สวัสดีเพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตทุกท่านครับ ห่างหายไปนานเลยสำหรับผม กลับมาครั้งนี้ผมมีอีกหนึ่งโรงแรมที่อยากจะแนะนำหรือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะไปเที่ยวแถบจังหวัดภูเก็ต-พังงา ซึ่งหลังจากที่ผมได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมรู้สึกประทับในโรงแรมแห่งนี้มาก ทั้งด้านห้องพัก การบริการของพนักงาน และความคุ้มค่าของราคา โดยโรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า Le Coral Hideaway Beyond Phuket
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกกลอย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 33.5 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที (อ้างอิงจาก Google Map)
โดยที่ตั้งโรงแรมแห่งนี้เป็นทางผ่านจากจังหวัดภูเก็ตไปยังอำเภอเขาหลัก จังหวัดพังงา หากใครกำลังมองหาที่พักที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ติดชายทะเล ผมก็นำในว่าโรงแรมแห่งนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีแห่งหนึ่งสำหรับคุณ หรือหากใครที่ต้องการที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้น ณ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ที่มีชื่อว่า “จุดชมวิวเสม็ดนางชี” โดยที่ไม่ต้องการขยี้ขี้ตาตื่นตั้งแต่ตี4 เพื่อออกเดินทางจากที่พักสักแห่งบนเกาะภูเก็ต โรงแรม Le Coral Hideaway Beyond Phuket แห่งนี้ก็มีทำเลที่ตั้งห่างจากจุดชมวิวเสม็ดนางชี เพียงแค่ 35 กิโลเมตรโดยประมาณ หากเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 45-50 นาทีเท่านั้น (อ้างอิงจาก Google Map) ทำให้เรามีเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับโรงแรมแห่งนี้นั้นมีห้องพักทั้งหมด 58 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ Horizon Suite, Horizon Suite Pool Access, Luxury Suite, Prestige Pool Suite และ Prestige Duplex Suite โดยห้องทุกประเภทที่โรงแรมแห่งนี้ จะสามารถมองเห็นวิวของทะเลอันดามันจากภายในห้องพักได้เลย (สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและราคาห้องพักแต่ละประเภท สามารถดูได้จากเวปไซต์ของทางโรงแรมโดยตรง www.coralhideaway.com)
เมื่อผมเดินทางมาถึงโรงแรม ประมาณเกือบห้าโมงเย็น ก็ทำการเช็คอินที่ล็อบบี้ ซึ่งตั้งอยู่ตรงชั้น2 ของโรงแรม
นั่งชมวิวสักพัก พนักงานก็นำ Welcome Drinks พร้อมผ้าเย็นมาเสิร์ฟ และได้อธิบายรายระเอียดต่างๆพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในแห่งนี้ เช่น ห้องสปา ห้องฟิตเนส หรือมีกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้เข้าพัก เช่น ปั่นจักรยาน พายเรือแคนู หรือซื้อทัวร์ไปดำน้ำตามหมู่เกาะต่างๆ เป็นต้น
จากนั้นเมื่อกระบวนการเช็คอินทุกอย่างเรียบร้อย พนักงานก็ช่วยขนสัมภาระ และพาผมกับภรรยาไปยังห้องพัก สำหรับห้องพักที่ผมจองไว้คือห้อง Horizon Suite แต่ทางโรงแรมได้ทำการอัพเกรดให้เป็นห้อง Horizon Suite Pool Access
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ผมถึงกับอุทานเบาๆในใจ “โห!! ห้องสวยมาก” คิดไม่ผิดจริงๆที่ตัดสินใจมาพักที่โรงแรมแห่งนี้
หลังจากพนักงานออกจากห้อง ผมและภรรยาก็เริ่มทำการสำรวจห้องพักทันที เริ่มจาก Welcome Fruits
เตียงนอนใหญ่ นุ่ม และนอนหลับสบายมาก
มาถึงห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำที่โรงแรมแห่งนี้จะแยกห้องอาบน้ำกับห้องสุขาออกจากกัน อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในห้องน้ำก็มีให้ครบครัน รวมทั้งอ่างน้ำขนาดใหญ่สำหรับแช่น้ำผ่อนคลาย
ในตู้เสื้อผ้าก็มีชุดคลุมอาบน้ำ รองเท้าสลิปเปอร์ ร่ม และผ้าเช็ดตัวสำหรับเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ รวมไปถึงตู้เซฟนิรภัยสำหรับใครที่ต้องการเก็บสิ่งของมีค่า
หลังจากสำรวจห้องพักเสร็จแล้ว ผมจึงรีบชวนภรรยาไปเดินเล่นริมชายหาดกันดีกว่า เนื่องจากพระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว บริเวณชาดหาดค่อนข้างเงียบสงบ ราวกับว่าเป็นหาดส่วนตัวของผมและภรรยากันเลยทีเดียว 55+
เก้าอี้ชายหาดที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้เข้าพัก
