(รีวิว)คน1คนกับเป้1ใบ ทัวร์โบสถ์คริสต์ที่สะหวันนะเขต-ฮานอย-เว้-ลาวาง ไปเองไม่ง้อทัวร์

ทริปนี้เป็นทริปแรกของเราที่ไปเที่ยวเองคนเดียวไกลๆ ปกติก็จะไปแค่ต่างอำเภอหรือจังหวัดข้างเคียง รวมถึงออกนอกประเทศครั้งแรก(แต่ไม่รวมข้ามแค่รัศมีด่านนะ) ก่อนไปก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันเพราะพูดเวียดนามไม่ได้ อังกฤษก็ได้นิดหน่อยงูๆปลาๆ จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยล่ะนิ (สถานการณ์ที่ยากที่สุดที่เราเจอคือบนรถบัสไม่มีใครพูดอังกฤษได้ และเราก็ฟังเวียดนามไม่ออก ภาษามือเลยค่ะ  หัวเราะ )

ทริปนี้ระหว่างวันที่16-20มกรา59ค่ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร) ประมาณ7,000บาท ไม่รวมของฝาก



--16มกราคม2559--

เราเริ่มต้นออกเดินทางที่จังหวัดนครพนมค่ะ นั่งรถตู้นครพนม-มุกดาหาร เที่ยว5.30น. ไปยังบขส.มุกดาหาร ค่ารถ80บาท ถึงประมาณ7.10น. ก็เห็นคนไปยืนออบริเวณรถบัสมุกดาหาร-สะหวันนะเขตกันเยอะแล้ว รีบดิ่งไปซื้อตั๋วเลยค่ะ ยื่นพาสปอร์ตกับเงินค่ารถอีก 50บาทแล้วรีบไปยืนรอขึ้นรถ

ตามตารางรถไปสะหวันนะเขตเที่ยวแรกจะออกตอน7.30น.ค่ะ แต่คันนี้เลทไป10นาที
รถวิ่งประมาณ15นาทีก็ถึงสะพานมิตรภาพ

พอลงรถแล้วเราไปเดินต่อคิวช่องพาสปอร์ตเป็นคนท้ายๆ เลย เพราะตอนนั่งในรถเรานั่งเกือบหลังสุดเลยได้ลงจากรถคนท้ายๆ  พอถึงคิวเราปรากฏว่าเรายังไม่ได้เขียนบัตรขาออกไทยค่ะ เนื่องมาจากเราไม่รู้มาก่อนและไม่เห็นคนบนรถเขียนตอนไหนหรือไปเอาตอนไหน (แต่เค้ามีแนบมาด้วยแล้วนะ)  พี่ต.ม.ผู้หญิงเลยให้เอาไปเขียน  เรารีบเขียนรีบไปตรวจใหม่อีกครั้งในขณะที่ชะเง้อดูเห็นคนขึ้นรถหมดแล้ว  โดนถามนิดหน่อยว่าจะไปไหนอะไรยังไงกี่วัน  พอบอกว่าจะไปเที่ยวเวียดนามคนเดียวก็เลยบอกกับเราว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ เม่าอดีต


เราขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายค่ะ รถข้ามสะพานไม่นานก็จอดให้ลงที่ด่านขาเข้าลาวซึ่งต้องเขียนบัตรขาเข้า-ออกลาวแนบไปกับพาสปอร์ตด้วย (แต่เราไม่รู้ว่าคนในรถไปเอาตอนไหนเขียนตอนไหนกันอีกแล้ว)  พอต่อคิวถึงตัวเองต.ม.เค้าก็เอาใบให้ไปเขียนค่ะ เรารีบเขียนรีบไปยื่นแนบกับพาสปอร์ต  ตรงนี้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 60บาท  แล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสที่ไปจอดรอข้างหน้า
เราไปถึงขนส่งสะหวันนะเขตเวลา 8.45น.  จากนั้นไปซื้อตั๋วรถไปฮานอย  ราคาตั๋ว 1,140 บาท รถออกเวลา10โมง


รถบัสสะหวันนะเขต-ฮานอย มีเฉพาะวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์  วันละเที่ยวเวลา 10.00น.


