สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่กระทู้ดองเค็ม ประหนึ่งว่าทำกิมจิเลยทีเดียว  
ผมไปเที่ยวเกาหลีใต้มาเมื่อตุลา ปี2013 ครับ กะว่าจะมีเขียนรีวิวขำ ๆ  ตั้งแต่ปีนั้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เขียนสักที
จนวันนี้ก็มีฤทษ์พอสมควรแล้ว ฮ่า ๆ  
อยากมาแบ่งปันประสบการณ์การเที่ยวคนเดียวครั้งแรกที่เกาหลีใต้ครับ



ผมไป 3 เมืองครับ นั่นก็คือ ปูซาน เคียงจู และโซลครับ
ตั้งแต่วันที่ 24 - 31 ตุลา 2013 ครับ


***รูปถ่ายจากมือถือและก็กล้องคอมแพคไก่กาอาราเร่นะครับ555555*******

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
คือตอนแรกเพื่อนชวนไปฮ่องกงครับ แต่แล้วเพื่อนก็หักหลังยกเลิกทริปกระทันหัน
ด้วยความโมโหเพื่อน 5555 ก็เลยจองตั๋วไปเกาหลีมันซะเลย

ก็ได้ตั๋วมาของ แอร์เอเชีย ต่อเครื่องที่มาเลย์ สมัยนั้นยังไม่มี TAAX 555555
จริง ๆ  แล้วผมก็ชอบเดินทางแบบต่อเครื่องนะครับ เพราะผมชอบเครื่องบินตอน Take off รู้สึกมันดี ฮ่า ๆ
ผมเลือกไฟล์ทขอไปลงที่ ปูซานครับ สนามบินนานาชาติกิมแฮ(อ่านถูกไหมไม่รู้นะครับ 55)
ขากลับกลับจากอินชอนครับ

ไฟล์ทที่ได้ก็ดังนี้ครับ





คือครั้งนี้มันเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก อะไร ๆ ก็ตื่นเต้นไปหมด จำได้ว่าตอนนั้นเตรียมตัวล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน
เพราะกลัวเรื่องการต่อเครื่อง กลัวเรื่องการเช็คทรูของกระเป๋า กลัวเรื่อง ตม ไม่ให้เข้าประเทศ เพราะพาสปอร์ตพึ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ 5555555

ตอนออก2 ทุ่มของวันที่ 24 ครับ แต่ไปมันตั้งแต่บ่าย 3 บ้าเห่อมาก 55555555555555
ทำไงได้ละครับตื่นเต้นกลัวตกเครื่อง

แต่ความกังวลก็หายไปเพราะต้องมานั่งรอเครื่องออกอยู่หลายชั่วโมง

และแล้วเวลานั้นก็มาถึงครับ เสียงประกาศบอดดิ่ง

ประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มี KLIA ที่เป็นสนามบินใหม่นะครับ
คนนี้คับคั่งมากดั่งรูปเลยครับ


และก็รอเวลาไม่นานก็เปลี่ยนเครื่องเป็นลำใหญ่ A330 ของ Air Asia X ครับ
ผมไม่เคยนั่งเครื่องนานกว่า2ชั่วโมงมาก่อนครับ คราวนี้ครั้งแรก แล้วบนเครื่องก็ไม่มีอะไรให้ทำด้วย
นั่งเล่นมือถือจนแบตหมดแล้วหมดอีกก็ยังไม่ถึง  แถมตอนหลับยังฝันว่าเครื่องบินจะตกอีก โอ้ยยยย เอาเข้าไป 555555

แต่การนั่งเครื่องแบบไม่มีอะไรให้เล่นเลยก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมได้เพื่อนใหม่มา 1 คน ที่นั่งติดกัน เธอเป็นคนมาเลครับ
ก็คุยกันจนต่างๆคนต่างคิดในใจว่า (เราควรพอเนอะ 55555555) แต่เธอคนนั้นก็เป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ ก็ยังมีมิตรภาพดีดีที่เกิดขึ้นครับ