นอกจากเก้าอี้ชายหาดแล้วก็มีชิงช้าสำหรับเราสองคนด้วย 55+
พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มทีแล้ว
ช่วงที่ผมไปอากาศร้อนค่อนข้างร้อนทีเดียว ผมเลยชวนภรรยาไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำกัน เราเล่นน้ำไปจนตะวันลับขอบฟ้าเลยครับ ส่วนอาหารค่ำเราก็สั่งจากห้องอาหารของทางโรงแรมมาทานที่ห้องพัก เนื่องจากเราต่างเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน จึงต้องการใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในห้อง
ตัดมาที่ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น ผมและภรรยาก็ออกไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร La Perla ซึ่งเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ครับ มีแขกของทางโรงแรมกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่เยอะเลย ช่างแตกต่างจากเย็นเมื่อวานมากเลยที่มองไปทางไหนก็เห็นเพียงแค่ผมและภรรยา ส่วนไลน์อาหารที่นี่มีไม่เยอะมาก แต่ก็สามารถทานจนอิ่มมากได้ครับ 55+ ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเช้าไว้เลย ซึ่งอาหารเช้าที่นี่ก็ถือว่าธรรมดาตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปนะครับ ส่วนตัวผมชอบน้ำแตงโมกับน้ำสับปะรดที่คั้นสดๆเลย ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ ระหว่างที่เรารับประทานอาหารกันอยู่ ก็จะมีพนักงานคอยเข้ามาสอบถามว่าต้องการรับอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า สามารถแจ้งกับเค้าได้เลย ซึ่งพนังงานที่โรงแรมแห่งนี้น่ารักมากครับ เป็นมิตรและให้ความช่วยเหลือตลอด หลังจากที่อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นย่อยอาหารกันสักหน่อย ก่อนที่จะต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแห่งนี้ เพื่อเดินทางไปที่อื่นกันต่อ
แดดเริ่มออกแล้ว
รถคันนี้เป็นรถโบราณของทางโรงแรมที่จอดอยู่บริเวณหน้าล็อบบี้ครับ
เอาเป็นว่าผมขอลากันด้วยภาพที่ผมและภรรยาได้นั่งริมชายหาด ดูพระอาทิตย์ตกกันสองคน มันเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิตของเราทั้งสอง และจะเป็นความทรงจำที่ดีของเราตลอดไป...
หวังว่ารีวิวนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่ได้อ่านนะครับ หากมีข้อบกพร่องประการใด ผมก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ....สวัสดีครับ....
[CR] Le Coral Hideaway Beyond Phuket
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกกลอย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 33.5 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที (อ้างอิงจาก Google Map)
โดยที่ตั้งโรงแรมแห่งนี้เป็นทางผ่านจากจังหวัดภูเก็ตไปยังอำเภอเขาหลัก จังหวัดพังงา หากใครกำลังมองหาที่พักที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ติดชายทะเล ผมก็นำในว่าโรงแรมแห่งนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีแห่งหนึ่งสำหรับคุณ หรือหากใครที่ต้องการที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้น ณ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ที่มีชื่อว่า “จุดชมวิวเสม็ดนางชี” โดยที่ไม่ต้องการขยี้ขี้ตาตื่นตั้งแต่ตี4 เพื่อออกเดินทางจากที่พักสักแห่งบนเกาะภูเก็ต โรงแรม Le Coral Hideaway Beyond Phuket แห่งนี้ก็มีทำเลที่ตั้งห่างจากจุดชมวิวเสม็ดนางชี เพียงแค่ 35 กิโลเมตรโดยประมาณ หากเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 45-50 นาทีเท่านั้น (อ้างอิงจาก Google Map) ทำให้เรามีเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับโรงแรมแห่งนี้นั้นมีห้องพักทั้งหมด 58 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ Horizon Suite, Horizon Suite Pool Access, Luxury Suite, Prestige Pool Suite และ Prestige Duplex Suite โดยห้องทุกประเภทที่โรงแรมแห่งนี้ จะสามารถมองเห็นวิวของทะเลอันดามันจากภายในห้องพักได้เลย (สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและราคาห้องพักแต่ละประเภท สามารถดูได้จากเวปไซต์ของทางโรงแรมโดยตรง www.coralhideaway.com)
เมื่อผมเดินทางมาถึงโรงแรม ประมาณเกือบห้าโมงเย็น ก็ทำการเช็คอินที่ล็อบบี้ ซึ่งตั้งอยู่ตรงชั้น2 ของโรงแรม
