สำหรับแบรน ที่มีความสามารถสิงสู่ แบบวอร์ก ที่ปูมาตั้งแต่ซีซั่นที่หนึ่ง
และมาซีซั่นนี้ ดัมเบิลดอร์ ไม่ใช่ซิ อีกาสามตา ได้พาเขาไปอีกขั้น คือ กรีนเซียร์(การมองเห็นอดีต อาจจะมีเห็นอนาคตหรือไม่ยังไม่รู้) และทีพิเศษกว่านั้นคือพริบตาที่แบรน เรียกเอ็ดดาร์กในอดีต แล้วเขาหันมามอง แม้จะไม่เห็น ทำให้ความสามารถนี้ยิ่งดูพิเศษเข้าอีก
น้อยคนที่จะมีความสามารถสิ่งสู่
และยิ่งน้อยคนกว่าที่จะมีความสามารถเห็นอดีต
และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนหนึ่งคน จะมีความสามารถทั้งสองอย่างเข้าไว้ด้วยกัน
แต่แบรนมี!!!
ซึ่งอีกา สามตาก็จับยามสามตารู้ถึงความสามารถนี้ของแบรน
สายเลือดแห่งปฐมบุรุษและเด็กแห่งพงไพรหลั่งไหลสืบทอดอยู่ในตัวเขา พลังที่ยิ่งใหญ่น้าจะมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่
และขีดจำกัดทางสายเลือด (นารูโตะกันเลยทีเดียว) ของตระกูล สต๊าร์คและทาแกเรี่ยนล่ะ
คงต้องย้อนไปยังยุคสมัยของ เอกอนผู้พิชิต
ขี่มังกรกำราบไปทั่วเจ็ดอาณาจักร
ซึ่ง ณ ขณะนั้นราชาทอเร็นสต๊าร์คผู้ครองแดนเหนือ ได้เห็นแสนยานุภาพของ เอกอนแล้ว ไม่ต้องการให้มีการสูญเสีย ยอมจำนนต่อเอกอน ราชามังกรจึงให้ครองภาคเหนือเช่นเดิมแต่ต้องขึ้นตรงต่อเอกอน
ประวัติศาสตร์ไม่ได้จารึกค่ำคืนแห่งการยอมจำนนนั้นไว้ว่ามีบางเรื่องราวได้เกิดขึ้น
แต่มันถูกจดจำแต่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยหนังวัวหิมะจากดินแดนของคนเถื่อนที่ไม่มีใครให้ราคามากนัก
ค่ำนั้นหญิงสาวตระกูลสตาร์คหลายต่อหลายนาง พยายามรินไวน์ให้ราชา ส่งยิ้มยั่งยวน แต่อย่างที่รู้กัน เอกอนรักน้องสาวทั้งสองเกินกว่าจะทรยศได้ อนึ่งน้องสาวก็คือเมียนั่นแห่ะ ทาแกเรี่ยนมักแต่งงานในครอบครัวเดียวกันเอง(ไม่ได้เกี่ยวว่ากลัวเมียนะครัช)
แต่ค่ำนั้นในที่พำนักของราชามังกร หญิงสาวนางหนึ่งไม่ปรากฏชื่อ แต่เป็นเชื้อสายสต๊าร์ค ได้นำยาจากโวแลนทิส หย่อนในคบเพลิงไฟ กำยานประหลาดไร้สีไร้กลิ่น ชวนเคลิ้มฝัน เธอบอกทหารยามว่านำผลไม้จากเมืองเหนือมาถวาย
และการถวายผลไม้ก็ดำเนินไปประมาณสี่สิบนาทีพร้อมเสียงกระซิบกระซาบ เสียงสูดหายใจถี่แรง ราวกับผสไม้มีรสเผ็ดร้อน
หลังสงครามผ่านไปได้เก้าเดือน
หญิงสาวระหกระเหินหลังคลอดลูกสาวที่มีสีผมเป็นสีบลอนด์เงิน เธอปิดปากเงียบเรื่องชาติกำเนิดและออกเดินทางขึ้นเหนือนอกกำแพง
ลูกสาวโตมากับคนเถื่อน ส่วนเธอได้จารึกเรื่องราวใส่หนังวัวหิมะไว้ เมื่อลูกสาวเธอโตขึ้นหน้าตาสะสวยแต่มีเค้าลางเย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นส่วนผสมของสองตระกูลอย่างชัดเจน ลูกสาวถูกหัวหน้าเผ่าเรียกไปเมื่อถึงเวลาตอนนั้นอายุ 15 ปี
ลูกสาวเล่าให้เธอฟังว่า เมื่อปากของเธอได้สัมผัสทุกส่วนของหัวหน้าเผ่า เมื่อนั้นราวกับเธอสามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างในตัวคนที่เธอสัมผัสได้
ความสามารถนี้ลูกสาวเธอใช้มันเพื่อยึดครองเผ่าโดยผ่านชายที่เป็นหัวหน้าเผ่าแต่ย่ามใจ เพราะการสัมผัส ต้องทำต่อเนื่อง
เธอละเว้นกามกิจกับหัวหน้าเผ่านานจนถูกตลบหลัง หัวหน้าเผ่ายึดอำนาจคืนและเผาเธอทั้งเป็น
ประเด็นความสามารถของสตาร์ค+ทาแกเรี่ยนจึงถูกเก็บงำมาตั้งแต่ครานั้น
มาถึงตรงนี้หลายท่านคงตะหงิดๆแล้วนะครับว่า
การสัมผัสด้วยปากมีในซีรี่ส์ด้วยนะซิ
แต่จะเป็นใครกันนะ อิอิ
You know nothing....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องความสามารถของสต๊าร์ค+ทาแกเรียนนี่มั่วล้วนๆครับ อยากให้ครึกครื้นกัน เห็นซี่รี่ส์กำลังออนแอร์ /ขำๆนะครับ
(spoil) ขีดจำกัดทางสายเลือด สต๊าค+ทาแกเรี่ยน
และมาซีซั่นนี้ ดัมเบิลดอร์ ไม่ใช่ซิ อีกาสามตา ได้พาเขาไปอีกขั้น คือ กรีนเซียร์(การมองเห็นอดีต อาจจะมีเห็นอนาคตหรือไม่ยังไม่รู้) และทีพิเศษกว่านั้นคือพริบตาที่แบรน เรียกเอ็ดดาร์กในอดีต แล้วเขาหันมามอง แม้จะไม่เห็น ทำให้ความสามารถนี้ยิ่งดูพิเศษเข้าอีก
น้อยคนที่จะมีความสามารถสิ่งสู่
และยิ่งน้อยคนกว่าที่จะมีความสามารถเห็นอดีต
และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนหนึ่งคน จะมีความสามารถทั้งสองอย่างเข้าไว้ด้วยกัน
แต่แบรนมี!!!
