แวะมาแชร์ประสบการณ์ "ภาวะแท้งคุกคาม "
อิแม่ตั้งครรภ์ครั้งนี้ ครั้งที่ 3 ค่ะ แต่เป็นลูกคนที่ 2
ทำไมถึงบอกว่าครั้งที่ 3 แต่เป็นลูกคนที่ 2
- เวลาพยายาลซักประวัติ ต้องบอกให้หมดนะคะ
ท้องมากี่ครั้ง ทั้งที่แท้ง หรือคลอดสมบูรณ์
ยิ่งจำได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับลูกในท้อง
เพราะพยาบาลจะได้ประเมินภาวะเสี่ยงต่างๆ เช่น
คลอดก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ แท้งคุกคาม
ท้องแรกเราเสียลูกไปตอน 17 week โดนการแท้งครบ
ไม่ได้ขูดมดลูก ก่อนหน้าที่จะแท้ง เราไปตรวจที่ รพ.
เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ แต่ตอนนั้นหมอไม่ชัวร์ว่าท้องไหม
ให้มาตรวจซ้ำอีก 2 อาทิตย์ ระหว่างนั้นเรามีอาการปวดท้อง
และเราเลือดออกค่ะ ไปหาหมอตั้งแต่ที่เลือดออกวันแรก
หมอบอกว่าเป็นประจำเดือนกลับบ้านมาพักผ่อน
หลังจากนั้น 3 วันเรานั่งกินข้าวแล้วหน้ามืดเป็นลม
ก็หามส่ง รพ. ระหว่างหมอตรวจก็แท้งออกมา
เป็นก้อนเหมือนพุงปลาแต่ใหญ่ค่ะหมอบอกเสียใจด้วย
เราแท้งแต่โชคดีที่แท้งครบไม่ต้องขูดมดลูก
หลังจากนอนให้น้ำเกลือ เราก็เจอภาวะติดเชื้อในมดลูก
ก็รักษากันไปค่ะ นอน รพ. เกือบ 3 อาทิตย์
หลังจากนั้นหมอให้คุมกำเนิด 3 เดือน
แล้วถึงเริ่มปล่อยมีลูกได้
เราเริ่มตั้งภรรค์ที่ 2 หลังจากหยุดคุมกำเนิด 1 เดือน
- เราถือที่ตรวจท้องไปฝากครรภ์ 5 อันค่ะ เพื่อความชัวร์
เราตรวจเจอตอน 8 Week ฝากพิเศษ รพ. เดิม
ช่วง 3 เดือนแรก มีอาการแพ้ท้องแค่ตอนเช้านิดหน่อย
และมีอาการปวดท้องน้อย เลือดออกนิดหน่อย
ไปปรึกษาหมอเพื่อวินิจฉัยเรากลัวเป็นแท้งคุกคาม
หมอบอกว่ายังไม่เป็นแค่เข้าข่ายต้องรอดูท้องต่อไป
ก็รักษาประคับประคองมาเรื่อยๆ ค่ะไม่สบายนิดหน่อย
คือหาหมออย่างเดียว กินอาหารมันก็ท้องเสีย
เรียกว่ากินทีไรแอดมิททุกที แอดมิทจนสนิทกับพยาบาล
ทั้งตึกเลยก็ว่าได้ เราคลอดน้องคนที่ 2 ตอน 35 W 5 D
ตามที่อัลตร้าซาวน์วันที่คลอดน้องนะคะ
นน. น้อง 2700 กรัม คลอดออกมามีภาวะตัวเหลือง
เนื่องจากโรค G6PD อีก น้องก็ต้องเข้าตู้อบกันไป