ยังพอมีเวลาอยู่ชั่วโมงนึง เราเลยจ้างสามล้อที่จอดรอผู้โดยสารอยู่ในบริเวณขนส่งไป-กลับวัดนักบุญเทเรซาโดยใช้วิธีเอารูปสถานที่ให้ดูค่ะ  (กลัวบ้านเค้าเรียกชื่อสถานที่ไม่เหมือนกัน)  โดนคิด200บาท  ไม่นานก็ถึง

ตอนที่ไปถึงวัดเปิดพอดี  และมีเด็กกับซิสเตอร์กำลังทำความสะอาดด้านใน














เราเดินถ่ายรูปอยู่พักนึงก็กลับไปรอรถที่ขนส่ง ซึ่งที่ขนส่งนี้ไม่ได้มีช่องจอดรถตามสายเดินรถเหมือนที่ไทยค่ะ  แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะหารถไม่เจอเพราะรถจะมาจอดรอรับผู้โดยสารตรงด้านหน้าที่นั่งรอรถในขนส่งเลย  พอใกล้10โมงรถบัสก็มาจอด  แต่ไม่มีตัวหนังสืออะไรบนบัสเลยมีแต่กระดาษa4ที่ปริ้นต์วางด้านหน้ารถตรงคนขับว่า Hanoi อะไรซักอย่าง  เราก็เกือบคิดว่าผิดคันรึเปล่า  

คนขับเป็นคนเวียดนามมายืนข้างประตู  ขณะที่คนทยอยขึ้นไป  พอเราจะก้าวขึ้นรถเค้าก็พูดอะไรซักอย่าง  เราฟังไม่ออกแต่เดาไปว่าเป็นตั๋วรถเลยหยิบให้ดูเค้าก็ปล่อยให้ขึ้นรถ  รถเที่ยวนี้ได้เป็นรถนั่งค่ะ (เห็นว่าบางครั้งก็เป็นรถนอน )  พอขึ้นรถแล้วใต้ที่นั่งแต่ละที่เต็มไปด้วยกระสอบอะไรซักอย่างที่น่าจะเป็นกระสอบข้าว  เราเดินหาที่นั่ง (ตั๋วมีเลขที่นั่งแต่เราไม่นั่งตามตั๋วค่ะ แฮร่) บังเอิญมีน้าคนหนึ่งเห็นเราเดินผ่านในมือถือพาสปอร์ตประเทศไทยเลยทักเราค่ะ  แกบอกว่าแกเป็นคนไทยแต่ไปแต่งงานอยู่กับภรรยาที่เวียดนามได้10ปีแล้ว พอรู้ว่าเรากำลังจะไปเที่ยวคนเดียวแถมเพิ่งไปเป็นครั้งแรก  แกก็เลยแนะนำนู้นนี่

10โมงปุ๊บ รถออกทันที  รถเที่ยวที่เรานั่งเที่ยวนี้แวะเข้าขนส่งที่ท่าแขกค่ะ  ถนนหนทางเชื่อมสะหวันนะเขต-ท่าแขกเค้ามีแค่2เลนแคบๆ  เหมือนถนนในหมู่บ้านในต่างอำเภอที่จังหวัดเราเลยแอบสงสัยว่ารถมันจะวิ่งไปเส้นไหน
ประมาณเที่ยงครึ่งรถไปถึงขนส่งที่ท่าแขกค่ะ  จอดพักรถและมีผู้โดยสารพร้อมสารพัดสิ่งของขนขึ้นรถกัน  พอบ่ายครึ่งรถก็ออกเดินทางต่อ    



ที่บขส.ท่าแขก  (ถ้ารู้ว่ารถฮานอยจะวิ่งเข้า เราคงไม่ต้องตื่นเช้าอ้อมไปมุกดาหาร ร้องไห้  )






พอรถเริ่มออกนอกเมืองก็เจอโซนภูเขาเลยค่ะ  ดูวิวข้างไปเพลินๆ  แต่ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ซักพักคนขับรถก็จะจอดแล้วให้ผู้โดยสารเอาพาสปอร์ตยื่นให้ไปลงข้อมูลอะไรซักอย่างก่อนคืนให้  












ถึงด่านน้ำพาวเวลา 16.20น.