นั่งชมวิวสักพัก พนักงานก็นำ Welcome Drinks พร้อมผ้าเย็นมาเสิร์ฟ และได้อธิบายรายระเอียดต่างๆพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในแห่งนี้ เช่น ห้องสปา ห้องฟิตเนส หรือมีกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้เข้าพัก เช่น ปั่นจักรยาน พายเรือแคนู หรือซื้อทัวร์ไปดำน้ำตามหมู่เกาะต่างๆ เป็นต้น
จากนั้นเมื่อกระบวนการเช็คอินทุกอย่างเรียบร้อย พนักงานก็ช่วยขนสัมภาระ และพาผมกับภรรยาไปยังห้องพัก สำหรับห้องพักที่ผมจองไว้คือห้อง Horizon Suite แต่ทางโรงแรมได้ทำการอัพเกรดให้เป็นห้อง Horizon Suite Pool Access
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ผมถึงกับอุทานเบาๆในใจ “โห!! ห้องสวยมาก” คิดไม่ผิดจริงๆที่ตัดสินใจมาพักที่โรงแรมแห่งนี้
หลังจากพนักงานออกจากห้อง ผมและภรรยาก็เริ่มทำการสำรวจห้องพักทันที เริ่มจาก Welcome Fruits
เตียงนอนใหญ่ นุ่ม และนอนหลับสบายมาก
มาถึงห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำที่โรงแรมแห่งนี้จะแยกห้องอาบน้ำกับห้องสุขาออกจากกัน อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในห้องน้ำก็มีให้ครบครัน รวมทั้งอ่างน้ำขนาดใหญ่สำหรับแช่น้ำผ่อนคลาย
ในตู้เสื้อผ้าก็มีชุดคลุมอาบน้ำ รองเท้าสลิปเปอร์ ร่ม และผ้าเช็ดตัวสำหรับเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ รวมไปถึงตู้เซฟนิรภัยสำหรับใครที่ต้องการเก็บสิ่งของมีค่า
หลังจากสำรวจห้องพักเสร็จแล้ว ผมจึงรีบชวนภรรยาไปเดินเล่นริมชายหาดกันดีกว่า เนื่องจากพระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว บริเวณชาดหาดค่อนข้างเงียบสงบ ราวกับว่าเป็นหาดส่วนตัวของผมและภรรยากันเลยทีเดียว 55+
เก้าอี้ชายหาดที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้เข้าพัก
นอกจากเก้าอี้ชายหาดแล้วก็มีชิงช้าสำหรับเราสองคนด้วย 55+
พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มทีแล้ว
ช่วงที่ผมไปอากาศร้อนค่อนข้างร้อนทีเดียว ผมเลยชวนภรรยาไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำกัน เราเล่นน้ำไปจนตะวันลับขอบฟ้าเลยครับ ส่วนอาหารค่ำเราก็สั่งจากห้องอาหารของทางโรงแรมมาทานที่ห้องพัก เนื่องจากเราต่างเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน จึงต้องการใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในห้อง
ตัดมาที่ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น ผมและภรรยาก็ออกไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร La Perla ซึ่งเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ครับ มีแขกของทางโรงแรมกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่เยอะเลย ช่างแตกต่างจากเย็นเมื่อวานมากเลยที่มองไปทางไหนก็เห็นเพียงแค่ผมและภรรยา ส่วนไลน์อาหารที่นี่มีไม่เยอะมาก แต่ก็สามารถทานจนอิ่มมากได้ครับ 55+ ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเช้าไว้เลย ซึ่งอาหารเช้าที่นี่ก็ถือว่าธรรมดาตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปนะครับ ส่วนตัวผมชอบน้ำแตงโมกับน้ำสับปะรดที่คั้นสดๆเลย ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ ระหว่างที่เรารับประทานอาหารกันอยู่ ก็จะมีพนักงานคอยเข้ามาสอบถามว่าต้องการรับอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า สามารถแจ้งกับเค้าได้เลย ซึ่งพนังงานที่โรงแรมแห่งนี้น่ารักมากครับ เป็นมิตรและให้ความช่วยเหลือตลอด หลังจากที่อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นย่อยอาหารกันสักหน่อย ก่อนที่จะต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแห่งนี้ เพื่อเดินทางไปที่อื่นกันต่อ
แดดเริ่มออกแล้ว
รถคันนี้เป็นรถโบราณของทางโรงแรมที่จอดอยู่บริเวณหน้าล็อบบี้ครับ
เอาเป็นว่าผมขอลากันด้วยภาพที่ผมและภรรยาได้นั่งริมชายหาด ดูพระอาทิตย์ตกกันสองคน มันเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิตของเราทั้งสอง และจะเป็นความทรงจำที่ดีของเราตลอดไป...
หวังว่ารีวิวนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่ได้อ่านนะครับ หากมีข้อบกพร่องประการใด ผมก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ....สวัสดีครับ....