สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆคน กระทู้นี้เป็นการเขียนกระทู้แรกของเรา ถ้ามีอะไรผิดพลาด แท็กห้องผิด เราขอโทษด้วยนะ
เรามาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า…
เราชื่อเต้ยนะ อายุ22ปี อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำศัลยกรรมให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ
เรามีความคิดที่อยากจะศัลยกรรมตั้งแต่ม.ปลายละ คิดว่าบนหน้าตัวเองมีส่วนที่บกพร่องอยู่บ้างมั้งนะ แหะๆๆ
นี่เป็นรูปสมัยม.ปลาย จนถึงปี1 ไสยๆมาก 555+ หน้าสิว ดำๆ คล้ำๆ ผ่านมาได้ดีละ
และเมื่อได้เข้ามามหาลัยปี 1 เพื่อนๆในกลุ่มหลายๆคน ค่อยๆไปทำศัลยกรรมกัน เลยเกิดเป็นกิเลศ ก็หางาน PartTime ทำ ทำได้อยู่ปีกว่า เก็บเงินไม่อยู่ซักบาท ทำมา ใช้ไปหมด แล้วก็หยุดการทำงานไป เพราะเรียนเริ่มหนักขึ้น จนมาปี4เทอม1 เริ่มใกล้จะจบแล้ว อยากที่จะดูดีก่อนจะรับปริญญา ก็หาข้อมูลหมอไหนดี หมอไหนเลิศ ทั้งปากและจมูก และเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง คราวนี้ทำงานที่ร้านเหล้าแถวๆมหาลัย รายได้ก็พอได้ ทำได้อยู่1เดือน ก็เก็บเงินได้ประมาณหนึ่ง เลยตัดสินใจทำปากก่อน ก็จองคิวทำกับหมอเทียม นครปฐม ในราคา 6,000 บาท มัดจำก่อน 3,000 บาท จองไปในวันที่ 9 ต.ค. 2558 แต่ได้คิวผ่าตัดวันที่ 14 ธ.ค. 2558 อีก2เดือนแหน่ะ โอ้วววววนานไป๊มั้ยหมอ แต่พอใกล้ถึงวันผ่าตัดแอบกลัว ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเลย
พอถึงวันผ่าตัด เดินทางไปถึงที่คลินิกประมาณ 18:15 น. นั่งรอประมาณ 45 นาทีก็ถึงคิว ขึ้นไปรอคุณหมอที่หน้าห้องอีกแป๊บ เคสก่อนหน้าเดินออกมา คุณหมอเรียกเราให้ไปดูทรงปากที่จะทำให้เรา คุณหมอชี้ให้ดูว่าจะทำเป็นทรงกระจับ ยกมุมปากปีกนกให้นะ เราแอบตกใจ แต่ก็ได้แต่พยักหน้าเออออตามไปก่อน เดี๋ยวค่อยบอกทรงตอนขึ้นเขียงล่ะกัน พอดีวันนั้นมีคนมาพบคุณหมอ น่าจะเป็นหมอจบใหม่ มาขอดูคุณหมอทำเพื่อเป็นการศึกษา คุณหมอก็ชี้ให้เราและหมอใหม่ดูว่า ปากเรามันไม่เท่ากันนะ ถ้าทำออกมาแล้วมันไม่เท่ากัน จะมาว่าหมอทำให้ไม่เท่ากันไม่ได้นะ เพราะเคยมีคนไข้มาโวยหมอว่าทำปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน แต่หมอทำให้ตามทรงปากคนไข้ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าปากเราทั้ง2ข้างมันไม่เท่ากัน เมื่อถึงเวลาขึ้นเตียงคุณหมอก็ทำการวาดทรงที่ปากเรา (เราก็งงนะ ไม่ถามเราเลยเหรอว่ามีทรงไหนในใจไหม แล้วทรงที่เราเตรียมมาล่ะ 555+)
**ทรงปากที่เตรียมไป แต่ไม่ได้ใช้
ไม่ได้หวังสูงอยากหล่อแบบณเดชน์นะ แต่อยากได้ปากบางๆแบบเขาเฉยๆ
และแล้วทรงที่ออกมาก็คือเป็นทรงกระจับมาก เราก็เลยแจ้งคุณหมอว่า ผมไม่อยากได้กระจับมากนะครับหมอ ผมอยากได้แค่ปากบางตามทรงปากเดิมก็พอ คุณหมอก็โอเค แล้วทำการฉีดยาชา3จุด จุดที่1 มุมปากขวาไปถึงตรงกลางปาก จุดที่2 มุมปากซ้ายไปถึงตรงกลางปาก และจุดที่3 ภายในปากข้างใน การฉีดยาชาเป็นอะไรที่เจ็บมากจริงๆ เจ็บจนน้ำตาไหล เมื่อยาชาออกฤทธิ์ ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วหลังจากนี้ คุณหมอทำการผ่าตัดอยู่ประมาณ 15-20 นาที ก็เป็นอันเสร็จ แล้วเราก็เดินทางกลับมาพักรักษาตัวต่อไป...
