รู้สึกลำบากใจที่ต้องทำงานร่วมกับเด็กมหาวิทยาลัยหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเก่ง

สวัสดีค่ะ เราเป็นนักศึกษาครู ตอนนี้ก็กำลังจะฝึกสอนแล้ว และเมื่อวานเป็นวันแรกที่ต้องเข้าพบครูในหมวดเพื่อแนะนำตัวและพูดคุยกับครูพี่เลี้ยง พวกเรามากัน3คนค่ะ และมหาวิทยาลัยนั้นที่แทนตัวเองว่านิสิตก็มากัน3คนเหมือนกัน
     เรื่องแรกเลยค่ะ ความรู้สึกแรกตอนที่นั่งพูดคุยกันรู้สึกได้เลยว่าหัวหน้าหมวดให้ความสำคัญกับกลุ่มนิสิตมากกว่าพวกเรา อย่างกับสนิทสนมกันมานานแล้ว ทำให้พวกเรารู้สึกเลยว่าเหมือนเป็นส่วนเกิน และมารู้สึกแย่มากๆจนไม่อยากจะฝึกสอนโรงเรียนนี้แล้วคือตอนที่แบ่งระดับชั้นที่จะฝึกสอน(ตั้งแต่ม.1-ม.6)ก็จะมีครูพี่เลี้ยง6คน เลือกฝึกสอนไปคนละ1คน ครูพี่เลี้ยง4คนแย่งกันจะเอานิสิตกลุ่มนั้น มีครูแค่2คนที่อะไรก็ได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะเลือกพวกเรา ทำให้รู้สึกอึดอัดมากค่ะ เหมือนไม่มีตัวตน มันอดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้
     เรื่องที่สองค่ะ การแบ่งงานให้ฝึกสอน รู้สึกเหมือนโดนดูถูกความสามารถ เหมือนโดนมองว่าไม่มีความสามารถ สิ่งที่พวกเราได้ทำคือ ติดบอร์ดประกาศ รับ-จัดเก็บเอกสารรับเข้า โพสต์facebookประชาสัมพันธ์ ให้ดูแลห้องสมุดของหมวด และเป็นฝ่ายอาคารสถานที่ของโครงการภายในหมวด ส่วนกลุ่มนิสิตได้ดูแลกิจกรรมชุมนุมของหมวด เป็นฝ่ายวัดประเมินผลของโครงการภายในหมวด บริการวิชาการกับชุมชน และดูแลห้องคอมพิวเตอร์ของหมวด ส่วนงานที่ต้องทำร่วมกันคือการจัดบอร์ดค่ะ รู้สึกไหมว่าพวกเราโดนประเมินความสามารถไว้ต่ำกว่ากลุ่มนิสิต พวกเราแทบไม่มีโอกาสให้แสดงฝีมืออะไรเลย มีแต่งานใช้แรงงาน ต่างจากอีกกลุ่มมากที่ต้องใช้ความรู้
     เรื่องที่สามค่ะ วันนี้รองหัวหน้าหมวดเรียกคุยเรื่องวิจัย ถามว่าจะทำวิจัยเรื่องอะไรกัน พวกเราก็ตอบไปว่าสนใจจะทำเรื่องอะไร(แค่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าจะทำ) แต่กลุ่มนิสิตเขาตอบเหมือนตั้งใจตบหน้าพวกเรา ว่าขอสอนก่อน1เดือน อยากสำรวจปัญหาของนักเรียนก่อน แล้วจะให้คำตอบได้ว่าจะทำเรื่องอะไร คุณตอบแบบนี้พวกเราตายเลยค่ะ รองหัวหน้าหมวดก็ชื่นชมใหญ่ อวยไส้แตกมาก แล้วยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยกันด้วย บอกตรงๆว่าถอนหายใจเลยค่ะ
     เรื่องที่สี่ค่ะ นี่เป็นเรื่องกลุ่มนิสิตโดยตรงละ ชอบโชว์เหนือ ตั้งแต่วันแรกที่หัวหน้าหมวดเรียกคุยเรื่องบอร์ด บอร์ดมันมีหลายบอร์ด เขาก็อยากจะให้จัดให้หมด ไม่อยากให้บอร์ดว่าง พวกเราตั้งใจจะประชุมฝึกสอนกันวันนี้เพื่อช่วยกันทำ แต่เรื่องที่เราไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น เช้าวันนี้บอร์ดโดนติดไปเรียบร้อยแล้ว2บอร์ด แน่นอนค่ะ พวกเราโดนตั้งคำถามแน่นอนว่าทำไมไม่ช่วยกลุ่มนิสิตทำ
     เรื่องที่ห้าค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มนิสิตต้องใช้ภาษาไทยคำภาษาอังกฤษคำ ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดว่าเท่ หรือคิดว่าทำให้พวกเขาดูเก่งกว่าพวกเรา แต่ยอมรับค่ะ ว่าบางครั้งพวกเราก็ไม่เข้าใจ เพราะถึงแม้จะเรียนสาขาเดียวกัน หลักสูตรก็คงต้องต่างกันบ้าง แต่ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนนานาชาติ ไม่รู้จะใช้ภาษาแบบนั้นไปเพื่ออะไร ยิ่งตอนประชุมกับครูในหมวด บางทีกลุ่มนิสิตพูดเสร็จ ครูเขาก็ถามความคิดเห็นพวกเรา เราก็ตอบไปทั้งที่บางครั้งก็ยังงงๆว่ากลุ่มนิสิตเขาพูดอะไรมา ถ้าตอบไม่ตรงประเด็น ก็จะโดนมองว่าแย่อีก
     เรื่องสุดท้ายค่ะ การทำงานกับกลุ่มนิสิต พวกเราจะทำงานตามคำสั่งของครูในหมวดไม่ได้ ต้องทำให้เกินคำสั่ง เพราะกลุ่มนิสิตเขาจะทำงานให้เด่นเกินพวกเราตลอด ถึงแม้ว่าพวกเราจะทำงานตามคำสั่งก็เหมือนไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะหากเปรียบเทียบผลงานกันแล้ว ผลงานของกลุ่มนิสิตเขาจะได้รับคำชม แต่ผลงานของพวกเรากลับเงียบ ไม่พูดถึง ทั้งๆที่ก็ตั้งใจทำเหมือนกัน