ตื่นมาอีกทีหลังจากที่ฝันว่าเครื่องจะตก ก็เช้าแล้วครับ ใกล้ถึงปูซานแล้ว
คือผมนั่งริมทางเดิน ก็เลยต้องยื่นมือมาถ่ายหน่อย อยากมีรูปปีกเครื่องบินกับเขาบ้าง
แต่กระจกมัวมากครับ 5555555555555555555 รูปที่ได้ก็อย่างที่เห็น


เครื่องแลนเป็นบัสเกตครับ คือผมไม่คิดว่ามันจะหนาวขนาดนี้ (เป็นคนชอบอากาศหนาว) แต่ไม่ว่าจะชอบขนาดไหนปากผมนี่สั่นเลยครับ 5555
ไม่มีเสื้ออะไรเลย 555555 แขนสั้นสุด
จากนั้นก็เข้าตม ถามแค่ว่ามากี่วัน แค่นั้น ประทับตรา เอ้าผ่านนนนนน  (คิดในใจทำไม่ให้เข้าง่ายจัง 555 ไม่ดูแผนการเดินทาง ใบจองโรงแรม ใบรับรองจากโรงเรียนหน่อยหรอ นี่อุตสาห์ขอมา)



เมื่อลงเครื่องแล้วก็ไปหาโรงแรมที่จองผ่านบุ๊คกิ้งไว้ครับ

โดยขึ้นรถไฟฟ้าของบ้านเขา สาย Busan - Gimhae light rail transit ไปลงสถานี Sasang จากนั้นต่อรถไฟใต้ดิน จาก Sasang ไป Seomyeon ลง Busan Station 113



แต่พอออกมาจากทางออกแล้วเดินวนหาโรงแรมนานมาก ไม่เจอครับ55555555555555555555555555

ก็เลยเดินไปถามอาจุ่มม่าคนหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษฟุตฟิตฟอไฟว์  แต่ป้าแกก็ตอบมาเป็นภาษาเกาหลี  คือร่ะ??  นี่ก็ไม่รู้ไง ชี้ทางมั่วไปหมด ก็พยายามเดินไปตามทางที่ป้าแกบอกนะ แต่ก็ไม่เจอ

สรุปก็เลยตัดสินใจหาที่พักใหม่ เหมือนโรงแรมจิ้งหรีด ม่านรูดอะ  (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) บรรยากาศอึมครึมมาก พร้อมมีเพศสัมพันธ์เลยทีเดียว 55555555555555 เตียงเป็นกลมๆ ไฟสลัว ๆ  คุณพระ !
แต่มันไม่มีทางเลือกครับ

หลังจากเช็คอินเสร็จก็เดินทางไปวัดแฮดง ยงกุงซา โดยรถไฟฟ้าใต้ดินต่อรถเมล์ครับ
นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 สถานี Haeundae (203) ออกทางออก 7 แล้วต่อรถเมล์สาย 181 ลงที่ป้าย Yonggungsa Temple ให้สังเกตป้ายหินของวัดที่ตั้งหน้าทางเข้า แล้วก็เดินต่อครับ ไม่เสียค่าเข้า
คือเอาจริงๆ ตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่าว่าป้ายหินที่ว่ามันอยู่ตรงไหน 5555555555 อาศัยดูตามคนลงเยอะ ก็ตามๆเขาไป ปรากฏว่าถูกด้วย 5555




คือวันนี้จะมีสัญลักษณ์คือมังกร

ประวัติคร่าวๆ เขาเม้ากันมาว่า ย้อนไปเมื่อสมัยโครยอโน้นนน บ้านเมืองอยู่กันอด ๆ อยาก ๆ ผู้คนทำมาหากินไม่ได้
แต่ในคืนหนึ่งก็มีพระอาจารย์องค์หนึ่งฝันว่า เทพเจ้ามาเข้าฝนให้สร้างวัดใกล้ๆ เชิงเขา
พระอาจารย์ก็มาดูที่ทาง ปรากฏว่าที่ตั้งเนี่ย เหมาะกับการสร้างวัดมาก ข้างหลังเป็นเขา ข้างหน้าเป็นทะเล พระอาจารย์เลยสร้างวัดนี้ขึ้น
และก็ทำให้คนกลับมามีความสุขกันอีกครั้ง
เขาว่ากันว่า วัดนี้เคยถูกเผาโดยกองทัพญี่ปุ่นด้วยนะ แต่ก็บูรณะจนสวยงามดั่งเดิม

