Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://ppantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://ppantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://ppantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://ppantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://ppantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://ppantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://ppantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://ppantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://ppantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://ppantip.com/topic/34878346
♡chapter10- slowlife tokyo.
http://ppantip.com/topic/34905940
♡chapter11- once in sendai.
http://ppantip.com/topic/35038036
♡last chapter- disney sea.
http://ppantip.com/topic/35130340
♡last chapter- disney sea.
เดินทางมาถึงกระทู้สุดท้ายของทริปนี้กันแล้ว ใช้เวลากว่าหกเดือนทีเดียวในการเขียน ไม่ใช่อะไร ขี้เกียจนั่นเอง5555 เราจะส่งท้ายทริปนี้กันด้วย Disney Sea สวนสนุกในฝันของทั้งสาวกดิสนีย์และไม่สาวกดิสนีย์อย่างพวกเรา ไปพบกับความประทับใจส่งท้ายทริปกันได้เลย เฮ้ !
ก่อนอื่นเลย เราจะเริ่มที่การเดินทางไปให้ถึง Disney Sea ขอบอกว่าทรหดมาก เพราะว่ามีช่วงเปลี่ยนผ่านจากสถานีของ Tokyo Metro ไปขึ้น JR รู้สึกได้ว่าเดินไปเยอะกว่ากิโลนึงแน่ๆ = = แล้วสุดท้ายให้ไปให้ถึงสถานี Maihama ซึ่งจากที่นั่นจะมีตู้ให้ซื้อตั๋วรถไฟของ Disney โดยเฉพาะ ในราคา 260 เยน จากนั้นก็รอขึ้นรถ โดยที่ รถจะวนเป็นวงกลม ไปส่งตามที่ต่างๆ คือ Disney Land, Disney Sea แล้วก็ Disney resort ที่พักที่เป็นของ Disney เอง แล้วก็ในฐานะที่เป็น Disney จะต้องไม่ยอมปล่อยให้รถไฟเป็นตู้เปล่าๆ แน่ เขาบอกว่าแต่ละฤดูจะแตกต่างกันไป ตอนนั้นที่เราไปคือเดือนพฤศจิกายน ใกล้เทศกาลคริสมาสต์เข้ามาแล้ว รถจึงตกแต่งไปด้วยสีแดงขาว และมาในธีมของตัวการ์ตูนขวัญใจหนูๆ 5555 Stitch นั่นเอง
แถมด้วยหน้าต่างมิกกี้เมาส์ เสริมจินตนาการมากๆ เห็นแล้วรู้สึกอยากกระโดดออกไปเผชิญโลกตอนนั้นเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงที่หมาย เราไม่รอช้า กระโจนไปแลกบัตรมาทันที แม้แต่บัตรเข้าชมก็ยังมีความคิ้วเต็มเปี่ยม5555
เดินชมวิวซะหน่อย มุมลูกโลกมหาชนก็มา