     มันดูด้อยค่ามากเหรอที่เราเรียนมหาวิทยาลัยไม่ดังแต่เราก็เชื่อว่ามีคุณภาพเหมือนกัน หรือเป็นเพราะพวกเรามาขอฝึกสอนที่นี่เอง แต่ถ้าไม่อยากรับพวกเรา ก็น่าจะปฏิเสธไปตั้งแต่แรก ถ้ารับมาแล้วทำแบบนี้อย่ารับเลยค่ะ รู้สึกลำบากใจมากที่ต้องฝึกสอนที่นี่ทั้ง2เทอม ถ้าเป็นไปได้อยากจะเปลี่ยนโรงเรียนฝึกสอนตอนนี้เลยแต่คงเป็นไปไม่ได้ ก็เลยจะเปลี่ยนตอนเทอม2 แต่ไม่รู้ว่าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยจะอนุญาตหรือเปล่า

     เราไม่มีโอกาสจะปรึกษาใครได้เลยค่ะ จริงๆแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นในหมวด ก็ควรจะปรึกษาครูในหมวด แต่พวกเราไม่มั่นใจเลยว่าหากปรึกษาไปแล้วครูในหมวดเขาจะช่วยแก้ปัญหาหรือจะโดนซ้ำเติมกันแน่ เลยขอระบายในพันทิปนี่แหละค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ หากมีข้อแนะนำดีๆก็พร้อมรับฟังค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนของนิสิตที่โดนพาดพิงในกระทู้นี้นะครับ กระทู้นี้ได้ถูกแชร์เข้ามาในกลุ่มของภาควิชาโดยรุ่นพี่ถามไถ่มาด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นนิสิตในภาควิชาหรือไม่ หลังจากที่ผมได้อ่านก็ทราบว่าเป็นตัวผมเเละเพื่อนอีก2คนแน่นอน หัวหน้าภาควิชาทราบเรื่อง ท่านรู้สึกไม่สบายใจจึงให้ผมชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ติดต่อไปยังหัวหน้าหมวดที่โรงเรียนเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบว่าเกิดปัญหาขึ้นระหว่างกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ไปฝึกสอน โดยหัวหน้าหมวดจะเรียกประชุมฝึกสอนในวันที่ฝึกสอนอยู่กันพร้อมหน้าทุกคน และตัวผมเองขอเป็นตัวแทนชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ครับ