ส่วนท้องนี้ ครั้งที่ 3 ห่างจากท้องที่ 2 4 ปี
- ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมีค่ะ หลังจากเลิกกับพ่อน้องคนแรก
เราแต่งงานใหม่และปล่อยมาจะเข้าปีที่ 2 แล้วก็ไม่มี เราเลยปล่อยเลยตามเลย มาเมื่อไหร่ก็ได้ จนถึงช่วงที่ทำงานหนัก
สุดๆ คือเรากับแฟนโดนย้ายไปทำโปรเจคที่กัวลาลัมเปอร์
มาเลเซีย ช่วงนั้นโหมงานหนักค่ะ ตื่นตี 5 ทำโอที ถึง
เที่ยงคืนเกือบทุกวัน กว่าจะได้นอนก็ตี 2 - 3 ทำทุกวัน
ไม่ได้หยุดติดกันเกือบ 2 เดือน จนประจำเดือนหายไป
2 อาทิตย์กว่าๆ จมูกไวขึ้น เหม็นนิดหน่อย เวียนหัว
ได้กลิ่นหมดค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าพักผ่อนน้อยหรือเปล่า
เป็นหนักเข้าก็สงสัย เลยซื้อที่ตรวจท้องมาตรวจ 2 อัน
ขึ้น 2 ขีดหมดเลย แถมตรวจตอนเย็นด้วย ถ้าขึ้นแบบนี้
ชัวร์แน่ๆ ตอนนั้นหาคลีนิคฝากท้องก่อน เพราะหาข้อมูล
ในเน็ตสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้หลังจาก 16 Week
เราตรวจเจอน้องตอน 9 week หลังจากนั้นก็เริ่มมี
ปวดท้องน้อย เลือดออกเล็กน้อย จนถึง มากจนคิดว่าแท้ง
อีกแล้วเหรอ ปรึกษาหมอตลอด หมอที่นั่นใส่ใจมาก
เลือดออกปุ๊บ ซาวน์ปั๊บ ได้ยินเสียงหัวใจน้องแทบทุกอาทิตย์ เราจะดีใจทุกครั้งที่ได้รู้ว่าลูกเรายังหัวใจเต้นอยู่
Week 10 เราเลือดออกมากไปหาหมอเล่าให้ฟังทุกอย่างจน
หมอว่าน่าจะเป็นภาวะแท้งคุกคามแล้วนะ ฉีดยากันไว้เถอะ
เราฉีดยาทุกอาทิตย์ค่ะ เดือนแรกมียากินด้วย ไหนจะโฟลิค
ธาตุเหล็กอีก เราซื้อ แบล็คมอ น้ำมันตับปลา กินเองอีก
(ปรึกษาหมอแล้ว) ช่วงนั้นทรมานมาก ปวดท้องที
เลือดออกที ใจหายใจคว่ำกันหมด จนถึง 20 Week
เราตัดสินใจกลับไทย ก่อนเดินทางหมอเปลี่ยนเป็นยากิน
แล้วค่ะ แต่เราขอหมอฉีดอีกเข็มกันเหนียวไว้
malay-ดอนเมือง-เชียงราย เราลุ้นตลอดทาง
อย่ามีเลือดออกนะอย่างเดียวเลย ถ้าเลือดออกบนเครื่องเรื่องใหญ่แน่ๆ พอถึงไทยเราก็จัดการเอาเอกสารทุกอย่าง
ติดต่อฝากท้องที่ รพ. ประจำอำเภอ ขนาดคัดกรองประวัติ
เราแจ้งพยาบาลว่าเรามีภาวะแท้งคุกคาม แต่ใบรายงานที่