เริ่มไปเครื่องเล่นกันเลยดีกว่า จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าที่ Disney Sea เครื่องเล่นจะถูกจัดเป็นโซนๆไป ตามประเภทและเรื่องราวของมัน แต่ว่าเราไม่ได้เดินกันเป็นโซนเลยจ้า55555 เจออะไรก็ไป หรืออยากจองอะไรก็จอง เลยทำให้ได้ไม่ครบทุกเครื่อง เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากเก็บให้ครบทุกเม็ดทุกเครื่องเล่น ก็ศึกษาแผนผังของสวนสนุกก่อนไปก็ดี
แล้วก็อีกอย่างคือ Fast Pass ที่นี่จะมีตู้ให้กดบัตรคิวออกมาได้ก่อน แล้วก็ไปเล่นเครื่องอื่นก่อนแล้วค่อยกลับมา อาจจะใช้วิธีนี้กับเครื่องเล่นที่คนเยอะๆ แล้วก็ไปเดินเพลินๆ รอจนถึงเวลาที่จะได้เข้าแล้วค่อยมา ซึ่งจะใช้กี่ครั้งก็ได้ แต่ว่าต้องกดห่างกันประมาณสองชั่วโมง วิธีกดก็ไม่ยาก แค่ใส่ตั๋วที่ได้ตั้งแต่ตรงประตูทางเข้าเข้าไป แล้วก็จะมีตั๋วอีกใบโผล่ออกมา หน้าตาเป็นแบบนี้ จะบอกเวลาที่เราจองคิวได้ไว้ แล้วพอถึงเวลาก็ไปต่อแถวที่เขียนว่า Fast Pass คิวจะเร็วกว่าปกติจ้า แล้วก็ยังมี Single Rider สำหรับแบบนั่งคนเดียวก็จะได้เร็วกว่าเหมือนกัน
หน้าตาตั๋วฟาสพาสจะเป็นแบบนี้ ต้องให้เค้าตรวจก่อนเข้า
กด fast pass แล้วตั๋วใบเดิมก็ยังอยู่นะ จะกดกี่เครื่องก็ได้
สรุปเครื่องเล่นที่ได้เล่นกันไป
Tower of Terror (ใช้ Fast Pass)
Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull (ใช้ Fast Pass)
Journey to the Center of the Earth
แล้วก็มีจะมีรถไฟเหาะรอบสั้นๆ น่าจะสำหรับเด็กอีกเครื่องนึงแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว
สำหรับเครื่องเล่นเราจะไม่สปอย เดี๋ยวไปเล่นแล้วจะไม่หนุก55555 แต่เก็บบรรยากาศรอบๆ สวนสนุกมาฝาก
ต่อไปเป็นโซนด้านหน้าของเรื่อง Aladdin ด้านซ้ายในรูปจะเป็นพรมวนๆ แล้วก็ข้างในจะมีให้ล่องเรือ
อันนี้เป็นโซนอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่น แต่เห็นว่าสวยดีเลยเก็บภาพมาซะหน่อย
ภูเขาที่เห็นในรูปคือของเครื่องเล่น Journey to the center of the earth จะเด่นมากๆ บางทีก็มีควันขึ้นมา ต้องสังเกตดีๆ ส่วนรถไฟขบวนนี้คือเป็นรถที่รับส่งระหว่างเครื่องเล่นสองอันที่ไกลๆกัน แต่คิวก็ยาวเหมือนกัน คิดว่าเดินอาขจะถึงเร็วกว่า 55555
มาดูภูเขาลูกนั้นในอีกมุมดีกว่า สะพานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเหมือนกัน มีเรือกองโดล่าข้างล่างด้วยนะ
นี่คือวิวจากเรือไททานิค ตอนค่ำๆแล้ว
แถมภาพจากตอนเล่นนิดหน่อย อิอิ
ปิดท้ายด้วย Toy story mania!
