“หมอสอง นพรัตน์” อยากเคลียร์ “หญิงแย้” แต่ติดต่อเมียไม่ได้ เผยเสียใจข่าวเตียงหัก ลั่นไม่เคยบีบบังคับแค่ขอร้องอย่ากลับบ้านดึก อย่าโพสต์รูปโป๊เกิน ซัดแหล่งข่าวให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ห่วงเมียยิ่งพูดยิ่งดูแย่
ตกเป็นข่าวฮือฮาตลอดวันที่ผ่านมา กรณีเตียงหักทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงแค่ 3 เดือน ปล่อยเรือนหอ 100 ล้านกลายเป็นเรือนหอร้างไปตามระเบียบ โดยแหล่งข่าวของ “หญิงแย้ นนทพร” ออกมาเผยว่าที่ผ่านมาฝ่ายหญิงไม่เคยได้รับสินสอด 30 ล้านจาก “หมอสอง นพรัตน์” สามี ด้านหญิงแย้ได้ออกมาเปิดใจต่อสื่อมวลชนว่าตนไม่มีความสุข อยู่ข้างนอกเหมือนเป็นราชา แต่อยู่ในบ้านกลายเป็นสะใภ้ทาส
ล่าสุดหมอสองออกมาชี้แจงประเด็นเตียงหักผ่านอินสตาแกรม พร้อมยันไม่เคยบีบบังคับเมีย แต่กลับไม่เคลียร์ประเด็นสินสอด
“หลังเสร็จจากผ่าตัดวันนี้ รู้สึกตกใจครับ ที่มีข่าวไม่ดีของผมกับแย้กระจายทั่วเน็ต ก่อนอื่นต้องขออภัยครับ ที่ทำให้ทุกท่านให้ผิดหวัง และต้องขอโทษพี่ๆ สื่อทุกท่านที่ผมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากติดเคสผ่าตัดหลายเคสและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ด้วยครับ”
“แต่เมื่อได้อ่านย้อนหลังพบว่าแหล่งข่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร รู้สึกตกใจมากครับ โดยเฉพาะประเด็นที่มีการบีบบังคับ ซึ่งความจริงแล้ว ชีวิตทั้งก่อนและหลังแต่งงาน สำหรับผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังปฏิบัติต่อแย้ดีเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการบีบบังคับอะไร มีเพียงขอให้แย้อย่ากลับบ้านดึก สังสรรค์ให้ลดลงบ้าง อย่าโพสรูปที่ดูโป๊เกิน ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพของตัวแย้เอง”
“แย้ไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไรในบ้านเลย ผมภูมิใจที่เค้าทำงานนอกบ้าน และถึงแม้แย้จะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามที่ขอเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรแย้เลย ค่อนข้างให้ความรัก และให้เกียรติและตามใจแย้มากด้วยครับ เชื่อว่าข่าวนี้ไม่ได้มาจากแย้โดยตรงเพราะแย้ย่อมทราบดีว่าความจริงคืออะไร”
“ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ผมรู้สึกเสียใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง และพยายามติดต่อแย้และครอบครัว เพื่อมาปรับความเข้าใจกัน เพราะผมเชื่อว่าคนที่ครองรักกันต้องมีความรัก ความห่วงใยความใส่ใจ อดทนหนักแน่นและให้อภัยกัน ถึงแม้จะทำผิดอะไร หรือมีช่องว่างมากแค่ไหนก็ตาม ก็ควรพยายามมาลองปรับทัศนคติและปรับตัวเข้าหากันก่อนที่จะสรุปว่าไปกันไม่ได้ แต่ที่ผมทำได้คือ แค่ได้คุยโทรศัพท์สั้นๆ และไลน์บ้างเล็กน้อย และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น”
“มาถึงจุดนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงแย้เรื่องที่ให้สัมภาษณ์ เพราะในส่วนตัวยังรู้สึกดีและมีความผูกพันที่คบกันมาอย่างมีความสุขมาหลายปี เป็นห่วงในเรื่องที่การให้สัมภาษณ์ที่มันทำให้ภาพลักษณ์ของตัวแย้เองเสียหาย อยากให้เค้าใจเย็นๆ และตั้งสติ ทุกปัญหามีทางแก้ครับ และขอร้องทุกท่านอย่าได้ว่าแย้เลยครับ ความคิดเห็นคนเราแตกต่างกันได้ครับ”
“สำหรับเรื่องแถลงข่าวผมมองว่า เราควรทำก็ต่อเมื่อได้พูดคุยกันแล้วอย่างตกผลึก ว่าปัญหาเกิดจากอะไรและมันไม่สามารถไปกันได้แล้วจริงๆ แล้วค่อยไปแถลงข่าวให้ทุกท่านทราบพร้อมกัน น่าจะดีกว่าครับ ไม่อยากให้มันเป็นภาพสาดโคลนกันไปมาครับ”
“ขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ทุกท่านและเพื่อนฝูงที่กรุณาโทร.มาให้กำลังใจ และผู้ใหญ่หลายท่านอยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆลองปรับความเข้าใจกันครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000046807
