ตามหัวข้อกระทู้ครับ คิดว่า นาทีนี้ วัดกัน เพื่อนๆคิดว่าใครกันแน่ที่จะมีสิทธิ์ได้ถือถ้วยแชมป์ยูโรป้า
จากทั้ง 2 ทีม
เซบีย่าครองถ้วยนี้มาแล้ว 4 สมัย จะได้สมัยที่ 5
มาเทียบชั้นลิเวอร์พูลที่ครองแชมป์ยุโรป 5 สมัยเหมือนกันหรือไม่
ฟอร์มเซบีย่าล่าสุด พ่าย ทีมหนีตายอย่าง กรานาด้าไป 4-1 แต่ก็เพื่อ
ให้อีกทีมอยู่รอดเพราะเจ้าของสโมสรทั้ง 2 เป็นคนเดียวกันเก็บแรงไว้เจอกับลิเวอร์พูลโดยเฉพาะ
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ตอนนี้ ฟอร์มก็ถือว่าใช้ได้ แม้นัดล่าสุดเกือบโดนหอยงาบปีกแพ้คารัง แต่ก็ยังได้ประตู
ปอเต๊กตึ้ง ช่วยชีวิตของ คริสเตียน
บีทาเก้น เบนเตเก้ หัวหอกตัวสำรอง
ลูกเมียน้อย ประจำทีม ทั้งๆที่รูปเกมส์ดูแล้วสู้ไม่ได้ทั้งเกมส์เลย
บทวิเคราะห์ สถานการณ์ในปัจจุบัน
1. สถานการณ์ในลีก ดูไม่ดี เหมือนกัน คือ ถ้าไม่นับนัดสุดท้าย ก็จะจบฤดูกาลโดยอยู่ในอันดับ ที่ 7 เหมือนกัน ทั้ง ลิเวอร์พูลและเซบีย่า ก็ต้องการถ้วยนี้ เพื่อโควต้า ยุโรป ในฤดูกาลหน้า เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัว ใครพลาดก็ต้องเจ็บหนักแน่นอน เพราะทั้งรายได้ที่หายไป และ ชื่อเสียงที่ด่างพร้อย แน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ติดตัวไปในปีหน้า
2. กองหน้าที่แตกต่าง ทีมเซบีย่า มี หัวหอกถล่มประตู อย่าง Kevin Gameiro ที่นับประตูจากทุกรายการ ยิงไปได้ถึง 28 ประตู กับอีก 5 แอสซิส ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของ เซบีย่าในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ กองหน้าแทบทุกตัว ได้รับเสียงแซ่ซ้องในเรื่องของฟอร์มการเล่น ที่ไม่ฟิต หลุดฟอร์ม
ไม่เอาถ่าน และ เจ็บกันเป็นระนาว ถ้าเทียบจากจุดนี้จะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนและเป็นจุดหนักใจของลิเวอร์พูลเช่นกัน แม้จะมีข่าว ว่า กองหน้ามหาชนอย่าง โอริกิ และ แดนนี่อิ้งจะกลับมาได้ก่อนจบฤดูกาลแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวจริงในหัวใจของคล็อป ก็ยังเป็น สเตอร์ริจและฟีเมียโน่ เสมอ ส่วนเบนเตเก้
มันลูกเมียน้อย นั้นอาจไม่อยู่ในตัวเลือกของ คล็อบ
3. กองกลางตัวคุมเกมส์ ในสถานการณ์ตอนนี้ เซบีย่ามีกองกลางที่ เรียกได้ว่า เนื้อหอม อย่าง Ever Banega ที่ปีนี้ ยิงไป 9 ประตูกับอีก 5 แอสซิส และ กลางรับ อย่าง Grzegorz Krychowiak ที่คอยคุมเกมส์มาตลอด แม้จะมีจังหวะหลุดไปหน่อยแต่ภาพรวมก็สร้างสรรค์เกมส์ได้โอเค และตัวรุกอย่าง Vitolo , N'Zonzi ที่แอตมาดริคจับตามองในการคว้าตัว Vitolo กลับไปสู่รังหมีเนื่องจากฟอร์มที่ร้อนแรงในปีนี้ ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลต้องลุ้นกับ กองกลาง กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน แฮนเดอร์สันที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ + ฟอร์มยังไม่กลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังมี เดอะ ลิตเติ้ล เมจิกเชี่ยนอย่าง คูตี้ ที่คอยสร้างสรรค์เกมส์ และ ทำประตูที่น่าทึ่งอยู่เสมอและที่สำคัญ