แพร่มมาซะยาว เราไปดูวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงกันดีกว่า
ก่อนทำ หลังทำ จนถึง1สัปดาห์ วันแรกๆเริ่มบวม บวมมากวันที่3 แล้วค่อยๆยุบลง กินได้แต่โจ๊กเป็นสัปดาห์ โดยใช้ช้อนเล็กๆ ใช้หลอดกินน้ำก็ยังลำบาก แปรงฟันไม่ได้ ได้แต่บ้วนน้ำเกลือ โดนเพื่อนแกล้งให้หัวเราะตลอด ทรมานมากช่วงสัปดาห์แรก T.T"
สัปดาห์ที่2 กินข้าวได้แล้ว แต่ก็ยังลำบากอยู่
สัปดาห์ที่3 เริ่มเป็นทรง ไหมเริ่มหลุดบ้างล่ะ
สัปดาห์ที่4 ไหมหลุดหมดแล้วครับ
สัปดาห์ที่5 ทรงมาแล้ว ชัดขึ้นเรื่อยๆ
สัปดาห์ที่6 พูด ยิ้ม เกือบปกติละครับ
เมื่อทำปากมาได้ประมาณเดือนครึ่ง เริ่มหายดีแล้ว จมูกก็เป็นคิวต่อไป เราก็ทำการติดต่อจองคิวที่ Yoko Clinic สาขาพัทยา เอาใกล้ๆนี่แหละ (ตอนนี้มีสาขาบางแสนแล้ว ตอนที่ทำนั้นยังไม่มี) จองคิวไว้วันที่ 27 ม.ค. 2559 เวลา 16:00 น.
และเมื่อถึงวันผ่าตัด ก็เดินทางไปที่คลินิก นั่งรอแป๊บเดียว ก็เข้าห้องผ่าตัด คุณหมอก็ถามว่าเอาซิลิโคนแบบไหน ทรงไหน ส่วนตัวเราเลือกซิลิโคนของอเมริกา บอกคุณหมอขอเอาทรงที่เข้ากับหน้า เอาหล่อๆเลยนะครับหมอ
เมื่อขึ้นเตียงคุณหมอก็มามองจมูกเรา คุณหมอพูดว่า ทำทำไมเนี่ย ทรงสวยอยู่แล้วนะ รูจมูกก็สวยไม่น่าทำเลย แล้วหันไปพูดกับพยาบาล เสียดายทรงจมูกเขาเนอะ หายากนะคนที่ทรงจมูกแบบนี้ ในใจเราก็คิดว่าลุกออกจากห้องตอนนี้ทันมั๊ยหมอ ทักซะแบบนี้เลย แต่ตั้งใจมาขนาดนี้ล่ะ ก็ทำเถอะ เราก็ย้ำคุณหมอว่าไม่เอาตรงสันดั้งขึ้นนะหมอ ขอปลายจมูกขึ้นหน่อย ให้ปีกจมูกแคบลง จากนั้นคุณหมอก็ทำการฉีดยาชาที่ปลายจมูกยาวขึ้นไปเกือบถึงสันดั้ง ตรงสันดั้ง ปีกจมูก2ข้าง เจ็บสุดก็ตอนฉีดยาชานี่แหละ เมื่อยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็ทำการชำแหละ เรารู้สึกตลอดว่าคุณหมอทำไรบ้าง น่ากลัวตอนที่ตะไบกระดูกฐานจมูก ความรู้สึกมันแบบกุกๆกักๆอยู่ตรงจมูกเรา คุณหมอเอาซิลิโคนเข้าออกอยู่2รอบ รอบแรกยังไม่พอใจ เอาออกมาเหลาให้ใหม่ คุณหมอถามเราจะเอาพุ่งไหม เราก็บอกว่าไม่เอาพุ่งมาก กลัวมันดูโป๊ะเกินไป คุณหมอก็ใส่เข้าไปครั้งที่2 คุณหมอบอกทรงนี้โอเคล่ะ เว่อร์ดี ใช้เวลาในการทำอยู่เกือบ1ชม. เป็นอันเสร็จ พยาบาลก็เอากระจกมาให้เราดู เห็นครั้งแรกคือตกใจมาก ตรงสันดั้งมันโด่งขึ้นมากๆ แต่เพราะมันบวมอยู่หรอก เดี๋ยวก็ยุบลงอีก หลังจากนั้นก็กลับมาพักรักษาตัวตามเดิม...
(รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 15,900 บาท ค่าซิลิโคน 10,900 บาท เป็นราคาโปรโมชั่น + ค่าตะไบจมูก 5,000 บาท)
ปล. ที่เราเลือกทำที่นี่ ก็เพราะว่าคุณหมอทำทุกเคสแกนไม่ใหญ่ ดูไม่โป๊ะเลย
เราไปดูกันดีกว่า ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด (ภาพปากเราซ่อนไว้นะ)
ก่อนทำ หลังทำ จนถึง1สัปดาห์ วันแรกบวมมาก ตาแทบจะปิด เหมือนลีโล่เลย แล้วแก้มก็ย้อย ของเราช้ำน้อยมาก มีแค่ขอบเปลือกตา ใต้ตานิดหน่อย และตรงสันดั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังทำ สดๆ บนเขียง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่2 รอยช้ำเริ่มหาย แต่ยังคงบวมอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่3 ทรงมาๆๆๆ รอยช้ำหายหมดแล้ว เริ่มออกไปใช้ชีวิต โดยไม่ต้องปิดแมสได้ละครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่4 ทรงชัดขึ้นเรื่อยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่10
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่11
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่13
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่14
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัจจุบัน ปากก็5เดือน จมูกก็3เดือนครึ่งแล้ว เรามาดูภาพหลังจากทำทั้ง2อย่าง แบบดีๆ เต็มหน้า เต็มตัวกันบ้างดีกว่าครับ
ถ่ายวันที่ 24 ก.พ. 59 ประมาณเกือบ1เดือนละ
หน้าตรง 1 มี.ค. 59
ข้างๆ 17 มี.ค. 59
หนวดหาย หลังถ่ายรูปติดใบปริญญา 22 มี.ค. 59
ข้างๆอีก 14 เม.ย. 59
เอ้า!! ข้างๆไปอีก 24 เม.ย. 59
ล่าสุด ที่สุด 2 พ.ค. 59
จบแล้วคร๊าบการรีวิวทำปากและจมูกของเรา สำหรับตอนนี้เราโอเคกับผลลัพธ์ที่ออกมามากๆ
รีวิวของเราอาจเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของใครหลายๆคนที่คิดจะทำศัลยกรรม
คิดให้ดีๆ หาข้อมูลให้เยอะๆนะครับ ทำไม่ดีแล้ว ต้องมาคอยแก้อีก
เจ็บตัวหลายครั้ง เสียตังค์หลายหน ก็ไม่ไหวๆเนอะ
ขอบคุณสำหรับทุกคนเข้ามาอ่าน คอมเม้นท์นะครับ
มีอะไรสงสัย สอบถาม ปรึกษาได้นะครับ
ยินดีตอบทุกคำถาม ขอบคุณครับผม.