รถจะขับเลยด่านไปแล้วให้เราเดินย้อนไปตรวจที่ต.ม. ด่านขาออกลาวนี้มีค่าธรรมเนียมด่าน10,000กีบ และค่าล่วงเวลาอีก10,000กีบ  จะมีแม่ค้ารับแลกเงินอยู่แต่เราไม่ได้แลกค่ะ  พอคนครบแล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถ  ขับต่อไปอีกนิดรถก็จะจอดให้เราเดินลงไปตรวจต.ม.ขาเข้าเวียดนาม


ด่านน้ำพาว ขาออกลาว


ด่านขาเข้าเวียดนาม รถบรรทุกต่อคิวยาวมากกกกกก


อาคารกำลังสร้าง เราแอบเนียนๆ เดินตามพี่2บนรถบัสไป หัวเราะ

ระหว่างที่เราเดินตามคนในรถไปงงๆ  จนถึงใกล้ๆกับอาคารต.ม. คนขับก็ให้เรายื่นพาสปอร์ตของผู้โดยสารรวมกันไปยื่นที่ช่องตรวจทีเดียวค่ะ  เราแค่ไปยืนรอต.ม.เรียกชื่อเท่านั้น พอถึงเล่มพาสปอร์ตเรา ต.ม.มองหน้านิดนึงก็ประทับตราคืนเล่มให้


อาคารต.ม.  ด้านหน้ามีแม่ค้ารับแลกเงินกับขายซิมมือถืออยู่ด้านหน้า

น้าคนไทยในรถบอกไปแลกเงินในเมืองจะได้เรทดีกว่า  เราเลยแลกพอให้มีเงินดองติดตัวไป1,000บาท  คิดเรท1บาท=620ดอง

ที่ด่านขาเข้าเวียดนามนี้ไม่ได้เขียนบัตรขาเข้า-ออกเหมือนที่ลาวค่ะ  พอได้พาสปอร์ตคืนจากต.ม.แล้ว เราก็ต้องรอตรวจสิ่งของบนรถของเราด้วย ซึ่งกว่าจะถึงคิวรถเราก็มืดแล้ว  ถ้าเราไม่เอากระเป๋าเราลงรถไปตรวจเครื่องสแกนเองก็มีสิทธิโดนค้นคุ้ยกระเป๋าได้



ประมาณ18.30น. รถเราก็ได้ออกจากด่านซักที  รถวิ่งไปเรื่อยๆ  จนประมาณ2ทุ่มก็มาจอดที่จุดจอดรถซึ่งเป็นร้านอาหารร้านนึง  มีถ้ำพระกุมารอยู่ด้านหน้าด้วย แอบแปลกใจนิดนึงเพราะเลยช่วงคริสต์มาสมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว
ขณะที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่กำลังกินอาหารที่สั่งมาเราก็ยืนเฝ้าถ้ำ 55   จริงๆคือเราเริ่มเกร็งทำอะไรไม่ถูก แบบนี่อยู่เวียดนามแล้วนะ เม่าเศร้า








ขอจบรีวิววันแรกเพียงเท่านี้ค่ะ เพราะพอรถเคลื่อนอีกทีเราหลับยาวเลย

สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 16มกราคม2559
-ค่ารถตู้นครพนม-มุกดาหาร 80 บาท
-ค่ารถบัสมุกดาหาร-สะหวันนะเขต 50 บาท (รวมค่าล่วงเวลา5บาทในตั๋วแล้ว)
-ค่าธรรมเนียมผ่านด่านขาเข้าลาว 60 บาท
-ค่าสามล้อไปกลับขนส่ง-วัด 200 บาท
-ค่าตั๋วรถบัสสะหวันนะเขต-ฮานอย  1,140 บาท
-ค่าล่วงเวลาที่ด่านขาออกลาว 10,000 กีบ
-ค่าธรรมเนียมด่านขาออกลาว 10,000 กีบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่