คือผมเป็นคนที่มีใบหูกางมาตั้งแต่เด็ก ชอบโดนเพื่อนล้อ ตลอด จนวันนึงผมเรียนจบทำงานเก็บเงิน เพื่อที่จะไปทำศัลกรรมหูกางให้พับเข้ามา ผมได้ศึกษาข้อมูลหมอแต่ละคน อย่างละเอียด ศึกษาอยู่เป็นปีกว่าจะตัดสินใจ ทำศัลยกรรม หูกาง ได้คลินิคที่ติดสถานี รถไฟฟ้า MRT แห่งหนึ่ง คุณหมอเชี่ยวชาญเรื่องหู คอ จมูก ผมจึงตัดสินใจทำ โดยโทรไปปรึกษา เจ้าหน้าที่ก้อบอกให้โอนเงินค่าผ่าตัดไปจองคิวก่อน สองพันบาท ผมก็ โอนไปให้ และวันถัดมา31/3/16ผมเข้า พบหมอ ปรึกษาและ ทำการผ่าตัดในวันนั้น โดยตกลงค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 22000 บาท แต่ผมขอให้หมอ เย็บติ่งหูข้างซ้ายที่ขาดจากการ ใส่ต่างหูหนักๆ ด้วย หมอบอกว่า หมอขอเก็บเพิ่มอีก 6000 บาท ผมด้วยความหวังและความเชื่อใจที่มีให้กับหมอ ว่าจะทำให้หูหายกางได้ ก้อตกลงจ่าย ไป 28000 บาท โดยตอนแรกก้อจะขอหมอลดลงสัก 26000 บาท แต่หมอบอกว่าไม่ได้ อันนี้ถูกสุดแล้ว ผมตกลงจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปทั้งหมดเป็นเงินสดด้วยความเสียดายนิดๆแต่ก้อ คิดว่าเอาน่า กำไรชีวิต ผ่าตัดประมาณ ๅ ชั่วโมงเสร็จเรียบร้อย กลับถึงบ้านประมาณสักสี่ทุ่ม พอยาชาหมดฤทธิ์ ผมนอนปวดหูท้างคืน ร้องไห้ท้างคืน กินยาแก้ปวดทุกๆสี่ชั่วโมงเพื่อบรรเทาคามทรมาน ปวดอยู่ประมาณ สาม วัน และความเจ็บปวดก้อเริ่มหายไป สระผมอาทิตย์ละครั้งเพราะไม่อยากให้น้ำโดนแผล ตอนนอนก้อลำบาก เพราะกลัวจะนอนทับหู นอนแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ประมาณสองอาทิตย์เหมือนกับหู ข้างขวา จะเริ่งเด้งออก และพอนัดตัดไหม 21/04/16 หมอก้อถามว่าพอใจหรือป่าว ผมก้อบอกว่าชอบข้างซ้ายคับ ต่ข้างขวามันเป็นแปลกๆคับเหมือนจะเด้งออก หมอบอกว่ากระดูกหูเราแข็ง มันทำได้แค่นี้สวยแระ ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วมันจะเด้งออกมาเพิ่มป่าวคับ หมอบอกว่าไม่หรอก เพราหมอเย็บไว้ตั้ง 2 ชั้น ใช้เทคนิคพิเศษ ผมก้อวางใจ พอตัดไหม ได้ประมาณสองอาทิตเท่านั้นแหละคับ ข้างขวาเนี่ย เด้งออกเยอะ มาก ส่วนข้างซ้ายก้อค่อยๆดีดตัวออก จนในที่สุดท้างสองข้างดีดตัวออกมาเท่ากัน กาง หูกาง อีกแระ พอกลับไปปรึกษาหมอ หมอบอกทำได้แค่นี้ เพราะหูเรากางมากๆ กระดูกหูก้อแข็ง เราไป Point ที่หูมากเกินไปหรือป่าว ผมก้อจะร้องไห้เพราะเสียใจในคำตอบของหมอ หมอบอกให้ผมทำศัลกรรมใบหน้าอย่างอื่นดีกว่าไหมดีกว่ามาPoint ที่หู หมอบอกว่าตาผมเศร้าดูเครียดทำตาสองชั้นไหม แก้ไขหนังตาไหม ท่านผุอ่านคับ ในเวลานี้ ใครจะมามีจิตใจร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใส เสียท้างเงิน เสียท้างเวลา เจ็บปวดกับบาดแผลที่ไม่ได้คุ้มค่า และที่ผิดหวังที่สุดคือคำตอบที่ออกจากปากของคุณหมอ แตกต่างกันลิปลับกับก่อนผ่าตัด สรุปผมต้องหันหลังกลับบ้าน ด้วยความสูญปล่าว เงินแต่ละบาทที่ผมกว่าจะหามาได้ มันผ่านอะไรมามากหลายๆอย่าง แต่กลับต้องมาสูนเปล่าเพราะหมอผ่าตัดที่ไร้จรรยาบรร อยาก หวังได้ แต่เงิน คนไข้ คุณรู้ไหมเงิน 100 บาทของคุณ มันอาจเป็นเงินที่มีค่า เป็นหนึ่งแสนบาทสำหรับผม หรือใครหลายๆคนก้อได้ ขอให้เคสของผมเป็นอุทาหรเตือนใจ อย่าได้ ไปเกิดกับใครอีกเลย ส่วนผม คงต้องก้มหน้ายอมรับคามจริง และชะตากรรมตัวเองต่อไปคับ ขอบคุณที่อ่าน วันหลังเดี๋ยวผมเอ
หูกาง