[CR] รีวิวการทำศัลยกรรมปากและจมูก (มีรูปภาพประกอบละเอียดยิบ)
เราชื่อเต้ยนะ อายุ22ปี อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำศัลยกรรมให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ
เรามีความคิดที่อยากจะศัลยกรรมตั้งแต่ม.ปลายละ คิดว่าบนหน้าตัวเองมีส่วนที่บกพร่องอยู่บ้างมั้งนะ แหะๆๆ
นี่เป็นรูปสมัยม.ปลาย จนถึงปี1 ไสยๆมาก 555+ หน้าสิว ดำๆ คล้ำๆ ผ่านมาได้ดีละ
และเมื่อได้เข้ามามหาลัยปี 1 เพื่อนๆในกลุ่มหลายๆคน ค่อยๆไปทำศัลยกรรมกัน เลยเกิดเป็นกิเลศ ก็หางาน PartTime ทำ ทำได้อยู่ปีกว่า เก็บเงินไม่อยู่ซักบาท ทำมา ใช้ไปหมด แล้วก็หยุดการทำงานไป เพราะเรียนเริ่มหนักขึ้น จนมาปี4เทอม1 เริ่มใกล้จะจบแล้ว อยากที่จะดูดีก่อนจะรับปริญญา ก็หาข้อมูลหมอไหนดี หมอไหนเลิศ ทั้งปากและจมูก และเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง คราวนี้ทำงานที่ร้านเหล้าแถวๆมหาลัย รายได้ก็พอได้ ทำได้อยู่1เดือน ก็เก็บเงินได้ประมาณหนึ่ง เลยตัดสินใจทำปากก่อน ก็จองคิวทำกับหมอเทียม นครปฐม ในราคา 6,000 บาท มัดจำก่อน 3,000 บาท จองไปในวันที่ 9 ต.ค. 2558 แต่ได้คิวผ่าตัดวันที่ 14 ธ.ค. 2558 อีก2เดือนแหน่ะ โอ้วววววนานไป๊มั้ยหมอ แต่พอใกล้ถึงวันผ่าตัดแอบกลัว ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเลย
พอถึงวันผ่าตัด เดินทางไปถึงที่คลินิกประมาณ 18:15 น. นั่งรอประมาณ 45 นาทีก็ถึงคิว ขึ้นไปรอคุณหมอที่หน้าห้องอีกแป๊บ เคสก่อนหน้าเดินออกมา คุณหมอเรียกเราให้ไปดูทรงปากที่จะทำให้เรา คุณหมอชี้ให้ดูว่าจะทำเป็นทรงกระจับ ยกมุมปากปีกนกให้นะ เราแอบตกใจ แต่ก็ได้แต่พยักหน้าเออออตามไปก่อน เดี๋ยวค่อยบอกทรงตอนขึ้นเขียงล่ะกัน พอดีวันนั้นมีคนมาพบคุณหมอ น่าจะเป็นหมอจบใหม่ มาขอดูคุณหมอทำเพื่อเป็นการศึกษา คุณหมอก็ชี้ให้เราและหมอใหม่ดูว่า ปากเรามันไม่เท่ากันนะ ถ้าทำออกมาแล้วมันไม่เท่ากัน จะมาว่าหมอทำให้ไม่เท่ากันไม่ได้นะ เพราะเคยมีคนไข้มาโวยหมอว่าทำปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน แต่หมอทำให้ตามทรงปากคนไข้ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าปากเราทั้ง2ข้างมันไม่เท่ากัน เมื่อถึงเวลาขึ้นเตียงคุณหมอก็ทำการวาดทรงที่ปากเรา (เราก็งงนะ ไม่ถามเราเลยเหรอว่ามีทรงไหนในใจไหม แล้วทรงที่เราเตรียมมาล่ะ 555+)
แพร่มมาซะยาว เราไปดูวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงกันดีกว่า
ก่อนทำ หลังทำ จนถึง1สัปดาห์ วันแรกๆเริ่มบวม บวมมากวันที่3 แล้วค่อยๆยุบลง กินได้แต่โจ๊กเป็นสัปดาห์ โดยใช้ช้อนเล็กๆ ใช้หลอดกินน้ำก็ยังลำบาก แปรงฟันไม่ได้ ได้แต่บ้วนน้ำเกลือ โดนเพื่อนแกล้งให้หัวเราะตลอด ทรมานมากช่วงสัปดาห์แรก T.T"
สัปดาห์ที่2 กินข้าวได้แล้ว แต่ก็ยังลำบากอยู่
สัปดาห์ที่3 เริ่มเป็นทรง ไหมเริ่มหลุดบ้างล่ะ
สัปดาห์ที่4 ไหมหลุดหมดแล้วครับ
สัปดาห์ที่5 ทรงมาแล้ว ชัดขึ้นเรื่อยๆ
สัปดาห์ที่6 พูด ยิ้ม เกือบปกติละครับ
เมื่อทำปากมาได้ประมาณเดือนครึ่ง เริ่มหายดีแล้ว จมูกก็เป็นคิวต่อไป เราก็ทำการติดต่อจองคิวที่ Yoko Clinic สาขาพัทยา เอาใกล้ๆนี่แหละ (ตอนนี้มีสาขาบางแสนแล้ว ตอนที่ทำนั้นยังไม่มี) จองคิวไว้วันที่ 27 ม.ค. 2559 เวลา 16:00 น.
