้วย
เรือออกเดินทางไปยังท่าเรืออีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดหมายของพวกเราสองแม่ลูก (ยังไม่ได้ยลโฉมซากุระใกล้ๆ เลยอะ เห็นแต่ไกลๆ)
"เห็นป่ะแม่ คนตูม ดีนะที่ซื้อเฟริสคราสมา"
ล่องเรือมาสักพักใกล้เสาแดงแล้ว (เสาโทริอิ) แม่ๆ มาถ่ายรูปเร็ว!
ถึงแล้วท่าเรือโมโตะฮาโกเนะ
"อ่าว แม่ ลูกอีฟลืมเล็งฟูจิซาน"
เราสองคนยืนมองไปมองมา ไม่รู้จะไปทางไหนดี มองแผนที่ก็แล้ว เสาโทริอิตรงนั้นต้องนั่งรถสาย Y ไปลงเพื่อชมใกล้ๆ แล้วขากลับมาตรงนี้หละ เราอยากนั่งเรือโจรสลัดอีกรอบอะ รถมีสวนกลับมาทางเดิมรึเปล่าเราก็ไม่รู้ สรุป ไม่ไป มองอยู่ที่ท่าเรือนี่ก็ได้ถ้าเราคนเดียวเดินกลับยังพอว่า แต่แม่เดินกลับมาปวดขาแย่
*ต่อ Part 2
http://ppantip.com/topic/35154743
[CR] [รีวิว] 5 วัน พาแม่เที่ยว ประเทศญี่ปุ่น
ครั้งแรกกับรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ด้วยตัวเอง ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้สนับสนุนค่าเครื่องบินและที่พักอย่างเป็นทางการ...คุณแม่ข้าพเจ้าเองเจ้าคะ คิคิ คุณแม่อยากไปลูกเป็นไกด์ให้ได้นะคะ คิคิ
ขอเริ่มทริปเลยแล้วกัน เกริ่นเรื่องไม่เป็นแฮะ เก็บไว้เป็น "สเปเชี่ยลความทรงจำ" แล้วกัน อย่าแปลกใจนะคะ ที่จะเห็นแต่คุณแม่ คุณแม่สวย แต่ลูกไม่สวยอะ ไม่กล้าเอาตัวเองออกสื่อ ฮึฮึ
(มี Part 2 นะคะ http://ppantip.com/topic/35154743)
วันที่ 14 เมษายน 59
เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ตื่นเต้นเนอะ เคยไปแต่สนามบินดอนเมือง) แม่ของเราโพสก่อนใคร ลูกหยิบกล้องไม่ทันคะคุณแม่ขา คิคิ
เดินทางโดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ต่อเครื่องที่ฮานอยสนามบินนอยไบ ไป - กลับ 2 คน 18,452 บาท
เครื่องบินเล็กนะ มีอาหารให้ด้วย (เพิ่งรู้) นั่งประมาณชั่วโมงกว่าๆ ...ว๊าววววว เมฆประเทศเวียดนามไม่เห็นเหมือนเมฆประเทศไทยเลย (???)
ผ่านหมู่เมฆาลงไป เอ่ออออออ เวียดนามหมอกหนาเนอะ กว่าเราจะเห็นก็เกือบแตะพื้นอยู๋แล้วอะ
ถึงฮานอยในเวลา 17 นาฬิกา โดยประมาณ
มาถึงแล้ว ออกไปดูข้างนอกหน่อยเถอะ เข้าได้หนิ ไม่ต้องทำวีซ่า นอกสนามบินอากาศเย็น อุณหภูมิที่กัปตันบอกไว้ 24 องศาเซลเซียล อากาศชื้น (ชื้นมากกกกก) หมอกก็เยอะ ทำไมอะ?
(เอ่อ...เธอสองคนนั้นอะ เค้าให้เดินออกไปแบบนั้นด้วยหรอ?)
ตอนแรกกะจะเข้าเมืองไปเดินเล่นสักหน่อย แต่ดูรีวิวเที่ยวเวียดนามแล้วไปไม่ยากนะ เจอที่ขึ้นรถประจำทางแล้ว แท็กซี่จอดกันก็เยอะ แต่... มันเย็นแล้วอะ เดินเที่ยวในสนามบินก็ได้ เดินไปเดินมาเหมือนเดินอยู่ในโลตัส (เพื่ออะไร?)
