ผมกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่ อีกไม่กี่หน้าก็จะจบแล้ว
อยากบอกว่าเป็นนิยายที่หม่นเศร้ามาก ทุกตัวละครแทบไม่พบกับความสุข
จัดว่าเป็นนิยายที่ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัดที่ได้อ่านมีความลึกซึ้งกินใจแฝงอยู่
ทุกความคิดของตัวละครไม่มีใครคิดถูก หรือคิดผิด ต่างกันแค่มองคนละมุม ทั้งตัวละครหลัก หรือแม้แต่แม่ของนางเอก
เหมือนว่าเป็นนวนิยายจิตวิทยา อ่านแล้วคิดตาม ได้ทั้งรส และศึกษาความคิดของคนไปด้วย
ตัวละครที่ผมสงสารที่สุดคือ พลเอก เจ้าพระยาเสมามนตรี
ผมมองว่าท่านไม่มีความผิดอะไรเลย เรื่องเกิดขึ้นเพราะคนสองคนที่อยู่ในฐานะเพื่อน สะสมความผูกพันจนกลายเป็นความรัก
ซึ่งท่านก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะต้องมานั่งเจ็บปวดกับปัญหาของเด็กทั้งสองคนเลย
ชอบที่ท่านมอบความรักทั้งหมดให้กับคุณหญิงปิ่นเมืองคนเดียว กระทั้งหย่าร้างกันก็ยังไม่มีใคร แม้แม่ประกายจะตื้อ จะยั่วขนาดไหนก็ไม่สน
ในขณะที่คุณหญิงปิ่นเมืองก็น่าสงสารไม่แพ้กัน นั่นก็ผัว นี้ก็เพื่อนที่แอบรัก จะตัดใจเลือกไปสักทางก็ฝืนใจทุกด้าน เลยกลายเป็นความรักค้างๆคาๆ ถูกครหาว่าเป็นโมรา กากี ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นชู้ทางกายเลยสักนิด
ส่วนคุณหลวงพิรัชช์เมธี นี้ก็ตื้อได้ใจ แรกๆก็รำคาญ ว่าจะอะไรหนักหนา และเริ่มไม่ชอบเมื่อไปคว้าเมียมาเมื่อไปอยู่อังกฤษ แต่พออ่านไปเรื่อยๆเริ่มเข้าใจเหตุผล ยิ่งตอนท้ายของชีวิต ที่ขับรถไปปีนัง เพื่อที่จะเยี่ยมคุณหญิง ยิ่งซึ้งใจในรักแท้
อยากบอกว่าเรื่องนี้จะเป็นนิยายอีกเรื่องของอาจารย์ที่รักมาก
เจ็บใจที่ซื้อมาหลายปีแต่ดองไว้ เพิ่งมาอ่านเอาตอนนี้ คือรู้สึกว่าเก็บของดีเอาไว้นานเกินไป
พอจะมีนิยายเรื่องอื่นๆของอาจารย์ที่เนื้อเรื่องประมาณนี้อีกไหมครับ
ชอบแบบหม่นๆเศร้าๆ ตัววละครมีเหตุผลรองรับหมด อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเรียลดี ขอบคุณครับ
ปล.เรื่องนี้ให้อารมณ์ "เจ้าบ้านเจ้าเรือน" เวอร์ชั่นผู้หญิงมาก แต่ผมชอบช่อมะลิลา มากกว่า
มีนิยายเรื่องไหนของอาจารย์วินิตา ดิถียนต์ ที่หม่นเท่ากับเรื่อง "ช่อมะลิลา" อีกบ้างครับ?
อยากบอกว่าเป็นนิยายที่หม่นเศร้ามาก ทุกตัวละครแทบไม่พบกับความสุข
จัดว่าเป็นนิยายที่ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัดที่ได้อ่านมีความลึกซึ้งกินใจแฝงอยู่
ทุกความคิดของตัวละครไม่มีใครคิดถูก หรือคิดผิด ต่างกันแค่มองคนละมุม ทั้งตัวละครหลัก หรือแม้แต่แม่ของนางเอก
เหมือนว่าเป็นนวนิยายจิตวิทยา อ่านแล้วคิดตาม ได้ทั้งรส และศึกษาความคิดของคนไปด้วย
ตัวละครที่ผมสงสารที่สุดคือ พลเอก เจ้าพระยาเสมามนตรี
ผมมองว่าท่านไม่มีความผิดอะไรเลย เรื่องเกิดขึ้นเพราะคนสองคนที่อยู่ในฐานะเพื่อน สะสมความผูกพันจนกลายเป็นความรัก
ซึ่งท่านก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะต้องมานั่งเจ็บปวดกับปัญหาของเด็กทั้งสองคนเลย
ชอบที่ท่านมอบความรักทั้งหมดให้กับคุณหญิงปิ่นเมืองคนเดียว กระทั้งหย่าร้างกันก็ยังไม่มีใคร แม้แม่ประกายจะตื้อ จะยั่วขนาดไหนก็ไม่สน
ในขณะที่คุณหญิงปิ่นเมืองก็น่าสงสารไม่แพ้กัน นั่นก็ผัว นี้ก็เพื่อนที่แอบรัก จะตัดใจเลือกไปสักทางก็ฝืนใจทุกด้าน เลยกลายเป็นความรักค้างๆคาๆ ถูกครหาว่าเป็นโมรา กากี ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นชู้ทางกายเลยสักนิด
ส่วนคุณหลวงพิรัชช์เมธี นี้ก็ตื้อได้ใจ แรกๆก็รำคาญ ว่าจะอะไรหนักหนา และเริ่มไม่ชอบเมื่อไปคว้าเมียมาเมื่อไปอยู่อังกฤษ แต่พออ่านไปเรื่อยๆเริ่มเข้าใจเหตุผล ยิ่งตอนท้ายของชีวิต ที่ขับรถไปปีนัง เพื่อที่จะเยี่ยมคุณหญิง ยิ่งซึ้งใจในรักแท้
อยากบอกว่าเรื่องนี้จะเป็นนิยายอีกเรื่องของอาจารย์ที่รักมาก
เจ็บใจที่ซื้อมาหลายปีแต่ดองไว้ เพิ่งมาอ่านเอาตอนนี้ คือรู้สึกว่าเก็บของดีเอาไว้นานเกินไป
พอจะมีนิยายเรื่องอื่นๆของอาจารย์ที่เนื้อเรื่องประมาณนี้อีกไหมครับ
ชอบแบบหม่นๆเศร้าๆ ตัววละครมีเหตุผลรองรับหมด อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเรียลดี ขอบคุณครับ
ปล.เรื่องนี้ให้อารมณ์ "เจ้าบ้านเจ้าเรือน" เวอร์ชั่นผู้หญิงมาก แต่ผมชอบช่อมะลิลา มากกว่า