และเมื่อถึงวันผ่าตัด ก็เดินทางไปที่คลินิก นั่งรอแป๊บเดียว ก็เข้าห้องผ่าตัด คุณหมอก็ถามว่าเอาซิลิโคนแบบไหน ทรงไหน ส่วนตัวเราเลือกซิลิโคนของอเมริกา บอกคุณหมอขอเอาทรงที่เข้ากับหน้า เอาหล่อๆเลยนะครับหมอ
เมื่อขึ้นเตียงคุณหมอก็มามองจมูกเรา คุณหมอพูดว่า ทำทำไมเนี่ย ทรงสวยอยู่แล้วนะ รูจมูกก็สวยไม่น่าทำเลย แล้วหันไปพูดกับพยาบาล เสียดายทรงจมูกเขาเนอะ หายากนะคนที่ทรงจมูกแบบนี้ ในใจเราก็คิดว่าลุกออกจากห้องตอนนี้ทันมั๊ยหมอ ทักซะแบบนี้เลย แต่ตั้งใจมาขนาดนี้ล่ะ ก็ทำเถอะ เราก็ย้ำคุณหมอว่าไม่เอาตรงสันดั้งขึ้นนะหมอ ขอปลายจมูกขึ้นหน่อย ให้ปีกจมูกแคบลง จากนั้นคุณหมอก็ทำการฉีดยาชาที่ปลายจมูกยาวขึ้นไปเกือบถึงสันดั้ง ตรงสันดั้ง ปีกจมูก2ข้าง เจ็บสุดก็ตอนฉีดยาชานี่แหละ เมื่อยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็ทำการชำแหละ เรารู้สึกตลอดว่าคุณหมอทำไรบ้าง น่ากลัวตอนที่ตะไบกระดูกฐานจมูก ความรู้สึกมันแบบกุกๆกักๆอยู่ตรงจมูกเรา คุณหมอเอาซิลิโคนเข้าออกอยู่2รอบ รอบแรกยังไม่พอใจ เอาออกมาเหลาให้ใหม่ คุณหมอถามเราจะเอาพุ่งไหม เราก็บอกว่าไม่เอาพุ่งมาก กลัวมันดูโป๊ะเกินไป คุณหมอก็ใส่เข้าไปครั้งที่2 คุณหมอบอกทรงนี้โอเคล่ะ เว่อร์ดี ใช้เวลาในการทำอยู่เกือบ1ชม. เป็นอันเสร็จ พยาบาลก็เอากระจกมาให้เราดู เห็นครั้งแรกคือตกใจมาก ตรงสันดั้งมันโด่งขึ้นมากๆ แต่เพราะมันบวมอยู่หรอก เดี๋ยวก็ยุบลงอีก หลังจากนั้นก็กลับมาพักรักษาตัวตามเดิม...
(รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 15,900 บาท ค่าซิลิโคน 10,900 บาท เป็นราคาโปรโมชั่น + ค่าตะไบจมูก 5,000 บาท)
ปล. ที่เราเลือกทำที่นี่ ก็เพราะว่าคุณหมอทำทุกเคสแกนไม่ใหญ่ ดูไม่โป๊ะเลย
เราไปดูกันดีกว่า ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด (ภาพปากเราซ่อนไว้นะ)
ก่อนทำ หลังทำ จนถึง1สัปดาห์ วันแรกบวมมาก ตาแทบจะปิด เหมือนลีโล่เลย แล้วแก้มก็ย้อย ของเราช้ำน้อยมาก มีแค่ขอบเปลือกตา ใต้ตานิดหน่อย และตรงสันดั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่2 รอยช้ำเริ่มหาย แต่ยังคงบวมอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่3 ทรงมาๆๆๆ รอยช้ำหายหมดแล้ว เริ่มออกไปใช้ชีวิต โดยไม่ต้องปิดแมสได้ละครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่4 ทรงชัดขึ้นเรื่อยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่10
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่11
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่13
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สัปดาห์ที่14
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัจจุบัน ปากก็5เดือน จมูกก็3เดือนครึ่งแล้ว เรามาดูภาพหลังจากทำทั้ง2อย่าง แบบดีๆ เต็มหน้า เต็มตัวกันบ้างดีกว่าครับ
ถ่ายวันที่ 24 ก.พ. 59 ประมาณเกือบ1เดือนละ
หน้าตรง 1 มี.ค. 59
ข้างๆ 17 มี.ค. 59
หนวดหาย หลังถ่ายรูปติดใบปริญญา 22 มี.ค. 59
ข้างๆอีก 14 เม.ย. 59
เอ้า!! ข้างๆไปอีก 24 เม.ย. 59
ล่าสุด ที่สุด 2 พ.ค. 59