ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับการบุกตลาดฟุตบอลอาเซียน
โดยช่วงนี้จะมี ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ที่มีข่าวเกี่ยวกับฟุตบอลอาเซียนอยู่บ่อยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กระแส J-League ตอนนี้กับนักฟุตบอล Asean (ไทย, เวียดนาม, สิงคโปร์)
http://ppantip.com/topic/34538099
แฟนบอลและสื่อเวียดนามสงสัย Tuấn Anh ไม่มีชื่อลงแข่งให้ Yokohama F.C.
http://ppantip.com/topic/34878561
ครั้งนี้ผมเห็นข่าวของ K-League ในประเทศเกาหลีใต้จาก fourfourtwo.com
ซึ่งเนื้อหาข่าวได้เขียนถึงสภาพของ K-League โดยเฉพาะสโมสรขนาดเล็ก
ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องของ "การเงิน" อย่างหนัก (หากการเรียบเรียงผิดพลาดขออภัย)
ที่มา
http://www.fourfourtwo.com/th/features/khkamlangesrim-emuueekh-liikecchwikrtihnakcchntnghwangphuengtlaadaaechiiyn#:iHbJjVbHKCZ0UA
โดยในอดีต K-League จัดได้ว่าเป็น League ที่แข็งแกร่งและเป็นแบบอย่างให้กับประเทศแถบเอเชีย
แต่ช่วงหลังก็ประสบปัญหาเรื่องของการเงินมาเรื่อยๆ แม้แต่สโมสรที่มีบริษัทเอกชนรายใหญ่สนับสนุน
สำหรับรายได้หลักของสโมสรส่วนใหญ่คือ "ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด" ซึ่งพบว่า 1 ปี จะมีรายได้เพียง 5 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น
ในขณะที่ Chinese super league มีมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์, J-League 20 ล้านดอลลาร์, A-League 29 ล้านดอลลาร์
และ TPL 30 ล้านดอลลาร์
ทีนี้มาลองดูสโมสร Incheon United FC กับแนวทางการเอาตัวรอดใน K-League กัน
ตั้งแต่ปี 2014 สโมสรแห่งนี้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะได้ทันเป็นจำนวน 2 ครั้ง
โดยเดือนที่ผ่านมาอดีตนักเตะ 10 คน เข้าฟ้องร้องหลังไม่ได้รับค่าเหนื่อย
และในขณะเดียวกันสโมสรก็ยังค้างเงินโบนัส 250,000 ดอลลาร์ กับนักเตะปัจจุบัน
ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะโดนยุบสโมสร
ปัจจุบันสโมสรแห่งนี้อยู่ระดับ Division 2 ของ K-League และโดนตัด 10 คะแนน หลังมีกรณีทุจริตผลการแข่งขัน
และมียอดผู้เข้าชมเฉลี่ยอยู่ที่ 7,720 คน (เคยมียอดสูงสุด 12,901 คน ในปี 2008)
เคยย้ายสนามเหย้าจาก อินชอน มอนฮัก สเตเดี้ยม ความจุ 49,000 ที่นั่ง
ไปยังสนามฟุตบอลซอนกุย อารีน่า ปาร์ค ที่มีแค่ 20,000 ที่นั่งเมื่อปี 2012
1 ในแผนสำหรับทางรอดของสโมสรคือ "เปิดตลาดฟุตบอลอาเซียน"
โดยทางสโมสรได้มีการศึกษาและพบว่าการลงทุนกับ "ผู้เล่นเวียดนาม" น่าจะมีความคุ้มค่า
และด้วยความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจของเวียดนามจึงเกิดแผนธุรกิจนี้ขึ้นมา
เลือง ซวน เจือง (Luong Xuan Truong) ผู้เล่นชาวเวียดนามอายุ 21 ปี ถูกเลือกมาให้เข้าร่วมกับสโมสร
นับเป็นผู้เล่นจากอาเซียนในรอบ 20 ปี หลังจากที่ ปิยะพงษ์ ของไทยเคยไปเล่นที่ K-League
และผลที่ตามมาก็คือ "ได้รับความสนใจจากเวียดนามเป็นอย่างมาก" ขนาดนักเตะคนนี้ได้เล่นเพียงแค่ทีมสำรอง
ซึ่งหากเขาได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ คาดว่าสื่อจะให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการนำผู้เล่นเวียดนามคนนี้มาเข้าร่วมในสโมสร ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของธุรกิจ
และทางสโมสรยังมองต่อไปว่าจะใช้ช่องทางนี้บุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และต่อไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตอนนี้ยังคงหาทางขยายช่องทางการตลาดอยู่
ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เล่นเวียดนามคนนี้ว่าจะประสบความสำเร็จกับสโมสรมากน้อยแค่ไหนด้วย
หากสโมสร Incheon United FC ประสบความสำเร็จ คาดว่าสโมสรอื่นๆ ใน K-League ก็อาจใช้แนวทางนี้เช่นกัน
และเป้าหมายสูงสุดก็คือ ต้องการให้ทั่วโลกหันมาสนใจ K-League
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ฟุตบอลไทยก็ควรรีบทำตลาดในแถบ SEA ให้เร็วที่สุดเช่นกัน
เพื่อผลทางธุรกิจและจะได้นำไปต่อยอดในการพัฒนาฟุตบอลของประเทศไทยต่อไป
สำหรับข่าวจากทางเวียดนามเองนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Luong Xuan Truong มีอาการบาดเจ็บ
อาจต้องพักเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ส่งผลให้อดเข้าร่วมแข่งขันกับทีมชุดใหญ่ของ Incheon United FC