“หมอสอง” ลั่นไม่เคยบังคับ “หญิงแย้” แค่ขอร้องอย่ากลับดึก อย่าโพสต์รูปโป๊! ห่วงเมียยิ่งพูดยิ่งดูแย่
“หมอสอง นพรัตน์” อยากเคลียร์ “หญิงแย้” แต่ติดต่อเมียไม่ได้ เผยเสียใจข่าวเตียงหัก ลั่นไม่เคยบีบบังคับแค่ขอร้องอย่ากลับบ้านดึก อย่าโพสต์รูปโป๊เกิน ซัดแหล่งข่าวให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ห่วงเมียยิ่งพูดยิ่งดูแย่
ตกเป็นข่าวฮือฮาตลอดวันที่ผ่านมา กรณีเตียงหักทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงแค่ 3 เดือน ปล่อยเรือนหอ 100 ล้านกลายเป็นเรือนหอร้างไปตามระเบียบ โดยแหล่งข่าวของ “หญิงแย้ นนทพร” ออกมาเผยว่าที่ผ่านมาฝ่ายหญิงไม่เคยได้รับสินสอด 30 ล้านจาก “หมอสอง นพรัตน์” สามี ด้านหญิงแย้ได้ออกมาเปิดใจต่อสื่อมวลชนว่าตนไม่มีความสุข อยู่ข้างนอกเหมือนเป็นราชา แต่อยู่ในบ้านกลายเป็นสะใภ้ทาส
ล่าสุดหมอสองออกมาชี้แจงประเด็นเตียงหักผ่านอินสตาแกรม พร้อมยันไม่เคยบีบบังคับเมีย แต่กลับไม่เคลียร์ประเด็นสินสอด
“หลังเสร็จจากผ่าตัดวันนี้ รู้สึกตกใจครับ ที่มีข่าวไม่ดีของผมกับแย้กระจายทั่วเน็ต ก่อนอื่นต้องขออภัยครับ ที่ทำให้ทุกท่านให้ผิดหวัง และต้องขอโทษพี่ๆ สื่อทุกท่านที่ผมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากติดเคสผ่าตัดหลายเคสและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ด้วยครับ”
“แต่เมื่อได้อ่านย้อนหลังพบว่าแหล่งข่าวน่าจะมีความคลาดเคลื่อนพอสมควร รู้สึกตกใจมากครับ โดยเฉพาะประเด็นที่มีการบีบบังคับ ซึ่งความจริงแล้ว ชีวิตทั้งก่อนและหลังแต่งงาน สำหรับผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังปฏิบัติต่อแย้ดีเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการบีบบังคับอะไร มีเพียงขอให้แย้อย่ากลับบ้านดึก สังสรรค์ให้ลดลงบ้าง อย่าโพสรูปที่ดูโป๊เกิน ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและสุขภาพของตัวแย้เอง”
“แย้ไม่ต้องรับผิดชอบงานอะไรในบ้านเลย ผมภูมิใจที่เค้าทำงานนอกบ้าน และถึงแม้แย้จะไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามที่ขอเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรแย้เลย ค่อนข้างให้ความรัก และให้เกียรติและตามใจแย้มากด้วยครับ เชื่อว่าข่าวนี้ไม่ได้มาจากแย้โดยตรงเพราะแย้ย่อมทราบดีว่าความจริงคืออะไร”
“ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ผมรู้สึกเสียใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง และพยายามติดต่อแย้และครอบครัว เพื่อมาปรับความเข้าใจกัน เพราะผมเชื่อว่าคนที่ครองรักกันต้องมีความรัก ความห่วงใยความใส่ใจ อดทนหนักแน่นและให้อภัยกัน ถึงแม้จะทำผิดอะไร หรือมีช่องว่างมากแค่ไหนก็ตาม ก็ควรพยายามมาลองปรับทัศนคติและปรับตัวเข้าหากันก่อนที่จะสรุปว่าไปกันไม่ได้ แต่ที่ผมทำได้คือ แค่ได้คุยโทรศัพท์สั้นๆ และไลน์บ้างเล็กน้อย และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น”
“มาถึงจุดนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงแย้เรื่องที่ให้สัมภาษณ์ เพราะในส่วนตัวยังรู้สึกดีและมีความผูกพันที่คบกันมาอย่างมีความสุขมาหลายปี เป็นห่วงในเรื่องที่การให้สัมภาษณ์ที่มันทำให้ภาพลักษณ์ของตัวแย้เองเสียหาย อยากให้เค้าใจเย็นๆ และตั้งสติ ทุกปัญหามีทางแก้ครับ และขอร้องทุกท่านอย่าได้ว่าแย้เลยครับ ความคิดเห็นคนเราแตกต่างกันได้ครับ”
“สำหรับเรื่องแถลงข่าวผมมองว่า เราควรทำก็ต่อเมื่อได้พูดคุยกันแล้วอย่างตกผลึก ว่าปัญหาเกิดจากอะไรและมันไม่สามารถไปกันได้แล้วจริงๆ แล้วค่อยไปแถลงข่าวให้ทุกท่านทราบพร้อมกัน น่าจะดีกว่าครับ ไม่อยากให้มันเป็นภาพสาดโคลนกันไปมาครับ”
“ขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ทุกท่านและเพื่อนฝูงที่กรุณาโทร.มาให้กำลังใจ และผู้ใหญ่หลายท่านอยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆลองปรับความเข้าใจกันครับ”
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000046807