ซึ่งอีกา สามตาก็จับยามสามตารู้ถึงความสามารถนี้ของแบรน
สายเลือดแห่งปฐมบุรุษและเด็กแห่งพงไพรหลั่งไหลสืบทอดอยู่ในตัวเขา พลังที่ยิ่งใหญ่น้าจะมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่
และขีดจำกัดทางสายเลือด (นารูโตะกันเลยทีเดียว) ของตระกูล สต๊าร์คและทาแกเรี่ยนล่ะ
คงต้องย้อนไปยังยุคสมัยของ เอกอนผู้พิชิต
ขี่มังกรกำราบไปทั่วเจ็ดอาณาจักร
ซึ่ง ณ ขณะนั้นราชาทอเร็นสต๊าร์คผู้ครองแดนเหนือ ได้เห็นแสนยานุภาพของ เอกอนแล้ว ไม่ต้องการให้มีการสูญเสีย ยอมจำนนต่อเอกอน ราชามังกรจึงให้ครองภาคเหนือเช่นเดิมแต่ต้องขึ้นตรงต่อเอกอน
ประวัติศาสตร์ไม่ได้จารึกค่ำคืนแห่งการยอมจำนนนั้นไว้ว่ามีบางเรื่องราวได้เกิดขึ้น
แต่มันถูกจดจำแต่เป็นลายลักษณ์อักษรโดยหนังวัวหิมะจากดินแดนของคนเถื่อนที่ไม่มีใครให้ราคามากนัก
ค่ำนั้นหญิงสาวตระกูลสตาร์คหลายต่อหลายนาง พยายามรินไวน์ให้ราชา ส่งยิ้มยั่งยวน แต่อย่างที่รู้กัน เอกอนรักน้องสาวทั้งสองเกินกว่าจะทรยศได้ อนึ่งน้องสาวก็คือเมียนั่นแห่ะ ทาแกเรี่ยนมักแต่งงานในครอบครัวเดียวกันเอง(ไม่ได้เกี่ยวว่ากลัวเมียนะครัช)
แต่ค่ำนั้นในที่พำนักของราชามังกร หญิงสาวนางหนึ่งไม่ปรากฏชื่อ แต่เป็นเชื้อสายสต๊าร์ค ได้นำยาจากโวแลนทิส หย่อนในคบเพลิงไฟ กำยานประหลาดไร้สีไร้กลิ่น ชวนเคลิ้มฝัน เธอบอกทหารยามว่านำผลไม้จากเมืองเหนือมาถวาย
และการถวายผลไม้ก็ดำเนินไปประมาณสี่สิบนาทีพร้อมเสียงกระซิบกระซาบ เสียงสูดหายใจถี่แรง ราวกับผสไม้มีรสเผ็ดร้อน
หลังสงครามผ่านไปได้เก้าเดือน
หญิงสาวระหกระเหินหลังคลอดลูกสาวที่มีสีผมเป็นสีบลอนด์เงิน เธอปิดปากเงียบเรื่องชาติกำเนิดและออกเดินทางขึ้นเหนือนอกกำแพง
ลูกสาวโตมากับคนเถื่อน ส่วนเธอได้จารึกเรื่องราวใส่หนังวัวหิมะไว้ เมื่อลูกสาวเธอโตขึ้นหน้าตาสะสวยแต่มีเค้าลางเย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นส่วนผสมของสองตระกูลอย่างชัดเจน ลูกสาวถูกหัวหน้าเผ่าเรียกไปเมื่อถึงเวลาตอนนั้นอายุ 15 ปี
ลูกสาวเล่าให้เธอฟังว่า เมื่อปากของเธอได้สัมผัสทุกส่วนของหัวหน้าเผ่า เมื่อนั้นราวกับเธอสามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างในตัวคนที่เธอสัมผัสได้
ความสามารถนี้ลูกสาวเธอใช้มันเพื่อยึดครองเผ่าโดยผ่านชายที่เป็นหัวหน้าเผ่าแต่ย่ามใจ เพราะการสัมผัส ต้องทำต่อเนื่อง
เธอละเว้นกามกิจกับหัวหน้าเผ่านานจนถูกตลบหลัง หัวหน้าเผ่ายึดอำนาจคืนและเผาเธอทั้งเป็น
ประเด็นความสามารถของสตาร์ค+ทาแกเรี่ยนจึงถูกเก็บงำมาตั้งแต่ครานั้น
มาถึงตรงนี้หลายท่านคงตะหงิดๆแล้วนะครับว่า
การสัมผัสด้วยปากมีในซีรี่ส์ด้วยนะซิ
แต่จะเป็นใครกันนะ อิอิ
You know nothing....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้