ถ้าไม่ได้แชมป์นี้ไปบาซ่าแน่นอน เขายังเป็นนักเตะคนเดียวของลิเวอร์พูลที่ ฝากผีฝากไข้ได้ เพราะในฤดูกาลนี้ยังไม่เคยหลุดฟอร์มมาก่อนเลย แม้หลังๆจะยิงประตูไม่ได้ แต่ก็ต้องบอกว่ามีส่วนกับประตูที่เพื่อนๆทำได้ ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีนักเตะ Killer pass อย่างฟีเมียโน่และ กองกลางตัวขยันอย่างมิลเนอ และ ตัวสารพัดประโยชน์อย่างเอมเร่ชาน ซึ่งตรงจุดนี้ลิเวอร์พูลดูเหนือกว่าเซบีย่า
4. กองหลัง จุดนี้ผมมองว่า พอๆกัน เพราะเรื่องหลุด พลาด และเข้าไม่ชัวร์ อยู่ในระดับที่เท่าเทียมกัน เซบีย่ามี Adil Rami , Timothée Kolodziejczak และ Daniel Carrico ที่ผลัดกันหมุนเวียนลงเป็นตัวจริงตลอด
ยกเว้น ทิโมทีที่ฟอร์มดรอปไปเยอะ ลิเวอร์พูลก็มี ลอฟเรน กับ โคโล่ ตูเร่ และ มาตินสเคอเทล ที่ อายุ พอกันๆ ฟอร์มพอๆกันเพียงแค่หลังๆ เหมือนลอฟเรนจะได้รับการอวยมากขึ้น จากสาวกเดอะ ค็อป มากขึ้น ในด้าน แบ็คซ้ายขวา เซบีย่ายังคงยึดเอา Adil Rami ผู้ที่ได้รับเสียงยกย่องจากแฟนๆมากมายในฐานะผู้อาวุโสของทีมในตำแหน่งที่เล่นได้หมดทั้ง เซนเตอร์และแบ็คซ้ายขวา ด้าน แบ็ค ซ็าย ขวา เอง ดูแล้ว เซบีย่า มีภาษี ดีกว่ามาก เนื่องจาก Sergio Escudero , Mariano และ Coke กำลังทำฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องเรียกได้ว่าเบียดกันแย่างตัวจริงเลย ในขณะที่ลิเวอร์พูล มี ไคลน์ และ โมเรโน่ ที่ทั้งฤดูกาล ยิงประตูได้คนละประตูเท่านั้น ตัวที่จะมาเป็นคู่แข่งแย่งตัวจริงก็มี ฟลานาแก้น และ แบรท สมิธ
ที่ดูแล้วอาจเข้าทำนองขุนไม่ขึ้น แต่เรื่องเติมเกมส์บุกลูกเปิดบอกเลยว่า ไม่แพ้กัน
5. ผู้จัดการทีม เจอร์เก้นคล็อบของ ลิเวอร์พูล ต้องการเครื่องหมายการันตีความสำเร็จ หลังจากชวดแชมป์ คาลิ่งคัพกับแมนซิตี้ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งเวทียูโรป้าจะกลายเป็นเวทีแก้ตัวของเขา ด้วยฟอร์มที่ดุดันกับคู่ต่อสู้ และเพรสซิ่งคู่แข่งทุกจังหวะ รวมทั้งการโกงความตายอย่างต่อเนื่องในหลายๆเกมส์ แสดงถึงสปิริตของเขาต่อลูกทีมไม่น้อย ด้านเซบีย่าเอง อูไน เอมีรี่ ถือถ้วยนี้มาแล้ว 2 ฤดูกาลติด แน่นอนว่าเขาเองก็อยากจะเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ คว้า แชมป์ยูโรป้า 3 สมัยซ้อนแบบที่ไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อน และเพื่อรักษาเก้าอีจากผลงานที่น่าผิดคาดในเกมส์ลีก ที่จบเพียงแค่ ที่ 7 อย่างเป็นทางการไปแล้ว เวทียูโรป้าเองก็จะเป็นโอกาสแก้ตัวของเขาเช่นกัน
6. ข่าวทั่วไป อาจส่งผลต่อกำลังใจไม่น้อยเมื่อ กษัตริย์ของสเปน พระเจ้า ฟิลิปเป้ที่ 6 จะไม่ทรงเสด็จไปร่วมชมเกมส์นัดชิงยูโรป้าลีกที่บาเซิ่ล ในขณะที่ ทางด้านอังกฤษยังไม่มีข่าวอะไรออกมาว่า พระบรมวงศานุวงศ์ พระองค์ใดของอังกฤษจะเข้าไปร่วมชมเกมส์ นัดชิงครั้งนี้
จากที่พูดเรื่อยๆมานี้ เพื่อนคิดว่า ใครจะได้จับถ้วย ยูโรป้า ระหว่างแชมป์เก่า เซบีย่า กับ ลิเวอร์พูล