ประเด็นที่1 "ความสนิทสนมกับหัวหน้าหมวดและครูท่านอื่นๆในหมวด" พวกผมได้เข้าโรงเรียนเพื่อไปช่วยงานหมวดวิชาตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว โดยไปทุกวันพฤหัสบดีตอนบ่ายและวันศุกร์เต็มวัน เนื่องจากไม่มีเรียน ไปทำมาแล้วทุกอย่างครับ จัดห้องหมวด กวาดถู จัดและตกแต่งห้องสมุด ปูพื้นบอร์ดใหม่ ฯลฯ และได้ช่วยครูสอนปรับพื้นฐานนักเรียนชั้นม.1และม.4แล้วครับ จึงทำให้สนิทสนมกับครูในหมวดเป็นธรรมดาครับ

ประเด็นที่2 "เรื่องครูพี่เลี้ยงเลือกฝึกสอน" อย่างที่ผมบอกไปข้างต้นแล้วครับว่า พวกผมได้มีโอกาสได้สอนปรับพื้นฐานนักเรียนแล้วครับ ครูม.1กับม.4 ก็เลยจองตัวพวกผมไว้ว่าอยากเป็นพี่เลี้ยงเพราะจะได้สอนต่อเนื่องไปเลย แต่มีครูอีก2ท่านที่พวกผมได้ช่วยทำเกี่ยวกับเขียนโครงการและทำรายงานผลโครงการแบบPDCA ครูเขาชอบก็เลยอยากเป็นพี่เลี้ยงครับ

ประเด็นที่3 "เรื่องการแบ่งหน้าที่ทำงาน" หน้าที่ที่พวกผมได้รับ คือหน้าที่ที่พวกผมทำอยู่แล้วตอนที่มาช่วยงานก่อนหน้านี้ หัวหน้าหมวดก็เลยให้ทำงานต่อเลยเพื่องานจะได้ไม่สะดุด ยกเว้นงานบริการชุมชนที่ทีแรกจะให้ช่วยกันทำ แต่หัวหน้าหมวดยกมาให้พวกผมทำเพราะกลุ่มคุณแต่งตัวไม่เรียบร้อย ใส่รองเท้าแตะและไม่ใส่เข็มขัดมา1คน กระโปรงสั้น2คน เนื่องจากเป็นงานที่ต้องพบปะชุมชนเลยต้องการรักษาชื่อเสียงโรงเรียนครับ

ประเด็นที่4 "เรื่องการเสนอหัวข้อวิจัย" พวกผมอยากจะทำวิจัยจากปัญหาของนักเรียนจริงๆครับ เพราะต้องการทำวิจัยเพื่อการค้นหาปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดปัญหานั้น เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไข ที่สามารถใช้ได้จริง ไม่อยากให้เป็นวิจัยที่ทำเพื่อให้ได้คะแนนเพียงอย่างเดียว กระบวนการให้ได้มาซึ่งหัวข้อวิจัยของผมนั้นยากครับ เพราะต้องเขียนบันทึกว่านักเรียนมีปัญหาจริงๆโดยการให้บันทึกปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนอย่างน้อย4คาบเรียน ในระยะเวลาอย่างน้อย4สัปดาห์ เพื่อเสนออาจารย์นิเทศก์จำนวน2ท่าน ว่าอนุญาตให้ทำหรือไม่

ประเด็นที่5 "เรื่องการจัดบอร์ด" เมื่อวานตอนเย็นพวกคุณกลับบ้านกันตั้งแต่4โมงเย็น โดยที่ครูในหมวดและพวกผมอีก3คนได้กลับบ้านตอน2ทุ่มครึ่ง พวกผมช่วยงานหมวดเสร็จตอน6โมงครึ่ง หัวหน้าหมวดจะให้พวกผมกลับบ้าน แต่พวกผมเกรงใจเพราะเห็นครูทุกคนยังทำงานอยู่ เลยฆ่าเวลาด้วยการจัดบอร์ด แต่ก็จัดไม่เสร็จเพราะหัวหน้าหมวดกับครูอีก4ท่าน ชวนออกไปเลี้ยงข้าวแล้วไปส่งขึ้นbtsกลับบ้านซะก่อน เลยนัดกัน6โมงเช้าของวันนี้และทำเสร็จตอนแปดโมง ซึ่งพวกคุณยังมาไม่ถึงโรงเรียน

ประเด็นที่6 "เรื่องการใช้ไทยคำอังกฤษคำ" คำที่ใช้พูดทับศัพท์เป็นศัพท์ทางเทคนิคหรือศัพท์เฉพาะครับ ไม่ใช้แบบพร่ำเพรื่อแน่นอน และเป็นคำศัพท์ที่คนเรียนสาขานี้ควรทราบด้วยครับ