มีภาพให้ดูที่ขึ้นรถประจำทางเข้าเมืองกับแท็กซี่ด้วย เผื่อใครไป หาไม่ยากหรอก
เดินตรงออกจากสนามบินมองไปทางซ้ายมือ เห็นปุ๊ปเลยป้าย!
รถเข้าเมืองเยอะมาก (สวัสดีคะ ตอนนี้เราอยู่ชนบทกันนะคะ...คิคิ)
นอนกันเถอะ เพิ่ง 2 ทุ่มเอง ไม่มีอะไรทำนั่งเล่นเน็ตในโรงแรมขนาดกระทัดรัดน่ารัก (เอากระเป๋าใบโตเก็บเข้าไม่ได้)
(แล้วเทอมินอร์ 1 อยู่ไหนอะ มองไม่เห็นเลย)
วันที่ 15 เมษายน 59
เช้าแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราต้องเดินทางเข้าสู่ฮาเนะดะ Go! Go! ทามสคริปอย่างรวดเร็ว 4 ชั่วโมงผ่านไป เข้าเขตน่านน้ำประเทศญี่ปุ่นแล้วคะ นี่แหลมจังหวัด คาโกะชิมะ ชิมิ สวยจัง
ผ่านไปอีกชั่วโมงกว่า เอ๊ะ!? ทำไมยังไม่ถึงหรอ?
สนามบินรึเปล่า สวยจัง
นี่ก็สวย อยู่จังหวัดอะไรนะ
ในที่สุดพวกเราสองแม่ลูกก็เดินทางสู่สนามบินฮาเนดะโดยสวัสดิภาพ
เดินเอ้อละเหยลอยชายรอแม่ออกจากห้องน้ำ ใส่ซิมการ์ดที่ซื้อมาจากประเทศไทยดีกว่า เค้าตั้งให้ใช้ในญี่ปุ่นได้แล้ว แต่... เกิดไรขึ้น ซิมการ์ดใช้ไม่ได้ (หรือใช้ไม่เป็น?) มันไม่ขึ้นสัญญาณที่เค้าตั้งมาให้อะ สะเทือนใจ แล้วเราจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร กระซิกๆ
เราสองคนรับกระเป๋าเรียบร้อย แผนที่เตรียมไว้กระดาษ A4 4 แผ่น ที่เตรียมการมา 2 เดือนถูกนำออกมาใช้ เราต้องหาจุดศูนย์ข้อมูลของ Keikyu สิ เราต้องใช้สายนี้เพื่อไปให้ถึงโรงแรมที่ ฟูจิซาวะ ภาษาอังกฤษอันต่ำต้อยด้อยค่าของข้าพเจ้านำออกมาใช้อย่างรวดเร็ว ไม่มีเน็ตมันโหดร้ายจริงๆ ได้ตั๋วมา 2 ใบ ไปถึงรถไฟตามที่เจ้าหน้าที่บอกทันที
นั่งยาวๆ เรารู้ อีกไกลกว่าจะถึง ...
ชิมบาชิ!!! โว๊ะ ไม่ใช่นะ ผิดทางแล้ว ....ในที่สุดข้าพเจ้าก็หลงทาง สวรรค์ทรงโปรด ในที่สุดก็มีผู้ใหญ่ใจบุญเป็นคนไทยที่ไปอยู่ญี่ปุ่นบอกทางให้ เราต้องนั่งกลับสถานี Keikyu-Kamata เพื่อเปลี่ยนรถไฟอีกสายไปฟูจิซาวะ ขอบพระคุณมากๆ คะ
ดีใจเหมือนได้เพชร ถึงแล้ว โรงแรมอยู่ใกล้สถานีชนิดที่มองจากสถานีเห็นเลย Sotetsu Fresa Hotel, Fujisawa 2 คืน 6,854 บาท จองผ่าน Booking.com คะ ลืมถ่ายภาพห้องพักไว้ ห้องเล็กไปหน่อย แต่อยู่สบาย สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบ พนักงานเฟรนลี่มากๆ ให้ 8 เต็ม 10 คะ
วางกระเป๋าแล้ว แม่จ๋าหาอะไรกินกันเถอะ ที่สถานี Fujisawa มีร้านน่ากิน ถูกด้วย
ร้านขนมคนต่อคิวเยอะมากคะ ลองซื้อกิน เฮ้ย อร่อยจิง!