ในวันที่ 22/05/2016 นี้ และส่งผลให้ Huu Thang โค้ชทีมชาติเวียดนามต้องพิจารณาเรื่องการเรียกติดทีมชาติ
http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/v-league/tin-tuc-bong-da-viet-nam-noi-bat-ngay-11-5-d124728.html
K-League วิกฤติจนต้องมาพึ่งพาตลาดฟุตบอลอาเซียน
โดยช่วงนี้จะมี ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ที่มีข่าวเกี่ยวกับฟุตบอลอาเซียนอยู่บ่อยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ครั้งนี้ผมเห็นข่าวของ K-League ในประเทศเกาหลีใต้จาก fourfourtwo.com
ซึ่งเนื้อหาข่าวได้เขียนถึงสภาพของ K-League โดยเฉพาะสโมสรขนาดเล็ก
ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องของ "การเงิน" อย่างหนัก (หากการเรียบเรียงผิดพลาดขออภัย)
ที่มา http://www.fourfourtwo.com/th/features/khkamlangesrim-emuueekh-liikecchwikrtihnakcchntnghwangphuengtlaadaaechiiyn#:iHbJjVbHKCZ0UA
โดยในอดีต K-League จัดได้ว่าเป็น League ที่แข็งแกร่งและเป็นแบบอย่างให้กับประเทศแถบเอเชีย
แต่ช่วงหลังก็ประสบปัญหาเรื่องของการเงินมาเรื่อยๆ แม้แต่สโมสรที่มีบริษัทเอกชนรายใหญ่สนับสนุน
สำหรับรายได้หลักของสโมสรส่วนใหญ่คือ "ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด" ซึ่งพบว่า 1 ปี จะมีรายได้เพียง 5 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น
ในขณะที่ Chinese super league มีมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์, J-League 20 ล้านดอลลาร์, A-League 29 ล้านดอลลาร์
และ TPL 30 ล้านดอลลาร์
ทีนี้มาลองดูสโมสร Incheon United FC กับแนวทางการเอาตัวรอดใน K-League กัน
ตั้งแต่ปี 2014 สโมสรแห่งนี้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะได้ทันเป็นจำนวน 2 ครั้ง
โดยเดือนที่ผ่านมาอดีตนักเตะ 10 คน เข้าฟ้องร้องหลังไม่ได้รับค่าเหนื่อย
และในขณะเดียวกันสโมสรก็ยังค้างเงินโบนัส 250,000 ดอลลาร์ กับนักเตะปัจจุบัน
ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะโดนยุบสโมสร
ปัจจุบันสโมสรแห่งนี้อยู่ระดับ Division 2 ของ K-League และโดนตัด 10 คะแนน หลังมีกรณีทุจริตผลการแข่งขัน
และมียอดผู้เข้าชมเฉลี่ยอยู่ที่ 7,720 คน (เคยมียอดสูงสุด 12,901 คน ในปี 2008)
เคยย้ายสนามเหย้าจาก อินชอน มอนฮัก สเตเดี้ยม ความจุ 49,000 ที่นั่ง
ไปยังสนามฟุตบอลซอนกุย อารีน่า ปาร์ค ที่มีแค่ 20,000 ที่นั่งเมื่อปี 2012
1 ในแผนสำหรับทางรอดของสโมสรคือ "เปิดตลาดฟุตบอลอาเซียน"
โดยทางสโมสรได้มีการศึกษาและพบว่าการลงทุนกับ "ผู้เล่นเวียดนาม" น่าจะมีความคุ้มค่า
และด้วยความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจของเวียดนามจึงเกิดแผนธุรกิจนี้ขึ้นมา
เลือง ซวน เจือง (Luong Xuan Truong) ผู้เล่นชาวเวียดนามอายุ 21 ปี ถูกเลือกมาให้เข้าร่วมกับสโมสร
นับเป็นผู้เล่นจากอาเซียนในรอบ 20 ปี หลังจากที่ ปิยะพงษ์ ของไทยเคยไปเล่นที่ K-League
และผลที่ตามมาก็คือ "ได้รับความสนใจจากเวียดนามเป็นอย่างมาก" ขนาดนักเตะคนนี้ได้เล่นเพียงแค่ทีมสำรอง
ซึ่งหากเขาได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ คาดว่าสื่อจะให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการนำผู้เล่นเวียดนามคนนี้มาเข้าร่วมในสโมสร ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของธุรกิจ
และทางสโมสรยังมองต่อไปว่าจะใช้ช่องทางนี้บุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และต่อไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตอนนี้ยังคงหาทางขยายช่องทางการตลาดอยู่
ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เล่นเวียดนามคนนี้ว่าจะประสบความสำเร็จกับสโมสรมากน้อยแค่ไหนด้วย
หากสโมสร Incheon United FC ประสบความสำเร็จ คาดว่าสโมสรอื่นๆ ใน K-League ก็อาจใช้แนวทางนี้เช่นกัน
และเป้าหมายสูงสุดก็คือ ต้องการให้ทั่วโลกหันมาสนใจ K-League
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับข่าวจากทางเวียดนามเองนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Luong Xuan Truong มีอาการบาดเจ็บ
อาจต้องพักเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ส่งผลให้อดเข้าร่วมแข่งขันกับทีมชุดใหญ่ของ Incheon United FC
ในวันที่ 22/05/2016 นี้ และส่งผลให้ Huu Thang โค้ชทีมชาติเวียดนามต้องพิจารณาเรื่องการเรียกติดทีมชาติ
http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/v-league/tin-tuc-bong-da-viet-nam-noi-bat-ngay-11-5-d124728.html