รถยนต์ Tesla Model S เกิดอุบัติเหตุไร้คนเจ็บคนตาย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Tesla Model S - Crash Test

ข้อมูลเพิ่มเติม Tesla Model S https://goo.gl/czNATY





ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0


เมื่อไม่นานมานี้(6 พค.2559) รถยนต์ Tesla Model S ได้เกิดอุบัติเหตุ
แต่ผู้โดยสารทั้ง 5 คนสามารถออกจากรถยนต์โดยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยพวกเขาทุกคนต่างไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคนผ่านทางแต่อย่างใด
ผู้โดยสารทุกคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงด้วยเฮลิคอปเตอร์



ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0



อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นใน Pullach ประเทศ Germany
คนขับรถยนต์วัย 18 ปี กับเพื่อนร่วม 4 คน
ขับรถยนต์ Tesla Model S ของพ่อเพื่อเที่ยวกัน
แล้วเกิดบังคับรถยนต์ไม่ได้ตอนช่วงเลี้ยวโค้ง
เจอถนนที่สิ้นสุดลงเป็นจุดจอดรถยนต์/ที่กลับรถยนต์
ทำให้รถยนต์บินขึ้นเหนือพื้นดินไปไกลถึง 82 ฟุต(25 เมตร)
ก่อนหล่นลงกระแทกพื้นทุ่งนาอย่างแรง
ที่อัตราเร่งเต็มที่ตามเรือนวัดไมล์ที่ค้างอยู่



จุดเกิดเหตุทางโค้งที่สุดสายถนน - น่าจะเป็นจุดพัก/จุดกลับรถยนต์  http://goo.gl/9A6J9f



ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0



รถยนต์รุ่นนี้มีการออกแบบทางวิศวกรรม
ให้มีน้ำหนักรถยนต์รวม 5,000 ปอนด์ (2,267.962 กิโลกรัม)
และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้มีส่วนช่วย
ทำให้รถยนต์ที่หล่นลงกระแทกพื้นดินทรงด้วได้
สภาพภายในที่นั่งคนขับ/ห้องโดยสาร
และกระจกรถยนต์ไม่เสียหายแต่อย่างใด
เว้นแต่ด้านหน้ารถยนต์ที่บุบสลายจากอุบัติเหตุ
และด้านหลังรถยนต์ที่มีการเสียหายบ้าง



ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0



ด้านหน้าที่รับแรงกระแทกหรือโซนย่นตัวถังด้านหน้ารถยนต์
คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ร้ายแรง
เพราะด้านหน้ารถยนต์มีที่ว่างก่อนถึงตัวเครื่องยนต์
รถยนต์รุ่นนี้ไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์
เต็มพื้นที่แบบรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ทำให้มีช่องว่างที่ยาวกว่ารถยนต์ทั่วไป
พื้นที่ว่างด้านหน้าของรถยนต์ Tesla
ช่วยดูดซับแรงชน/กระแทกจากด้านหน้า



ที่มา http://goo.gl/eShI5a



ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0



Elon Musk, CEO of Tesla Motors
ได้ให้คำอธิบายพื้นที่ดูดซับแรงคล้ายกับสระว่ายน้ำ

“ มันคล้ายกับการกระโดดจากสปริงบอร์ดในสระว่ายน้ำ
คุณต้องการสระว่ายน้ำที่ลึกและไม่มีเศษหินเกะกะในสระ "





ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0


ในตอนที่ NHSTA (National Highway Traffic Safety Administration)
ได้ทดสอบระบบความปลอดภัย
ของรถยนต์ Tesla Model S
หน่วยงานนี้ได้กำหนดเงื่อนไขใหม่
ด้วยการให้รถยนต์ถูกชนด้านข้าง
จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของ Tesla Model S
ทำให้ผ่านการทดสอบในครั้งนี้
และผลการทดสอบการชนด้านหน้าอย่างแรง
ก็ผ่านการทดสอบเพราะดูดซับแรงได้มากกว่า
รถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ด้านหน้าแบบเดิม



ที่มา  http://goo.gl/Y2koK0


เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/oVqwCm
http://goo.gl/uoA9sa
http://goo.gl/wuerNd
http://goo.gl/Y2koK0




http://ppantip.com/topic/31582905  Porsche คันแรกเป็นรถยนต์ไฟฟ้า



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นั่งหลัง ตายก่อน ! หากไม่ขาดเข็มขัดนิรภัย !


Credit : http://goo.gl/PUAAVF

ทำไมต้องคาดเข็มขัดนิรภัย

เมื่อเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบก
จะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต ร่างกาย
อันตรายที่เกิดกับคนมีตั้งแต่ไม่มาก เช่น
แผลถลอกจนกระทั้งอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ อาจจะพิการ
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ
แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
การใช้เข็มขัดนิรภัยจะช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ

การเปลี่ยนแปลงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

แรงกระแทกที่เกิดจากรถที่วิ่งเร็ว 60 กิโลเมตรจะเท่ากับ
รถที่ตกที่สูง 14 เมตรหรือ ความสูงประมาณตึก 5 ชั้น
ตัวรถจะยุบหรือบิดงอ
คนที่อยู่ในรถถ้าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
จะเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับรถเมื่อชนและหยุด
ศีรษะ หน้า ลำตัวของคนในรถจะถูกเหวี่ยง
ไปกระแทกกับพวงมาลัย และกระจกหน้ารถอาจทำให้หมดสติหรือเสียชีวิต
อวัยวะในร่างกาย เช่นตับ ไต ลำไส้ สมองหรือไขสันหลัง
ซึ่งมีการเคลื่อนไหวอยู่ภายในจะเคลื่อนไหวเท่ากับความเร็วของรถ
เมื่อรถหยุด อวัยวะภายในของคนในรถจะกระแทกกันเอง
ทำให้ตับ ไต ลำไส้หรือสมองฉีกขาดได้

ใครบ้างที่ควรคาดเข็มขัดนิรภัย

คนที่ขับรถทุกคน
ผู้โดยสารทุกคนไม่ว่าจะนั่งหน้าหรือหลัง
ผู้โดยสารรถขนาดใหญ่ที่มีเข็มขัดนิรภัยควรต้องคาดเช่นกัน

ประเภทของเข็มขัดนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยที่รัดตรงบริเวณโคนขา รอบสะโพก
(lap belt หรือแบบสองจุด) พบได้ในเครื่องบิน
สำหรับรถยนต์จะใช้กับที่นั่งตอนหลัง
เข็มขัดชนิดนี้ใช้คาดบริเวณต้นขา รอบสะโพก ไม่ควรรัดบริเวณหน้าท้อง
เข็มขัดที่คาดผ่านบริเวณสะโพกและไหล่
( lap shoulder belt หรือแบบ 3 จุด)
คาดบริเวณสะโพก บริเวณต้นขา
และผ่านเฉียงทางหน้าอกและกระดูกไหปลาร้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่