หมอจากมาเลให้มาไม่ได้เขียนไว้ เราอยากขอเช็คให้
ละเอียดเพราะเดินทางมาเรามีอาการปวดท้องน้อย
และท้องแข็ง ตอนนี้เรากินยาอยู่ แล้วก่อนมาเราฉีดยามา
อีก 1 เข็มแล้ว พยาบาลพูดกับเราว่า ถ้าเด็กมันจะตายจะ
ฉีดยาหรือกินยายังไงมันก็ตาย แต่ถ้าเด็กมันจะอยู่ไม่ต้องทำ
อะไรมันก็อยู่ เราถึงกับหน้าชาตัวชาเลยค่ะ ไม่คิดว่าคำนี้จะ
หลุดมาจากปากพยาบาล เราเลยไปตรวจซ้ำคลีนิกข้างนอก
แต่เขาไม่รับฝากท้อง แค่ตรวจและจ่ายยา ได้ยากันแท้งต่อ
จากมาเล แต่เป็นคนละตัวกันราคาก็กลางๆ นะคะ
แผงละ 250 บาท 15 เม็ด หมอแนะนำมาว่าตอนนี้ฉีด
ได้ผลน้อยแล้วกินเอาดีกว่า ยาไม่เป็นอันตรายต่อแม่
แต่จะช่วยการยับยั้งการคลอดก่อนกำหนด
เราก็ถึงกับโล่งใจที่มีคนเข้าใจเรา
แต่ก็ต้องจำใจฝากท้องที่ รพ. ต่อด้วยควบคู่กับไป
จะให้เข้า จ. ก็ไม่ไหว ไกลเกิน 100 กว่ากิโล
และตั้งใจจะคลอดธรรมชาติด้วย กลัวไปไม่ทัน อิอิ
ตอนนี้ 25 week แล้วค่ะ ลาออกจากงานมาโดยสมบูรณ์
แบบ แม้ต้องห่างกับคุณพ่อเพราะ พ่อยังติดสัญญาบริษัท
อีก 1 ปี ก็ต้องทนกันไป ปล่อยใจกัน ให้กำลังใจกันไป
ช่วงไหนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คุณพ่อก็รับศึกอิแม่ไลน์
ไปอาละวาดหนักหน่อย โชคดีที่คุณพ่อทำเรื่องลางาน
ช่วงคลอดไว้ 1 - 2 เดือน กำลังรอบริษัทอนุมัติ แต่ที่แน่ๆ
คือ 1 เดือนผ่านแล้ว คุณพ่อลองยื่น 2 เดือนอยู่ก็มาลุ้นกัน
ต่อไปว่าจะผ่านไหม
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อ่านจบนะคะ
แวะมาแชร์ประสบการณ์ "ภาวะแท้งคุกคาม "
อิแม่ตั้งครรภ์ครั้งนี้ ครั้งที่ 3 ค่ะ แต่เป็นลูกคนที่ 2
ทำไมถึงบอกว่าครั้งที่ 3 แต่เป็นลูกคนที่ 2
- เวลาพยายาลซักประวัติ ต้องบอกให้หมดนะคะ
ท้องมากี่ครั้ง ทั้งที่แท้ง หรือคลอดสมบูรณ์
ยิ่งจำได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับลูกในท้อง
เพราะพยาบาลจะได้ประเมินภาวะเสี่ยงต่างๆ เช่น
คลอดก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ แท้งคุกคาม
ท้องแรกเราเสียลูกไปตอน 17 week โดนการแท้งครบ
ไม่ได้ขูดมดลูก ก่อนหน้าที่จะแท้ง เราไปตรวจที่ รพ.
เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ แต่ตอนนั้นหมอไม่ชัวร์ว่าท้องไหม
ให้มาตรวจซ้ำอีก 2 อาทิตย์ ระหว่างนั้นเรามีอาการปวดท้อง
และเราเลือดออกค่ะ ไปหาหมอตั้งแต่ที่เลือดออกวันแรก
หมอบอกว่าเป็นประจำเดือนกลับบ้านมาพักผ่อน
หลังจากนั้น 3 วันเรานั่งกินข้าวแล้วหน้ามืดเป็นลม
ก็หามส่ง รพ. ระหว่างหมอตรวจก็แท้งออกมา
เป็นก้อนเหมือนพุงปลาแต่ใหญ่ค่ะหมอบอกเสียใจด้วย
เราแท้งแต่โชคดีที่แท้งครบไม่ต้องขูดมดลูก
หลังจากนอนให้น้ำเกลือ เราก็เจอภาวะติดเชื้อในมดลูก
ก็รักษากันไปค่ะ นอน รพ. เกือบ 3 อาทิตย์
หลังจากนั้นหมอให้คุมกำเนิด 3 เดือน
แล้วถึงเริ่มปล่อยมีลูกได้
เราเริ่มตั้งภรรค์ที่ 2 หลังจากหยุดคุมกำเนิด 1 เดือน
- เราถือที่ตรวจท้องไปฝากครรภ์ 5 อันค่ะ เพื่อความชัวร์
เราตรวจเจอตอน 8 Week ฝากพิเศษ รพ. เดิม
ช่วง 3 เดือนแรก มีอาการแพ้ท้องแค่ตอนเช้านิดหน่อย
และมีอาการปวดท้องน้อย เลือดออกนิดหน่อย
ไปปรึกษาหมอเพื่อวินิจฉัยเรากลัวเป็นแท้งคุกคาม
หมอบอกว่ายังไม่เป็นแค่เข้าข่ายต้องรอดูท้องต่อไป
ก็รักษาประคับประคองมาเรื่อยๆ ค่ะไม่สบายนิดหน่อย
คือหาหมออย่างเดียว กินอาหารมันก็ท้องเสีย
เรียกว่ากินทีไรแอดมิททุกที แอดมิทจนสนิทกับพยาบาล
ทั้งตึกเลยก็ว่าได้ เราคลอดน้องคนที่ 2 ตอน 35 W 5 D
ตามที่อัลตร้าซาวน์วันที่คลอดน้องนะคะ
นน. น้อง 2700 กรัม คลอดออกมามีภาวะตัวเหลือง
เนื่องจากโรค G6PD อีก น้องก็ต้องเข้าตู้อบกันไป
ส่วนท้องนี้ ครั้งที่ 3 ห่างจากท้องที่ 2 4 ปี
- ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมีค่ะ หลังจากเลิกกับพ่อน้องคนแรก
เราแต่งงานใหม่และปล่อยมาจะเข้าปีที่ 2 แล้วก็ไม่มี เราเลยปล่อยเลยตามเลย มาเมื่อไหร่ก็ได้ จนถึงช่วงที่ทำงานหนัก
สุดๆ คือเรากับแฟนโดนย้ายไปทำโปรเจคที่กัวลาลัมเปอร์
มาเลเซีย ช่วงนั้นโหมงานหนักค่ะ ตื่นตี 5 ทำโอที ถึง
เที่ยงคืนเกือบทุกวัน กว่าจะได้นอนก็ตี 2 - 3 ทำทุกวัน
ไม่ได้หยุดติดกันเกือบ 2 เดือน จนประจำเดือนหายไป
2 อาทิตย์กว่าๆ จมูกไวขึ้น เหม็นนิดหน่อย เวียนหัว
ได้กลิ่นหมดค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าพักผ่อนน้อยหรือเปล่า
เป็นหนักเข้าก็สงสัย เลยซื้อที่ตรวจท้องมาตรวจ 2 อัน
ขึ้น 2 ขีดหมดเลย แถมตรวจตอนเย็นด้วย ถ้าขึ้นแบบนี้
ชัวร์แน่ๆ ตอนนั้นหาคลีนิคฝากท้องก่อน เพราะหาข้อมูล
ในเน็ตสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้หลังจาก 16 Week
เราตรวจเจอน้องตอน 9 week หลังจากนั้นก็เริ่มมี