ประเด็นที่7 "เรื่องการทำงานเกินคำสั่ง" ส่วนนี้น่าจะเป็นเรื่องป้ายยินดีต้อนรับของหมวดวิชาที่พวกผมเป็นคนทำ กับป้ายแนะนำบุคลากรที่พวกคุณทำ หัวหน้าหมวดไม่ได้สั่งว่าต้องทำอย่างไรนะครับ แต่ให้มาในลักษณะของโจทย์ ให้มาตีความกันเองว่าจะทำออกมาแบบไหน ซึ่งโจทย์ที่ได้รับคือเน้นสีเขียว ดูธรรมชาติ และสบายตา พวกผมเลยตีโจทย์และทำออกมาในลักษณะป่าแบบนูนสูง แต่พวกคุณก็ทำเป็นแบบแผนผังธรรมดาที่ไม่ได้ตอบโจทย์เลย ไม่เข้าใจว่าทำเกินคำสั่งตรงไหนครับ

ไม่มีใครดูถูกคุณที่คุณเรียนราชภัฏครับ เพราะครูในหมวดก็มีครูที่จบจากราชภัฏ แต่เขามองที่การกระทำครับว่าเหมาะสมหรือไม่ รู้สึกเสียใจครับที่มาตั้งกระทู้แบบนี้ เพราะคิดว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็น่าจะคุยกันเองมากกว่า พวกผมไม่มีปัญหากับพวกคุณแน่นอนเพราะงานก็แบ่งกันชัดเจน และพวกคุณก็ไม่ค่อยจะอยู่ที่หมวดเพราะไปอยู่กับเพื่อนจากมหาวิทยาลัยเดียวกันที่หมวดอื่น ก็แน่นอนว่าไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปมีปัญหากันเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน

ขอชี้แจงเพียงเท่านี้ครับ
ขอขอบคุณพี่รหัสที่ให้บัญชีนี้มาตอบชี้แจง และดูแลรุ่นน้องอย่างดีเสมอมาครับ
ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องทึ่ 1 และเรื่องที่. 2  พอเข้าใจได้ว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะคิด  แต่...ในหลาย ๆ ข้อ  น่าจะเกิดจากคุณมีอคติ
ต่อกลุ่มนิสิตนั้นมากกว่านะคะ

-  หลักการทำงานของแต่ละทีมอาจไม่เหมือนกัน  ซึ่งสิ่งที่นิสิตต้องการทำ
ก็ดูว่าเป็นหลักการที่ดี  แต่คุณกลับมองว่าเป็นการอวยไส้แตก
- การใช้ภาษา  ซึ่งบางคนอาจจะติดเพราะใช้กันมาก่อน. หรือไม่บางคำก็สะดวกที่จะไม่ต้อง
แปลเป็นคำไทยอีกที  ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะใช้สื่อสารกันเองในกลุ่ม  คุณก็ดูคิดเล็กคิดน้อยไปทุกเรื่อง
- เรื่องผลการทำงาน  นักศึกษาทุกคนก็อยากทำผลงานให้ดี ๆ ทั้งนั้น. เพราะทุกอย่างมันมีผลกับตัวเอง
ถ้าผลงานมันออกมาดีแล้วได้รับคำชม  ก็ถูกต้องนี่คะ  ส่วนของกลุ่มคุณอาจจะยังไม่ดี  จริง ๆ ต้องเก็บเอามาคิด
ว่าเพราะอะไร  และแก้ไขปรับปรุง  ทุกคนตั้งใจทำงานทั้งนั้นแหละ  แต่ผลงานมันจะฟ้องในตัวเอง
ว่าเป็นอย่างไร  ก็ต้องน้อมรับและปรับปรุงนะคะ. ไม่ใช่มัวแต่อคติ  ครูพี่เลี้ยงคงไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียอะไร
เขาก็คงตามหน้าที่ ... สุดท้ายแล้ว ผลงานของแต่ละคนต่างหากที่จะชี้วัดได้เอง. ว่าอะไรเป็นอะไร

คุณลองลดอคติ. และมองแบบใจเป็นกลาง. มองกลุ่มนิสิตนั้นเหมือนเพื่อนนักศึกษาธรรมดา. บางทีมันจะมีมุมดี ๆ เกิดขึ้นก็เป็นได้
ควรจะร่วมมือกันทำงาน. แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นซึ่งกันและกันน่าจะดีกว่านะคะ. อย่างน้อยคุณก็มาสถานที่แห่งนี้
ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่