อิ่มอร่อยจบไปอีกวันคะ
วันที่ 16 เมษายน 59 Hakone Trip
เช้าวันใหม่ด้วยจิตใจเบิกบาน ตี 4 ครึ่ง (ตามเวลาท้องถิ่น) ตื่นอาบน้ำแต่งตัวปลุกแม่ ตี 5.45 โดยประมาณออกเดินทางไปฮาโกะเนะ เช้าสดใส ลมแรงและยะเยือก 13 องศา! เห็นแม่ใส่แค่นี้ แต่อยากจิบอก เสื้อจั้มสูท เสื้อแขนยาว ตบท้ายด้วยเสื้อกันหนาวดังที่เห็น + พร๊อป ผ้าพันคอด้วย (ในกระเป๋าที่แม่สะพายไปมีโอเวอร์โค้ทอีกตัว) เตรียมพร้อม!!? แล้วเรามีอะไร ถุงน่องแบบหนา เดรสบางเบา + เสื้อสูท แค่นี้เอง เบาๆ
(ไม่ควรออกสื่อนะ =*=X)
ระหว่างทาง ผู้ชายคนนี้ก็ขึ้นมา แบบว่า พวงกุญแจได้ใจมากอะ
มาถึงสถานี Odawara ซื้อตั๋ว ฮาโกะเนะ พาส 2 วัน 2 ใบ 8,000 เยน ขอคู่มือและแผนที่เที่ยวมาด้วย เราก็มัวแต่มองหาห้องขายตั๋ว ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เช่นกัน จุดจำหน่ายพาสฮาโกะเนะ เดินออกประตูคืนตั๋วมองไปทาง 10 นาฬิกาคะ เราจะได้ตั๋วพร้อมของกำนัลเล็กน้อยจาก Odakyu
(ภาพไม่ชัด ยังกล้าลงเนอะ)
เราก็ไปขึ้นรถไฟสายนี้กันได้เลยคะ เดินหย่อนตั๋วและรับตั๋วคืนเข้ามาข้างในอีกครั้ง จะมีชานชลาไป Hakone-Umoto ขึ้นโล้ดดดด
มาไกลแล้วแฮะ ลืมถ่ายรูปตามระเบียบ
ตอนนี้เรานั่งอยู่ในเคเบิ้ลคาร์นะคะ นั่งไปเรื่อยๆ จนสุดทาง สุดทางแล้วตอนลงจากเคเบิ้ลคาร์ระวังกันด้วย ทางลาดชันมากๆ เจอศาลเจ้าด้วย น่าแวะ แต่ไม่ก่อน จุดหมายเราคือกระเช้าลอยฟ้า (ดูเรียก) คิคิ
เจอน้องแมวด้วย ตัวแรกในญี่ปุ่น!! น่ารัก ไม่กล้าทัก กลัวโดนเหมียวตบ
เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ใครพาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย หรือ ใครเป็นหอบหืด กรุณาเดินขึ้นไปแบบช้าๆ นะคะ ทางชันจริงๆ เรายังหอบเล็กน้อย ไม่ต้องกลัวกระเช้าจะเต็ม ถึงแถวยาวก็ได้ขึ้นคะ
"แม่มาเร็วมาเกาะลูกอีฟ!" =*=!