ปิดโหวตวันที่ 18 นะครับ
*** ปิดโหวต วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2559 เวลา 18:35:09 น.
กระทู้โพล!!! คิดว่าใครจะได้แชมป์ยูโรป้า
จากทั้ง 2 ทีม
เซบีย่าครองถ้วยนี้มาแล้ว 4 สมัย จะได้สมัยที่ 5
มาเทียบชั้นลิเวอร์พูลที่ครองแชมป์ยุโรป 5 สมัยเหมือนกันหรือไม่ฟอร์มเซบีย่าล่าสุด พ่าย ทีมหนีตายอย่าง กรานาด้าไป 4-1 แต่ก็เพื่อ
ให้อีกทีมอยู่รอดเพราะเจ้าของสโมสรทั้ง 2 เป็นคนเดียวกันเก็บแรงไว้เจอกับลิเวอร์พูลโดยเฉพาะขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ตอนนี้ ฟอร์มก็ถือว่าใช้ได้ แม้นัดล่าสุดเกือบโดนหอยงาบปีกแพ้คารัง แต่ก็ยังได้ประตู
ปอเต๊กตึ้งช่วยชีวิตของ คริสเตียนบีทาเก้นเบนเตเก้ หัวหอกตัวสำรองลูกเมียน้อยประจำทีม ทั้งๆที่รูปเกมส์ดูแล้วสู้ไม่ได้ทั้งเกมส์เลยบทวิเคราะห์ สถานการณ์ในปัจจุบัน
1. สถานการณ์ในลีก ดูไม่ดี เหมือนกัน คือ ถ้าไม่นับนัดสุดท้าย ก็จะจบฤดูกาลโดยอยู่ในอันดับ ที่ 7 เหมือนกัน ทั้ง ลิเวอร์พูลและเซบีย่า ก็ต้องการถ้วยนี้ เพื่อโควต้า ยุโรป ในฤดูกาลหน้า เรียกได้ว่าทุ่มสุดตัว ใครพลาดก็ต้องเจ็บหนักแน่นอน เพราะทั้งรายได้ที่หายไป และ ชื่อเสียงที่ด่างพร้อย แน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ติดตัวไปในปีหน้า
2. กองหน้าที่แตกต่าง ทีมเซบีย่า มี หัวหอกถล่มประตู อย่าง Kevin Gameiro ที่นับประตูจากทุกรายการ ยิงไปได้ถึง 28 ประตู กับอีก 5 แอสซิส ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของ เซบีย่าในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ กองหน้าแทบทุกตัว ได้รับเสียงแซ่ซ้องในเรื่องของฟอร์มการเล่น ที่ไม่ฟิต หลุดฟอร์ม
ไม่เอาถ่านและ เจ็บกันเป็นระนาว ถ้าเทียบจากจุดนี้จะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนและเป็นจุดหนักใจของลิเวอร์พูลเช่นกัน แม้จะมีข่าว ว่า กองหน้ามหาชนอย่าง โอริกิ และ แดนนี่อิ้งจะกลับมาได้ก่อนจบฤดูกาลแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวจริงในหัวใจของคล็อป ก็ยังเป็น สเตอร์ริจและฟีเมียโน่ เสมอ ส่วนเบนเตเก้มันลูกเมียน้อยนั้นอาจไม่อยู่ในตัวเลือกของ คล็อบ3. กองกลางตัวคุมเกมส์ ในสถานการณ์ตอนนี้ เซบีย่ามีกองกลางที่ เรียกได้ว่า เนื้อหอม อย่าง Ever Banega ที่ปีนี้ ยิงไป 9 ประตูกับอีก 5 แอสซิส และ กลางรับ อย่าง Grzegorz Krychowiak ที่คอยคุมเกมส์มาตลอด แม้จะมีจังหวะหลุดไปหน่อยแต่ภาพรวมก็สร้างสรรค์เกมส์ได้โอเค และตัวรุกอย่าง Vitolo , N'Zonzi ที่แอตมาดริคจับตามองในการคว้าตัว Vitolo กลับไปสู่รังหมีเนื่องจากฟอร์มที่ร้อนแรงในปีนี้ ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลต้องลุ้นกับ กองกลาง กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน แฮนเดอร์สันที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ + ฟอร์มยังไม่กลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังมี เดอะ ลิตเติ้ล เมจิกเชี่ยนอย่าง คูตี้ ที่คอยสร้างสรรค์เกมส์ และ ทำประตูที่น่าทึ่งอยู่เสมอและที่สำคัญ