แถมลูกหมีให้อีกหนึ่ง
โดยรวมแล้ว เครื่องเล่นจะเป็นแบบเน้นกลุ่มเป้าหมายสำหรับเด็กมากกว่า ส่วนเราที่เลยวัยเด็กมาประมาณนึงแล้วเลยไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไหร่ แต่จะได้รู้สึกว่าไปผจญภัยตามเนื้อเรื่องของการ์ตูนหรือหนังมากกว่า แล้วก็เหมือนได้รู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะโชว์หลักของวัน จะเป็นตอนค่ำๆ จัดกลางทะเลสาบ
โหย แสง สี เสียง ตื่นตาตื่นใจมาก สำหรับคนไม่เคยดู คือที่สุดอ่ะ 555555 แต่เก็บภาพไม่ค่อยได้ เพราะมืดแล้ว จบไปด้วยพลุละกัน
และที่จะพลาดไม่ได้เลยคือขนมของที่นี่ มีความเป็น signature สูงมากก
อย่างแรกคือ ไอติมหรือเค้กหรือแซนวิชอะไรสักอย่างลายมิกกี้เม้าส์ 555555 เป็นรส Tiramisu ก็หวานๆ ใช้ได้ หน้าตาหน้ากินมากกก
อย่างที่สองคือ สติกกี้ชูโรสซักอย่าง5555555 ต่อคิวนานมากกว่าจะได้มา รสชาติก็ถือว่าใช้ได้ละกัน
อย่างที่สามคือ ขนมลิตเติ้ลกรีนแมน เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ น่ารักจนไม่กล้ากิน 555555
แถมของคาวให้อีกสักนิด จริงๆ ของในนี้ราคาค่อนข้างแพง เก็บมื้อเย็นไว้กินข้างนอกอาจจะดีกว่า สำหรับื้อเที่ยงนั้นถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็พิจารณาราคาแล้วก็ความยาวของแถวกันไป ส่วนทริปของเราลงเอยที่แฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น รสชาติก็ถือว่าโอเค แล้วก็ต้องต่อคิวเข้าไป จะเป็นห้องอาหารใหญ่ ที่มีโชว์เป็นตัวการ์ตูนแสดงอยู่บนเวที ร้านนี้จะอยู่ใกล้ๆ เรือลำใหญ่ๆจ้า
ส่วนใครที่ยังไม่อิ่ม เช่นเพื่อนเราเป็นต้น ก็ต่อด้วยอาหารว่างชิวๆ ใกล้ๆ 20000 leagues under the sea ถ้าเดินไปแถวนั้นจะเห็นเลยว่ามีคนถือไก่เป็นน่องๆ มาเยอะมาก กระตุ้นความหิวได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าดิสนีย์ซีจะมีความสวยงามเพียงใด แต่สุดท้ายด้วยความเหนื่อยและหิว เราจึงตัดสินใจกลับไปที่พักเพื่อกินข้าวเย็นและนอน มื้อเย็นมื้อสุดท้ายนี้เลยจบลงที่ร้านราเมงข้างๆที่พัก ที่ไม่รู้มาก่อนว่ามีของอร่อยอยู่ใต้จมูกนี่เอง (ใกล้สถานี ikebukuro)
บรรยากาศร้านเป็นแบบนี้ เป็นตู้กด และนั่งรอ ที่นั่งมีน้อยมากก แต่ว่ากินแปปเดียวก็เสร็จ รอไม่นาน
ราเมงที่นี่จะมีพิเศษกว่าที่อื่นคือน้ำจะมีลักษณะขลุกขลิก แล้วก็มันๆ แต่อร่อยม้ากกก เน้นกอไก่ล้านตัว
อร่อยถึงขั้นต้องมีตำนานจารึกไว้เลยนะ 555555
แล้ววันของดิสนีย์ซีก็จบลง แต่... เอ๊ะ นี่ยังไม่ครบ 13 วันเลย ถามว่าวันที่ 13 ทำอะไร คำตอบคือช้อปปิ้งกันนรกแตก เพราะมีพ็อกเก็ตไวไฟอันเดียว หาข้อมูลที่ช้อปไม่เจอ เวลาน้อยบลาๆ แต่เราจะตัดตรงนั้นออกไป55555 และขอนำเสนอรีวิวอาหารแทน เริ่มต้นด้วย ร้านซูชิจานเวียน แห่งชิบูย่า โดยรวมก็ถือว่าพอใช้ได้ เพราะตอนนั้นหิวมากกก แต่หน้าไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่
และร้านซูชิซันไมแห่งอุเอโนะ หน้าตาน่ากินมาก แต่รสชาติยังมิอาจเทียบขั้นซึกิจิ
และมื้อสุดท้ายจริงๆที่ญี่ปุ่น เป็นร้านบางอย่างที่สนามบิน เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เปิดอยู่ เพราะบินค่ำๆ แต่ถือว่าเป็นช้างเผือก ราคาไม่แพง และอร่อย
จบทริปนี้แล้วเย่! เจอกันใหม่ทริปหน้าจ้า
[CR] Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan: ♡last chapter- disney sea.