ขึ้นมาถึงได้นั่งในกระเช้าแล้วชื่นใจ
เห็นฟูจิซานแล้ว เย่ๆๆๆๆ บอกแล้วสภาพอากาศสดใส เห็นฟูจิแน่นอน โชคดีจุง คุคุ
แต่น่าเสียดาย ไม่ได้กินไข่ดำอยากอายุยืนเพิ่มขึ้นอีก 7 ปีจัง วันที่ไปกระเช้าช่วงแรกจากสถานีโซอุนซานกำลังปรับปรุงไม่เปิดให้บริการ จะมีเจ้าหน้าที่นำขบวนพาเรามาขึ้นรถบัสเพื่อต่อไปขึ้นกระเช้าในช่วงสุดท้ายคะ
ต่อกันเลยคะ
ลงสถานีท่าเรือโทเก็นได เห็นเรือโจรสลัดแล้ว เรือใหญ่โตมโหระทึก(?) แม่จ๋าอย่ารีบเดิน หนูขอถ่ายรูปเรือก่อน ระหว่างนั้น...เจ้าหน้าที่ขายตั๋ว มองแล้ว....มองอีก... มันจะมาได้รึยังเนี้ย งือ.... เราก็ยื่นพาสให้เขาดู เรียบร้อยได้ขึ้นแล้ว อ๊ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน ข้าพเจ้าได้ข่าวมีชั้นเฟริสคราส แน่สิ ซื้อ ไม่แพง เอาแบบราวทริปคะ (คิดการล่วงหน้าไว้แล้ว) 770 Yen x 2 = 1,540 Yen.
(ขออภัยคุณผู้หญิงหน้าเฟรมด้วยนะคะ เราไม่ได้รู้จักกันนะคะ)
ขึ้นมาแล้วเจ้าหน้าที่ให้เข้าประตู Frist Class แสดงตั๋วทั้ง 4 ใบ ให้เขาดูเขาจะเปิดประตูให้เราเข้าไปคะ ที่ว่างจริงๆ เรือออกทันที (นี่รอเราจริงๆ หรอ ขอโทษคร่าาาา) วิ่งหาที่นั่งตามสบาย
แม่ถามว่า "จะซื้อทำไมให้เปลืองเงิน"
"เอาน่า ซื้อมาแล้วหนิ ใครจะไปรู้ว่าวันนี้คนน้อย"
แล้วเมื่อเปิดประตูด่านฟ้า(ดูเรียก?)ออกไป ลมแรงมากอากาศหนาว บรื้ออออ แม่เราจัดโอเวอร์โค้ทออกมาแล้ว!!
คุณแม่เซลฟี่เองไปหลายภาพหลายมุม ตามสไตล์ชอบถ่ายรูป คิคิ น่ารักเนอะแม่เรา
มีเรืออีกลำสวนมาด้วย เค้าว่าใกล้ถึงท่าเรือจะมีจุดชมฟูจิได้อีก แต่ไม่เห็นเลยแฮะ
ถึงท่าเรือ ฮาโกเนะมาจิ แล้วยังไม่ลงคะ ยืนด่านฟ้าต่อไป มองลงมาข้างลง คนเยอะจุง
ใกล้กับท่าเรือ มีเรือเล็กออกมาตกปลากันด้วย
เรือออกเดินทางไปยังท่าเรืออีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดหมายของพวกเราสองแม่ลูก (ยังไม่ได้ยลโฉมซากุระใกล้ๆ เลยอะ เห็นแต่ไกลๆ)
"เห็นป่ะแม่ คนตูม ดีนะที่ซื้อเฟริสคราสมา"
ล่องเรือมาสักพักใกล้เสาแดงแล้ว (เสาโทริอิ) แม่ๆ มาถ่ายรูปเร็ว!
ถึงแล้วท่าเรือโมโตะฮาโกเนะ
"อ่าว แม่ ลูกอีฟลืมเล็งฟูจิซาน"
เราสองคนยืนมองไปมองมา ไม่รู้จะไปทางไหนดี มองแผนที่ก็แล้ว เสาโทริอิตรงนั้นต้องนั่งรถสาย Y ไปลงเพื่อชมใกล้ๆ แล้วขากลับมาตรงนี้หละ เราอยากนั่งเรือโจรสลัดอีกรอบอะ รถมีสวนกลับมาทางเดิมรึเปล่าเราก็ไม่รู้ สรุป ไม่ไป มองอยู่ที่ท่าเรือนี่ก็ได้ถ้าเราคนเดียวเดินกลับยังพอว่า แต่แม่เดินกลับมาปวดขาแย่
*ต่อ Part 2 http://ppantip.com/topic/35154743