ปวดท้องน้อย เลือดออกเล็กน้อย จนถึง มากจนคิดว่าแท้ง
อีกแล้วเหรอ ปรึกษาหมอตลอด หมอที่นั่นใส่ใจมาก
เลือดออกปุ๊บ ซาวน์ปั๊บ ได้ยินเสียงหัวใจน้องแทบทุกอาทิตย์ เราจะดีใจทุกครั้งที่ได้รู้ว่าลูกเรายังหัวใจเต้นอยู่
Week 10 เราเลือดออกมากไปหาหมอเล่าให้ฟังทุกอย่างจน
หมอว่าน่าจะเป็นภาวะแท้งคุกคามแล้วนะ ฉีดยากันไว้เถอะ
เราฉีดยาทุกอาทิตย์ค่ะ เดือนแรกมียากินด้วย ไหนจะโฟลิค
ธาตุเหล็กอีก เราซื้อ แบล็คมอ น้ำมันตับปลา กินเองอีก
(ปรึกษาหมอแล้ว) ช่วงนั้นทรมานมาก ปวดท้องที
เลือดออกที ใจหายใจคว่ำกันหมด จนถึง 20 Week
เราตัดสินใจกลับไทย ก่อนเดินทางหมอเปลี่ยนเป็นยากิน
แล้วค่ะ แต่เราขอหมอฉีดอีกเข็มกันเหนียวไว้
malay-ดอนเมือง-เชียงราย เราลุ้นตลอดทาง
อย่ามีเลือดออกนะอย่างเดียวเลย ถ้าเลือดออกบนเครื่องเรื่องใหญ่แน่ๆ พอถึงไทยเราก็จัดการเอาเอกสารทุกอย่าง
ติดต่อฝากท้องที่ รพ. ประจำอำเภอ ขนาดคัดกรองประวัติ
เราแจ้งพยาบาลว่าเรามีภาวะแท้งคุกคาม แต่ใบรายงานที่
หมอจากมาเลให้มาไม่ได้เขียนไว้ เราอยากขอเช็คให้
ละเอียดเพราะเดินทางมาเรามีอาการปวดท้องน้อย
และท้องแข็ง ตอนนี้เรากินยาอยู่ แล้วก่อนมาเราฉีดยามา
อีก 1 เข็มแล้ว พยาบาลพูดกับเราว่า ถ้าเด็กมันจะตายจะ
ฉีดยาหรือกินยายังไงมันก็ตาย แต่ถ้าเด็กมันจะอยู่ไม่ต้องทำ
อะไรมันก็อยู่ เราถึงกับหน้าชาตัวชาเลยค่ะ ไม่คิดว่าคำนี้จะ
หลุดมาจากปากพยาบาล เราเลยไปตรวจซ้ำคลีนิกข้างนอก
แต่เขาไม่รับฝากท้อง แค่ตรวจและจ่ายยา ได้ยากันแท้งต่อ
จากมาเล แต่เป็นคนละตัวกันราคาก็กลางๆ นะคะ
แผงละ 250 บาท 15 เม็ด หมอแนะนำมาว่าตอนนี้ฉีด
ได้ผลน้อยแล้วกินเอาดีกว่า ยาไม่เป็นอันตรายต่อแม่
แต่จะช่วยการยับยั้งการคลอดก่อนกำหนด
เราก็ถึงกับโล่งใจที่มีคนเข้าใจเรา
แต่ก็ต้องจำใจฝากท้องที่ รพ. ต่อด้วยควบคู่กับไป
จะให้เข้า จ. ก็ไม่ไหว ไกลเกิน 100 กว่ากิโล
และตั้งใจจะคลอดธรรมชาติด้วย กลัวไปไม่ทัน อิอิ
ตอนนี้ 25 week แล้วค่ะ ลาออกจากงานมาโดยสมบูรณ์
แบบ แม้ต้องห่างกับคุณพ่อเพราะ พ่อยังติดสัญญาบริษัท
อีก 1 ปี ก็ต้องทนกันไป ปล่อยใจกัน ให้กำลังใจกันไป
ช่วงไหนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คุณพ่อก็รับศึกอิแม่ไลน์
ไปอาละวาดหนักหน่อย โชคดีที่คุณพ่อทำเรื่องลางาน
ช่วงคลอดไว้ 1 - 2 เดือน กำลังรอบริษัทอนุมัติ แต่ที่แน่ๆ
คือ 1 เดือนผ่านแล้ว คุณพ่อลองยื่น 2 เดือนอยู่ก็มาลุ้นกัน
ต่อไปว่าจะผ่านไหม
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อ่านจบนะคะ