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://ppantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://ppantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://ppantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://ppantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://ppantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://ppantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://ppantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://ppantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://ppantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://ppantip.com/topic/34878346
♡chapter10- slowlife tokyo.
http://ppantip.com/topic/34905940
♡chapter11- once in sendai.
http://ppantip.com/topic/35038036
♡last chapter- disney sea.
http://ppantip.com/topic/35130340
♡last chapter- disney sea.
เดินทางมาถึงกระทู้สุดท้ายของทริปนี้กันแล้ว ใช้เวลากว่าหกเดือนทีเดียวในการเขียน ไม่ใช่อะไร ขี้เกียจนั่นเอง5555 เราจะส่งท้ายทริปนี้กันด้วย Disney Sea สวนสนุกในฝันของทั้งสาวกดิสนีย์และไม่สาวกดิสนีย์อย่างพวกเรา ไปพบกับความประทับใจส่งท้ายทริปกันได้เลย เฮ้ !
ก่อนอื่นเลย เราจะเริ่มที่การเดินทางไปให้ถึง Disney Sea ขอบอกว่าทรหดมาก เพราะว่ามีช่วงเปลี่ยนผ่านจากสถานีของ Tokyo Metro ไปขึ้น JR รู้สึกได้ว่าเดินไปเยอะกว่ากิโลนึงแน่ๆ = = แล้วสุดท้ายให้ไปให้ถึงสถานี Maihama ซึ่งจากที่นั่นจะมีตู้ให้ซื้อตั๋วรถไฟของ Disney โดยเฉพาะ ในราคา 260 เยน จากนั้นก็รอขึ้นรถ โดยที่ รถจะวนเป็นวงกลม ไปส่งตามที่ต่างๆ คือ Disney Land, Disney Sea แล้วก็ Disney resort ที่พักที่เป็นของ Disney เอง แล้วก็ในฐานะที่เป็น Disney จะต้องไม่ยอมปล่อยให้รถไฟเป็นตู้เปล่าๆ แน่ เขาบอกว่าแต่ละฤดูจะแตกต่างกันไป ตอนนั้นที่เราไปคือเดือนพฤศจิกายน ใกล้เทศกาลคริสมาสต์เข้ามาแล้ว รถจึงตกแต่งไปด้วยสีแดงขาว และมาในธีมของตัวการ์ตูนขวัญใจหนูๆ 5555 Stitch นั่นเอง
แถมด้วยหน้าต่างมิกกี้เมาส์ เสริมจินตนาการมากๆ เห็นแล้วรู้สึกอยากกระโดดออกไปเผชิญโลกตอนนั้นเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงที่หมาย เราไม่รอช้า กระโจนไปแลกบัตรมาทันที แม้แต่บัตรเข้าชมก็ยังมีความคิ้วเต็มเปี่ยม5555
เดินชมวิวซะหน่อย มุมลูกโลกมหาชนก็มา