ถ้าไม่ได้แชมป์นี้ไปบาซ่าแน่นอนเขายังเป็นนักเตะคนเดียวของลิเวอร์พูลที่ ฝากผีฝากไข้ได้ เพราะในฤดูกาลนี้ยังไม่เคยหลุดฟอร์มมาก่อนเลย แม้หลังๆจะยิงประตูไม่ได้ แต่ก็ต้องบอกว่ามีส่วนกับประตูที่เพื่อนๆทำได้ ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีนักเตะ Killer pass อย่างฟีเมียโน่และ กองกลางตัวขยันอย่างมิลเนอ และ ตัวสารพัดประโยชน์อย่างเอมเร่ชาน ซึ่งตรงจุดนี้ลิเวอร์พูลดูเหนือกว่าเซบีย่า4. กองหลัง จุดนี้ผมมองว่า พอๆกัน เพราะเรื่องหลุด พลาด และเข้าไม่ชัวร์ อยู่ในระดับที่เท่าเทียมกัน เซบีย่ามี Adil Rami , Timothée Kolodziejczak และ Daniel Carrico ที่ผลัดกันหมุนเวียนลงเป็นตัวจริงตลอด
ยกเว้น ทิโมทีที่ฟอร์มดรอปไปเยอะลิเวอร์พูลก็มี ลอฟเรน กับ โคโล่ ตูเร่ และ มาตินสเคอเทล ที่ อายุ พอกันๆ ฟอร์มพอๆกันเพียงแค่หลังๆ เหมือนลอฟเรนจะได้รับการอวยมากขึ้น จากสาวกเดอะ ค็อป มากขึ้น ในด้าน แบ็คซ้ายขวา เซบีย่ายังคงยึดเอา Adil Rami ผู้ที่ได้รับเสียงยกย่องจากแฟนๆมากมายในฐานะผู้อาวุโสของทีมในตำแหน่งที่เล่นได้หมดทั้ง เซนเตอร์และแบ็คซ้ายขวา ด้าน แบ็ค ซ็าย ขวา เอง ดูแล้ว เซบีย่า มีภาษี ดีกว่ามาก เนื่องจาก Sergio Escudero , Mariano และ Coke กำลังทำฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องเรียกได้ว่าเบียดกันแย่างตัวจริงเลย ในขณะที่ลิเวอร์พูล มี ไคลน์ และ โมเรโน่ ที่ทั้งฤดูกาล ยิงประตูได้คนละประตูเท่านั้น ตัวที่จะมาเป็นคู่แข่งแย่งตัวจริงก็มี ฟลานาแก้น และ แบรท สมิธที่ดูแล้วอาจเข้าทำนองขุนไม่ขึ้นแต่เรื่องเติมเกมส์บุกลูกเปิดบอกเลยว่า ไม่แพ้กัน5. ผู้จัดการทีม เจอร์เก้นคล็อบของ ลิเวอร์พูล ต้องการเครื่องหมายการันตีความสำเร็จ หลังจากชวดแชมป์ คาลิ่งคัพกับแมนซิตี้ไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งเวทียูโรป้าจะกลายเป็นเวทีแก้ตัวของเขา ด้วยฟอร์มที่ดุดันกับคู่ต่อสู้ และเพรสซิ่งคู่แข่งทุกจังหวะ รวมทั้งการโกงความตายอย่างต่อเนื่องในหลายๆเกมส์ แสดงถึงสปิริตของเขาต่อลูกทีมไม่น้อย ด้านเซบีย่าเอง อูไน เอมีรี่ ถือถ้วยนี้มาแล้ว 2 ฤดูกาลติด แน่นอนว่าเขาเองก็อยากจะเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ คว้า แชมป์ยูโรป้า 3 สมัยซ้อนแบบที่ไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อน และเพื่อรักษาเก้าอีจากผลงานที่น่าผิดคาดในเกมส์ลีก ที่จบเพียงแค่ ที่ 7 อย่างเป็นทางการไปแล้ว เวทียูโรป้าเองก็จะเป็นโอกาสแก้ตัวของเขาเช่นกัน
6. ข่าวทั่วไป อาจส่งผลต่อกำลังใจไม่น้อยเมื่อ กษัตริย์ของสเปน พระเจ้า ฟิลิปเป้ที่ 6 จะไม่ทรงเสด็จไปร่วมชมเกมส์นัดชิงยูโรป้าลีกที่บาเซิ่ล ในขณะที่ ทางด้านอังกฤษยังไม่มีข่าวอะไรออกมาว่า พระบรมวงศานุวงศ์ พระองค์ใดของอังกฤษจะเข้าไปร่วมชมเกมส์ นัดชิงครั้งนี้
จากที่พูดเรื่อยๆมานี้ เพื่อนคิดว่า ใครจะได้จับถ้วย ยูโรป้า ระหว่างแชมป์เก่า เซบีย่า กับ ลิเวอร์พูล
ปิดโหวตวันที่ 18 นะครับ