ด้านหน้าของวัดเป็นทะเล ลมแรง คลื่นแรง 4G LTE ไปอีกกกก









คือที่วัดนี้อากาศดีมากจริง ๆ นะ  ชอบอยากอยู่นาน ๆ  

หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศและประวัติศาสตร์ของวัดแล้ว ก็ได้เวลากลับ
ขอกลับก็เหมือนเดิมครับ นั่งรถเมล์สาย 181 กลับไปยัง Haeundae
ซึ่ง Haeundae นี่เราจะไปชายหาดของเกาหลีกัน เห็นเขาบอกว่า มีเทศกาลพลุนานาชาติด้วย

แต่ก่อนที่เราจะไปเดินหาดกัน เราก็รู้สึกว่า เห้ย แก เรายังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ 55555555555555 เที่ยวเพลินมาก
ก็เลยไปหาอะไรกินในตลาดปลาใกล้ ๆ กับ หาดนั้นแหละ

เราจะพาไปกินพาจอน หรือ พิซซ่าเกาหลีกัน 55555555 คือนึกภาพพิซซ่าไว้ดีดี ของจริงรออยู่
อันนี้เราอ่านมาจาก โคเรียไกด์ ตามลิ้งนี้เลย  http://korea-guides.blogspot.com/2012/04/haeundae.html

ขอยืมรูปมาจากเว็บเลย

ระหว่างทางไปหาของกิน



และแล้วเราก็มาถึงร้าน 55555555 คือเดินหานานมาก เทียบหน้าร้านจากในเว็บเอา
พอเจอร้านเราก็ไปสั่ง แต่ก็สั่งไม่เป็น ก็เลยชี้รูปเอา
อาจุ่มม่า ก็ถามประมาณว่ามาคนเดียวหรอ นี่ก็บอกมาคนเดียว เขาก็ทำหน้าตกใจ  ตกใจไรอ่ะป้า

นั่งรอสักพักก็ได้เจ้าพาจอนมาแล้ว
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าป้าทำไหม้หรอ หรือมันควรจะเป็นอย่างนี้ หรือเช่นไร 555555555


รสชาติหนะหรอ ลืมไปหมดแล้ว55555555555555555
แต่ผักเยอะมาก ต้นหอมใส่มาเป็นกิโลเลยมั้ง 5555 แต่ก็คงสไตล์เกาหลี อันยอง




หลังจากที่กินอิ่มแล้ว สถานีต่อไปก็ชายหาดไง
แต่ระหว่างทางเดิน ก็นึกถึงคำเพื่อนได้ว่า  ถ้าไปต้องกินนมกล้วยด้วยนะเว้ย มันอร่อยมาก อร่อยจริงๆ  กูยืนยัน
ซื้อกินด้วย  ก็เลยลองซื้อกินสักหน่อย ราคาจำไม่ได้แล้ว 55555555

อื้มมมมมม มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส   -.-

อะ ๆ ถึงแล้ว หาดแฮอึนเด แห่งเกาหลี







they say หาดที่นี่เป็นชายหาดที่โด่งดังมากของเกาหลีเลยนะ เซม ๆ กับ หาดพัทยา ไรงี้
และหาดนี้ก็ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง อึน เด มหาวินาศมนุษยชาติด้วย
ยังไม่จบ ที่นี้ยังถูกเลือกให้จัดกิจกรรมต่างๆ ด้วยนะแก พวกคอนฯ กีฬา โอ้ย พูดไป 4 วันก็ไม่จบ


ป้า ๆ ลูกร้อง!