เริ่มไปเครื่องเล่นกันเลยดีกว่า จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าที่ Disney Sea เครื่องเล่นจะถูกจัดเป็นโซนๆไป ตามประเภทและเรื่องราวของมัน แต่ว่าเราไม่ได้เดินกันเป็นโซนเลยจ้า55555 เจออะไรก็ไป หรืออยากจองอะไรก็จอง เลยทำให้ได้ไม่ครบทุกเครื่อง เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากเก็บให้ครบทุกเม็ดทุกเครื่องเล่น ก็ศึกษาแผนผังของสวนสนุกก่อนไปก็ดี
แล้วก็อีกอย่างคือ Fast Pass ที่นี่จะมีตู้ให้กดบัตรคิวออกมาได้ก่อน แล้วก็ไปเล่นเครื่องอื่นก่อนแล้วค่อยกลับมา อาจจะใช้วิธีนี้กับเครื่องเล่นที่คนเยอะๆ แล้วก็ไปเดินเพลินๆ รอจนถึงเวลาที่จะได้เข้าแล้วค่อยมา ซึ่งจะใช้กี่ครั้งก็ได้ แต่ว่าต้องกดห่างกันประมาณสองชั่วโมง วิธีกดก็ไม่ยาก แค่ใส่ตั๋วที่ได้ตั้งแต่ตรงประตูทางเข้าเข้าไป แล้วก็จะมีตั๋วอีกใบโผล่ออกมา หน้าตาเป็นแบบนี้ จะบอกเวลาที่เราจองคิวได้ไว้ แล้วพอถึงเวลาก็ไปต่อแถวที่เขียนว่า Fast Pass คิวจะเร็วกว่าปกติจ้า แล้วก็ยังมี Single Rider สำหรับแบบนั่งคนเดียวก็จะได้เร็วกว่าเหมือนกัน
หน้าตาตั๋วฟาสพาสจะเป็นแบบนี้ ต้องให้เค้าตรวจก่อนเข้า
กด fast pass แล้วตั๋วใบเดิมก็ยังอยู่นะ จะกดกี่เครื่องก็ได้
สรุปเครื่องเล่นที่ได้เล่นกันไป
Tower of Terror (ใช้ Fast Pass)
Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull (ใช้ Fast Pass)
Journey to the Center of the Earth
แล้วก็มีจะมีรถไฟเหาะรอบสั้นๆ น่าจะสำหรับเด็กอีกเครื่องนึงแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว
สำหรับเครื่องเล่นเราจะไม่สปอย เดี๋ยวไปเล่นแล้วจะไม่หนุก55555 แต่เก็บบรรยากาศรอบๆ สวนสนุกมาฝาก
ต่อไปเป็นโซนด้านหน้าของเรื่อง Aladdin ด้านซ้ายในรูปจะเป็นพรมวนๆ แล้วก็ข้างในจะมีให้ล่องเรือ
อันนี้เป็นโซนอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่น แต่เห็นว่าสวยดีเลยเก็บภาพมาซะหน่อย
ภูเขาที่เห็นในรูปคือของเครื่องเล่น Journey to the center of the earth จะเด่นมากๆ บางทีก็มีควันขึ้นมา ต้องสังเกตดีๆ ส่วนรถไฟขบวนนี้คือเป็นรถที่รับส่งระหว่างเครื่องเล่นสองอันที่ไกลๆกัน แต่คิวก็ยาวเหมือนกัน คิดว่าเดินอาขจะถึงเร็วกว่า 55555
มาดูภูเขาลูกนั้นในอีกมุมดีกว่า สะพานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเหมือนกัน มีเรือกองโดล่าข้างล่างด้วยนะ
นี่คือวิวจากเรือไททานิค ตอนค่ำๆแล้ว
แถมภาพจากตอนเล่นนิดหน่อย อิอิ
ปิดท้ายด้วย Toy story mania!
แถมลูกหมีให้อีกหนึ่ง
โดยรวมแล้ว เครื่องเล่นจะเป็นแบบเน้นกลุ่มเป้าหมายสำหรับเด็กมากกว่า ส่วนเราที่เลยวัยเด็กมาประมาณนึงแล้วเลยไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไหร่ แต่จะได้รู้สึกว่าไปผจญภัยตามเนื้อเรื่องของการ์ตูนหรือหนังมากกว่า แล้วก็เหมือนได้รู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะโชว์หลักของวัน จะเป็นตอนค่ำๆ จัดกลางทะเลสาบ
โหย แสง สี เสียง ตื่นตาตื่นใจมาก สำหรับคนไม่เคยดู คือที่สุดอ่ะ 555555 แต่เก็บภาพไม่ค่อยได้ เพราะมืดแล้ว จบไปด้วยพลุละกัน
และที่จะพลาดไม่ได้เลยคือขนมของที่นี่ มีความเป็น signature สูงมากก
อย่างแรกคือ ไอติมหรือเค้กหรือแซนวิชอะไรสักอย่างลายมิกกี้เม้าส์ 555555 เป็นรส Tiramisu ก็หวานๆ ใช้ได้ หน้าตาหน้ากินมากกก
อย่างที่สองคือ สติกกี้ชูโรสซักอย่าง5555555 ต่อคิวนานมากกว่าจะได้มา รสชาติก็ถือว่าใช้ได้ละกัน
อย่างที่สามคือ ขนมลิตเติ้ลกรีนแมน เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ น่ารักจนไม่กล้ากิน 555555
แถมของคาวให้อีกสักนิด จริงๆ ของในนี้ราคาค่อนข้างแพง เก็บมื้อเย็นไว้กินข้างนอกอาจจะดีกว่า สำหรับื้อเที่ยงนั้นถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็พิจารณาราคาแล้วก็ความยาวของแถวกันไป ส่วนทริปของเราลงเอยที่แฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น รสชาติก็ถือว่าโอเค แล้วก็ต้องต่อคิวเข้าไป จะเป็นห้องอาหารใหญ่ ที่มีโชว์เป็นตัวการ์ตูนแสดงอยู่บนเวที ร้านนี้จะอยู่ใกล้ๆ เรือลำใหญ่ๆจ้า
ส่วนใครที่ยังไม่อิ่ม เช่นเพื่อนเราเป็นต้น ก็ต่อด้วยอาหารว่างชิวๆ ใกล้ๆ 20000 leagues under the sea ถ้าเดินไปแถวนั้นจะเห็นเลยว่ามีคนถือไก่เป็นน่องๆ มาเยอะมาก กระตุ้นความหิวได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าดิสนีย์ซีจะมีความสวยงามเพียงใด แต่สุดท้ายด้วยความเหนื่อยและหิว เราจึงตัดสินใจกลับไปที่พักเพื่อกินข้าวเย็นและนอน มื้อเย็นมื้อสุดท้ายนี้เลยจบลงที่ร้านราเมงข้างๆที่พัก ที่ไม่รู้มาก่อนว่ามีของอร่อยอยู่ใต้จมูกนี่เอง (ใกล้สถานี ikebukuro)
บรรยากาศร้านเป็นแบบนี้ เป็นตู้กด และนั่งรอ ที่นั่งมีน้อยมากก แต่ว่ากินแปปเดียวก็เสร็จ รอไม่นาน
ราเมงที่นี่จะมีพิเศษกว่าที่อื่นคือน้ำจะมีลักษณะขลุกขลิก แล้วก็มันๆ แต่อร่อยม้ากกก เน้นกอไก่ล้านตัว
อร่อยถึงขั้นต้องมีตำนานจารึกไว้เลยนะ 555555
แล้ววันของดิสนีย์ซีก็จบลง แต่... เอ๊ะ นี่ยังไม่ครบ 13 วันเลย ถามว่าวันที่ 13 ทำอะไร คำตอบคือช้อปปิ้งกันนรกแตก เพราะมีพ็อกเก็ตไวไฟอันเดียว หาข้อมูลที่ช้อปไม่เจอ เวลาน้อยบลาๆ แต่เราจะตัดตรงนั้นออกไป55555 และขอนำเสนอรีวิวอาหารแทน เริ่มต้นด้วย ร้านซูชิจานเวียน แห่งชิบูย่า โดยรวมก็ถือว่าพอใช้ได้ เพราะตอนนั้นหิวมากกก แต่หน้าไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่
และร้านซูชิซันไมแห่งอุเอโนะ หน้าตาน่ากินมาก แต่รสชาติยังมิอาจเทียบขั้นซึกิจิ
และมื้อสุดท้ายจริงๆที่ญี่ปุ่น เป็นร้านบางอย่างที่สนามบิน เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เปิดอยู่ เพราะบินค่ำๆ แต่ถือว่าเป็นช้างเผือก ราคาไม่แพง และอร่อย
จบทริปนี้แล้วเย่! เจอกันใหม่ทริปหน้าจ้า